เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 110
หลินเช่อพูดเบาๆ “เธอเอะอะโวยวายเสียงดังแล้วก็วิ่งตรงเข้ามาหาฉัน ฉันก็เลยขับรถชนเธอเข้าน่ะค่ะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอก่อนหน้านี้ กุลสตรีผู้สมบูรณ์แบบของทุกคนทำไมถึงได้ทำตัวแบบนั้น…”
กู้จิ้งเจ๋อตอบ “ช่วงนี้เขา…ออกจะทำตัวไม่ค่อยมีเหตุผลอยู่สักหน่อยน่ะ”
หลินเช่อบอก “โอเคค่ะ ถึงยังไงฉันคิดว่าฉันควรจะอยู่ให้ห่างจากเธอเอาไว้หน่อย ไม่อย่างนั้นต้องมีปัญหากันอีกแน่ๆ เลย”
ชายหนุ่มเห็นด้วย “อืม ถ้าอย่างนั้นพอเรากลับถึงบ้าน เธอก็จะไม่มีโอกาสได้ขับรถอีกแล้ว เพราะฉะนั้นเธอก็สบายใจได้ เพราะเรื่องแบบนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นอีก”
“…”
เมื่อกลับถึงบ้าน หลินเช่ออาบน้ำอย่างรวดเร็วและเอนตัวลงบนเตียงเตรียมที่จะเข้านอน กู้จิ้งเจ๋อทำท่าจะขึ้นมานอนบนเตียงเดียวกันด้วย
เธอจึงมองเขาแล้วพูดว่า “นี่ คืนนี้คุณช่วยไปนอนข้างนอกได้ไหมคะ ก่อนหน้านี้ฉันเกือบตายเลยนะ คุณจะไม่ให้พื้นที่ส่วนตัวฉันสักหน่อยเหรอ”
ชายหนุ่มยกผ้าห่มขึ้นแล้วสอดตัวเข้ามา เขาใช้มือข้างหนึ่งรองศีรษะแล้วหันข้างมาหาเธอ “เธอเพิ่งเจอเรื่องร้ายแรงมา ถ้าปล่อยให้นอนคนเดียวเดี๋ยวต้องฝันร้ายแน่”
“ไม่มีทางหรอกค่ะ ฉันโชคดีออกขนาดนี้ อุตส่าห์หนีความตายมาได้ ฉันดีใจออกจะตาย แล้วจะฝันร้ายได้ยังไงกัน”
“นี่เขาเรียกว่าปฏิกิริยาตอบรับความเครียดหลังเกิดเหตุรุนแรง ด้วยระดับสติปัญญาอย่างเธออาจจะไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร แต่เธอเพิ่งผ่านความเป็นความตายมา เพราะฉะนั้นมันเป็นสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นกับเธอก็ได้ เพราะอะดรีนาลีนในร่างกายเธอยังคงหลั่งอยู่แต่เธอไม่รู้สึกถึงมัน แต่พอเธอรู้สึกสงบและผ่อนคลายขึ้นนั่นแหละ เธอจะได้รู้”
หลินเช่อมองหน้าอีกฝ่าย ไม่ได้เชื่อในสิ่งที่เขาพูดซะทีเดียว
นี่เขาพูดจริงหรือเปล่าเนี่ย ไม่ค่อยอยากเชื่อเพราะเขาชอบหลอกเธออยู่เรื่อย แต่เธอก็อดรู้สึกไม่ได้เหมือนกันว่ามีบางอย่างผิดปกติ
แล้วทันใดนั้นเอง กู้จิ้งเจ๋อก็กอดเธอ
หลินเช่อร้องด้วยความตกใจ ตอนนี้เธอนอนอยู่เคียงข้างเขา
เขากอดเธอแน่นทีเดียว
หลินเช่อพยายามดิ้นรนอย่างตื่นตระหนก “นี่คุณจะทำอะไรน่ะ กู้จิ้งเจ๋อ คนพาล! ปล่อยฉันนะ ไม่งั้นฉันร้องจริงๆ ด้วย!”
