เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 140
บางทีอาจเป็นเพราะเธอเป็นแบบนี้มาโดยตลอด ไม่เคยทำอะไรที่เป็นการเสแสร้ง ทุกอย่างจึงดูเป็นธรรมชาติ
เขารู้ดีว่าสิ่งที่เธอเรียกว่าเป็นการแสดงหรือแกล้งทำนั้น แท้จริงแล้วไม่ใช่การแสดงเลยแม้แต่น้อย เขารู้ว่าเธอมีหัวใจที่บริสุทธิ์และทำอะไรซื่อๆ ตามแบบของเธอ แถมเธอยังไม่ได้เป็นพวกวัตถุนิยมด้วย
กู้จิ้งเจ๋อจึงไม่ได้นึกรังเกียจอะไรเรื่องนี้ แถมยังชอบที่จะได้เห็นเธอเล่นสนุกไปกับเรื่องต่างๆ
เขาพูดขึ้นว่า “เรื่องทั้งหมดที่ว่ามานี่ไม่ได้มีอะไรสำคัญหรอก”
เธอมองหน้าเขา “แต่ถ้ามันสำคัญจริงๆ ละก็ คุณต้องบอกฉันนะคะ ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวอะไรเท่าไหร่นัก ฉันไม่รู้ว่าคนอย่างพวกคุณทำอะไรได้หรือไม่ได้บ้าง”
บางครั้งหลินเช่อก็โทษตัวเอง เธอรู้สึกว่าเธอเป็นภรรยาของกู้จิ้งเจ๋อก็จริง แต่เขากลับกลายเป็นคนที่ต้องมาคอยช่วยเหลือดูแลเธอ ส่วนเธอกลับไม่ค่อยได้ทำตัวให้เป็นประโยชน์กับเขาสักเท่าไหร่
หนำซ้ำยังคอยสร้างแต่ปัญหาให้อีกต่างหาก
เพราะเธอไม่รู้ว่าเธอจะช่วยเขาได้ยังไงด้วยนั่นแหละ เธอเองก็ไม่เคยมีครอบครัวคอยช่วยเหลือดูแล ไม่มีอำนาจใดๆ แถมยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับธุรกิจเลยสักอย่าง นับตั้งแต่เข้าโรงเรียนการแสดง เธอก็ตั้งเป้าที่จะเป็นนักแสดงที่ดีให้ได้ เธอชอบที่จะได้ดูการแสดงของโจดี้ ฟอสเตอร์ ในไซเลนต์ ออฟ เดอะ แลมป์ ซึ่งโจดี้คว้าออสการ์ได้ถึงสองรางวัลและกลายเป็นขวัญใจของเธอมานับตั้งแต่นั้น นอกจากจะเป็นนักแสดงที่ดีแล้ว เธอยังอยากเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักด้วย
ทั้งหมดนี้ช่างแตกต่างอย่างมากจากชีวิตของกู้จิ้งเจ๋อ
หลินเช่อเอียงหน้ามองเขา “ขอโทษด้วยนะคะกู้จิ้งเจ๋อ ฉันไม่ค่อยได้ช่วยอะไรคุณเลย แถมยังสร้างแต่ปัญหาให้คุณอีกต่างหาก แต่ฉันไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้เอาเลยจริงๆ ถ้าคุณอยากให้ฉันทำอะไรละก็ คุณต้องบอกฉันนะคะ”
เธอไม่อยากเป็นตัวถ่วงเขา
กู้จิ้งเจ๋อเห็นสีหน้าลุแก่โทษของหญิงสาวแล้วก็พูดว่า “ฉันไม่ได้อยากให้เธอทำอะไรสักนิด หลินเช่อ แล้วฉันก็ไม่ได้อยากให้เธอทำตัวเป็นเจ้าหญิงผู้สูงส่งหรือทำตัวเป็นเมียเศรษฐีด้วย นี่คือชีวิตของฉันและมันก็เป็นชีวิตของเธอเหมือนกัน ตราบใดที่เธอรู้สึกสบายใจ นั่นก็นับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดแล้ว ฉันไม่ได้อยากให้เธอเปลี่ยนอะไรเพื่อฉัน”
“แต่ฉันไม่อยากสร้างปัญหาให้คุณ ฉันไม่อยากทำตัวเป็นภาระของคุณด้วย” หลินเช่อว่า
