เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 105
โม่ฮุ่ยหลิงส่งยิ้มให้หลินเช่อก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ๆ
“คุณหลิน” ยิ่งหล่อนพยายามยิ้มให้อย่างอ่อนหวานเท่าไหร่ หลินเช่อก็นึกเกลียดกลัวเธอมากขึ้นเท่านั้น
โม่ฮุ่ยหลิงคนนี้เป็นคนที่คาดเดาไม่ได้เลยจริงๆ
“คุณโม่ มาหากู้จิ้งเจ๋อเหรอคะ คุณเข้าไปข้างในบ้านได้เลยนะคะ”
โม่ฮุ่ยหลิงยิ้มและบอกว่า “เปล่าหรอก ฉันมาซื้อบ้านหลังใกล้ๆ กันนี่ แล้วก็เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่วันนี้เอง ฉันก็เลยอยากจะมาทักทายเพื่อนบ้านสักหน่อยน่ะ”
หลินเช่อตัวแข็งทื่อ
นี่หล่อนมาซื้อบ้านอยู่ใกล้ๆ กันน่ะนะ
งั้นก็หมายความว่าตั้งแต่นี้ต่อไปเธอจะได้เจอหน้าโม่ฮุ่ยหลิงบ่อยขึ้นงั้นหรือ
หลินเช่อเริ่มไม่สบอารมณ์ อยากจะต่อว่ากลับไปที่หล่อนคอยตามติดกู้จิ้งเจ๋อเป็นเงาชนิดไม่ยอมห่างแบบนี้
โม่ฮุ่ยหลิงชี้ไปที่ตึกหลังเล็กๆ ห่างออกไปไม่ไกลนักแล้วพูดว่า “นั่นบ้านใหม่ฉันเอง ถ้าว่างก็แวะมาเยี่ยมได้นะ”
หลินเช่อหันไปมองตาม มันเป็นวิลล่าหลังเล็กกว่าบ้านหลังนี้มากนัก
ความจริงแล้วบ้านตระกูลกู้ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่พิเศษ ตัวบ้านนั้นมีขนาดมหึมามากเสียจนทำเอาบ้านหลังอื่นที่อยู่ใกล้เคียงดูเล็กไปถนัดตา
โม่ฮุ่ยหลิงเองก็อยากจะซื้อบ้านหลังใหญ่ๆ อยู่เหมือนกัน แต่เธอร้อนใจอยากรีบซื้อมาก อีกทั้งวิลล่าหลังนี้ก็เป็นหลังที่ใหญ่ที่สุดที่อยู่ใกล้บ้านตระกูลกู้แล้ว
ตอนที่กู้จิ้งเจ๋อซื้อบ้านหลังนี้ เขาเป็นคนควบคุมการก่อสร้างทั้งหมดด้วยตัวเอง เขาว่าจ้างสถาปนิกชาวฝรั่งเศสมาออกแบบ ตัวบ้านจึงออกมาโอ่อ่า หรูหรา งดงามและอยู่สบายราวกับพระราชวัง และแน่นอนว่าราคาของมันก็สูงลิบลับด้วยเช่นกัน
โม่ฮุ่ยหลิงไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น เธอซื้อได้เพียงวิลล่าหลังน้อยตรงนี้
