เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 180
เซียวเซียวยังดูเด็กมาก หลินเช่อคิดว่าเธอยังไม่ถึงวัยที่จะแต่งงานได้ตามกฎหมายด้วยซ้ำ
ส่วนเซียวเซียวเมื่อได้เห็นหลินเช่อก็ร้องออกมาทันทีว่า “อ๊ะ หลินเช่อ! ฉันรู้จักคุณนะคะ คุณเป็นดารานี่นา ใช่มั้ยคะหลินเช่อ”
หลินเช่อมองหน้าอีกฝ่ายด้วยความแปลกใจ “คุณรู้จักฉันด้วยหรือคะ”
“รู้สิคะ เพื่อนร่วมชั้นของฉันชื่นชอบคุณมาก” เธอตอบพร้อมยิ้มกว้าง ก่อนจะหันไปหาจิ้งเจ๋อและพูดว่า
“แต่ไม่มีใครเคยบอกเลยนะคะว่าหลินเช่อแต่งงานแล้วน่ะ”
กู้จิ้งเจ๋อตอบว่า “เรื่องนี้ยังคงเป็นความลับน่ะ”
“อา เข้าใจค่ะ ฉันเข้าใจ การแต่งงานลับๆ นั่นเอง กำลังเป็นที่นิยมในยุคนี้เลยนะคะ
เซียวเซียวมองดูกู้จิ้งเจ๋อและหลินเช่อพร้อมรอยยิ้มบนหน้า
มู่หว่านฉิงที่ยืนอยู่ข้างๆ หันมายิ้มกับเซียวเซียวและถามว่า “หนูเซี่ยวรู้จักหลินเช่อด้วยหรือจ๊ะ”
เซียวเซียวตอบ “รู้จักสิคะ ฉันน่ะติดซีรีส์ที่พี่หลินเช่อเล่นเป็นเฉินอี้หันมากๆ เลยละค่ะ ฉันชอบตัวละครตัวนี้มาก พี่หลินเช่อน่ะเป็นดาราดัง ใครๆ ก็รู้จักค่ะ”
เมื่อมู่หว่านฉิงได้ยินดังนั้นก็ยิ่งยินดี เธอหันไปมองหลินเช่อด้วยความภาคภูมิใจ
“จริงด้วยจ้ะ จริงด้วย หลินเช่อของเราน่ะโดดเด่นอยู่เสมอแม้แต่เวลาที่ออกไปอยู่ข้างนอกนั่น”
หลินเช่อได้ยินคำชมทั้งหลายก็เขินอาย
เซียวเซียวยังพูดต่อไปอีกว่า “ฉันไม่คิดเลยค่ะว่าพี่หลินเช่อจะแต่งงานเข้าตระกูลนี้”
มู่หว่านฉิงหัวเราะและบอกว่า “ใช่จ้ะ พวกเราโชคดีน่ะที่ได้หลินเช่อเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา”
“นั่นสิคะ ฉันก็ว่าพี่หลินเช่อเป็นคนน่าสนใจมากจริงๆ”
“ใช่จ้ะ ในครอบครัวเรา เธอเป็นเหมือนเครื่องกระจายความสุขเลยทีเดียวละ ทันทีที่เธอก้าวเข้ามาในบ้าน ทุกคนในครอบครัวก็จะมีความสุขขึ้นมาทันตาเลย”
หลินเช่อหน้าแดงเรื่อเมื่อเธอพูดพลางหัวเราะว่า “คุณแม่คะ ถ้ายังยอกันต่อแบบนี้ ตัวหนูจะลอยแล้วนะคะ”
“แม่ก็แค่พูดความจริงเท่านั้นเองจ้ะ มาเถอะ มา อย่ามัวยืนกันอยู่เลย เข้าไปข้างในเถอะ”
