เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 127
หลินเช่อได้รับมอบดอกไม้สด เธอยกมันขึ้นดูอย่างขัดเขิน พนักงานรีบออกมาต้อนรับกู้จิ้งเจ๋อ พวกเขาสนทนากันด้วยภาษาที่หลินเช่อไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย แต่เมื่อได้ยินเขาพูดภาษาต่างประเทศได้อย่างน้ำไหลไฟดับเช่นนี้ เธอก็เริ่มรู้สึกชื่นชมชายหนุ่มขึ้นขึ้นมาทีละน้อย แม้ว่าเธอจะฟังไม่เข้าใจ แต่หลินเช่อก็คิดว่าเขาพูดได้ดีทีเดียว
เมื่อทุกคนขึ้นรถที่จะขับตรงไปยังรีสอร์ต หลินเช่อก็อดถามขึ้นไม่ได้ว่า “ตอนที่คุณกับพนักงานพวกนั้นคุยกันเมื่อกี้น่ะค่ะ พวกคุณพูดภาษาอะไรกันคะ ท่าทางคุณพูดได้คล่องมากทีเดียว”
กู้จิ้งเจ๋อตอบ “ฉันแค่อยากขอบคุณพวกเขาที่มาต้อนรับอะไรทำนองนั้นน่ะ ฉันพูดภาษาฝรั่งเศส ทำไมเหรอ”
“ทำไมคุณพูดฝรั่งเศสได้ละคะ”
“ฉันก็เรียนมาตอนที่อยู่ฝรั่งเศสน่ะสิ”
“แล้วคุณพูดอังกฤษได้รึเปล่า”
“แน่นอนสิ มันเป็นภาษาสากลนี่นา”
“แล้วคุณยังรู้ภาษาอื่นอีกรึเปล่าคะ” หลินเช่อถาม จ้องอีกฝ่ายด้วยสายตาสนอกสนใจเต็มที่
ส่วนชายหนุ่มก็จาระไนให้ฟังว่า” ก็มีอิตาเลียน ญี่ปุ่น รัสเซีย แล้วก็เยอรมัน พวกนี้ฉันพูดได้นิดหน่อยเท่านั้น ถ้าต้องพูดคุยกันเรื่องธุรกิจ ฉันก็ยังต้องใช้ล่ามมืออาชีพอยู่ดี”
“แล้วทำไมคุณถึงเรียนหลายภาษาจังละคะ คุณเอาเวลาที่ไหนไปเรียนน่ะ”
เขายกมือแตะแก้มเธออย่างขบขัน “ไอคิวระดับเธอก็คงไม่เข้าใจหรอก เพราะเธอใช้เวลาหมดไปกับการคิดเรื่องกิน ดูทีวี แล้วก็ทำโน่นทำนี่ แต่ฉันใช้มันกับการเรียน”
หลินเช่อทำปากยื่น “น่าเบื่อเป็นบ้า!”
เขาย้อน “ใข่ สำหรับคนไอคิวระดับเธอมันก็น่าเบื่อแหละ”
“ไปให้พ้นเลยนะ!”
แต่เขากลับหัวเราะออกมาเสียงดัง
หลินเช่อยังมีคำถามอีก “ว่าแต่ที่พวกเขาต้อนรับเสียใหญ่โตขนาดนี้เวลาที่ครอบครัวของคุณมาที่นี่ มันเป็นเพราะว่าพี่ชายของคุณเป็นประธานาธิบดีหรือเปล่าคะ”
เขาตอบว่า “เธอก็คิดแบบนี้น่ะสิ…ตอนที่พี่ชายไม่ได้เป็นประธานาธิบดี ตระกูลกู้เราก็ช่วยสนับสนุนทางด้านการเงินให้กับการเลือกตั้งประธานาธิบดีทุกครั้ง จะบอกว่าตระกูลเรามีอิทธิพลในเรื่องนี้ก็ได้ ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้พูดออกมาโต้งๆ ก็เถอะ แต่ทุกคนก็รู้กันดีเป็นการภายใน”
“ถ้างั้นก็หมายความว่าตระกูลกู้เป็น…คนกำหนดว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดีของประเทศ C อย่างนั้นสินะคะ”
“เห็นมั้ย เธอก็ไม่ได้โง่สักหน่อย ก็ยังเข้าใจได้นี่”
“ก็แน่สิคะ” หลินเช่อแหว “ฉันอาจจะดูโง่ แต่ที่จริงแล้วฉันหัวไวออกจะตาย”
กู้จิ้งเจ๋อหัวเราะพลางมองหน้าเธอและส่ายหัวอย่างระอาใจ
ไอคิวระดับนี้ยังจะกล้าเรียกตัวเองว่าฉลาดอีกเหรอเนี่ย
ไม่ช้า รถก็หยุดลงตรงด้านนอกของรีสอร์ต