หล่อนพูดกับหลินเช่ออย่างภาคภูมิว่า “น่าเสียดายที่ไม่มีบ้านหลังใหญ่กว่านี้ จิ้งเจ๋ออุตส่าห์อยากให้ฉันย้ายมาอยู่ด้วยใกล้ๆ ฉันก็เลยซื้อวิลล่าหลังเล็กนี่แทน แค่สี่ล้านเท่านั้นเอง แต่ก็ดีพอแล้วแหละสำหรับจิ้งเจ๋อกับฉันน่ะนะ ที่เล็กกว่า นั่นก็แปลว่ามันก็จะอบอุ่นน่าอยู่กว่า จริงมั้ยล่ะจ๊ะ ฉันคิดว่าการมีคนใช้เดินขวักไขว่กันไปมามากมายแบบในบ้านของจิ้งเจ๋อไม่น่าเป็นการดีสำหรับการใช้ชีวิตคู่สักเท่าไหร่ เพราะแบบนี้ฉันก็เลยไม่ค่อยชอบมาที่นี่ไงละจ๊ะ เธอเองก็คงรู้ดีแหละเนอะ ใช่มั้ยหลินเช่อ เธอกับจิ้งเจ๋อเองก็คงไม่ได้อยู่กันอย่างสงบตามลำพังเท่าไหร่ ในเมื่อคนพลุกพล่านเต็มบ้านแบบนี้”
หลินเช่อไม่ได้สนใจฟังคำโอ้อวดของอีกฝ่าย เธอเพียงแต่ยิ้มแล้วตอบกลับไปว่า “มันก็ดีอยู่นะคะ พวกสาวใช้ที่นี่ก็ไม่ได้แย่อย่างที่คุณคิด พวกเขาได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดีไม่ให้เดินไปเดินมาเป็นที่วุ่นวาย แล้วก็จะออกมาเฉพาะเวลาที่มีงานต้องทำเท่านั้น”
“โอ้ จริงเหรอจ๊ะ ฉันไม่รู้เลย เพราะทุกครั้งที่ฉันมาหาจิ้งเจ๋อ เขาจะไม่ยอมให้พวกคนใช้เข้ามาขัดจังหวะเราเลยสักครั้ง”
หลินเช่อตอบ “แต่ก็แย่หน่อยนะคะ เพราะขนาดได้อยู่ด้วยกันตามลำพังสองคนแล้ว เขาก็ยังแตะต้องคุณไม่ได้อยู่ดี ฉันเข้าใจคุณค่ะ ไม่อย่างนั้นอาการป่วยของเขาคงยิ่งกำเริบหนักขึ้นไปอีก”
“แก…” โม่ฮุ่ยหลิงเจ็บใจแต่ก็ทำได้เพียงถลึงตามองหลินเช่อ “เขาก็แตะต้องเราไม่ได้ทั้งสองคนนั่นแหละ แล้วแกจะมาดีใจอะไรไม่ทราบ”
โม่ฮุ่ยหลิงไม่รู้เลยสักนิดว่ากู้จิ้งเจ๋อกับหลินเช่ออาศัยอยู่ด้วยกันแบบไหน หล่อนจึงไม่รู้ว่าทุกครั้งที่ชายหนุ่มอยู่กับหลินเช่อ เขาไม่เคยมีอาการใดๆ เกิดขึ้นเลย
หลินเช่อเลิกต่อปากต่อคำกับอีกฝ่ายแล้วมองเข้าไปภายในตัวบ้าน จากนั้นก็หันไปบอกโม่ฮุ่ยหลิงว่า “ถ้างั้นก็ขอให้มีความสุขกับการแวะมาหาเขานะคะ”
โม่ฮุ่ยหลิงทำหน้าเยาะๆ แล้วมองดูหลินเช่อปลีกตัวเดินเข้าบ้านไป
พนักงานรักษาความปลอดภัยที่ประตูทักทายเธออย่างสุภาพและประตูก็ปิดลง โม่ฮุ่ยหลิงมองดูแนวรั้วสูงด้วยสายตาเจ็บช้ำ
ที่นี่มันควรจะเป็นของเธอไม่ใช่เหรอ
ฮึ ฉันยอมให้แกอยู่ได้ชั่วคราวเท่านั้นแหละ นังหลินเช่อ ไม่ช้าก็เร็ว ฉันจะไล่ตะเพิดแกออกไปเอง!