เมื่อทุกคนเข้าไปในตัวบ้าน มู่หว่านฉิงก็เอ่ยขึ้นว่า ในเมื่อไม่มีอะไรทำ งั้นก็มาเล่นไพ่นกกระจอกกันมั้ยจ๊ะ”
กู้จิ้งหมิงแย้งขึ้น “ผมเล่นไม่เป็นนี่ครับ”
“ใครบอกว่าจะให้ลูกเล่นล่ะ ลูกน่ะนั่งอยู่ข้างๆ ดูเซียวเซียวเล่นก็พอ” มู่หว่านฉิงหันไปหาหลินเช่อ “เช่อน้อย เล่นเป็นหรือเปล่าจ๊ะ”
หลินเช่อรีบตอบ “เป็นสิคะ ไพ่นกกระจอกนี่หนูเล่นเก่งทีเดียวละ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้เป็นแม่สามีก็หัวเราะ “จริงเหรอจ๊ะ ดีเลย มาเลยจ้ะ”
“เยี่ยมเลยค่ะ! หนูไม่ได้เล่นมาพักใหญ่แล้ว แทบจะลืมไปหมดแล้วด้วย วันนี้ละค่ะ หนูจะมาทวงคืนบัลลังก์ ถ้าชนะหลายตาเกินไปคุณแม่คงไม่ตีหนูใช่มั้ยคะ หนูไม่ออมมือให้หรอกนะ”
มู่หว่านฉิงได้ฟังก็ระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น “ตกลงจ้ะ อยากจะชนะกี่ตาก็ตามใจเลย ฉันจะไม่ขอแก้มือหรอก แต่ถ้าแพ้ขึ้นมาก็อย่าร้องไห้แล้วกันนะ”
หลินเช่อรับคำ “โอ๊ย หนูต้องร้องอยู่แล้วละค่ะ ก็หนูไม่มีเงินจ่ายนี่นา”
มู่หว่านฉิงยิ่งหัวเราะหนักขึ้นไปอีก “ถ้าไม่มีเงินเลย ก็ต้องอยู่บ้านนี้ใช้หนี้กับแม่สิจ๊ะ”
กู้จิ้งเจ๋อหน้ามุ่ยทีเดียวเมื่อพูดขึ้นว่า “เอาละ จะแพ้เท่าไหร่ก็แพ้ไปเถอะ ฉันมีเงินให้น่ะ”
นี่หลินเช่อคร่ำครวญเรื่องไม่มีเงินกับคนอื่นงั้นเหรอ ไม่รู้จักรักษาหน้าสามีบ้างเลยหรือไงนะ!
หล่อนแต่งงานกับกู้จิ้งเจ๋อ ซีอีโอใหญ่เลยเชียวนะ
ถ้าคนข้างนอกรู้ว่าคุณนายกู้เอาแต่คร่ำครวญเรื่องไม่มีเงินแบบนี้ละก็ มีหวังได้ถูกหัวเราะเยาะตายแน่
เมื่อมู่หว่านฉิงได้ยินที่บุตรชายพูด เธอก็หันไปบอกว่า “เห็นมั้ยล่ะจ๊ะ ลูกชายคนรองของเราเริ่มปกป้องภรรยาตัวเองแล้วนะ กลัวว่าแม่จะเก็บสะใภ้ไว้อยู่เป็นเพื่อนที่นี่หรือไง ไม่เอาน่า แม่ไม่ทำอย่างนั้นหรอก ต่อให้หลินเช่อเล่นเสียมากแค่ไหน ลูกก็พาเธอกลับบ้านได้อยู่ดีนั่นแหละ แม่น่ะอยากให้เราสองคนได้อยู่ด้วยกันทั้งวันทุกวัน แม่จะได้มีหลานอุ้มเร็วๆ ยังไงล่ะ”
“…”
หน้าของกู้จิ้งเจ๋อถึงขั้นถอดสี ในขณะที่กู้จิ้งหมิงนั่งหัวเราะอยู่ทางด้านหลัง
