เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 169
มารดาของโม่ฮุ่ยหลิงส่งเสียงกรีดร้องมาตามสายโทรศัพท์ [กู้จิ้งเจ๋อ ฮุ่ยหลิงของเราไปทำอะไรให้เธอ ทำไมเธอถึงกล้าทำแบบนี้กับฮุ่ยหลิงได้! ฮุ่ยหลิงรักเธอจากใจมาตั้งหลายปีทีเดียวนะ! ทำไมถึงกล้าดีมาทำแบบนี้กับเธอ ตอนนี้เธอคดีใจละสิ ที่ฮุ่ยหลิงฆ่าตัวตายน่ะ!]
กู้จิ้งเจ๋อตัวแข็งทื่อ
หลังจากวางโทรศัพท์ หลินเช่อก็มองเห็นได้ว่าท่าทางของชายหนุ่มดูไม่สู้ดีนัก จึงรีบถามขึ้นว่า “เกิดอะไรขึ้นหรือคะ”
ชายหนุ่มรีบเร่งลงบันไดมาอย่างร้อนใจขณะตอบว่า “ฮุ่ยหลิงกินยานอนหลับเข้าไปทั้งกำ ตอนนี้ยังไม่พ้นขีดอันตรายน่ะ”
“อะไรนะคะ” หลินเช่อมองอีกฝ่ายด้วยท่าทีตกใจเป็นที่สุด
“โม่ฮุ่ยหลิงฆ่าตัวตายงั้นหรือคะ” หลินเช่อไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
หล่อนฆ่าตัวตายเพียงเพราะโดนตบแค่นี้เองน่ะรึ
ทำไมถึงไม่เห็นความสำคัญของชีวิตเลยนะ
หลินเช่อรีบตามหลังเขาไป
กู้จิ้งเจ๋อร้องสั่งสาวใช้ คว้าเสื้อโค้ทและรองเท้ามาสวมอย่างรวดเร็ว “ตอนนี้เขาอยู่ที่โรงพยาบาล ฉันจะตามไปดูหน่อย”
“โอ้ โอเคค่ะ”
กู้จิ้งเจ๋อไม่พูดอะไรอีก และรีบเปิดประตูออกไปทันที
หลินเช่อได้แต่ยืนมองบานประตูที่ปิดลงอยู่ตรงนั้น ขณะคิดถึงโม่ฮุ่ยหลิง หญิงสาวก็ยืนตะลึงงันและตัวสั่นไปพร้อมกัน
นี่โม่ฮุ่ยหลิงรักกู้จิ้งเจ๋อมากถึงเพียงนี้เลยหรือนี่
คนเราจะต้องรักเขามากแค่ไหนถึงจะกล้าฆ่าตัวตายเพียงเพราะถูกเขาตบแบบนี้นะ
ดูเหมือนว่าคืนนี้กู้จิ้งเจ๋อคงจะไม่ได้กลับบ้าน หลินเช่อคิด
ที่โรงพยาบาล เมื่อกู้จิ้งเจ๋อมาถึงก็ได้พบกับสมาชิกของตระกูลโม่ที่นั่นกันอย่างพร้อมหน้า
เมื่อเฉินหันอิ๋น มารดาของโม่ฮุ่ยหลิงหันมาเห็นชายหนุ่มเข้า เธอก็ตรงเข้ามาเล่นงานเขาในทันที “เธอมันคนไร้หัวใจ ดูสิว่าฮุ่ยหลิงต้องทำร้ายตัวเองเพราะว่าเธอขนาดนี้ ผู้หญิงอย่างฮุ่ยหลิงจะหาผู้ชายจากไหนก็ได้ แต่เขาก็เลือกที่จะอยู่กับเธอ ตอนนี้ฮุ่ยหลิงอยากตายขึ้นมา ถ้าฮุ่ยหลิงตายไปจริงๆ ละก็ ฉันจะสู้สุดชีวิต ไม่ว่าจะหมดเงินหมดทองมากแค่ไหนก็เถอะ”
แต่ถึงกระนั้น โม่ไคฮุ่ย บิดาของโม่ฮุ่ยหลิงกลับพยายามห้ามภรรยาที่กำลังโกรธจัด
