เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 138
“กู้จิ้งเจ๋อ นี่คุณเกลียดอะไรฉันคะเนี่ย ยิ่งถ่าย ฉันยิ่งดูน่าเกลียด…” หลินเช่อคว้าโทรศัพท์คืนไปและมองหน้าตายของอีกฝ่าย “กู้จิ้งเจ๋อ ในที่สุดฉันก็ได้รู้แล้วว่าคุณเองก็มีเรื่องที่ไม่เก่งเหมือนกันนะเนี่ย”
ชายหนุ่มนึกตกใจ “นี่เธอว่าอะไรนะ”
หลินเช่อบอก “ก็ไม่เห็นเหรอคะว่าคุณถ่ายอะไรมา คุณกู้คะ ดูแล้วคุณท่าจะไม่มีทักษะการถ่ายรูปเลยสักนิด เฮ้อ แต่ฉันก็เห็นใจหรอกนะคะ ใครจะสมบูรณ์แบบไปหมดได้ล่ะจริงมั้ย”
หลินเช่อยังคงว่าต่อไปอีก “สงสัยฉันต้องถ่ายเองซะแล้วสิ…”
ขณะที่พูดเธอก็ขยับตัวเปลี่ยนท่านั่งและถ่ายเซลฟี่โชว์ให้ชายหนุ่มดูเป็นขวัญตา “เห็นมั้ยคะ เนี่ยเขาเรียกว่าเซลฟี่ แล้วดูที่คุณถ่ายนี่สิ…”
กู้จิ้งเจ๋อมองรูปที่เธอถ่ายแล้วมองหน้าหลินเช่อ “นี่มันไม่ดูดีเกินจริงไปหน่อยเรอะ นั่นเธอจริงๆ เหรอ”
หลินเช่อร้อง “ตราบใดที่มันสวยก็พอน่า!”
ชายหนุ่มไม่เข้าใจเอาเลย
หลินเช่อไม่ยอมง่ายๆ “ทำไมคะ นี่คุณคิดว่าฉันจะยอมโพสต์รูปน่าเกลียดๆ เหรอ แบบนั้นมันดีตรงไหนกัน แน่นอนว่าฉันก็ต้องอยากให้แฟนๆ ได้เห็นรูปสวยๆ สิคะ นี่ฉันทำเพื่อพวกเขานะ”
“…” กู้จิ้งเจ๋อที่ไม่รู้จะโต้แย้งอย่างไรได้แต่ส่ายหน้า
หลินเช่อกระหน่ำต่อ “คุณนี่ไม่เข้าใจอะไรเล้ย!”
“ฉันเองก็ไม่อยากเข้าใจเหมือนกันนั่นแหละ”
หลินเช่อหัวเราะแล้วมองหน้าเขา เธอดึงเขาเข้ามาใกล้แล้วบอกว่า “มาเถอะค่ะ มาลองถ่ายรูปด้วยบิวตี้ฟิลเตอร์กันดีกว่า ลองแล้วคุณจะรู้เอง”
“ฉันไม่อยาก…”
“ฉันไม่ยอมให้ปฏิเสธหรอกนะคะ…”
หลินเช่อดึงเขามาแล้วยกคางตัวเองไปทางเขาเล็กน้อย เพื่อให้ทั้งสองคนสามารถอยู่ในกรอบภาพได้พอดี
แล้วเธอก็นับ “หนึ่ง สอง สาม ชีสสส”
‘แชะ!’ แล้วภาพของเธอและเขาก็ถูกล็อกเอาไว้บนหน้าจอโทรศัพท์
หลังจากใส่ฟิลเตอร์เรียบร้อย เธอก็หันให้กู้จิ้งเจ๋อดู “เห็นมั้ยละคะ ดูดีออกจะตาย”
กู้จิ้งเจ๋อเลิกคิ้ว “ถ้าคนจะดูดี ถ่ายรูปแบบไหนก็ดูดีทั้งนั้นนั่นแหละ”
หลินเช่อยังไม่ยอมแพ้ “ว้าว เห็นมั้ยคะเนี่ย ริ้วรอยบนผิวคุณหายเกลี้ยงหมดเลย ดูท่าทางผิวจะดูนุ่มขึ้นด้วยนะ”
“หลินเช่อ!” นี่เธอพูดเรื่องอายุเขาอีกแล้วนะ!
เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้าบูด เธอก็หัวเราะออกมาเสียงดัง “ทำไมคุณถึงชอบเป็นแบบนี้ละคะ คุณต้องมีทัศนคติที่ดีกับอายุของตัวเองสิ”
“…”
หลินเช่อขยับเข้ามาหา “เอาล่ะๆ อย่าโกรธไปเลยนะคะ ฉันแค่จะบอกว่า…หน้าคุณน่ะดูเด็กกว่าคนอายุเท่ากันอีก!”
