เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 193
โม่ฮุ่ยหลิงจ้องเอาจ้องเอาเสียจนอีกฝ่ายอดถามขึ้นไม่ได้ว่า “เธอมองฉันทำไมนักเนี่ย กินข้าวเถอะ แล้วก็อันที่จริงอย่าดื่มไวน์เลยดีกว่านะ มันไม่ดีต่อร่างกายเธอน่ะ”
เมื่อโม่ฮุ่ยหลิงได้ยินก็น้ำตาร่วงเผาะทันที
ชายหนุ่มตกใจจนผงะด้วยไม่คิดว่าตัวเองจะพูดอะไรรุนแรงจนถึงขนาด หรือว่าจิตใจเธอจะอ่อนแอลงมากกว่าปกติหลังจากผ่านเหตุการณ์ฆ่าตัวตายมาสดๆ ร้อนๆ ก็ไม่รู้ได้ ทำไมอยู่ๆ โม่ฮุ่ยหลิงถึงได้ร้องไห้ออกมาแบบนี้
“เธอร้องไห้ทำไมโม่ฮุ่ยหลิง ฉันพูดอะไรผิดเหรอ” ชายหนุ่มถาม
โม่ฮุ่ยหลิงปาดน้ำตาและเงยหน้าขึ้นมองเขา “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่คุณยังเป็นห่วงเป็นใยสุขภาพของฉัน พอคิดแล้วมันก็เลยอดร้องไห้ออกมาไม่ได้น่ะค่ะ”
“ฉัน…”
หญิงสาวกัดริมฝีปากที่สั่นระริกของตัวเอง “ฉันคิดว่าคุณเลิกสนใจเอาใจใส่ฉันแล้วเสียอีก เพราะคุณเคยดีกับฉันมาก เคยซื้อข้าวของให้ฉัน ให้ของขวัญฉัน พาฉันเดินทางไปกับคุณด้วยเวลาไปทำธุรกิจที่ต่างๆ แต่ตอนนี้มันกลายเป็น…คุณกับหลินเช่อ…”
เธอค่อยๆ เงยหน้าขึ้นช้าๆ
เขามองดูใบหน้าเศร้าสลดของเธอแล้วก็พลอยหวนนึกไปถึงคืนวันเก่าๆ ที่เคยมีกับโม่ฮุ่ยหลิง
จริงอยู่ถึงแม้ว่าโม่ฮุ่ยหลิงจะทำตัวไม่ถูกนัก แต่เธอก็ไม่ใช่อาชญากร
กู้จิ้งเจ๋อเข้าใจเหตุผลในข้อนี้เป็นอย่างดี แต่เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกรำคาญเธออยู่นั่นเอง
ชายหนุ่มครุ่นคิดต่อไป หรือบางทีเขาอาจจะไม่ใช่คนใจดีอย่างที่เขาเคยคิดว่าตัวเองเป็น เขาอาจจะมีความรู้สึกแบบที่ผู้ชายทั่วไปมีต่อผู้หญิง
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นจริง มันก็ไม่ใช่ความผิดของโม่ฮุ่ยหลิงอยู่นั่นเอง เธอผิดเพียงเพราะว่าเธอยึดติดกับเขามากเกินไป จนพยายามทำทุกวิถีทางจนไม่สนถูกผิดใดๆ
“หลินเช่อกับฉันไม่ค่อยได้ออกไปไหนด้วยกันนักหรอก เราต่างคนต่างก็ยุ่งกับธุระหน้าที่ของตัวเองกันทั้งคู่”
แตกต่างจากโม่ฮุ่ยหลิงที่เพียงแค่ดำรงตำแหน่งในบริษัท หลินเช่อนั้นมีงานยุ่งมาก บางครั้งเธอยุ่งเสียยิ่งกว่าซีอีโอของกู้ อินดัสทรีอย่างเขาด้วยซ้ำ
กู้จิ้งเจ๋อตัดบทว่า “เอาละ กินกันเถอะ”
“กว่าจะได้ไวน์ขวดนี้มาไม่ใช่ง่ายนะคะ คุณไม่อยากลองซักหน่อยเหรอคะ” หญิงสาวยังคงตื๊อ
“ก็ได้” ชายหนุ่มยกแก้วขึ้นจิบ
“เป็นยังไงบ้างคะ” โม่ฮุ่ยหลิงยิ้มพลางถามอย่างตื่นเต้น
เมื่อกู้จิ้งเจ๋อชิมแล้วก็ตอบว่า “ไวน์หมักนี่นา ฝาดไปหน่อยนะ”
“เหรอคะ ไม่น่าจะเป็นแบบนั้นนะคะ ลองชิมดูอีกทีสิคะ ฉันคิดว่ามันรสดีทีเดียว”
กู้จิ้งเจ๋อชิมอีกครั้ง แต่ก็ยังคิดเหมือนเดิม มันไม่อร่อยเลยซักนิด
แต่เพียงแค่นั้นโม่ฮุ่ยหลิงก็พอใจมากแล้ว
เพียงสองจิบแค่นี้ ก็น่าจะเป็นปริมาณที่เพียงพอแล้ว
