เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 168
กู้จิ้งเจ๋อมองมือของตัวเองนิ่งนาน บอกตามตรงว่าเขาไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะตบหน้าโม่ฮุ่ยหลิงได้
เขาเพียงแต่รู้สึกโกรธจัดราวกับมีลูกไฟโหมไหม้แผดเผาอยู่ในใจ จนทำให้ร่างกายเขาพลอยโกรธเกรี้ยวไปด้วย
ด้วยเหตุนี้เขาจึงตบหน้าโม่ฮุ่ยหลิงไปโดยไม่ลังเล
โม่ฮุ่ยหลิงกัดริมฝีปาก ตวัดสายตามองมาที่เขา “กู้จิ้งเจ๋อ ฉันอยู่กับคุณมาก็ตั้งหลายปีนะคะ คุณกล้าดียังไงมาตบฉันเพราะผู้หญิงคนอื่นแบบนี้ เมื่อก่อนคุณทนเห็นฉันเจ็บแม้แต่นิดเดียวก็ไม่ได้ด้วยซ้ำ แค่ฉันโดนอะไรเข้านิดหน่อย คุณก็เจ็บแทนเสียแทบแย่ แล้วมาตอนนี้ คุณกลับตบฉัน…”
เมื่อโม่ฮุ่ยหลิงพูดจบ เธอก็ผลุนผลันเดินฝ่าคนทั้งสองออกไป กู้จิ้งเจ๋อยืนนิ่งไม่ไหวติง ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย ส่วนหลินเช่อเองก็ได้แต่รู้สึกกระอักกระอ่วน ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับสถานการณ์ตรงหน้าดี
เพราะถึงอย่างไรนี่ก็เป็นเรื่องระหว่างกู้จิ้งเจ๋อกับโม่ฮุ่ยหลิง แต่ทว่ามันก็เกิดขึ้นเพราะมีเธอเป็นต้นเหตุอยู่ดี
หญิงสาวหันมองกู้จิ้งเจ๋อก่อนค่อยๆ เดินเข้าไปหา เธอยกมือขึ้นลูบผมตัวเองอย่างทำใจลำบากและถามออกไปว่า “กู้จิ้งเจ๋อ คุณโอเครึเปล่าคะ ขอโทษด้วยนะคะ ฉัน…”
กู้จิ้งเจ๋อรู้สึกตัวทันทีที่ได้ยินเสียงของหลินเช่อ เขาก้มลงและรีบคว้ามือเธอขึ้นมาดู โชคดีที่ซุปนั่นไม่ได้ร้อนเท่าไหร่ มือของหลินเช่อจึงแค่เป็นรอยแดงเล็กน้อยเท่านั้น
“ไปทายาน้ำร้อนลวกเสียก่อนดีกว่านะ”
หลินเช่ออยากจะบอกว่าเธอไม่เป็นไรและไม่ได้รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย จะมีก็แต่เพียงความอับอายเท่านั้น
แต่เมื่อมองเห็นสีหน้าหม่นหมองของชายหนุ่มแล้ว เธอก็พูดอะไรไม่ออก
กู้จิ้งเจ๋อก้มหน้า จับมือเธอขึ้นมา และบรรจงทายาให้อย่างระมัดระวัง
“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ”
นั่นแหละหลินเช่อจึงนึกขึ้นได้ว่า เสื้อผ้าของเธอสกปรกเปรอะเปื้อนเพราะถูกซุป
เธอจึงพยักหน้าและเข้าห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า เมื่อกลับออกมา ก็ได้เห็นกู้จิ้งเจ๋อกำลังนั่งรับประทานอาหารค่ำต่ออยู่เงียบๆ
แต่บรรยากาศรื่นรมย์ในห้องอาหารดูจะดิ่งฮวบลงภายในช่วงเวลาอันสั้น จนทำให้หลินเช่อรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก
หลินเช่อเดินเข้ามาหาเขา เธอก้มหน้าลงและพูดกับเขาว่า “กู้จิ้งเจ๋อคะ ฉันขอโทษ…”
กู้จิ้งเจ๋อเงยหน้าขึ้นและตอบว่า “มันไม่เกี่ยวกับเธอหรอก”
“แต่ว่า…”