เขากระชับอ้อมกอดเธอให้แน่นขึ้นไปอีกพลางกระซิบเข้าที่ข้างหู “จุ๊ๆ อย่าขยับสิ ถ้าฉันกอดเธอเอาไว้แน่นๆ แบบนี้มันจะช่วยลดระดับความเครียดลงได้นะ ฉันได้ยินว่าเวลาที่เขาอยากให้พวกวัวในฟาร์มเนื้อนุ่มๆ น่ะ ก่อนที่จะเชือดวัว พวกเขาจะส่งวัวเข้าไปในเครื่องที่ช่วยบีบรัดตัวพวกวัว พอวัวรู้สึกปลอดภัยก็จะไม่ดิ้นรน เพราะฉะนั้นการกอดแน่นๆ แบบนี้จะช่วยให้เราปลดปล่อยความเครียด เลิกดิ้นได้แล้ว ฉันจะกอดเธอไว้แบบนี้จนกว่าจะหลับ รับรองว่าเธอไม่ฝันร้ายแน่”
“จริงเหรอคะ” หลินเช่อหยุดดิ้น
เขาตอบ “ก็จริงน่ะสิ นี่เรื่องจริงนะ ที่ฉันทำแบบนี้ก็เพื่อตัวเธอเอง”
“…” หลินเช่อเริ่มผ่อนคลาย อ้อมกอดแน่นหนาของชายหนุ่มทำให้รู้สึกราวกับว่าเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายกำลังผ่อนคลาย เธอรู้สึกสบายขึ้นมากทีเดียว
บางทีเขาอาจจะทำแบบนี้เพื่อเธอจริงๆ ก็ได้
บางทีเธออาจจะตีความเจตนาของเขาผิดไป
หญิงสาวคิดพลางนอนแอบอิงซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนและค่อยๆ ผล็อยหลับไปในที่สุด
กู้จิ้งเจ๋อยิ้มพลางมองดูผู้หญิงซื่อบื้อในอ้อมกอด เขาค่อยๆ ขยับตัวจนกระทั่งได้ท่านอนที่สบาย และหลับไปด้วยเช่นกัน
วันต่อมา
หลินเช่อตื่นขึ้นขณะกู้จิ้งเจ๋อกำลังเดินเข้ามาในห้อง
“เมื่อคืนฉันฝันร้ายหรือเปล่าคะ” เธอถามพลางเกาหัวแกร่กๆ
เขาตอบ “ฝันสิ”
“จริงเหรอคะ ทำไมฉันจำไม่ยักได้” หลินเช่อรู้สึกว่าเมื่อคืนเธอนอนหลับสบายทีเดียว แถมไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองฝันร้ายอะไร
“คนเราจะฝันอยู่ตลอดเวลานั่นแหละ เพียงแต่คนเรามักจะลืมเก้าสิบเจ็ดเปอร์เซ็นต์ของเรื่องที่เป็นฝันร้ายไปแล้วเท่านั้นเอง”
“แบบนั้นเหรอคะ” หลินเช่อจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างจะจับพิรุธ แต่ก็ไม่เห็นความผิดปกติใด
เขาพูดต่อไป “ก็ใช่น่ะสิ ฝันร้ายของเธอเมื่อคืนน่ะรวมถึงการเตะฉันแล้วก็ตะคอกใส่ฉัน กว่าจะจัดการเธอให้สงบได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย”
“ฉัน…”
“เอาล่ะๆ ฉันซื้อโทรศัพท์ใหม่มาให้เธอแน่ะ” กู้จิ้งเจ๋อรีบกลบเกลื่อนด้วยการยื่นโทรศัพท์ให้หลินเช่อ
หญิงสาวมองโทรศัพท์ใหม่แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าเธอทำโทรศัพท์เครื่องเก่าหายไป
ความตระหนกทำให้เธอรีบยื่นมือออกมารับในทันที
เธอมองใบหน้าเฉยเมยของเขา
ไม่คิดเลยว่ากู้จิ้งเจ๋อจะช่างคิดขนาดนี้ เขาจำได้แม้กระทั่งสิ่งที่เธอเพียงแค่พูดออกไปอย่างนั้นเอง
เธอเงยหน้าขึ้นอย่างรู้สึกขอบคุณ “ขอบคุณนะคะ”
ชายหนุ่มมองที่โทรศัพท์ “มา ฉันจะเซ็ตเครื่องให้เธอ”
เขานั่งลงข้างเธอ เฝ้ามองเจ้าของโทรศัพท์ที่กำลังกดดูโน่นนี่
“กู้เมมโมรีจากโทรศัพท์เครื่องเก่าคืนเรียบร้อยแล้วนะ แต่รายชื่อผู้ติดต่อของเธอกู้คืนมาได้บางส่วนเท่านั้น”
“หมายความว่ายังไงคะ กู้คืนมาได้บางส่วน” เธอมองเห็นรายชื่อผู้ติดต่อหายไปอย่างผิดตา
