เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 165
คุณครูมองดูหลินเช่อพลางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งกว่าจะจำเธอได้ เขาไม่ได้เจอเธอมาร่วมสิบปีแล้ว ทำให้เกือบจำเธอไม่ได้เลยทีเดียว
ตอนนี้เขานึกถึงหลินเช่อในวัยเด็กออกแล้ว ตอนนั้นหลินเช่อและหลินลี่ต่างก็เป็นเด็กในชั้นเรียนของเขา
แต่มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่าทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน เขามักช่วยหลินลี่รังแกหลินเช่ออยู่เสมอ สาเหตุก็เนื่องมาจากว่าหลินเช่อไม่ใช่คนเรียนเก่ง หนำซ้ำยังเป็นเพียงลูกนอกสมรสของตระกูลหลินอีกด้วย เขาจึงไม่ชอบใจเด็กคนนี้เป็นการส่วนตัว ก็ครูคนไหนล่ะที่จะไม่ชอบเด็กที่มาจากครอบครัวดี ประวัติดี มีผลการเรียนเลิศบ้าง นักเรียนอย่างหลินเช่อนั้นไม่เคยมีพ่อแม่มาร่วมการประชุมผู้ปกครองเลยสักครั้ง แถมผลการเรียนยังรั้งท้ายอยู่เสมอจนกระทั่งเรียนจบ
แต่กระนั้นเขาก็ไม่คาดคิดเลยว่าสิบปีต่อมา หลินเช่อจะกลายเป็นดาราดังแบบนี้ได้
ความจริงที่ว่าเธอมีคุณสมบัติพอที่จะเข้าเรียนในโรงเรียนสอนการแสดงนั่นก็น่าทึ่งมากแล้ว
และตอนนี้เขากำลังนึกเสียใจที่เคยปฏิบัติกับหลินเช่อไม่สู้ดีนักในอดีต โดยเฉพาะเมื่อเห็นได้ชัดเจนแล้วว่าชีวิตคนเรานั้นสามารถผกผันขึ้นลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ เด็กหญิงที่มีแต่จะโดนรุมรังแกอยู่ตลอด บัดนี้กลับมายืนอยู่เคียงข้างบุตรชายคนที่สองของตระกูลกู้ ตระกูลที่ทรงอำนาจที่สุดในประเทศ C
หลินเช่อมองหน้าครูหูอย่างไม่ใส่ใจนัก เธอไม่ค่อยชอบเขาเท่าไหร่ ความรู้สึกที่เธอมีต่อเขาก็คือนิสัยเย่อหยิ่งยโสและท่าทีที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ชอบหน้าเธอ ซึ่งในตอนนนั้นมันทำให้เด็กหญิงเยาว์วัยอย่างเธอทวีความรู้สึกต่ำต้อยด้อยค่ามาโดยตลอด
แต่บัดนี้เขากลับกำลังมองดูเธออย่างนอบน้อม ใบหน้าเต็มไปด้วยแววประจบสอพลอซึ่งทำให้หลินเช่อรู้สึกว่าเขาเป็นคนสองบุคลิก
เธอมองหน้าครูประจำชั้นแล้วเอ่ยทักด้วยน้ำเสียงสุภาพว่า “ยินดีที่ได้เจอค่ะคุณครู”
“เอ้อ อ่า ดี ดี” ครูหูรับคำตะกุกตะกัก
แต่กู้จิ้งเจ๋อดึงแขนข้างหนึ่งของหลินเช่อไว้ หันไปมองครูหูแล้วพูดว่า “ครูหู ผมได้ยินหลินเช่อพูดถึงครูอยู่บ่อยๆ เรื่องที่ว่าเธอได้รับการ ‘ดูแลเป็นพิเศษ’ จากคุณครู”
ครูหูตัวสั่นขึ้นมาฉับพลัน เขาเห็นมุมปากของกู้จิ้งเจ๋อกระตุกขึ้น แม้จะเพียงเล็กน้อย แต่รอยยิ้มนั่นก็ส่งให้ครูหูเย็นวาบไปทั่วตัว