รีสอร์ตนั้นใหญ่โตโอ่อ่า สามารถมองเห็นทะเลสีฟ้าและท้องฟ้าสีครามได้แต่ไกล วิลล่านั้นอยู่ติดทะเลชนิดที่สามารถมองเห็นทะเลได้ทันทีที่ก้าวออกจากที่พักเลยทีเดียว
มู่หว่านฉิงหันมองสองหนุ่มสาวแล้วก็ยิ้มออกมา ก่อนจะบอกว่า “พวกเธอพักกันหลังนี้ก็ได้นะจ๊ะ เดี๋ยวเราไปอยู่อีกหลังทางด้านหลังเอง ไม่มารบกวนพวกเธอสองคนหรอกจ้ะ”
หลินเช่อรีบบอก “คุณแม่ไม่ได้รบกวนเลยสักนิดค่ะ ฉันอยากอยู่ใกล้ๆ คุณแม่”
มู่หว่านฉิงตอบ “ไม่เป็นไรจ้ะ กู้จิ้งเจ๋อคงไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ อันที่จริงคราวนี้พวกเราไม่น่ามาด้วยเลยด้วยซ้ำ ในเมื่อพวกเธอจะมาพักผ่อนกัน พวกเธอน่าจะถือโอกาสฮันนีมูนกันซะนะจ๊ะ เพราะตั้งแต่แต่งงานกันมา พวกเธอก็ยังไม่ได้ไปฮันนีมูนเลย แถมยังไม่ได้จัดพิธีแต่งงานอีกต่างหาก ทั้งหมดนี่เพราะจิ้งเจ๋อนั่นแหละที่เอาแต่บอกว่างานยุ่งอยู่ตลอดเลย”
มู่หว่านฉิงหันไปทำตาเขียวใส่บุตรชาย
กู้จิ้งเจ๋อหันมามองโดยไม่อาจตอบโต้ได้ หลินเช่อรีบแทรกขึ้นว่า “ฮันนีมูนกับงานแต่งงานน่ะไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอกค่ะ ฉันเองก็งานยุ่งมากเหมือนกัน”
เธอกับเขาตกลงกันแล้วว่าจะไม่จัดงานแต่งสำหรับการแต่งงานจอมปลอมครั้งนี้เพื่อตัดปัญหาซะ
มู่หว่านฉิงหันมองทั้งสองคน “เอาเถอะน่า ถึงแม้ว่านี่จะเป็นงานรวมญาติ แต่พวกเธอก็สามารถอยู่กันตามลำพังได้จ้ะ เราไม่รบกวนหรอก”
“ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นหรอกค่ะ…” หลินเช่อเหลือบมองกู้จิ้งเจ๋อแล้วรีบพูดกับมู่หว่านฉิง
เธออยากให้กู้จิ้งเจ๋อเป็นคนพูดขึ้นบ้างว่าจะร่วมกิจกรรมต่างๆ กับครอบครัว ไม่ได้ต้องการจะอยู่กันตามลำพัง
แต่เขากลับยืนนิ่งเป็นท่อนไม้และไม่ยอมพูดอะไรสักคำเดียว
มู่หว่านฉิงรีบไล่ทั้งคู่ไป “เอาล่ะ รีบๆ เข้าห้องไปได้แล้วจ้ะ อย่ามาวุ่นวายกับเราเลย”
มู่หว่านฉิงปรายตามองไปทางลูกชายของตัวเองก่อนจะรีบไล่ทั้งสองไป
หลินเช่อไม่อาจห้ามแม่สามีของเธอได้ และทำได้เพียงมองเธอปลีกตัวเดินแยกออกไป เธอหันขวับมาหากู้จิ้งเจ๋ออย่างโกรธๆ แล้วถามว่า “แล้วนี่ทำไมคุณถึงไม่ยอมพูดอะไรเลยละคะ”
ชายหนุ่มตอบเพียงเรียบๆ ว่า “ดีแล้วล่ะ ฉันไม่ค่อยชอบไปวุ่นวายกับใครเหมือนกันเวลาออกมาข้างนอก พวกเขารู้นิสัยฉันดีอยู่แล้ว”
แต่หลินเช่อก็ยังคิดว่ามันไม่ถูกต้องอยู่ดีนั่นเอง “แต่ถึงยังไงนี่ก็เป็นงานรวมญาตินะคะ เราจะแยกตัวกันออกมาอยู่ตามลำพังแบบนี้คงไม่ดีเท่าไหร่”
เขายกแขนขึ้นโอบไหล่เธอ กู้จิ้งเจ๋อนั้นตัวสูงมากเสียจนถ้าหากว่าหลินเช่อย่อตัวลงเสียหน่อยละก็ เธอจะเข้าไปอยู่ใต้รักแร้ของเขาเลยทีเดียว ภาพที่เห็นทำให้ทั้งคู่ดูใกล้ชิดกันอย่างมาก
กู้จิ้งเจ๋อว่า “สบายใจเถอะน่า แม่ฉันไม่โกรธหรอก พวกเขาอยากให้เราอยู่ด้วยกันให้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ” เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้และพูดว่า “เราจะได้มีหลานอ้วนๆ ให้พวกเขาสักทีไงล่ะ”