กู้จิ้งเจ๋อยิ้มน้อยๆ “ผู้ชายก็ต้องมีหน้าที่ดูแลและหาเลี้ยงผู้หญิงสิ อย่ากังวลไปเลย ปัญหาของเธอไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสักนิดสำหรับฉัน ต่อให้เธอก่อเรื่องมากกว่านี้ ฉันก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรอยู่ดี ตระกูลกู้น่ะทำงานหนักมานานหลายปีกว่าที่จะมาอยู่ที่จุดบนสุดแบบนี้ได้ ถ้าฉันพ่ายแพ้กับอะไรง่ายๆ ทั้งหมดที่ทำมาก็เท่ากับสูญเปล่าน่ะสิ ถ้าฉันทำไม่ได้กระทั่งแค่เรื่องดูแลผู้หญิงของตัวเอง แล้วฉันจะมีเงินมีอำนาจมากมายไว้ทำไมล่ะ”
หลินเช่อมองหน้าเขา ซาบซึ้งยิ่งนักในคำพูดที่เต็มไปด้วยความเอื้อเฟื้อและปลอบประโลมของชายหนุ่ม
กู้จิ้งเจ๋อจับแขนเธอไว้ “ฉันไม่ได้อยากยืนอยู่บนจุดสูงสุดแล้วต้องทนดูผู้หญิงของฉันต้องเสียสละเพื่อฉันหรอกนะ เพราะฉะนั้นเธอทำอะไรก็ได้ที่เธออยากทำ ไม่จำเป็นต้องสนใจด้วยว่าใครจะคิดยังไง”
หลินเช่อพูดอะไรไม่ออก
เขาดึงแขนเธอ “ไปกันเถอะ ไปดูซิว่ามีอะไรที่เธอพอจะชอบบ้าง ฉันไม่ได้อยากกลับบ้านมือเปล่า เราต้องช่วยสนับสนุนงานการกุศลครั้งนี้กันสักหน่อยแล้ว”
เมื่อได้ยินแบบนั้น หลินเช่อก็ชักจะหูผึ่ง “งั้นแปลว่าอะไรที่ฉันอยากได้ก็จะเป็นของฉันงั้นเหรอคะ”
“แน่นอน ก็เป้าหมายของการพาคู่ควงมาร่วมงานวันนี้ก็คือเพื่อซื้อของขวัญให้เธอนี่”
“แหม ดีจังเลย ฮิๆ งั้นฉันจะเอาชิ้นที่แพงๆ เลยค่ะ”
“ก็ได้ เห็นมั้ยล่ะ แค่แป๊บเดียวเธอก็กลับมาเป็นคนหน้าเงินเหมือนเดิมแล้ว”
“ก็แหงละสิคะ คุณมีเงินมากไปจนใช้ไม่หมด ฉันก็ต้องช่วยน่ะสิ”
“ก็ได้ๆ ถ้าเธออยากใช้ก็ตามใจ”
ถึงแม้จะพูดออกไปแบบนั้นแต่หลินเช่อก็ไม่กล้าพอที่จะเลือกของแพงอยู่ดีนั่นเอง
เมื่อได้เห็นสร้อยข้อมือที่ราคาไม่สูงนักเส้นหนึ่ง เธอก็ครุ่นคิดอยู่เป็นนานสองนาน ก่อนจะตัดสินใจร่วมประมูลด้วย
ในขณะเดียวกัน
เมื่อโม่ฮุ่ยหลิงได้ยินเสียงกู้จิ้งเจ๋อร่วมประมูลของชิ้นหนึ่ง เธอก็แหงนหน้าขึ้นไปมองที่บนระเบียง
บนนั้นเป็นห้องวีไอพีที่จะสามารถมองเห็นทุกอย่างข้างล่างได้ แต่คนอื่นกลับไม่สามารถมองเห็นพวกเขาบนนั้นได้เลย
ในเมื่อกู้จิ้งเจ๋อมาร่วมงานคืนนี้ ก็แน่นอนว่าเขาจะต้องเลือกที่นั่นบนนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกใครรบกวน
เมื่อได้ยินเสียงเขาร่วมประมูล คนอื่นๆ ก็พากันยอมแพ้ ทำให้ชายหนุ่มได้ของที่ต้องการไปครอบครองโดยง่าย
โม่ฮุ่ยหลิงได้ยินผู้คนพูดกันว่า
“คืนนี้กู้จิ้งเจ๋อพาคู่ควงสาวมาด้วย ดูเหมือนว่าเขาจะซื้อของพวกนี้ให้หล่อนกระมัง”
“ฉันคิดว่าคนที่เขาพามาเป็นนักแสดงนะ เธอชื่อหลินเช่อ”
“ตอนนี้กู้จิ้งเจ๋อเริ่มเก่งเรื่องนี้แล้วละสินะ”
คนภายนอกไม่รู้เรื่องความเป็นไปใดๆ ในตระกูลกู้ พวกเขาไม่รู้ถึงอาการป่วยของกู้จิ้งเจ๋อ และรู้เพียงแต่ว่าเขาต้องการความเป็นส่วนตัวอย่างมาก แถมเขาเองไม่ค่อยจะมีข่าวเรื่องผู้หญิง จึงไม่เคยมีใครซุบซิบเรื่องพวกนี้เกี่ยวกับเขามาก่อน
แต่พอมาคืนนี้เขาพาคู่ควงมาด้วย ผู้คนจึงเริ่มอยากรู้อยากเห็นกันขึ้นมาเสียถนัด
ใครบางคนที่อยู่ใกล้ๆ พูดขึ้นอีกว่า “แม่หลินเช่อคนนี้ก็หน้าตาไม่เลวนะ กู้จิ้งเจ๋อรสนิยมดีจริงๆ”