โม่ฮุ่ยหลิงขยับเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่เป็นระยะ และทุกครั้งที่เธอขยับ เนื้อตัวของเธอก็จะเผยออกมานอกร่มผ้ามากขึ้นทุกขณะ
กู้จิ้งเจ๋อไม่ทันได้สังเกตในตอนแรก แต่เมื่อหญิงสาวขยับตัวโดยแรง เขาก็อดเงยหน้าขึ้นมองไม่ได้
และเมื่อได้เห็น ข้างในร่างกายเขาก็เริ่มผ่าวร้อนขึ้น
ที่สำคัญไปกว่านั้น มันดูเหมือนจะร้อนมากขึ้นทุกทีเสียด้วย
ชายหนุ่มรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างไม่ปกติ เขารับประทานสเต๊กแต่กลับไม่รู้รสชาติใดๆ ของเนื้อที่กินเข้าไปแม้แต่น้อย เมื่อมองไปทางโม่ฮุ่ยหลิง ก็ดูเหมือนว่าสายตาของเขาจะเริ่มพร่าเลือน เขามองเห็นแต่เพียงว่าโม่ฮุ่ยหลิงกำลังขยับใกล้เข้ามาพร้อมด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ เธอเลียริมฝีปากตัวเองและพูดกับเขาว่า “จิ้งเจ๋อคะ วันนี้ฉันสวยรึเปล่า”
เขาพยักหน้า ร่างกายเขาเหมือนใกล้จะระเบิดเต็มแก่
ตัวยาชั้นดีมีราคานี่ได้ผลดีจริงๆ โม่ฮุ่ยหลิงคิด
ยิ่งได้เห็นสายตาที่ร้อนราวกับไฟของชายหนุ่มที่โลมเลียมาตามเรือนร่างของเธอ โม่ฮุ่ยหลิงก็ยิ่งพอใจ
ตอนนี้กู้จิ้งเจ๋อดูเซ็กซี่จนเกินจะต้านทานแล้ว
สายตาของเขาให้ความรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังจะถูกเขากลืนกินเข้าไป
กู้จิ้งเจ๋อไม่เคยดูมีความเป็นชายสำหรับเธอมากขนาดนี้มาก่อน และเธอเองก็ไม่เคยคิดด้วยเหมือนกันว่าการได้อยู่ในอ้อมแขนของเขาจะชวนให้รู้สึกเช่นไร แต่บัดนี้ เมื่อได้เห็นสายตาร้อนแรงนั้น โม่ฮุ่ยหลิงก็อยากจะทอดตัวลงเป็นของเขาเสียเดี๋ยวนี้ อยากจะถูกเขาทึ้งทำลายอย่างไร้ปรานี ช่างเป็นความรู้สึกที่ชวนให้ระทึกใจเสียจริงๆ
กู้จิ้งเจ๋อสูญเสียสติสัมปชัญญะในการใคร่ครวญไปเรียบร้อยแล้วก็จริง แต่เขาก็ยังรู้ตัวว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของตัวเอง
“ฮุ่ยหลิง นี่เธอทำอะไรน่ะ”
โม่ฮุ่ยหลิงเบียดกายเข้าไปหาเขา
“จิ้งเจ๋อคะ ฉันอยู่กับคุณมาตั้งนาน ฉันไม่เคยคิดถึงอย่างอื่นเลยตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ ถึงแม้ว่าคุณจะต้องป่วยด้วยโรคร้ายนี้ตลอดไป ฉันก็ยังคงจะอยู่เคียงข้างคุณ ฉันไม่เคยคิดถึงผู้ชายคนอื่น ไม่เคยคิดที่จะทอดทิ้งคุณ ในตอนนี้ ความปรารถนาเพียงอย่างเดียวของฉันก็คือ ได้มีวันที่ฉันได้กลายเป็นผู้หญิงของคุณเสียที จิ้งเจ๋อคะ ช่วยเติมเต็มความปรารถนานี้ของฉันด้วยเถอะค่ะ ให้ฉันได้ตายโดยไม่ต้องเสียใจทีเถอะนะคะ”
กู้จิ้งเจ๋อเบิกตาโพลง ด้วยสติส่วนสุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่ เขามองหน้าโม่ฮุ่ยหลิง “นี่เธอเป็นบ้าไปแล้วเหรอ ฮุ่ยหลิง อย่าทำแบบนี้เลย เธอก็รู้ว่าฉันทำไม่ได้…”
“ไม่นะคะ อาการป่วยของคุณดีขึ้นแล้วไม่ใช่เหรอคะ ฉันรู้นะ มาลองดูเถอะค่ะ เราเคยพยายามกันมาแล้ว คราวนี้เราจะมาลองกันใหม่ค่ะ ฉันจะช่วยทดสอบอาการป่วยของคุณเอง เราจะได้มาดูกันว่าการรักษาได้ผลหรือเปล่า”
