เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 121
โม่ฮุ่ยหลิงเห็นอยู่หรอกว่าหลินเช่อนั้นอยู่กับกู้จิ้งเจ๋อ แต่หล่อนทำเป็นไม่เห็นไปอย่างนั้นและคว้าแขนชายหนุ่มพลางทำเสียงแง่งอน “จิ้งเจ๋อคะ ทำไมเมื่อวานคุณถึงไม่แวะมาละคะ ฉันอยู่ใกล้แค่นี้เอง คุณมาหาฉันได้ทุกวันเลยนะคะ”
กู้จิ้งเจ๋อเหลือบมองหลินเช่อแล้วค่อยๆ ผลักมือของโม่ฮุ่ยหลิงออกไป
แต่ฝ่ายนั้นไม่ยอมปล่อย หล่อนเห็นหลินเช่อเบือนหน้าหนี หล่อนจึงทำหน้าอย่างผู้มีชัย
หลินเช่อกลอกตา “พวกคุณไปกันเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันเอารถอีกคันไปเอง”
“เอ้อ หลินเช่อ…” เขาเรียก แต่หลินเช่อรีบปลีกตัวเดินหนีไปอีกทางโดยไม่หันกลับมามองเสียแล้ว
โม่ฮุ่ยหลิงดึงตัวเขาไว้ “ช่างเถอะค่ะ จิ้งเจ๋อ ปล่อยเขาไปเถอะ ยังมีรถใช้อีกตั้งหลายคันไปค่ะ”
กู้จิ้งเจ๋อชะงักและหันมามองโม่ฮุ่ยหลิง
การย้ายมาที่นี่ของหล่อนคอยสร้างปัญหาให้เขาอยู่เสมอ เขาคงปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปอีกไม่ได้เสียแล้ว
ชายหนุ่มตัดสินใจแล้วว่าเขาต้องแก้ปัญหาเรื่องนี้เป็นอันดับแรก
ด้วยเหตุนี้เขาจึงพยักหน้ารับและบอกกับเธอว่า “ขึ้นรถเถอะ ฉันมีเรื่องอยากพูดกับเธอหน่อย”
โม่ฮุ่ยหลิงมองดูชายหนุ่มเดินนำไปที่รถ เธอจึงรีบเดินตามไปติดๆ ด้วยใจที่ลิงโลด
ทันทีที่ขึ้นมาอยู่บนรถ หญิงสาวก็เริ่มอิงแอบซุกไซ้กู้จิ้งเจ๋อในทันที
ชายหนุ่มเหลือบมองพลางขยับหนี เขาเอ่ยบอก “ฮุ่ยหลิง ฉันบอกเธอหลายครั้งแล้วนะว่าฉันแต่งงานแล้ว เพราะฉะนั้นความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเธอจะเป็นแบบเดิมเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้!” โม่ฮุ่ยหลิงมองเขาด้วยแววตาชวนสงสาร
โม่ฮุ่ยหลิงบุ้ยปากอย่างแง่งอน “แต่คุณไม่ได้รักภรรยาคุณนี่คะ คุณรักฉันต่างหาก!”
“ฮุ่ยหลิง! เขาเป็นภรรยาฉัน เธอพูดกับเขาแบบนี้ได้ยังไง”
“คุณ…จิ้งเจ๋อคะ คุณไม่เคยทำแบบนี้กับฉันมาก่อนเลยนะคะ!” โม่ฮุ่ยหลิงทำหน้าตาน่าสงสาร
เขาจ้องหน้าเธอด้วยสายตาจริงจัง “เธอเองก็ไม่เคยทำตัวไร้เหตุผลแบบนี้มาก่อนเลยเหมือนกัน!”
