เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 993 ถังเฉามาช่วย
ดวงตาของถังเชียนเชียนเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เธอถอยไปข้างหลังเรื่อย ๆ คนสองคนที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่คนของราชวงศ์ต้าเซี่ย แต่สามารถจองหองอยู่ในราชวงศ์ต้าเซี่ยได้ ก็มีแต่คนญี่ปุ่นเท่านั้น
แม้ว่าถังเชียนเชียนอยากลงมือมาก แต่สถานการณ์เช่นนี้ตนเองไม่สามารถลงมือได้ เพราะหากเธอลงมือ คนทั้งตระกูลถังจะคิดว่าตนเองเป็นคนเข้าไปพูดกับพวกเขาและทำให้จนมุม
“ถ้าพวกคุณยังเดินเข้ามาอีก ฉันจะร้องตะโกนแล้วน่ะ”
ถังเชียนเชียนตะโกนอย่างหมดหนทาง เป็นความเคยชินที่จะกล่าวเช่นนี้ แต่ถังเชียนเชียนก็รู้ว่ามันไม่มีประโยชน์
และคนญี่ปุ่นสองคนนั้นก็รู้ชัดเจนเช่นกัน
“คุณร้องสิ ถึงแม้ว่าคุณจะร้องจนเสียงแหบ ก็ไม่มีคนกล้าเข้ามาช่วยคุณ พวกเราเป็นพลเมืองของญี่ปุ่น ถ้าหากมีใครกล้าแตะต้องพวกเราแม้เพียงปลายเล็บ ผมจะทำให้คนทั้งตระกูลของเขาตายจนหมด”
แม้ว่าประโยคนี้จะรุนแรงบ้าคลั่ง แต่มันเป็นเรื่องจริง หากพลเมืองญี่ปุ่นได้รับบาดเจ็บในราชวงศ์ต้าเซี่ย คนญี่ปุ่นก็จะติดตามเรื่องนี้ให้กระจ่าง
ราชวงศ์ต้าเซี่ยในฐานะสร้างสันติภาพกับญี่ปุ่น และไม่เคยกล้าทำอะไรญี่ปุ่นแม้แต่น้อย เพราะว่าญี่ปุ่นก็มียอดฝีมืออยู่ไม่น้อย และไม่น้อยกว่าราชวงศ์ต้าเซี่ย
ขณะที่กล่าว ทั้งสองเดินเข้าไปใกล้ถังเชียนเชียน คนที่อยู่ข้างหลังกำลังมองผู้คนที่เดินสัญจรไปมา และใช้สายตาเตือนพวกเขาว่าอย่าเข้ามายุ่ง
เห็นได้ชัดว่าผู้คนที่เดินสัญจรไปมาบนถนนเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น แต่พวกเขาเพิกเฉย เพราะพวกเขารู้ดีว่าไม่สามารถช่วยอะไรได้ และอาจจะทำให้ตนเองต้องเดือดร้อน
เมื่อมือของพี่ใหญ่และพี่รองกำลังจะถูกตัวถังเชียนเชียน ขณะนี้มีหินก้อนหนึ่งพุ่งทะลุมือพี่ใหญ่โดยตรง
หลังจากมือของพี่ใหญ่ทะลุ เขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด มองไปรอบ ๆ แต่ไม่เห็นใครสักคน
“ใครกันแน่? ถ้าแน่จริงก็ปรากฏตัวออกมา พวกเราเป็นคนญี่ปุ่นเชียวน่ะ หากคุณไม่ปรากฏตัว ผมจะบอกคุณว่าเรื่องนี้ไม่จบแน่นอน!”