หลังจากนิ่งคิดไปเป็นครู่ เขาก็รีบหันไปพูดกับหลินเช่อว่า “ตอนนั้นฉันรู้ยังไงล่ะว่าอนาคตเธอจะต้องไปได้ไกลมากแน่ เพราะอย่างนี้ฉันก็เลยเข้มงวดกับเธอเป็นพิเศษ ฉันหวังว่าเธอจะสามารถสร้างอะไรให้ตัวเองได้ แล้วก็ดูสิว่าฉันคิดไม่ผิดเลย ตอนนั้นพี่สาวของเธอก็อยู่ในชั้นเรียนเดียวกันด้วย แล้วดูสิว่า ตอนนี้เขาสู้เธอได้ที่ไหน นี่แหละผลของความอุตสาหพยายามของเธอ ตอนนี้เธอมีชื่อเสียงกว่าพี่สาวแล้ว แถมยังมีความสามารถมากกว่าด้วย เห็นได้ชัดว่าเธอไม่ทำให้ฉันผิดหวังเลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา ฉัน…”
หลินลี่พยายามจะเดินเข้ามาหาคนทั้งสาม แต่เมื่อเธอได้ยินสิ่งที่ครูหูพูดถึงเธอลับหลัง หญิงสาวก็โกรธจัดอกแทบระเบิด
ตอนเป็นนักเรียนนั้น เธอปรนเปรอคุณครูประจำชั้นด้วยของขวัญสารพัด เพื่อให้เขาหาทางลงโทษหลินเช่อให้ได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด
แต่พอมาตอนนี้ เขากลับกล้าพูดว่าเธอสู้หลินเช่อไม่ได้งั้นรึ
ถึงแม้ว่าระยะนี้หลินเช่อจะมีผลงานออกทางหน้าจอโทรทัศน์ค่อนข้างบ่อยก็เถอะ…
แต่วงการบันเทิงน่ะเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้หรอกนะ โอกาสของเธออาจจะยังมาไม่ถึง หรือใครจะรู้ว่าพรุ่งนี้เธออาจจะหายไปจากวงการเลยก็ได้
หลินเช่อมองหน้าครูหูแล้วก็อดนึกอย่างกระอักกระอ่วนไม่ได้ว่าความพยายามของเธอคงไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับความชิงชังที่เขามีให้เธอเมื่อครั้งยังเป็นนักเรียนอย่างแน่นอน
ด้วยเหตุนี้เธอจึงพยายามเรียนหนักเมื่อที่จะสอบเข้าโรงเรียนการแสดงให้ได้ ผลการเรียนของเธอที่นั่นเป็นผลมาจากการทุ่มเทอย่างหนักจริงๆ เพื่อที่จะทำให้ผู้คนที่ดูถูกเธอได้เห็นว่าเธอไม่ได้เป็นคนไร้ค่า
ด้วยเหตุนี้หลินเช่อจึงไม่อยากจะเอ่ยปากขอบคุณสำหรับ ‘การสนับสนุน’ ที่เขามอบให้
ครูหูรู้สึกกระอักกระอ่วนขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเมื่อรู้สึกได้ว่ากู้จิ้งเจ๋อเอาแต่จ้องหน้าเขาไม่เลิก เขาจึงเลี่ยงด้วยการก้มหน้าลง และได้เห็นบางอย่างบนรองเท้าของหลินเช่อ เขาร้องขึ้นว่า “ไอ้หยา ดูสิ ทำไมรองเท้าเธอถึงได้เปื้อนไปหมดแบบนี้ล่ะ เดี๋ยวฉันช่วยเช็ดให้นะ”
กู้จิ้งเจ๋อตวัดสายตาไปหาบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ไม่ห่าง
แล้วพวกเขาก็เคลื่อนตัวมาข้างหน้าโดยปราศจากเสียง
ทันใดนั้นครูหูก็รู้สึกว่าตัวเองสูญเสียการทรงตัว โงนเงนล้มลงมาทางทิศที่หลินเช่อยืนอยู่
หลินเช่อตกใจ เธอรู้สึกได้ถึงมือใหญ่ที่เอื้อมมาคว้าเธอเอาไว้จากทางด้านหลังและดึงร่างเธอให้ถอยหนีออกไปอย่างรวดเร็ว หลินเช่อรู้ดีว่าเป็นมือของกู้จิ้งเจ๋อ เธอจึงไม่รู้สึกตกใจอะไร