“ฉัน…” โม่ฮุ่ยหลิงเบือนหน้าหนี
เมื่อรู้ว่าเขาเอาจริง เธอก็รีบหุบปากอย่างรวดเร็ว หญิงสาวกัดริมฝีปากแล้วนั่งมองกู้จิ้งเจ๋อ ครุ่นคิดว่าเธอควรจะทำอย่างไรดี
เธอไม่เคยประสบเหตุเช่นนี้มาก่อนจริงๆ นั่นแหละ
แต่เมื่อก่อนก็ไม่เคยมีหลินเช่อเข้ามาวุ่นวายกับพวกเธอด้วยเหมือนกัน
ต่อให้งานยุ่งแค่ไหนแต่กู้จิ้งเจ๋อก็ไม่เคยไปวุ่นวายกับผู้หญิงคนอื่นเลย หรือบางทีเขาก็ไม่มีเวลามาพบเธอนานนับสัปดาห์ แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นปัญหาอะไรนักเพราะเห็นว่าเป็นปกติของผู้ชาย ตราบใดที่เขาสามารถแบ่งเวลาอื่นที่นอกเหนือจากงานมาให้เธอได้ ทุกอย่างก็ไม่นับว่าเป็นปัญหา
ทว่าพอมาตอนนี้ หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อกลับได้อยู่ด้วยกัน ได้เจอหน้ากันทุกวันคืน นั่นแหละ โม่ฮุ่ยหลิงถึงได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วชายหนุ่มมีเวลาเหลือเฟือมากมาย ไม่อย่างนั้นเขาจะมีเวลาไปอยู่กับแม่นั่นทุกวันได้ยังไงกันล่ะ
เมื่อก่อนนี้เธอเป็นฝ่ายปรับตัวให้เข้ากับเขา เธอจึงไม่เคยเข้าไปวุ่นวายเรื่องต่างๆ ของเขาเลย แต่นังหลินเช่อ นังจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ นังผู้หญิงแพศยานั่นน่ะสิ หล่อนคงจะหาทางเกาะติดเขาไม่ห่างจนทั้งคู่ดูจะอยู่ด้วยกันตลอดเวลา
เพราะเหตุนี้เอง โม่ฮุ่ยหลิงจึงอยากคอยเฝ้าตามติดกู้จิ้งเจ๋อบ้าง
“จิ้งเจ๋อคะ ที่ฉันเป็นแบบนี้ก็เพราะฉันกลัวว่าจะเสียคุณไปนะคะ…”
“ฮุ่ยหลิง ทำไมเธอถึงไม่ลืมตาดูให้ชัดๆ สักทีนะ…เราไม่ได้เป็นคนรักกันอีกต่อไปแล้ว เราเป็นแค่เพื่อนกัน เธอคือคนที่ฉันห่วงใยเท่านั้น เธอ…เธอจะมาคอยตามติดฉันตลอดเวลาแบบนี้ไม่ได้”
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองอย่างตกตะลึง “แต่ฉันบอกแล้วไงคะ ว่าฉันจะรอคุณ! ฉันจะรอจนกว่าคุณจะหย่ากับเขา แล้วเราจะได้เริ่มต้นกันใหม่อีกครั้ง!”
“ฉันไม่สามารถบังคับเธอให้เป็นฝ่ายรอฉันได้ ฉันพูดในสิ่งที่ฉันจำเป็นต้องพูด แต่ถ้าเธอจะเลือกที่จะทำแบบนี้ด้วยตัวเธอเองละก็ งั้นฉันก็คงไม่สามารถพูดอะไรได้อีกแล้ว …” เขามองหน้าเธอ “ฉันไม่สามารถทรยศการแต่งงานของฉันได้ เพราะฉะนั้นฉันคงไม่สามารถใกล้ชิดเธอได้ ฮุ่ยหลิง ย้ายออกไปซะเถอะ อย่าทำแบบนี้อีกเลยนะ!”
“ฉะ…ฉัน” น้ำตาไหลลงอาบแก้มเมื่อเธอมองหน้าเขา “ไม่ ฉันไม่ไปไหนทั้งนั้น จิ้งเจ๋อ คุณจะมาบังคับให้ฉันย้ายออกไปไม่ได้หรอกนะคะ ทำไมคะ ฉันจะซื้อบ้านหลังนั้นด้วยเงินของฉันเองไม่ได้หรือไง สภาพแวดล้อมที่นี่ก็ออกจะดี แถมทำเลก็งามเสียด้วย ฉันจ่ายเงินซื้อไปตั้งสองสามล้าน ทำไมฉันจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ล่ะ”
กู้จิ้งเจ๋อมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเฉยชา “ถ้าเธอยืนยันว่าจะทำอย่างนั้นก็ตามใจ”
โม่ฮุ่ยหลิงนั่งตัวตรงแน่ว เธอตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ยอมย้ายไปไหน ต่อให้ต้องตายก็ตามที
เธออยากจะวนเวียนอยู่รอบๆ แบบนี้นี่แหละ เพื่อที่จะได้คอยจับตาดูเขา เพราะถึงเธอจะรู้ว่าระหว่างเขากับหลินเช่อนั้นจะไม่ได้มีอะไรกัน แต่นังผู้หญิงแพศยาแบบนั้นก็อาจซุกซ่อนแผนการล่อลวงกู้จิ้งเจ๋อให้ตกหลุมขึ้นมาก็ได้
