เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 980 ประลองฝีมือเบื้องต้น
สำหรับถังเฉาแล้ว ความสัมพันธ์ของลูกพี่ลูกน้องที่ธรรมดาเช่นนี้ กลับแปลกเป็นอย่างยิ่งในสายตาของน้องน้อยโจว
น้องน้อยโจวในตอนนี้จึงได้รู้ว่า ที่แท้แล้วคนในสังคมก็เป็นอย่างนี้นี่เอง ทันใดนั้นในใจก็เย็นชาขึ้นมา เดินเข้าไปทางข้างในตระกูลถังอย่างโมโห
“ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่นะ ทำไมถึงได้ไม่กลัวตาย นี่เป็นถึงตระกูลถังของพวกเราเชียวนะ ถ้าหากไม่ใช่พี่ละก็ คาดว่ายายเด็กโง่คนนี้ในตอนนี้คงจะถูกหิ้วออกมาแล้ว”
“เป็นสุนัขจิ้งจอกแอบอ้างบารมีเสือจริง ๆ”
ถังเฉาชินเรื่องการโต้เถียงกันระหว่างผู้หญิงมาตั้งนานแล้ว ส่วนถังฉไม่ได้ตัดสินใจที่จะใส่ใจเรื่องนี้ ขอเพียงตนเองปฏิบัติต่อพวกเธอทั้งสองคนดี ๆ ก็พอแล้ว
เช้าของวันถัดมา ลูกศิษย์มากมายของตระกูลถังก็เตรียมที่จะฝึกการต่อสู้ในห้องโถงใหญ่กันตามปกติ
และในเวลานี้เอง ถังเฉาก็พาเด็กสาวสองคนเดินเข้ามา ทุกคนมองถังเฉาและสาวสวยสองคนที่อยู่ข้างหลังเขาด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น ศิษย์พี่ใหญ่เพียงแค่เตรียมจะสอนพวกเธอสองคนฝึกการต่อสู้เหรอ? ทำไมถึงไม่ได้ยืนอยู่ข้างหน้าของพวกเรา แต่ไปยืนอยู่ตรงหน้าของผู้หญิงสองคน?”
“ไม่รู้สิ หรือว่าศิษย์พี่ใหญ่จะยังคงยืนหยัดอยู่ว่าจะฝึกให้กับสายของตัวเองเท่านั้นเหรอ? แล้วพวกเราสายฟ้าล่ะจะทำยังไง”
คำพูดพวกนี้ได้ยินไปถึงหูของถังซานฉ่าย แต่เขาไม่ได้ตัดสินใจที่จะไปสอดมือ ถึงอย่างไรตอนนี้ถังเฉาก็เป็นไพ่ลับที่ใหญ่ที่สุดของตระกูลถัง ถ้าหากไปยุแหย่เขาเข้า ทุกคนในตระกูลถังคงไม่สบายใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการชิงแชมป์กันในราชวงศ์ต้าเซี่ยเลย
แต่ว่าศักยภาพที่แท้จริงของถังเฉา จะไม่ได้ยินเสียงคำเล่าลือนี้ได้อย่างไร?
รอจนหลังจากที่ทุกคนเงียบลงแล้ว ถังเฉาก็เดินช้า ๆ มาอยู่ตรงหน้าของคนมากมาย ท่าทางสบาย ๆ พูดเสียงดังกับทุกคนว่า
“ศิษย์น้องทุกคน ผมรู้ว่าเมื่อก่อนกังฟูของพวกคุณล้วนแต่มีศิษย์พี่ใหญ่ของพวกคุณนำฝึก ในเมื่อตอนนี้ผมเป็นศิษย์พี่ใหญ่ของพวกคุณแล้ว แน่นอนว่าผมจะต้องรับผิดชอบสอนพวกคุณฝึกกังฟู”
“แต่ว่าทุกคนก็ล้วนแต่รู้ว่า สายของผมกับพวกคุณไม่เหมือนกัน ดังนั้นกังฟูที่ฝึกมาก็ไม่เหมือนกัน”
“แต่เป็นเพราะว่าผมจำเป็นจะต้องสอนพวกคุณฝึกกังฟู ดังนั้นเมื่อวานผมแอบไปเรียนเพิ่มเติมมานิดหน่อย ดังนั้นตอนนี้มีอยู่ไม่กี่กระบวนท่าที่เอามาสอนพวกคุณฝึกได้พอดี”
ตอนนี้ถังโจ่ก็หัวเราะออกมา
“ก่อนหน้านี้ถ้าไม่ใช่ฉัน ไม่ใช่ถังยวนสอนกังฟูพวกเขา แต่ถึงแม้ว่าศักยภาพของพวกเราสองคนจะไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่านาย แต่สำหรับการต่อสู้ของสายฟ้า ไม่ว่าจะอย่างไรฉันก็เหนือกว่านาย”
“นึกไม่ถึงว่าตอนนี้นายจะพูดจาเพ้อพกอยู่ที่นี่ เพียงแค่เมื่อคืนฝึกมาไม่กี่กระบวนท่า นึกไม่ถึงว่านายจะกล้าเอามาโชว์ อย่ามาทำให้ฉันขำไปหน่อยเลย”
“เหล่าศิษย์น้อง พวกนายจะต้องเข้าใจให้แจ่มแจ้งนะ สิ่งที่เขาเพิ่งจะพูดก็คือ เขาฝึกมาเพียงคืนเดียว หรือว่าพวกนายเชื่อว่าเขาฝึกมาเพียงคืนเดียวแล้วจะมาแข็งแกร่งกว่ากังฟูพวกนายที่ฝึกกันมาหลายปีอย่างนั้นเหรอ?”