หลินเช่อเดินเข้าบ้านมาพลางครุ่นคิดถึงการที่มีโม่ฮุ่ยหลิงอยู่ใกล้ๆ ซึ่งทำให้เธออดรู้สึกไม่เป็นสุขขึ้นมาไม่ได้
เธอปล่อยให้สาวใช้เลือกเสื้อผ้าให้และแต่งตัวอย่างใจลอย เตรียมที่จะขับรถไปยังบริษัท
การขับรถช่วยบรรเทาความหงุดหงิดในใจลงได้บ้าง
แม้หลินเช่อจะสมัครเรียนสอนขับรถกับมืออาชีพและสอบได้ใบขับขี่มาในที่สุด แต่เธอก็ยังไม่เคยขับรถออกมาข้างนอกด้วยตัวเองมาก่อน
เมื่อสาวใช้มองเห็นเธอเดินไปที่รถ หล่อนก็อดเตือนขึ้นเบาๆ อย่างเป็นห่วงไม่ได้ว่า “คุณผู้หญิงคะ ทำไมไม่เรียกคนขับรถละคะ”
หญิงสาวตอบไปว่า “ฉันซื้อรถมาเพื่อความสะดวกของตัวเองนะจ๊ะ ถ้าเรียกคนขับรถก็เท่ากับผิดวัตถุประสงค์น่ะสิ ไม่ช้าก็เร็วฉันต้องหัดขับรถเองอยู่ดีนั่นแหละ งั้นฉันไปก่อนนะ”
เมื่อได้ฟังคำอธิบายของหลินเช่อแล้ว สาวใช้ก็เข้าใจ จึงปล่อยให้หลินเช่อขับรถเองแต่โดยดีแม้จะยังเป็นห่วงไม่น้อยก็ตาม
มีรถก็ต้องขับสิ ไม่ใช่จอดทิ้งไว้ที่บ้านทุกวี่วันแบบนี้
ในขณะเดียวกัน
โม่ฮุ่ยหลิงที่ยังคงยืนรอกู้จิ้งเจ๋อกลับบ้านอยู่ด้านนอกก็มองเห็นจากหางตาว่าหลินเช่อกำลังขับรถออกไป
รถคันนั้นสะดุดตาไม่น้อยทีเดียว เธอบอกได้เลยว่ามันเป็นรถสำหรับผู้หญิง
หล่อนตรวจสอบทุกอย่างเกี่ยวกับหลินเช่อแล้ว รู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ได้มีทรัพย์สินใดๆ เป็นเพียงลูกนอกสมรสที่มีสถานะต่ำต้อยอยู่ภายในบ้านตระกูลหลินเท่านั้น
แล้วทำไมนังผู้หญิงยากจนนั่นถึงมีปัญญาซื้อรถได้ล่ะเนี่ย
มันจะต้องหาทางออดอ้อนกู้จิ้งเจ๋อให้ซื้อให้แน่ๆ
โม่ฮุ่ยหลิงเดือดพล่านอยู่ในใจ นังนั่นเป็นผู้หญิงร้ายกาจแต่กลับชอบทำตัวใสซื่อ แล้วดูสิ สุดท้ายก็หางโผล่ออกมาอยู่ดี
แต่ที่น่าโมโหยิ่งกว่านั้นก็คือกู้จิ้งเจ๋อก็กลับซื้อรถให้มันเสียด้วยนี่แหละ
โม่ฮุ่ยหลิงทนไม่ไหวจนต้องก้าวออกไปขวาง
“หลินเช่อ หยุดเดี๋ยวนี้!” หล่อนตะโกนก่อนจะรีบวิ่งจี๋มาที่รถ
หลินเช่อนั้นยังเป็นมือใหม่หัดขับ แต่โชคดีที่บริเวณนี้เป็นแถบที่อยู่ของผู้มีอันจะกิน ทำให้ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่หนาแน่นนัก เธอจึงอยากลองหัดขับบนถนนแถวนี้ดูสักเล็กน้อยก่อน แต่แล้วอยู่ๆ เธอก็เห็นโม่ฮุ่ยหลิงตรงดิ่งเข้ามาหาเธอ
“โอ๊ย! หลบไป โม่ฮุ่ยหลิง! หลบไปสิ!” ด้วยความเป็นมือใหม่ เธอจึงละล้าละลังแม้กระทั่งเห็นคนยืนอยู่บนถนน ไม่ต้องพูดถึงคนที่กำลังวิ่งตรงเข้าใส่แบบนี้เลย
โม่ฮุ่ยหลิงวิ่งชนิดที่แทบจะเอาศีรษะนำหน้า หลินเช่อไม่อาจหักหลบได้ทัน จึงชนเข้าไปที่ร่างเธอ
โม่ฮุ่ยหลิงล้มลงบนพื้น หลินเช่อตกใจสุดขีดเมื่อเห็นอีกฝ่ายผุดลุกขึ้นมาและตะโกนใส่หน้าเธอต่อ “หลินเช่อ นี่แก…พยายามจะฆ่าฉันหรือยังไงยะ ลงมาซะดีๆ เลยนะ เดี๋ยวฉันจะจัดการกับแกเอง อย่าคิดหนีเชียวนะ! วันนี้ฉันไม่ปล่อยแกไปแน่!”