เมื่อมีคนเข้ามาใกล้กู้จิ้งเจ๋อ บรรดาบอดี้การ์ดที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีทางด้านหลังก็เริ่มที่จะขยับตัวเตรียมปกป้องเต็มที่ โม่ไคฮุ่ยถอนหายใจและหันไปมองชายหนุ่ม เขาตำหนิกู้จิ้งเจ๋อว่า “ตอนที่เธอกับโม่ฮุ่ยหลิงคบกัน พวกเราก็ไม่อยากให้พวกเธอแต่งงานกันนักหรอก แต่ฮุ่ยหลิงชอบเธอมาก เหลือเพียงอย่างเดียวที่ฮุ่ยหลิงยังไม่ได้ทำก็คือควักหัวใจออกมายื่นให้เธอนั่นแหละ แต่เป็นเพราะอาการป่วยของเธอ เราก็เลยไม่อยากให้ฮุ่ยหลิงต้องมากลายเป็นสาวทึนทึกไปตลอดชีวิต แต่เขาก็ไม่สนอยู่ดีนั่นเอง เขาต่อต้านครอบครัวก็เพื่อเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น จนถึงอายุขนาดนี้ บรรดาพี่น้องของเขาก็แต่งงานกันไปนานมากแล้ว ฮุ่ยหลิงก็ยังเลือกที่จะยังอยู่ข้างเธอ แต่ว่า…”
สีหน้ากู้จิ้งเจ๋อสลดลง เขารอจนกระทั่งทุกคนพูดจบ จึงเอ่ยถามขึ้นว่า “ฮุ่ยหลิงเป็นยังไงบ้างครับ”
เมื่อหมอเห็นว่ากู้จิ้งเจ๋อถามเขา จึงรีบตอบโดยเร็วว่า “คุณโม่กินยานอนหลับเข้าไปหลายเม็ด ถึงแม้ว่าเราจะล้างท้องและใช้วิธีต่างๆ แล้ว การที่เธอจะฟื้นขึ้นมาหรือไม่ก็…ขึ้นอยู่กับแรงใจของเธอที่เหลือนับจากนี้นั่นแหละครับ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น มารดาของโม่ฮุ่ยหลิงก็เริ่มโศกเศร้าขึ้นมาอีกรอบ เฝ้าแต่พร่ำพูดว่า “ฮุ่ยหลิง ฮุ่ยหลิง ทำไมถึงต้องทุ่มเทให้ผู้ชายใจร้ายแถมยังไร้ศีลธรรมขนาดนี้ด้วยนะ ลูกคิดว่าเขาจะสนใจเหรอถ้าลูกตายไปน่ะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นละก็ เราไม่ยอมปล่อยเขาไปแน่ จะสู้ให้ยิบตาเลยทีเดียว ตระกูลกู้จะยิ่งใหญ่สักแค่ไหนกันเชียวต่อให้ตาย ฉันก็จะขอฝังเขาด้วยมือฉันเอง…”
เมื่อโม่ไคฮุ่ยได้ยินภรรยาพร่ำเพ้อคร่ำครวญเช่นนั้น ก็อยากจะปิดปากอีกฝ่ายเป็นกำลัง
ภรรยาของเขาเอาแต่พูดในสิ่งที่อยากพูดโดยไม่คิดถึงความเป็นจริงเลย ตระกูลโม่จะเอาอะไรไปสู้รบปรบมือกับตระกูลกู้ได้ล่ะ ถ้าจะต้องสู้กันจนตายไปข้างหนึ่ง ก็คงเป็นพวกเขานี่แหละที่จะต้องตาย ไม่มีทางอยู่แล้วที่ตระกูลกู้จะเป็นอะไรไปได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาหันหน้ามามอง กู้จิ้งเจ๋อก็มีท่าทีร้อนใจอยู่เช่นกัน โม่ไคฮุ่ยจึงคิดว่า กู้จิ้งเจ๋อนั้นน่าจะพอมีใจให้ลูกสาวเขาอยู่บ้าง เมื่อคิดดังนั้นโม่ไคฮุ่ยจึงถอนหายใจยาวออกมา