โต๊ะเล่นไพ่นกกระจอกถูกนำมาตั้งอย่างรวดเร็ว มู่หว่านฉิงและหลินเช่อนั่งตรงกันข้าม ในขณะที่เซียวเซียวนั่งคั่นกลาง โดยที่มีญาติอีกคนที่หลินเช่อไม่รู้จักนั่งอยู่ด้วยอีกคน
ประธานาธิบดีใหญ่กู้จิ้งหมิงนั่งลงด้านหลังเซียวเซียว แม้ว่าเด็กสาวจะอายุยังน้อย แต่เธอก็เล่นไพ่นกกระจอกได้เก่งพอตัวทีเดียว ส่วนหลินเช่อนั้นโชคไม่เข้าข้างเอาเสียเลย เธอจึงแพ้อยู่เรื่อยๆ
เมื่อเล่นกันไปได้ครู่ใหญ่ หลินเช่อก็แพ้จนหมดรูป
มู่หว่านฉิงพูดขึ้นว่า “ดูเข้าสิ เช่อน้อย ไอ้ที่ท้าอยู่เหย็งๆ เมื่อกี้ไปไหนหมดแล้วล่ะ”
หลินเช่อได้แต่เพียงบอกว่า “คุณแม่คะ คุณแม่อาจจะคิดว่าหนูขี้คุย แต่ที่จริงไม่ใช่เลยนะคะ หนูเคยเล่นไพ่นกกระจอกอยู่ตลอดเวลาที่อยู่ในโฮสเทล ตอนนั้นไม่มีใครโค่นหนูได้เลยจริงๆ”
กู้จิ้งเจ๋อฟังแล้วถึงกับอึ้ง แต่ก็ไม่อาจทำอะไรเลย ได้แต่นั่งดูเธอเล่นต่อไป
“โอเค ใช้ตัวนี้สิ”
“หลินเช่อ สมองเธอไปไหนหมด นั่นเธอเพิ่งทิ้งไพ่ที่เธอต้องใช้ไปนะ”
“หลินเช่อ! เธอกำลังจะแพ้แล้ว เห็นรึเปล่าน่ะ”
กู้จิ้งเจ๋อถึงขั้นต้องหยิบไพ่ส่งให้ เล่นห่วยปานนี้แล้วยังจะมีหน้ามาอ้างว่าเป็นสุดยอดแชมป์ได้อีกนะ
มู่หว่านฉิงหัวเราะกึกกักขณะที่มองสองหนุ่มสาว เมื่อหันไปมองกู้จิ้งหมิง สายตาของเธอก็บ่งบอกความคิดออกไปได้อย่างชัดเจน
ในที่สุดพวกเขาก็ได้เห็นลูกชายที่หัวแข็งที่สุดของบ้านมีใครอีกคนเอาไว้คอยโต้เถียงด้วยแล้ว และตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างกู้จิ้งเจ๋อและหลินเช่อก็ดีขึ้นและใกล้ชิดกันมากขึ้นทุกที
ในที่สุด ด้วยความช่วยเหลือจากกู้จิ้งเจ๋อ หลินเช่อก็พลิกเกมกลับมาเป็นฝ่ายชนะกับเขาบ้าง
ส่วนเซียวเซียวแพ้จนหมดรูป เธอหันไปพูดกับกู้จิ้งหมิงว่า “ท่านประธานาธิบดีคะ นี่คุณตั้งใจที่จะยอมแพ้ให้น้องชายคุณหรือไงคะ ถึงไม่ยอมทำตัวให้เป็นประโยชน์บ้างเลยน่ะ”
กู้จิ้งหมิงว่า “เธอเสียไปเท่าไหร่ล่ะ เดี๋ยวฉันจ่ายคืนให้”
เซียวเซียวได้แต่ทำหน้าตูมแล้วหันไปมองกู้จิ้งเจ๋อ “พวกคุณสองคนที่เป็นทีมที่น่ากลัวมากจริงๆ นะคะ อย่างกับคู่หูนินจาแน่ะ ฉันไม่เล่นต่อแล้วละ ก็โดนพวกคุณรุมเอาขนาดนี้น่ะ แถมยังหวานกันตลอด ทำเอาคนโสดอย่างฉันทรมานใจน่าดูเลย”