พี่รองรีบวิ่งไปอยู่ด้านข้างพี่ใหญ่ มองไปที่บาดแผลของพี่ใหญ่ และพบว่าแขนของพี่ใหญ่ทะลุ เขาแสดงสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ จากนั้นเขาก็ตะโกนใส่ผู้คนที่เดินสัญจรไปมาบนท้องถนน แต่ผู้คนที่เดินสัญจรไปมาบนท้องถนนก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ทันใดนั้น ชายคนหนึ่งเดินมากล่าวกับทั้งสามคนด้วยท่าทางสงบ
“รีบร้อนทำไม การเดินก็ต้องใช้เวลาบ้าง ผมไม่ได้บอกว่าผมจะหลบซ่อนนี่”
คนคนนี้คือถังเฉา ถังเฉาไม่ได้แสดงท่าทางจริงจังมากนัก แต่กลับมีท่าทางที่สบาย ๆ
หลังจากถังเชียนเชียนเห็นถังเฉา ก็วิ่งเข้าไปกอดแขนของถังเฉาเอาไว้ แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอาบแก้ม
“พี่ถังเฉา พวกเรารีบหนีกันเถอะ มิเช่นนั้นมันจะเกิดปัญหาใหญ่”
ขณะพูด ถังเชียนเชียนกำลังเตรียมตัวดึงถังเฉาหนี แต่คนอย่างถังเฉาจะทนคับข้องใจเช่นนี้ได้อย่างไร เขาจึงดึงถังเชียนเชียนกลับมาทันที และกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ผมไม่สนว่าพวกเขาจะเป็นใคร ถ้ากล้าแตะต้องน้องสาวของผม มีจุดจบเดียวเท่านั้น นั่นคือความตาย”
จากนั้นพี่ใหญ่ที่เป็นคนญี่ปุ่นก็เดินเข้ามา มองถังเฉาด้วยใบหน้าดุดันและถามว่า
“คุณรู้ไหมว่าพวกเราเป็นใคร? คุณกล้าล่วงเกินพวกเราเหรอ?”
เสียงของพี่ใหญ่สั่นเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเกิดจากหินที่ทะลุแขนของตนเอง
หลังจากที่ถังเฉาได้ยินพี่ใหญ่กล่าวประโยคนี้ เขาก็หัวเราะและแสดงท่าทางเยาะเย้ย
“ผมรู้ พวกคุณเป็นคนญี่ปุ่นที่ไร้ประโยชน์ แล้วยังไงล่ะ?”
คำพูดประโยคนี้ ทำให้ทั้งสามคนก็ไม่สามารถตอบกลับได้ชั่วขณะหนึ่ง
หลังจากมีปฏิกิริยาตอบสนอง พี่รองหยิบกริชออกมาจากเอวของตนเองทันที
กริชเต็มไปด้วยรอยเลือด บ่งบอกว่าพี่รองต้องฆ่าคนระหว่างทางที่มาไม่น้อย และคนส่วนใหญ่ถูกฆ่าตายเพราะพวกเขาล่วงเกินทั้งสามคนโดยไม่ตั้งใจ
สาเหตุที่พวกเขาบ้าคลั่งเช่นนี้ เพราะเกิดจากสนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรมระหว่างญี่ปุ่นและราชวงศ์ต้าเซี่ย
ตอนนี้แม้ว่าเวลาของสนธิสัญญานี้จะผ่านไปแล้ว แต่สถานการณ์นี้ก็ยังคงมีอยู่
นั่นคือญี่ปุ่นตกลงที่จะสงบศึกกับราชวงศ์ต้าเซี่ย แต่คนญี่ปุ่นต้องได้รับความเคารพจากทุกคนในขณะที่อยู่ราชวงศ์ต้าเซี่ย
เดิมเป็นสนธิสัญญาที่ธรรมดา แต่เนื่องจากวิวัฒนาการของประวัติศาสตร์ ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นว่าคนญี่ปุ่นจะต้องมีอำนาจอยู่เหนืออื่นขณะที่อยู่ในราชวงศ์ต้าเซี่ย