และนี่ก็เกี่ยวพันไปถึงปัญหาหนึ่งที่สอดคล้องกับความจริงเป็นอย่างมาก ว่าศักยภาพของถังเฉาก็คือสามารถฝึกการต่อสู้ชุดหนึ่งได้อย่างชำนาญภายในเวลาอันสั้น ไม่อย่างนั้นแล้ว หลี่เห้าในตอนนั้นคงไม่เห็นเขาดีขนาดนั้น
“นี่ผมก็ไม่รู้ด้วยแล้ว แต่ว่าผมยอมรับให้ศิษย์น้องทุกคนขึ้นมาท้าประลองผมได้ ถ้าหากว่าผมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกคุณ แน่นอนว่าผมก็ไม่มีสิทธิ์ไปสอนกังฟูพวกคุณแล้ว เช่นนั้นโอกาสนี้ก็ให้ถังโจ่ ศิษย์พี่รองของพวกคุณ”
หลังจากที่ถังโจ่ฟังจบก็ยิ้มเยือกเย็นออกมาทันที เพียงแต่ว่าเขาไม่ขึ้นไปประลองฝีมือแน่ ๆ เพราะตอนนี้เขามองเห็นจิตมืดของถังเฉาแล้ว
คราวก่อนที่ถูกต่อยทำให้คนอื่นยากที่จะลืมจริง ๆ ถ้ามีอีกครั้ง ถังโจ่อาจจะไม่กล้ามาแตะของอย่างกังฟูอีกแล้ว แต่ถังโจ่ก็รู้จักพลิกแพลงมาก ในเมื่อรู้ว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ เช่นนั้นก็ไม่ต้องขึ้นไปประลองก็พอแล้ว
รออยู่นาทีสองนาที สุดท้ายก็มีศิษย์น้องคนหนึ่งลุกขึ้นมา เดินไปพูดอยู่ตรงหน้าของถังเฉาว่า
“ขอโทษด้วยจริง ๆ ครับ ศิษย์พี่ ถึงอย่างไรทุกคนก็อยากจะดูสักหน่อยว่ากังฟูสายฟ้าของคุณเป็นอย่างไร ถึงอย่างไรนี่ก็ดีต่อตระกูลถังของพวกเรา ในเมื่อไม่มีใครกล้าออกมา เช่นนั้นผมจะขอขันอาสาออกมาลองแทนทุกคนเอง”
ถังเฉาเห็นฉากนี้แล้ว ที่จริงแล้วในใจก็รู้สึกสบายใจเป็นอย่างยิ่ง อย่างน้อยก็มีคนแสวงหาความเป็นจริง ไม่ใช่ประจบประแจง
“ไม่มีปัญหา ในเมื่อคุณลุกขึ้นมาเอง ผมชื่นชมคุณมาก ๆ เช่นนั้นพวกเราสองคนก็มาลองกันเถอะ”
ถังเชียนเชียนตึงเครียดขึ้นมาในทันที
ถึงอย่างไรถังเฉาก็เพิ่งจะพูดว่าเป็นกังฟูที่เรียนมาคืนเดียว ก็คือถังเชียนเชียนที่ฝึกด้วยกัน
ถึงแม้ว่าจะฝึกอยู่ทั้งคืน ทั้งสองคนก็ไม่ได้นอนมาคืนหนึ่งจริง ๆ พยายามจนเหงื่อไหลไคลย้อยกันทั้งคืน แต่ถังเชียนเชียนก็ยังไม่เข้าจริง ๆ ว่าถังเฉาจะสามารถชำนาญการต่อสู้ของสายฟ้าได้ในคนเดียวจริง ๆ เรียนรู้การต่อสู้ของสายฟ้าจนชำนาญ ทั้งยังสามารถเอามาสู้รบจริงได้อีก
ถ้าหากจะบอกว่าที่ฝึกมาเป็นการต่อยกระจายหรือว่าการต่อยแบบทหารก็ยังว่าไปอย่าง แต่ถึงอย่างไรนี่ก็คือการถ่ายทอด การถ่ายทอดของอย่างการต่อสู้นั่น ถ้าไม่ได้ฝึกมาสักสี่ห้าปีก็จะเป็นของที่ไม่มีประโยชน์อะไรเลยสักนิด บนโลกนี้จะมีคนที่สามารถเอาเพลงหมัดเข้ามารวมกันเป็นหนึ่งเดียวภายในคืนเดียวได้อย่างไรกัน?
แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ สิ่งที่ถังเชียนเชียนสอนถังเฉาก็เป็นแค่กระบวนท่าพื้นฐาน ก็เหมือนกับมวยไท่กู่ในวัดเส้าหลิน พื้นฐานจนไม่อาจจะพื้นฐานได้อีก
ศิษย์พี่ศิษย์น้องเหล่านี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนกับหวางหวู่ แต่ฝึกฝนมาหลายปีขนาดนี้แล้ว พวกเขายังคุ้นเคยกับกังฟูที่ตนเองฝึกจนชำนาญเป็นอย่างมาก ยิ่งรวมไปถึงท่ามวยจีนที่ระดับสูงขึ้นไปอีก ถังเฉาไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ได้แน่ ๆ
ในตอนนี้เอง ถังเฉาเองก็จัดท่าทางแบบที่เพิ่งจะเรียนรู้มาเมื่อคืนออกมาอย่างมั่นใจ
ศิษย์น้องคนนี้มีใบหน้าหาคำตอบไม่ได้
“ศิษย์พี่ใหญ่ หรือว่าคุณจะใช้การประลองขึ้นพื้นฐานมาต่อสู้กับพวกเรา? คุณคงไม่ได้กำลังล้อเล่นอยู่ใช่ไหมครับ?”
“ต่อให้คุณจะเป็นคนฝึกวิชามาจนชำนาญแค่ไหน ก็ไม่อาจจะมาเทียบกับระดับของกังฟูของพวกเราได้หรอกนะ”
“ถึงอย่างไรกระบวนท่าทั้งหมดของคุณ เทียบกับการต่อสู้ที่พวกเราฝึกมาแล้ว นั่นล้วนแต่สามารถรื้อออกได้ตามใจเลย”
ศิษย์น้องไม่ได้แกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่กลับเตือนศิษย์พี่ของตัวเองด้วยความหวังดี ไม่อย่างนั้นเป็นศิษย์พี่ใหญ่ที่ถูกตนเองสู้จนพ่ายแพ้ไป นั่นก็ขายหน้าเกินไปนะ
แต่ถังเฉาไม่เพียงแต่ไม่เครียดเลยสักนิด กลับเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี เอ่ยอย่างชำนาญว่า
“ศิษย์น้อง ประโยคนี้ของคุณผิดแล้ว ไม่ใช่การต่อสู้ที่ขั้นสูงแล้วจะดี นั่นต้องดูว่าคุณฝึกมาจนถึงระดับไหนแล้ว แล้วจะนำไปใช้อย่างไร”
“ถ้าไม่เชื่อละก็ ผมสามารถทดสอบได้นะ”
หลังจากที่ถังเฉาพูดจบ ก็เม้มปาก จิ้มไปที่ศีรษะ
ถังโจ่ลอบหัวเราะอยู่ข้าง ๆ
เพราะว่าเขาคิดว่า ขึ้นพื้นฐานนั้นไม่สามารถต่อต้านการต่อสู้ขั้นสูงของสายฟ้าได้ แม้ว่าจะแข็งแกร่งอย่างไร ขอเพียงไม่ได้ใช้กำลังภายในที่มีอยู่เดิม ถังเฉาก็ไม่สามารถเอาชนะได้
“ผมจะสู้แล้วนะ ศิษย์น้อง!”
ว่าแล้ว ศิษย์น้องก็พุ่งเข้ามาอย่างดุดันในทันที ท่าทางฮึกเหิมมีพลัง ดูเหมือนจะมั่นใจในการแข่งขันนัดนี้มาก
แต่ถังเฉาไม่หวาดกลัวต่อความอันตราย ยังคงรักษาท่าทางของขั้นพื้นฐานเมื่อกี้ของตัวเองเอาไว้