กู้จิ้งเจ๋อได้แต่มองเข้าไปข้างในห้องด้วยแววตาห่วงใย โดยไม่ได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว
ข้างนอก
หลินเช่ออยู่กับเฉินโยวหราน
เฉินโยวหรานพูดอย่างเซ็งในอารมณ์ว่า “ผู้หญิงคนนี้ใจเด็ดเป็นบ้า หล่อนถึงกับอยากฆ่าตัวตายเลยเชียวหรือนี่” หลินเช่อว่า “ใช่ บางทีเขาอาจจะรักกู้จิ้งเจ๋อมากก็ได้นะ”
หลินเช่อเองก็ไม่อยากจะพูดอะไรมากนัก เธอมาที่นี่เพียงเพราะว่าทนอยู่บ้านคนเดียวไม่ได้เท่านั้น
“ว่าแต่ว่า แล้วเรื่องงานที่บริษัทของกู้จิ้งเจ๋อล่ะ”
เฉินโยวหรานตอบ “บริษัทชื่อดังก็สมเป็นบริษัทชื่อดังนั่นแหละ ทุกอย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว ก็มีหลายคนไม่ชอบใจอยู่เหมือนกันที่อยู่ๆ ฉันก็โผล่เข้ามาได้งานที่นั่นเลย…แต่ฉันไม่กล้าบอกหรอกนะว่าฉันไม่ได้อยู่ๆ ก็ได้งานที่นั่นด้วยตัวเอง แต่เพราะการแนะนำของซีอีโอน่ะ”
หลินเช่อเหลือบมองโดยไม่พูดอะไร แต่แล้วเธอก็เห็นใครบางคนเดินเข้ามาจากด้านนอก
“ทำไมเธอถึงได้อวดขนาดนี้ ทั้งที่เธอไม่ได้งานนี้จากความสามารถของตัวเองนะ เฉินโยวหราน เธอนี่ตลกเป็นบ้า”
คนที่เดินเข้ามาก็คือเฉินอวี่เฉิงนั่นเอง
หลินเช่อมองนายแพทย์ด้วยความแปลกใจ “ทำไมคุณถึงมาที่นี่ได้ล่ะคะ”
เธอเอียงคอถามและมองหน้าเฉินอวี่เฉิง ก่อนที่จะหันไปมองเฉินโยวหราน เริ่มรู้สึกได้ถึงความไม่ปกติบางอย่าง
หลินเช่อรู้สึกว่าสองคนนี้เริ่มที่จะสนิทสนมคุ้นเคยกันมากกว่าปกติ
เฉินโยวหรานตอบ “พอทีเถอะ ไม่ต้องพูดหรอก ฉันคิดว่าเขาน่าจะสะกดรอยตามฉันมา ตอนที่ไปถึงบริษัท ฉันได้รับคำสั่งให้ช่วยหาข้อมูลให้ออฟฟิศของเขา”
เฉินอวี่เฉิงเลิกคิ้ว ตวัดสายตามองอีกฝ่ายและพูดว่า “กู้อินดัสทรี่กำลังช่วยเรารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่เรากำลังทำการศึกษาวิจัยน่ะ ไม่อย่างนั้นแล้วเราจะหาเงินทุนและทรัพยากรจากทั่วโลกมาได้ยังไงกันล่ะ”
เฉินโยวหรานถลึงตาใส่นายแพทย์หนุ่ม
หลินเช่อว่า “ถ้าเป็นแบบนี้ ก็เท่ากับว่าตอนนี้คุณหมอเฉินเป็นหัวหน้าเธอน่ะสิ”
เฉินโยวหรานพยักหน้า “ก็คงงั้นแหละ”
เฉินอวี่เฉิงว่า “ฉันทำแบบนี้ก็เพื่อประโยชน์ของเธอนะ ไม่อย่างนั้นฉันเกรงว่า ด้วยระดับสติปัญญาอย่างเธอคงจะทำงานที่กู้ อินดัสทรีไม่ไหวแน่ ที่ออฟฟิศฉัน ต่อให้เธองุ่มง่ามอยู่สักหน่อย ก็ยังพอจะไหวอยู่ ฉันไม่ถือสาหรอก เพราะถึงยังไงเธอก็เป็นเพื่อนของคุณนายกู้นี่นะ”