แต่ครูหูนั้นโชคไม่ดีเท่าไหร่
เขาเกือบจะล้มลง ร้อนถึงผู้อำนวยการและคณะกรรมการของโรงเรียนต้องช่วยพยุงกันอย่างทุลักทุเล
ครูหูรีบกุลีกุจอลุกขึ้น แต่กู้จิ้งเจ๋อกลับปรายตามองอย่างไม่แยแส เขาใช้มือข้างหนึ่งกันหลินเช่อเอาไว้ขณะพูดกับครูหูว่า “เกิดอะไรขึ้นหรือครับ”
“ผม…ผม…” ครูหูรีบละล่ำละลักขอโทษ พลางลนลานโค้งคำนับทั้งที่หน้าแดงก่ำ
กู้จิ้งเจ๋อเอ่ยว่า “ผมเพียงแต่มาร่วมงานสถาปนาโรงเรียนครั้งนี้ก็เพราะหลินเช่อ เพราะว่าผมอยากเห็นว่าชีวิตของหลินเช่อที่นี่สมัยเด็กๆ เป็นยังไงกัน แต่ไม่คิดเลยว่าพวกคุณจะทำให้เธอตกใจแบบนี้”
คณะกรรมการของโรงเรียนคนหนึ่งรีบผลักครูหูไปข้างหลังและพร่ำขอโทษขอโพยกับหลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อไม่ขาดปาก “ท่านประธานกู้ครับ ท่านประธานกู้ ครูหูไม่เจตนาน่ะครับ เป็นความผิดพลาด ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ เราไม่ได้ดูแลเขาให้ดีเท่าไหร่ ดูเขาสิครับ อายุตั้งสี่สิบเข้าไปแล้ว ร่างกายก็ไม่ค่อยจะแข็งแรงด้วย…”
“ฉันไม่สนใจว่าเขาจะแก่ จะพิการ หรือจะป่วย แต่เขาทำให้หลินเช่อตกใจ!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของคณะกรรมการโรงเรียนก็ซีดเผือดด้วยความตระหนก เขารีบหันไปสั่งการว่า “มาเอาตัวออกไปเดี๋ยวนี้”
และหันมาพูดกับกู้จิ้งเจ๋อว่า “เราจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด เด็ดขาดที่สุดเลยครับ เราจะสั่งการลงโทษเขาอย่างที่เขาสมควรได้รับ”
กู้จิ้งเจ๋อยกแขนขึ้นกันหลินเช่อเอาไว้เป็นครู่ใหญ่ ก่อนจะพยักหน้าอย่างเย็นชา
“ก็ได้ ในเมื่องานสถาปนาโรงเรียนเป็นวาระมงคล เราจะไม่เอาเรื่องก็แล้วกัน แต่ฉันแค่ไม่อยากจะเห็นหน้าคนแบบนี้อีกแล้วเท่านั้น”
“ครับๆ แน่นอนที่สุด แน่นอนที่สุดเลยทีเดียวครับ”
คณะกรรมการโรงเรียนรีบพูดลนลานพูดต่อ “ถ้ามองไปทางนั้น ก็จะเห็นหอประชุมของโรงเรียนเรา เมื่อก่อนนี้ หลินเช่อเองก็น่าจะเคยยืนดูการแสดงจากตรงนั้น นี่เป็นอาคารเก่าแก่ที่สุดของโรงเรียนเรา…”
หลังจากนั้นทุกคนก็พากันออกเดินเรียงแถวบ่ายหน้าไปยังทิศที่ตั้งของหอประชุม พลางเหลียวมองบรรยากาศโดยรอบ
ทางด้านหลัง มีคนเห็นครูหูถูกลากตัวออกไป ผู้ที่ได้เห็นเหตุการณ์จึงพากันซุบซิบกันอย่างอื้ออึงด้วยเข้าใจดีว่าเกิดอะไรขึ้น
“ครูหูสมควรโดนแล้วละ สมัยก่อนน่ะ เขาแอบรับเงินใต้โต๊ะตั้งมากมาย เป็นจอมฉ้อฉลแล้วก็ร้ายกาจที่สุด ไม่เข้าใจว่ามีคนยกย่องเขาเป็นครูดีเด่นได้ยังไงกัน”