“ฉันเป็นคนที่รับมือกับสถานการณ์นี้ได้ไม่ดีเองนั่นแหละ ไม่ใช่ความผิดเธอหรอกนะ” ชายหนุ่มวางตะเกียบลง “อันที่จริงสิ่งที่ฮุ่ยหลิงทำก็ผิดอยู่ ไม่ว่าจะยังไงเธอก็ไม่ควรทำแบบนั้น แต่ฉันเองก็ไม่ควรจะตบเขาด้วยเหมือนกัน ฉันโกรธมากไปหน่อยน่ะ ปกติแล้วฉันไม่ใช่คนที่จะใช้กำลังกับใครแบบนี้เลย ฉันหุนหันไปหน่อย แล้วก็ไม่สามารถควบคุมตัวเองได้”
กู้จิ้งเจ๋อไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะกลายเป็นคนไร้เหตุผลและควบคุมตัวเองไม่ดึ้ถงขนาดนี้ แต่เมื่อเขาได้เห็นซุปในมือโม่ฮุ่ยหลิงสาดรดตัวหลินเช่อเข้าเมื่อกี้ เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง อะไรที่ทำให้เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แล้วมันก็เป็นการยากสำหรับเขาที่จะยอมรับเสียด้วย
เขาไม่เคยทำร้ายใครมาก่อน อย่าว่าแต่ตบตีผู้หญิงเลย แล้วก็อย่าว่าแต่โม่ฮุ่ยหลิงเลยด้วยซ้ำ แม้เขาจะไม่ใช่นักบุญ แต่ไม่ว่าเขาจะทำอะไร ก็ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะทำให้เขาต้องใช้กำลังกับคนอื่น
กู้จิ้งเจ๋อเงยหน้าขึ้น “ฉันต่างหากที่ควรจะเป็นฝ่ายขอโทษน่ะ เธอไม่เป็นไรใช่มั้ย”
หลินเช่อยกมือลูบเนื้อตัว “ไม่เป็นไรเลค่ะ”
ชายหนุ่มพยักหน้าและเดินขึ้นบันไดไป
เบียงที่ชั้นสามของบ้านนั้นกว้างขวางมาก ต้นไม้งามด้วยได้รับการตกแต่งดูแลเป็นอย่างดีโดยคนสวน
หลินเช่อเดินตามเขาขึ้นไป แล้วเธอก็ได้เห็นเขากำลังยืนอยู่ที่ระเบียงด้านนอกหลังราวลูกกรง
เธอรู้ว่าชายหนุ่มกำลังอารมณ์ไม่สู้ดีนัก และนั่นก็ยิ่งทำให้อารมณ์เธอพลอยดิ่งเหวตามไปด้วย หญิงสาวก็เดินเข้าไปเขา พลางพร่ำบอกตัวเองในใจว่า หากไม่ได้เป็นเพราะเธอแล้ว กู้จิ้งเจ๋อก็คงไม่ต้องมาทะเลาะทุ่มเถียงกับโม่ฮุ่ยหลิงแบบนี้
“กู้จิ้งเจ๋อคะ คุณ…” หลินเช่อเอ่ยปากทำลายความเงียบขึ้น “ขอฉันถามคำถามคณิตศาสตร์ง่ายๆ กับคุณหน่อยนะคะ”
เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มไม่ยอมหันหน้ามา หลินเช่อก็พูดต่อไปว่า “นี่เป็นโจทย์คณิตศาสตร์ระดับประถมนะคะ คำถามก็คือถ้าผู้ชายใช้เวลาอาบน้ำห้านาที และผู้หญิงใช้เวลาอาบน้ำครึ่งชั่วโมง แล้วพวกเขาจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่ถ้าต้องอาบน้ำด้วยกัน”
ไหล่ของกู้จิ้งเจ๋อเกร็งขึ้นทันที แต่เขายังคงไม่ยอมหันมา
หลินเช่อหัวเราะเสียงดังออกมา “เสี่ยวหมิงตอบว่า ‘ยัยโง่ ก็ต้องครึ่งชั่วโมงสิ ก็เวลาที่เขาใช้อาบน้ำมันเหลื่อมซ้อนกันอยู่’ แต่เสี่ยวหมิงบอกว่า ‘ยัยโง่ ระยะเวลาที่พวกเขาอาบน้ำก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าผู้ชายน่ะอึดแค่ไหนต่างหากล่ะ!”