“โถ ฉันเนี่ยนะต้องพึ่งคุณ ถามจริงๆ เถอะ ฉันเอาตัวรอดด้วยตัวเองได้สบายหรอกย่ะ ไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือจากคุณเลยซักนิด”
“พูดให้มันจริงเถอะ”
ขณะที่มองสองคนโต้เถียงกันไปมา หลินเช่อก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ หญิงสาวยกเครื่องดื่มขึ้นจิบและพูดว่า “ทำไมพวกคุณสองคนไม่ไปหาที่เงียบๆ ทะเลาะกันล่ะคะ หรือไม่งั้นฉันจะหลบไปเอง พวกคุณจะได้อยู่เถียงกันต่อ”
“อย่าทำแบบนั้นนะ” เฉินโยวหรานว่า “ว่าแต่ว่า ดูเหมือนบรรดาพนักงานที่บริษัทจะยังไม่รู้ว่ากู้จิ้งเจ๋อแต่งงานแล้วนี่นา”
หลินเช่อพยักหน้า “ใช่ เราแต่งกันแบบลับๆ น่ะ ว่าแต่เธอก็รู้ใช่ไหมว่าเราสองคนไม่ได้…”
เฉินโยวหรานรีบใช้เท้ากระทุ้งเพื่อนเพื่อเตือนว่ามีคนอื่นอยู่ด้วย
เฉินอวี่เฉิงจึงรีบบอกว่า “นี่ ผมอยู่กับกู้จิ้งเจ๋อมาสิบกว่าปีแล้ว พวกคุณคิดว่าเขามีความลับอะไรที่ผมไม่รู้ด้วยงั้นรึ”
เมื่อลองคิดแบบนั้น เฉินโยวหรานก็ยอมเชื่อในสิ่งที่นายแพทย์หนุ่มพูด เธอจึงถามต่อว่า “ถ้างั้นบอกฉันหน่อยสิว่า ยัยโม่ฮุ่ยหลิงนั่นมันยังไงกัน ทำไมหล่อนถึงได้ฆ่าตัวตายแค่เพราะทะเลาะกันธรรมดาๆ แบบนั้นล่ะ”
“เรื่องนี้…”
“ทำไมเราถึงกลับมาพูดเรื่องนี้กันอีกล่ะ ฉันก็บอกไปแล้วไง ว่าบางทีอาจเป็นเพราะเขารักกู้จิ้งเจ๋อมากก็ได้น่ะ”
เฉินโยวหรานเถียงว่า “ไม่จริงหรอก ฉันบอกได้เลยว่าแม่นั่นเป็นลูกคนรวย หล่อนไม่เคยต้องเผชิญกับปัญหาอะไรทั้งนั้น เพราะฉะนั้นหล่อนถึงรู้สึกว่าการถูกตบเป็นเรื่องใหญ่เสียเต็มประดา แต่ถ้ามันเกิดขึ้นกับผู้หญิงอย่างเราละก็ สบายมากเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นใช่ไหมล่ะ ลองดูเธอเป็นตัวอย่างสิ หลินเช่อ มีอะไรที่เธอยังไม่เคยเจออีกบ้าง เธอเองก็น่าจะเคยโดนตบมาแล้วครั้งหรือสองครั้งใช่ไหมล่ะ เธอก็ยังมีชีวิตอยู่ดีนี่”
เฉินอวี่เฉิงมองดูหญิงสาวทั้งสองตรงหน้า เมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาก็เริ่มคิดว่ามันเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นทีเดียว
นี่เขากำลังหลงเชื่อสิ่งที่ยัยผู้หญิงคนนี้พูดล้างสมองเขางั้นหรือนี่
แบบนี้แล้วเขายังจะเรียกตัวเองว่าเป็นหมอมืออาชีพได้ยังไงกันล่ะ