“…” นี่จะไม่ยอมเลิกพูดเรื่องอายุกันใช่มั้ย
“ฉันพูดจริงนะคะ”
“พอที ไม่ต้องพูดอีกแล้วนะ เธอจะทำฉันบ้าตาย”
กู้จิ้งเจ๋อไม่คิดเลยว่าการเถียงกับหลินเช่อจะทำให้เขาเป็นประสาทแบบนี้ได้ เธอทำได้ยังไงนะด้วยไอคิวต่ำเตี้ยขนาดนั้นน่ะ
แต่เมื่อได้เห็นภาพคู่ที่ถ่ายออกมา เขาก็อดคิดไม่ได้ว่าเธอและเขาก็ดูสมกันอยู่ไม่น้อยทีเดียว
“ส่งมาให้ฉันหน่อยสิ” เขาบอก
“อา คุณอยากได้เหรอคะ จะเอาไปทำอะไรละคะ” เธอถาม
กู้จิ้งเจ๋อตอบว่า “ฉันไม่มีรูปเธอเลยนี่นา ถ้าเธอเกิดหายตัวไปวันไหน ฉันจะได้ใช้รูปนี่ทำโปสเตอร์ประกาศคนหายไงล่ะ”
“…”
หลินเช่อพูดไม่ออก แต่ก็ยอมส่งรูปให้โดยดี
เขารับรูปมา มองดูอีกครั้ง ก่อนจะเซฟเก็บไว้ในโทรศัพท์
การประมูลการกุศลกำลังจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า หลินเช่อโพสต์รูปของตัวเองลงในเวยป๋อและหันมาสนใจการประมูลกับกู้จิ้งเจ๋อ
การประมูลเริ่มต้นที่สิบล้าน ทำเอาหลินเช่อตกตะลึงอย่างมาก
เมื่อผ่านไปได้สักพัก เขาก็หันมาถามเธอว่า “มีอะไรที่เธออยากได้หรือเปล่า”
“…” หลินเช่อยังอึ้งอยู่ “ฉันไม่มีเงินซื้อหรอกค่ะ”
กู้จิ้งเจ๋อยิ้มแล้วบอกว่า “ถ้าเธอจะพูดแบบนี้กับทุกอย่าง ฉันคงจะมีความสุขมากกว่านี้อีก”
“…” หลินเช่อว่า “นี่ฉันยังประหยัดไม่พออีกเหรอคะ เห็นหรือเปล่าว่าฉันเจียมเนื้อเจียมตัวขนาดไหนน่ะ”
ชายหนุ่มกลอกตา เขาเองก็ไม่แน่ใจนัก
แต่ดูเหมือนว่าเธอจะเกรงอกเกรงใจเขาน้อยลงทุกทีและเริ่มเคยชินกับการมีเขาเสียแล้ว
หลินเช่อนั่งดูการประมูลอยู่นานก่อนจะขอตัวลุกมาเข้าห้องน้ำ
ด้านนอกห้องจัดเลี้ยงนั้นตกแต่งอย่างหรูหรา เป็นครั้งแรกที่หลินเช่อได้มีโอกาสร่วมงานสังคมชั้นสูงแบบนี้ เธอจึงอดใจที่จะชะเง้อชะแง้ดูโน่นนี่ไม่ได้ รู้สึกว่าอะไรๆ ก็ช่างน่ามองไปเสียหมด
เมื่อเดินเข้าห้องน้ำ เธอก็ได้พบว่าในนั้นงามหรูทีเดียวจนอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา นี่เป็นสถานที่ไฮคลาสชัดๆ
เธอล้างมือแล้วสำรวจเครื่องสำอางบนหน้าให้เป็นที่เรียบร้อย เมื่อเดินออกมา เธอก็ได้ยินเสียงหนึ่งร้องเรียกขึ้น “หลินเช่อเหรอ”
เป็นโม่ฮุ่ยหลิงนั่นเอง
เธอหันมาพบกับโม่ฮุ่ยหลิงในชุดสีชมพูพาสเทลที่กำลังเดินฉับๆ มาบนรองเท้าส้นสูง จมูกเชิดขึ้นไปในอากาศจนรูจมูกแทบจะแหงนขึ้นฟ้า หล่อนเอียงคอ ขยับยิ้มที่มุมปากเล็กน้อยเมื่อมองดูหลินเช่อ “ว่าไงล่ะ เพิ่งเคยมาที่นี่ครั้งแรกล่ะสิ”
หลินเช่อหุบยิ้ม มองดูอีกฝ่ายและตอบรับไปว่า “ใช่ ฉันเพิ่งเคยมาครั้งแรก”