ขณะที่พูด เธอก็เงยหน้าที่ระบายไปด้วยความมุ่งมาดปรารถนามองตรงไปที่เขา
“ไม่…”
โม่ฮุ่ยหลิงโลมไล้ร่างกายบึกบึนอย่างไม่แยแสใดในเสียงร้องห้ามของชายหนุ่ม มัดกล้ามแข็งแกร่งส่งเสน่ห์ความเป็นชายให้แผ่กระจายออกมา ส่งให้โม่ฮุ่ยหลิงหลงใหลเคลิบเคลิ้มไปไกล
จะหาผู้ชายแบบนี้ได้จากที่ไหนอีก
เธอไม่มีทางยอมยกเขาให้ใคร เธอจะไม่ยอมให้นังแพศยาหลินเช่อมาคว้าเขาไปง่ายๆ เด็ดขาด
เธอรู้สึกได้ว่าศีรษะของชายหนุ่มกำลังหมุนเหวี่ยงไปมา เมื่อเขาพยายามที่จะสลัดหน้าเพื่อเรียกสติให้กลับมาควบคุมตัวเอง โม่ฮุ่ยหลิงหัวเราะอย่างเยือกเย็นอยู่ในใจ ก่อนจะหันไปขอความช่วยเหลือจากพนักงานให้ช่วยพาเขากลับโรงแรม
กู้จิ้งเจ๋อยังคงงุนงงไม่ได้สติ ร่างกายเขาร้อนรุ่ม ความคิดและห้วงสติก็สับสนอลหม่าน
โม่ฮุ่ยหลิงทนรอต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว เธอมองดูชายหนุ่มและคิดว่าในอีกไม่ช้าทั้งเธอและเขาจะได้กลายเป็นคนคนเดียวกัน มันช่างน่าตื่นเต้นอะไรอย่างนี้นะ
ทันใดนั้นเอง โทรศัพท์ของกู้จิ้งเจ๋อก็ดังขึ้น
ตัวเจ้าของโทรศัพท์นั้นแทบจะไม่มีสติเหลืออยู่แล้ว หญิงสาวจึงคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาแทน และได้เห็นสายเรียกเข้าที่เขียนว่า ‘ภรรยาสุดที่รัก’ บนหน้าจอ
หญิงสาวแทบจะระเบิดออกมาด้วยความโกรธจัด
หมายถึงนังหลินเช่อรึ
นี่เขาเรียกนังนั่นว่า ‘ภรรยาสุดที่รัก’ อย่างนั้นรึ
โม่ฮุ่ยหลิงแทบจะปาโทรศัพท์ทิ้ง แต่แล้วก็คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ หญิงสาวหัวเราะเบาๆ ก่อนจะกดรับสาย
“กู้จิ้งเจ๋อ คืนนี้คุณจะกลับมาหรือเปล่าคะ” เสียงของหลินเช่อดังออกมาจากโทรศัพท์
“โอ้ ขอโทษด้วยนะจ๊ะ จิ้งเจ๋อกลับมาที่โรงแรมกับฉันน่ะ คืนนี้เขาคงจะไม่กลับไปหรอก”
ปลายสายเงียบงันไปพักใหญ่
“เอ่อ โอเคจ้ะ ช่างเถอะ ขอโทษด้วยที่โทรมารบกวน แค่ถามดูเท่านั้นแหละจ้ะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะหลินเช่อ ฉันแค่อยากจะบอกเธอว่า จิ้งเจ๋อเป็นของฉัน เราเป็นหวานใจวัยเด็กของกันและกัน แล้วก็คบหากันมาตั้งแต่เด็ก ถ้าเธอฉลาดกว่านี้ เธอก็ควรจะเป็นฝ่ายหนีไปซะเองโดยไม่ให้ฉันต้องลงมือทำอะไร เพราะถ้าไม่อย่างนั้น เมื่อถึงเวลาที่ฉันได้เป็นผู้หญิงของกู้จิ้งเจ๋อในวันพรุ่งนี้แล้วละก็ ฉันจะต้องจัดการกับเธอ แล้วถึงตอนนั้นจะมาโทษกันไม่ได้นะจ๊ะ”
“เป็นผู้หญิงของเขา…”
“ใช่แล้ว เขาจะค้างคืนกับฉันที่นี่ ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยกล้าที่จะมีอะไรกับฉันเพราะไม่อยากทำให้ฉันต้องเจ็บ แต่ตอนนี้ เราสองคนตัดสินใจร่วมกันแล้ว และเมื่อเราได้เป็นคู่รักโดยสมบูรณ์ เธอมันก็จะได้เป็นแค่ผู้หญิงไร้ค่าเท่านั้นแหละ!”