ชายหนุ่มพูดหน้าตาเฉยว่า “อ้อ ฉันเห็นว่ามีเบอร์บางคนที่ไม่เป็นประโยชน์น่ะ ก็เลยช่วยเธอลบทิ้งไปแล้ว”
“…” หลินเช่อนิ่งอึ้ง เธอเงยหน้าขึ้นและเริ่มแหวใส่ “กู้จิ้งเจ๋อ หมายความว่ายังไงคะที่บอกว่าคุณลบทิ้งน่ะ…คุณลบใครทิ้งไปบ้างคะ”
กู้จิ้งเจ๋อนั่งตัวตรงแน่ว ตามองตรงไปข้างหน้าและไม่ตอบอะไร สีหน้าเขาเหมือนกำลังพูดเรื่องธรรมดาสามัญทั่วไปอยู่
หลินเช่อไล่ดูรายชื่อผู้ติดต่อของเธอ แล้วก็ได้รู้ว่ามีบางอย่างไม่เหมือนเดิม
กู้จิ้งเจ๋อลบคนออกจากรายชื่อผู้ติดต่อของเธอไปมากมายทีเดียว ในโทรศัพท์ของเธอตอนนี้ไม่มีชื่อของฉินชิง ผู้กำกับและนักแสดงชายอีกหลายคนที่เธอรู้จักด้วย แม้แต่เบอร์ของกู้จิ้งอวี่ก็ยังถูกลบทิ้ง
“กู้ จิ้ง เจ๋อ นี่คุณมีปัญหาอะไรน่ะ” เธอแว้ดใส่อย่างโกรธจัด “นั่นมันรายชื่อคนที่ฉันต้องติดต่อด้วยเรื่องงานนะคะ คุณลบทิ้งไปทำไมกัน”
ชายหนุ่มตอบว่า “ให้ตัวแทนของเธอเป็นคนจัดการเรื่องติดต่องานแทนสิ เธอควรทำข้อตกลงเรื่องการรับงานผ่านตัวแทนซะ จะได้ไม่ต้องมาสนใจรายชื่อพวกนั้น เอาไว้เมื่อไหร่ตัวแทนของเธอไม่ได้หางานให้เธอแล้วค่อยเอาเบอร์พวกนี้กลับมา แต่ตอนนี้เธอไม่ต้องเที่ยวหางานเองสักหน่อย ลบทิ้งไปน่ะดีแล้ว”
“…” หลินเช่อยังไม่หมดคำถาม “แล้วฉินชิงล่ะคะ…”
สายตาของเขากร้าวขึ้น “แล้วเธอจะเก็บเบอร์ของคนที่เป็นคู่หมั้นคนอื่นเอาไว้ทำไม”
“…”
“โอเคๆ ฉันจะเมมเบอร์ฉันไว้ให้เธอเอง ตั้งเป็นเบอร์โทรด่วนด้วย ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็แค่กดโทรเท่านั้น”
“ก็ได้…” เธอมองเขาอย่างอับจนคำพูด
ชายหนุ่มครุ่นคิดอยู่อีกครั้งก่อนจะบอกว่า “จะให้เมมเบอร์ฉันไว้ว่ากู้จิ้งเจ๋อคงไม่ดีแน่ ถ้ามีใครเห็นเข้า ความสัมพันธ์ของเราคงถูกเปิดเผย”
“อ่า ถ้างั้นฉันควรเมมชื่อไว้ว่าอะไรดีคะ” หลินเช่อเห็นด้วยกับคำพูดของเขา ถ้ามีใครเห็นชื่อเข้าละก็ พวกเขาก็จะดูน่าสงสัย
เขาคว้าโทรศัพท์เธอไป “ฉันจะเปลี่ยนชื่อให้”
กู้จิ้งเจ๋อกดเปลี่ยนชื่อรวดเร็วทันใจ เขามองดูชื่อใหม่แล้วพยักหน้าอย่างพอใจก่อนส่งโทรศัพท์คืนให้หลินเช่อ
หญิงสาวก้มลงมอง
ตัวหนังสือนั้นชัดเจนแจ่มแจ๋วทีเดียว เขาเปลี่ยนชื่อเป็น ‘สามีสุดที่รัก’
“…”
เจ้าของโทรศัพท์เงยหน้าขึ้น แล้วร้องเสียงลั่น “กู้จิ้งเจ๋อ นี่คุณจะบ้าหรือไงคะ นี่มันไม่ยิ่งโจ่งแจ้งเข้าไปใหญ่เหรอ”
หลินเช่ออยากแก้ชื่อใหม่แต่เขาคว้าโทรศัพท์ไว้เสียก่อน “ไม่มีใครรู้ว่านี่เป็นเบอร์ฉัน อย่างมากพวกเขาก็จะรู้ว่าเธอมีแฟนแล้วเท่านั้น เดี๋ยวนี้คนเขาเรียกแฟนหนุ่มว่าสามีกันไม่ใช่เหรอ”
“ไม่ใช่สักหน่อย อี๋ จะบ้าเหรอ!”
ชายหนุ่มหน้าตึง “อี๋อะไรกัน แล้วฉันไม่ใช่สามีเธอหรือไง”
“ฉัน…ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น แต่เราก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น…”
“แบบนั้นน่ะแบบไหน ชื่อของเธอก็โชว์หราอยู่ในใบทะเบียนสมรสของฉันออกอย่างนั้น ไม่งั้นจะให้ฉันเป็นสามีแบบไหน”