“ที่สำคัญที่สุด เมื่อก่อนเขาเอาแค่คอยกลั่นแกล้งหลินเช่อน่าดูเลยเชียว”
“ตอนนี้หลินเช่อโชคดีขนาดหนัก ก็เลยพาผู้ชายของตัวเองกลับมาแก้แค้นน่ะสิ”
“นี่ทางโรงเรียนกลัวเขาขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย แค่ขมวดคิ้วทีเดียว อีตาครูหูก็ถูกลากออกไปทันทีเลย”
“ไม่เห็นต้องถามเลย เขาน่ะแค่โบกมือครั้งเดียว โรงเรียนก็ต้องปิดตัวไปเลยนะ”
“กู้จิ้งเจ๋อนี่อารมณ์ร้อนเหมือนกันนะ”
“ก็ที่อารมณ์ร้อนเพราะเขามีอำนาจที่จะทำเรื่องแบบนี้ได้น่ะสิ”
“จะว่าไป กู้จิ้งเจ๋อนี่ไม่ใช่คนที่ใครจะเข้าถึงได้ง่ายๆ เลยนะ ทำไมหลินเช่อถึงได้โชคดีขนาดนี้เนี่ย เธอเจอกับกู้จิ้งเจ๋อได้ยังไง สุดยอดแห่งความเฮงชะมัด”
ทุกคนพากันมองตามด้วยความริษยาเมื่อกู้จิ้งเจ๋อเดินออกไป สายตาที่มองตามและใบหน้านั้นล้วนเต็มไปด้วยความปรารถนาชื่นชม
ถึงแม้หลินเช่อจะเป็นคนหัวช้า แต่เมื่อหันไปมองกู้จิ้งเจ๋อ เธอก็เข้าใจได้แล้วว่าเจตนาของเขาที่มาร่วมงานครั้งนี้คืออะไร
เมื่อได้รับการนำชมโรงเรียนเป็นที่เพียงพอแล้ว กู้จิ้งเจ๋อก็บอกกับทุกคนว่า เขาต้องการเดินดูรอบๆ โรงเรียนกับหลินเช่อตามลำพัง
เมื่อทุกคนแยกตัวออกไป หลินเช่อก็เหลือบตามองชายหนุ่ม
กู้จิ้งเจ๋อพูดขึ้นว่า “สภาพของโรงเรียนก็ไม่เลวเลยทีเดียวนะ”
หลินเช่อหันมองตามและพยักหน้า “ใช่ค่ะ ถึงจะไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่ที่นี่ก็เป็นโรงเรียนเก่าแก่ ดูโน่นสิคะ ฉันชอบไปเล่นน้ำตรงนั้นอยู่บ่อยๆ ละค่ะ เฉินโยวหรานกับฉันจะไปทำการบ้านด้วยกันที่นั่น แล้วก็ค่อยกลับบ้านหลังจากทำเสร็จ แล้วก็ตรงโน้นด้วย เราเคยไปที่นั่นหลังจากเรียนคาบที่สองของทุกวันเพื่อออกกำลังกาย คุณอาจจะไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนละมั้ง เป็นการออกกำลังกายที่สนุกมากเลยละ”
กู้จิ้งเจ๋อหันมองขณะที่หลินเช่อคุยจ้อเสียงดัง ท่าทางมีความสุขเมื่อชี้ให้ดูตรงโน้นตรงนี้ พลางเล่าถึงความทรงจำที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้กู้จิ้งเจ๋อไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าทำไมหลินเช่อถึงได้เป็นคนที่ดูสบายอกสบายใจไร้กังวลเหลือเกิน แต่ตอนนี้เมื่อได้ลองคิดดูแล้ว บางทีอาจจะเป็นเพราะหญิงสาวเคยชินกับชีวิตแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน่าเศร้าแค่ไหน เธอก็จะยิ้มได้เสมอเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เหล่านั้น ยิ้มได้เมื่อเธอเล่าถึงมัน นี่วันเด็กของเธอต้องผ่านกับอะไรมาบ้างถึงได้กลายเป็นคนแบบนี้กันนะ…