“อีตาบ้า” หลินเช่อกระทุ้งเอวเขา
ชายหนุ่มหัวเราะเสียงดังสนั่น
หลินเช่อยังคงดิ้นรน “ปล่อยนะ นี่ไม่ต้องมากอดได้มั้ย”
“อย่าดิ้นสิ แม่ฉันยืนดูเราอยู่ข้างหลัง สามีภรรยาเขาก็ต้องทำแบบนี้กันไม่ใช่หรือไง แล้วเธอจะดิ้นหนีฉันทำไมล่ะ” เขายังคงโอบเธอไว้ท่าเดิมไม่ยอมปล่อย
หลินเช่อรู้สึกว่าอ้อมแขนเขานั้นร้อนผ่าวเสียเหลือเกิน อีกอย่างการยืนโอบกันแบบนี้มันจะไม่ดูใกล้ชิดกันเกินไปหรือไงนะ
แต่เมื่อได้ยินกู้จิ้งเจ๋อพูดแบบนั้น เธอก็หยุดดิ้น และปล่อยให้เขาโอบไว้อย่างนั้นจนกระทั่งเดินเข้าไปด้านในวิลล่า
ในช่วงบ่าย อากาศแจ่มใส ท้องฟ้าและน้ำทะเลเป็นสีฟ้ากระจ่างตา
แดดแผดแรง มีนักท่องเที่ยวกำลังเล่นกันอยู่ไกลๆ บนหาดทราย แต่ไม่ใช่ใครที่อยู่ในบริเวณใกล้กันกับพวกเขา เพราะทันทีที่ตระกูลกู้เดินทางมาถึง พื้นที่ชายหาดส่วนนี้ก็ถูกกั้นไม่ให้คนอื่นเข้ามาใกล้ได้
บนชายหาด มู่หว่านฉิงเห็นกู้จิ้งเจ๋อยืนอยู่ตามลำพัง เธอจึงคว้าตัวลูกชายมาถาม “นี่ลูกกับหลินเช่อเข้ากันได้ดีหรือยัง”
กู้จิ้งเจ๋อรู้อยู่แล้วว่าผู้เป็นมารดาจะต้องถามเรื่องนี้ “ก็ดีอยู่ครับ”
“ถ้าอย่างงั้นทำไมไม่ถือโอกาสนี้มีหลานให้แม่เสียเลยล่ะ”
กู้จิ้งเจ๋อบอก “แม่ครับ มันไม่ใช่ว่าอยู่ๆ แม่จะอยากมีหลานเมื่อไหร่ก็มีได้นะครับ เราจะค่อยๆ พยายามจัดการเรื่องนี้กันไป”
มู่หว่านฉิงว่า “ทำไมล่ะ แล้วนี่กำลังพยายามอยู่จริงๆ น่ะเหรอ ไม่ได้หลอกแม่ใช่หรือเปล่า”
ชายหนุ่มมองตรงไปข้างหน้า “แน่นอนว่าเรากำลังพยายามกันอยู่ครับ ถ้าแม่ยังไม่เชื่ออีก ผมก็ช่วยไม่ได้ จะให้แม่มาช่วยเป็นประจักษ์พยานเรื่องการทำลูกได้ยังไงล่ะ จริงไหมครับ”
“เด็กบ้า ชอบทำตัวต่อต้านแม่แบบนี้อยู่เรื่อง แม่ไม่เชื่อที่เราบอกหรอก แต่ก็ควรจะรีบๆ มีลูกกันเสียทีนะ พอมาถึงรุ่นของพวกลูกแล้วเนี่ย ดูเหมือนจะไม่มีใครพยายามมีหลานให้แม่กันเลย ดูอย่างแม่กับพ่อของลูกสิ ตอนอายุเท่านี้เราก็มีลูกกันตั้งกี่คนแล้ว แต่ดูเหมือนลูกสามคนจะไม่มีใครสนใจเรื่องนี้กันเอาเสียเลย”
กู้จิ้งเจ๋อถอนหายใจ “ก็ได้ ก็ได้ครับ แม่ ไม่ต้องเซ้าซี้อีกแล้วเถอะนะครับ ได้โปรด ผมจะรีบกลับไปจัดการเรื่องนี้ตลอดทั้งสามวันสามคืนเลย ดีมั้ยครับ”
มู่หว่านฉิงว่า “ถ้าได้ก็ดี”
แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียงใครบางคนร้องขึ้นทางด้านหลัง
เมื่อหมุนตัวไปดู เขาก็ได้เห็นหลินเช่อที่กำลังก้าวออกมาจากวิลล่าในชุดว่ายน้ำ
ผิวขาวใสของเธออยู่ในชุดบิกินี่สีมะกอก มีสายเล็กๆ พาดพันอยู่รอบเรือนร่าง หน้าท้องแบนราบและอกอิ่มเต็ม เธอดูมีเสน่ห์เย้ายวนเป็นที่สุด แต่ก็สวยสดใสและน่ารักน่าใคร่ไปพร้อมกันด้วย
มันคือชุดบิกินี่ที่เขาเลือกวันนั้น