เพียงเท่านั้น วงไพ่ก็แยกย้ายกระจายกันออกไป
หลินเช่อนั่งนับชิปที่จะใช้แลกเป็นเงิน แล้วก็ได้รู้ว่าเธอชนะมาได้เงินมาถึงสองสามล้านทีเดียวในชั่วเวลาไม่นานนัก
“ว้าว บ้านคุณเล่นกันหนักจังเลยนะคะ” หลินเช่อยกมือขึ้นทาบอกด้วยความตกใจ “ขอบคุณพระเจ้าที่ฉันไม่ได้แพ้นะเนี่ย ไม่อย่างนั้นคงถึงขั้นต้องถอดเสื้อผ้ากันเลยทีเดียว”
กู้จิ้งเจ๋อส่ายหน้าแล้วมองหลินเช่อ “คราวหน้าอย่าอ้างมาเล่นเป็นอีกนะ เพราะเท่าที่ดูจากฝีมือการเล่นห่วยแตกของเธอเมื่อกี้น่ะ”
“อะไรกัน อะไรกัน ฉันเล่นดีออกจะตาย” หลินเช่อเถียงคอเป็นเอ็น “วันนี้ฉันแค่โชคไม่ดีเท่านั้นเองหรอกน่ะ”
“เปล่าเลย เธอไม่ได้ใช้สมองเล่นด้วยซ้ำ”
“แล้วทำไมฉันจะต้องใช้สมองเล่นไพ่ด้วยล่ะ”
“อย่ามาบอกนะว่าเธอไม่ได้คิดถึงไพ่ใบที่คนต่อไปมีหรือว่าตัวเองควรจะทิ้งไพ่อะไรเลยน่ะ นี่เธอเดาไพ่หรือเดาใจคนอื่นไม่เป็นเลยรึไงฮะ” กู้จิ้งเจ๋อแว้ดใส่
หลินเช่อโต้ว่า “ก็แล้วฉันจะไปหาทางตรัสรู้เรื่องพวกนี้ได้ยังไงกันล่ะคะ”
“…” กู้จิ้งเจ๋อส่ายหน้าอีก ตอนนี้เขารู้แล้วว่าพูดอะไรไปก็เปล่าประโยชน์ “ด้วยสมองเม็ดถั่วอย่างเธอนี่ ต่อไปนี้ห้ามไปเล่นไพ่นกกระจอกแบบไม่คิดหน้าคิดหลังที่ไหนอีกนะ”
หลินเช่อชักมีน้ำโห “ฉันคิดว่าไพ่นกกระจอกนี่ก็เล่นกันสนุกๆ เพลินๆ เท่านั้นไม่ใช่เหรอคะ ทำไมจะต้องมาคิดคำนวณอะไรกันให้วุ่นวายซับซ้อนด้วยล่ะ ไม่อย่างงั้นก็หนักหัวเหมือนทำงานน่ะสิ ถ้าเล่นแล้วหนักหัวแล้วจะเล่นไปทำไมคะ งั้นคุณก็กลับไปทำงาน นับคะแนนเสียงซะสิ”
“…” คราวนี้กู้จิ้งเจ๋อนึกไม่ออกว่าจะเถียงยังไง
สมองของยัยผู้หญิงคนนี้มีแต่ตรรกะเพี้ยนๆ ทั้งนั้น
ที่สำคัญ ไม่ว่าเธอจะพูดอะไร เธอก็สามารถทำให้คนอื่นเชื่อในสิ่งที่เธอพูดได้เสียด้วยสิ
กู้จิ้งเจ๋อคิดว่าเขาควรจะอยู่ห่างๆ หลินเช่อเอาไว้บ้าง ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะติดเชื้อความเพี้ยนนี้มาจากเธอด้วย
ไม่อย่างนั้นแล้ว ทำไมตอนนี้เขาถึงรู้สึกว่าที่เธอพูดก็ถูกล่ะ