เมื่อรถแล่นมาถึงบริษัท ทั้งสองก็แยกทางกัน
กู้จิ้งเจ๋อมองหญิงสาวที่เดินแยกตัวไปก่อนจะหันไปพูดกับผู้ช่วยที่ยืนอยู่ไม่ห่างนักว่า “สถานการณ์ที่วิลล่าของโม่ฮุ่ยหลิงเป็นยังไง นายรู้ใช่มั้ย”
“รู้ครับท่าน”
“ฉันไม่คิดว่าหล่อนจะยอมย้ายออกไปด้วยความเต็มใจแน่ ไปหาทางทำให้เธอยอมย้ายให้ได้”
“ครับ…”
กู้จิ้งเจ๋อไม่อยากจะพูดกับหล่อนให้แตกหักชัดเจนไปยิ่งกว่านี้ เพราะโม่ฮุ่ยหลิงกำลังอยู่ในช่วงเปราะบาง และเขาเองก็อยากจะช่วยรักษาหน้าเธอด้วย ผู้หญิงที่ไม่เคยต้องผิดหวังกับอะไรเลยอย่างโม่ฮุ่ยหลิงอาจจะทำใจรับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้
แต่ถึงอย่างนั้น หล่อนก็ยังคงทำเป็นไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดอยู่นั่นเอง และนั่นทำให้ชายหนุ่มไม่มีทางเลือกอื่นอีกนอกจากบอกกับหล่อนตรงๆ
เมื่อมาถึงห้องทำงาน เขานั่งครุ่นคิดอยู่เป็นครู่ก่อนจะตัดสินใจโทรหาหลินเช่อ
หญิงสาวรับโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว เธอเองก็เพิ่งจะมาถึงบริษัทด้วยเหมือนกัน แต่สุ้มเสียงของเธอฟังดูไม่ค่อยดีนัก
“ทำไมถึงไปเร็วนักละคะ ฉันนึกว่าคุณมีเรื่องอยากคุยกับคุณหนูโม่ก่อนเสียอีก”
“หลินเช่อ เขาจะย้ายออกไปเร็วๆ นี้แล้วล่ะ ฉันจะไม่ยอมให้เขาต้องมาคอยขัดจังหวะเราตลอดเวลาแบบนี้อีกต่อไปแล้ว”
หลินเช่อชะงักก่อนเอ่ยถามว่า “แล้วทำไมเธอถึงจะต้องย้ายไปด้วยละคะ มีเธออยู่ใกล้ๆ แบบนี้ไม่ดีหรอกเหรอคะ”
กู้จิ้งเจ๋อถาม “เธอคิดว่ามันดีแล้วจริงๆ เหรอ”
“แน่นอนสิคะ! มันก็จะได้สะดวกสำหรับคุณทั้งสองคนไม่ใช่เหรอคะ” หลินเช่อถามพลางเป่าเล็บมือที่เพิ่งทาใหม่ๆ
ชายหนุ่มสูดลมหายใจยาว “แต่มันไม่สะดวกสำหรับเรานี่”
“อะไรนะคะ” เธอคิดว่าตัวเองหูฝาดไป
แต่กู้จิ้งเจ๋อยังคงพูดต่อไปว่า “ฉันจะไม่ทรยศการแต่งงานของเราหรอกนะ เพราะฉะนั้น…ฉันจะไม่ปล่อยให้ความสัมพันธ์ของฉันกับเขาในอดีตดำเนินต่อไปอีกแล้ว เขาจะต้องย้ายออกไปโดยเร็วที่สุด”
เมื่อพูดจบ เขาก็วางสาย
หลินเช่อตะลึงงันทั้งที่ยังไม่ทันเข้าใจดีว่าเขาหมายความว่าอย่างไร เธอยืนถือโทรศัพท์อยู่อย่างนั้น ก่อนจะระบายลมหายใจยาวออกมาอย่างโล่งอก แต่แล้วเธอก็ยกมือขึ้นเคาะหัวตัวเอง อย่าเข้าใจผิดไปสิ หลินเช่อ เขาแค่หมายความว่าเขาจะไม่ทรยศการแต่งงานครั้งนี้ต่างหาก เขาเป็นคนซื่อตรง และไม่อยากจะอยู่ร่วมกับคนไม่ซื่อสัตย์ก็เท่านั้น มันไม่ได้มีความหมายอื่นหรอก
เธอเดินเข้าบริษัท และทันใดนั้นอวี๋หมินหมิ่นก็รีบตรงดิ่งเข้ามาหา พูดว่า “มาทันเวลาพอดี รถของทีมงานจอดรออยู่แล้วละ วันนี้เธอต้องไปร่วมรายการเรียลลิตี้โชว์นะ เตรียมตัวมาพร้อมหรือยัง”
หลินเช่อยิ้มให้ผู้จัดการสาว “อืม พร้อมแล้วค่ะ”
อวี๋หมินหมิ่นย้ำว่า “อย่าตื่นเต้นจนเกินไปล่ะ แค่เป็นตัวของตัวเองก็พอ”
“อ้อ ได้ค่ะ ว่าแต่ใครเป็นแขกรับเชิญสัปดาห์นี้คะ”
หลินเช่อจำคำพูดของกู้จิ้งอวี่เมื่อวันก่อนได้ดี
ผู้จัดการของเธอตอบว่า “ฉันคิดว่าน่าจะเป็นพวกเพื่อนเก่าของเธอนั่นแหละ เห็นเขาว่าพวกนั้นก็รู้จักเธอดีอยู่”
“หา? จริงเหรอคะ ใครกันน่ะ ฉันไม่ค่อยจะรู้จักใครเลยนะคะ”
“เดี๋ยวไปถึงก็รู้เองนั่นแหละ ทางรายการก็ไม่ได้แจ้งเราเหมือนกัน พวกเขาบอกแค่ว่าธีมของรายการเทปนี้คือดาราหญิงหน้าใหม่”