กู้จิ้งเจ๋อขำพรวดออกมาโดยไม่ตั้งใจ เขาหันหน้ามาหาหลินเช่อ และเห็นเธอยืนยิ้มเผล่พร้อมใบหน้าแดงระเรื่อ
เมื่อเข้าใจความแฝงของเรื่องตลกที่เล่ามาแล้ว ชายหนุ่มก็อดคิดไม่ได้ว่าหลินเช่อนี่ช่างไร้เดียงสาเสียจริง
เขาดึงเธอเข้ามาหาในทันที “มาเถอะ มาตรงนี้”
หลินเช่อตัวแข็ง เมื่อรู้สึกได้ว่าเขาคว้าข้อมือเธอและดึงเข้าสู่อ้อมอก
ศีรษะของเธอวางซบบนไหล่เขา มือใหญ่ยกขึ้นโอบทาบแผ่นหลังเธออย่างนุ่มนวล เขาก้มหน้าลงมา หลับตา และสูดกลิ่นหอมที่เรือนผมของเธอ หลินเช่ออยากจะขยับหนี แต่กลับได้ยินเสียงเขากระซิบแผ่วเบาขึ้นว่า “อย่าขยับนะ ให้ฉันกอดเธอสักพักเถอะ”
หลินเช่อไม่กล้าขยับตัว ตัวเธอแข็งทื่อเมื่อถูกเขากอดตระกองเอาไว้แบบนั้น เธอยังรู้สึกได้ถึงมือใหญ่ที่โลมไล้อยู่บนแผ่นหลังอย่างเบามือ ไอร้อนจากฝ่ามือนั้นทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาโดยไม่ได้เจือด้วยความปรารถนายั่วเย้าแต่อย่างใด แต่อ้อมกอดนี้กลับทำให้เธอรู้สึกดีเหลือเกิน ราวกับว่าเวลาหยุดเดินและทำให้เธอไม่อยากแยกห่างจากเขา…
เมื่อกู้จิ้งเจ๋อสวมกอดหลินเช่อ เขารู้สึกราวกับได้รับยาขนานเอก เพียงไม่นานหัวใจของเขาก็เริ่มเยียวยาและกลับมาสงบลงอีกครั้ง เขาไม่รู้สึกหงุดหงิดขุ่นข้องใดๆ อีกต่อไปแล้ว แต่เขาก็ยังคงอยากกอดเธออยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ ราวกับว่าเขาปรารถนาที่จะได้สูดกลิ่นของเธอ กู้จิ้งเจ๋อก้มหน้าลงและสูดหายใจเข้าลึก ยิ่งสูดเข้าไปแต่ละครั้ง เขาก็ยิ่งเสพติดมัน และไม่อยากที่จะยอมปล่อยเธอไป
หลินเช่อรู้สึกได้ว่าชายหนุ่มกอดเธอนิ่งนาน จนเธอคิดว่าเขาคงจะกำลังอารมณ์ไม่ดีอย่างที่สุด เธอจึงถอนหายใจและเอ่ยด้วยน้ำเสียงปลอบประโลมว่า “ถ้าคุณเป็นห่วงเธอละก็ โทรไปหาเธอสิคะ แล้วถามเธอว่าเป็นยังไงบ้าง อันที่จริงคุณควรจะตามไปดูเธอตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ ปล่อยให้เธอผลุนผลันออกไปแบบนั้นมันออกจะอันตราย อีกอย่างตอนนี้เธอโกรธมาก แต่ผู้หญิงส่วนใหญ่ก็แค่อยากจะให้มีใครตามมางอนง้อเพื่อให้เรารู้สึกดีขึ้นกันทั้งนั้นแหละค่ะ ทั้งหมดนี่มันก็ขึ้นอยู่กับทัศนคติของคุณแล้วละนะคะ ผู้หญิงทุกคนต่างก็มีหัวใจที่อ่อนไหวด้วยกันทั้งนั้น”
กู้จิ้งเจ๋อคลายอ้อมกอดและก้มลงมองหลินเช่อด้วยสีหน้าจริงจัง
“นี่เธอให้คำแนะนำเรื่องความรักกับฉันงั้นเหรอ” ชายหนุ่มถามด้วยความพิศวง
“ก็ใช่น่ะสิคะ” เธอไม่อยากเห็นเขาอารมณ์เสีย
ชายหนุ่มตอบว่า “เธอนี่ซื่อบื้ออะไรอย่างนี้นะ”
เขาเคาะหน้าผากเธอเบาๆ “โง่จริง อันที่จริงฉันไม่ได้อารมณ์เสียเพราะทำให้โม่ฮุ่ยหลิงโกรธสักหน่อย”
“อะไรนะคะ” ก็ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ ถ้างั้นเขาโกรธเพราะเรื่องไหนล่ะ หลินเช่อมองเขาด้วยความงุนงง
เขาตอบว่า “ฉันหงุดหงิดก็เพราะฉันควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ฉันเป็นฝ่ายผิดในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ฉันควรที่จะควบคุมตัวเองได้ แต่ฉันก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน อันที่จริงมันเป็นเพราะสาเหตุนี้ต่างหาก…”
หลินเช่อยิ่งงงหนัก “หมายความว่ายังไงคะ เพราะสาเหตุนี้…”
ชายหนุ่มค่อยๆ เงยหน้าขึ้นช้าๆ ขณะมองดูเธอ เขาก็รู้ได้ว่าที่เขาไม่อาจควบคุมตัวเองได้ ก็เป็นเพราะหลินเช่อนี่แหละ
เขาโมโหจนขาดสติกับสิ่งที่โม่ฮุ่ยหลิงทำก็เพราะหลินเช่อ…
เขาคิดว่ามันออกจะเป็น เรื่องเหลือเชื่อ แต่เมื่อเขาจ้องมองใบหน้าเล็กๆ นั่นนิ่งนาน เขาก็เอ่ยขึ้นว่า “หลินเช่อ ฉันคิดว่า เพื่อเธอแล้ว ฉัน…”