แม้ว่าถังเฉาจะไม่ได้อยู่ในราชวงศ์ต้าเซี่ยเป็นเวลานาน เขาก็เคยได้เรื่องราวของคนญี่ปุ่น และไม่พอใจกับสนธิสัญญานี้มานานแล้ว ขณะนี้ได้พบคนญี่ปุ่นพอดี
เมื่อได้ยินว่าถังเฉาใช้น้ำเสียงที่บ้าคลั่งเช่นนั้น และตอนที่บอกว่าคนญี่ปุ่นเป็นคนไร้ประโยชน์นั้น สีหน้าของคนทั้งสามเปลี่ยนไปทันที
“ผมสามารถบอกคุณได้เลยว่า นายพลของพวกเราอยู่นอกประตูเมือง ตอนนี้คุณจองหองมาก โอเค! คุณคอยดู ผมจะขอให้นายพลของพวกเราเข้ามาจัดการคิดบัญชีกับคุณ”
จากพลังของหินก้อนนั้น ทำให้ทั้งสามคนรู้ว่าถังเฉาต้องแข็งแกร่งกว่าพวกเขามาก ตอนนี้ถึงแม้ว่าพวกเขาต้องการจะฆ่าถังเฉา แต่พวกเขาก็ไม่ใช่คนโง่ พวกเขารู้ไม่สามารถเอาชนะถังเฉาได้ จึงต้องการขอให้นายพลของตนเองมาช่วยจัดการ
ถังเฉาไม่ใช่คนที่สามารถรังแกได้ง่าย ๆ และจะปล่อยให้พวกเขารังแกถังเชียนเชียนในอาณาเขตของตนเอง แล้วก็จากไปอย่างปลอดภัย
“เดี๋ยวก่อน พวกคุณอย่าเพิ่งรีบไป หยุด”
หลังจากถังเชียนเชียนเห็นถังเฉาเรียกคนทั้งสาม ความตึงเครียดของเธอก็ถูกปะทุขึ้นอีกครั้ง
“พี่ถังเฉา ช่างมันเถอะ พวกเขาเป็นคนญี่ปุ่นเชียวน่ะ หากล่วงเกินพวกเขา ปัญหาก็ยากที่จะแก้ไข”
ถังเฉาไม่ฟังคำเตือนของถังเชียนเชียน แต่เดินไปตามลำพังและเดินไปอยู่ตรงหน้าสามคนนั้น
“พวกคุณคิดว่าหลังจากรังแกคนของผมแล้ว พวกคุณก็เดินจากไปแบบนี้หรือ?”
“พวกคุณฝันหวานเกินไปมั้ง”
หลังจากได้ยินประโยคนี้ ทั้งสามคนก็มองหน้ากันโดยไม่อยากจะเชื่อ ราวกับว่ามีสองสามคำเขียนอยู่ในดวงตาของพวกเขา
‘หรือว่าคนญี่ปุ่นจะไม่มีสถานะในราชวงศ์ต้าเซี่ยแล้ว?’
แต่พฤติกรรมของคนในราชวงศ์ต้าเซี่ยที่แสดงตลอดทาง พี่น้องทั้งสามคนเห็นอย่างชัดเจน ตอนนี้ถังเฉาบ้าคลั่งเช่นนี้ ทำให้สามคนทั้งไม่สามารถมีปฏิกิริยาตอบสนองได้ทันที
“คุณอยากทำอะไร? คุณคงไม่คิดที่จะลงมือกับพวกเราใช่ไหม? ผมบอกได้เลยว่า ถ้าผมบาดเจ็บแม้แต่ปลายเล็บ ผมจะทำให้คนทั้งตระกูลของคุณตายไร้ที่ฝัง”
ถังเฉาหัวเราะเยาะเย้ยขณะที่กล่าว
“ผมไม่สนใจปลายเล็บของคุณ สิ่งที่ผมต้องการคือศีรษะของคุณ คุณรังแกคนของผม และคุณยังพูดจาบ้าคลั่งเช่นนี้ แล้วผมจะปล่อยคุณไปได้อย่างไร”
หลังจากผู้คนที่อยู่บนถนนได้ยินคำพูดของถังเฉา พวกเขาต่างแสดงท่าทางที่ไม่อยากจะเชื่อ
หลายปีมาแล้วที่คนในราชวงศ์ต้าเซี่ย ไม่มีใครกล้าพูดเช่นนี้กับคนญี่ปุ่น แต่ถังเฉาที่เพิ่งกลับมาตระกูลกล้าที่จะพูดจาหยิ่งผยองเช่นนี้!