โม่ฮุ่ยหลิงไม่อาจทนได้อีกต่อไป จึงพูดขัดเสียงดังว่า “หมายความว่ายังไงที่ว่าหน้าตาไม่เลวน่ะ ฉันว่าหน้าตาหล่อนออกจะพื้นๆ ธรรมดาๆ แล้วก็เป็นแค่นักแสดงเท่านั้น เรื่องการแสดงของหล่อนก็ห่วยแตกออกจะตาย”
คนกลุ่มนั้นหันมามองเธอ ก่อนที่ใครบางคนจะค้านขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “คุณหนูโม่ คุณจะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูกนะคะ การแสดงของเธอไม่เลวเลยทีเดียว ฉันทำงานในวงการบันเทิง ฉันรู้ดีค่ะว่าเธอได้รับคำชมไม่น้อยทีเดียว”
โม่ฮุ่ยหลิงทนฟังอะไรที่เป็นเรื่องดีๆ เกี่ยวกับหลินเช่อไม่ได้แม้แต่เรื่องเดียว ในที่สุดเธอก็ไม่อาจควบคุมตัวเองได้และจ้องมองผู้คนเหล่านั้นด้วยความเกลียดชัง ก่อนที่จะลุกขึ้นและเดินหนีไป
นังหลินเช่อน่ะเหรอหน้าตาดี
ใครก็ตามที่ได้ใส่เสื้อผ้าแพงๆ ก็ดูดีกันได้ทั้งนั้นนั่นแหละ เป็นเพราะกู้จิ้งเจ๋อรวยน่ะสิ นังนั่นถึงได้มีเสื้อผ้าดีๆ ใส่
ตอนที่เจอหลินเช่อแรกๆ สภาพหล่อนโกโรโกโสอย่างที่เธอคาดหวังเอาไว้ว่าจะเป็นเช่นนั้น
แต่ตอนนี้ในหัวโม่ฮุ่ยหลิงมีแต่ความคิดที่จะช่วงชิงทุกอย่างที่ควรจะเป็นของเธอคืนมา และเมื่อถึงเวลา เธอจะเขี่ยนังหลินเช่อให้กระเด็นไปไกลแสนไกลและต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างแสนทรมาน!
เมื่องานเลี้ยงสิ้นสุดลง กู้จิ้งเจ๋อก็ออกจากงานมาพร้อมหลินเช่อ
หญิงสาวหันกลับมามองห้องจัดงานเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะบอกกับชายหนุ่มว่า “ที่นี่ใหญ่มากเลยนะคะ อา ใครจะรู้ว่าฉันจะมีโอกาสได้มาอีกเมื่อไหร่”
กู้จิ้งเจ๋อตอบ “ฉันพาเธอมาได้ทุกเมื่อที่เธอต้องการ”
“ช่างเถอะค่ะ คุณงานยุ่งออก เอาไว้มีโอกาสเราค่อยมากันอีกครั้งก็ได้ ฉันก็พูดสนุกๆ ไปอย่างงั้นเองค่ะ”
เขาตอบว่า “ฉันได้ยินมาว่าเตียงที่นี่นุ่มสุดยอดไปเลย เขานำเข้ามาจากฝรั่งเศส อยากลองนอนมั้ยล่ะ”
“ไปให้พ้นเลยนะ!”
ทั้งสองกลับมาถึงบ้าน หลังจากที่ต้องสวมรองเท้าส้นสูงมาตลอดทั้งคืน หลินเช่อก็รู้สึกเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก เธอรีบอาบน้ำและตรงเข้านอน
ส่วนกู้จิ้งเจ๋อนั้นได้รับสายจากโม่ฮุ่ยหลิง
เขารับสาย “ฮุ่ยหลิง”
โม่ฮุ่ยหลิงถาม [ถึงบ้านแล้วเหรอคะ]
“อืม ฉันอยู่บ้านแล้ว”
[ฉันประมูลเข็มกลัดเนกไทมาน่ะค่ะ สำหรับคุณโดยเฉพาะเลย] เธอบอก
กู้จิ้งเจ๋อตอบ “ฉันไม่คิดว่ามันจะเหมาะหรอกนะที่จะให้ฉันน่ะ เอาไปให้พ่อเธอน่าจะดีกว่า”
โม่ฮุ่ยหลิงถามด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยว่า [ทำไมละคะ ตอนนี้คุณไม่ยอมแม้แต่จะรับของขวัญจากฉันแล้วด้วยซ้ำงั้นเหรอ ฉันไม่ได้มีเจตนาอื่นเลยนะคะ ฉันแค่อยากจะให้ของขวัญคุณในฐานะเพื่อ มันก็เป็นแค่ของขวัญเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้แพงอะไรเลย]
แม้โม่ฮุ่ยหลิงจะบอกว่าไม่ได้แพงอะไร แต่เข็มกลัดชิ้นนั้นก็มีราคาถึงสองล้าน