หล่อนลุกขึ้นยืนได้ทันที เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย
หลินเช่อมองอีกฝ่ายอย่างโกรธจัด “คุณไม่สนใจชีวิตเองแถมยังวิ่งเข้าใส่ฉันแบบนี้ แล้วคุณยังจะมาโทษคนอื่นอีกเหรอ คุณไม่ตายก็ดีเท่าไหร่แล้วน่ะ ฉันไม่เสียเวลาเล่นกับคุณแล้วนะ”
เธอยังต้องรีบไปที่บริษัท ไม่ได้ว่างเหมือนโม่ฮุ่ยหลิง
หลินเช่อกลับไปขึ้นรถและขับออกไปทันที
โม่ฮุ่ยหลิงทำได้แต่เพียงตะโกนลั่นตามหลังไปว่า “หลินเช่อ กลับมานี่นะ! แก…เดี๋ยวก่อนเถอะ กู้จิ้งเจ๋อไม่ปล่อยแกไว้แน่”
หล่อนนั่งลงกับพื้นแล้วโทรศัพท์หากู้จิ้งเจ๋อ
“จิ้งเจ๋อคะ ฉันเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ คุณรีบมาทีนะคะ”
“อะไรนะ เกิดเรื่องขึ้นที่ไหน”
“ที่…นอกบ้านคุณน่ะค่ะ”
“อะไรนะ”
กู้จิ้งเจ๋อประหลาดใจอย่างยิ่ง ปกติแล้วรถบริเวณนี้จะขับกันค่อนข้างช้าเพราะถนนนั้นเต็มไปด้วยป้ายเตือนเต็มพรืดไปหมด ทุกคนเคารพกฎการควบคุมความเร็วเป็นอันดี แล้วนี่โม่ฮุ่ยหลิงจะเกิดอุบัติเหตุได้อย่างไรกัน
เขารีบมาในทันทีและได้เห็นโม่ฮุ่ยหลิงนั่งอยู่ที่พื้น
เขารีบตามคนมาช่วยพยุงเธอให้ลุกขึ้น ขาของเธอได้รับบาดเจ็บ จนส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด
“จิ้งเจ๋อคะ คุณต้องช่วยฉันนะคะ หลินเช่อพยายามจะฆ่าฉันด้วยการขับรถชน เธอชนเข้าที่ขาฉันเต็มๆ เลย”
พูดพลางยกกระโปรงขึ้นให้ดูร่องรอยถูกกระแทกที่ข้อเท้าและหัวเข่า
แต่กู้จิ้งเจ๋อกลับถามว่า “นี่หลินเช่อขับรถออกไปเองงั้นเหรอ”
หลินเช่อ…ไม่เคยขับรถเองมาก่อนเลย แล้วทำไมถึงจะมาขับเอาวันนี้นะ…