เธอตอบออกไปตามตรงและไม่คิดว่ามีอะไรที่ต้องอาย
ทุกคนรู้ดีว่านี่เป็นครั้งแรกของเธอที่มาที่นี่ จะต้องโกหกไปทำไมกันล่ะ
โม่ฮุ่ยหลิงยิ้ม “จริงสินะ จิ้งเจ๋อน่าจะพาเธอออกงานให้มากกว่านี้นะ ไม่อย่างงั้นถ้าเธอไปร่วมงานรวมญาติของตระกูลกู้ด้วยท่าทีแบบนี้ พวกเขาคงจะตกใจกันแย่ ถึงแม้ว่างานเลี้ยงนี่จะไม่ได้หรูหราเท่างานเลี้ยงตระกูลกู้ แต่ก็ยังเป็นงานกาล่าประจำปีที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเรา”
หลินเช่อจับได้ถึงสุ้มเสียงล้อเลียนปนดูถูก จึงได้แต่เพียงยิ้มให้เรียบๆ ว่า “ขอบคุณที่อุตส่าห์บอกนะคะ คุณหนูโม่”
“แน่นอนว่าเธอคงไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวอะไร อ้อ จริงสิ ฉันเห็นเธอโพสต์รูปงานเลี้ยงนี่ลงในเวยป๋อแล้วไม่ใช่เหรอจ๊ะ”
โม่ฮุ่ยหลิงเห็นรูปของเธอและโกรธจัดเสียจนต้องลุกขึ้นออกมาเดินหาตัวหลินเช่อ
นังผู้หญิงคนนี้ทำเป็นถ่ายรูปการมางานเลี้ยงที่นี่เป็นครั้งแรกของตัวเอง ถึงแม้ว่าในรูปจะมีแค่ตัวหล่อนก็ตามทีเถอะ แต่มันก็เหมือนหล่อนกำลังพยายามทำท่าว่าเป็นสาวสังคมชั้นสูง นี่เป็นเรื่องที่โม่ฮุ่ยหลิงขยะแขยงที่สุด
เก้าอี้ข้างบนนั่นควรจะเป็นของเธอต่างหากล่ะ!
ทุกอย่างที่นังหลินเช่อได้ไป มันควรจะเป็นของเธอ!
หลินเช่อขมวดคิ้วแล้วมองหน้าโม่ฮุ่ยหลิง “มีอะไรเหรอคะ”
ใบหน้าของอีกฝ่ายเคร่งเครียดอย่างมาก เธอวางท่ายิ่งใหญ่สูงส่งและพร้อมจะพ่นคำตำหนิต่อว่าราวกับเป็นครูใหญ่
“หลินเช่อ ที่เธออยากดังและทำเป็นโชว์ออฟนั่นมันก็ไม่ผิดหรอกนะ แต่เธอต้องรู้ด้วยสิว่าจิ้งเจ๋อพยายามทำตัวโลว์โปรไฟล์มาโดยตลอด เขาไม่ชอบโอ้อวดอะไรให้ใครเห็น เธอช่วยจำข้อนี้เอาไว้หน่อยได้มั้ยจ๊ะ ต่อให้เธออยากอวดใจจะขาดแค่ไหน เธอก็ควรจะคิดถึงเขาด้วยสิ! เขาจะเอาหน้าไปไว้ไหนถ้าเธอขืนทำตัวแบบนี้น่ะ!”
หลินเช่ออึ้งไป “คุณหมายความว่ายังไงคะ”
กู้จิ้งเจ๋อเองก็อยู่ด้วยตอนที่เธอโพสต์รูปลงในเวยป๋อ เธอเองก็ไม่เห็นเขาจะว่าอะไรสักนิด แล้วโม่ฮุ่ยหลิงจะมาเตือนอะไรเธอล่ะ
โม่ฮุ่ยหลิงยังไม่ยอมหยุด “นี่ฉันต้องพูดกับเธอให้ชัดกว่านี้อีกมั้ย หลินเช่อ เธอควรรู้สถานะตัวเองนะจ๊ะ เธอไม่คู่ควรกับจิ้งเจ๋อ เพราะฉะนั้นเธออาจไม่รู้ว่าพวกคนที่อยู่ในสังคมชั้นสูงแบบนี้เขาใช้ชีวิตกันยังไง ถ้าไม่รู้ ก็มาถามฉันได้นะ เห็นแก่จิ้งเจ๋อ ฉันยินดีจะอธิบายถึงนิสัยแล้วก็การใช้ชีวิตของเขาให้ฟังก็ได้ แต่เธอก็ช่วยเลิกทำตัวไม่มีหัวคิดแบบนี้ทีเถอะนะ”