เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 196
เมื่อบอดี้การ์ดของกู้จิ้งเจ๋อได้เห็นหลินเช่อ พวกเขาก็รู้สึกโล่งใจ
“คุณผู้หญิงครับ เราจะทำยังไงกันต่อดี”
“พาเขากลับบ้านก่อนก็แล้วกันจ้ะ คุณหมอเฉินบอกว่าเขาไม่เป็นไรแล้ว” หลินเช่อออกคำสั่ง
“ได้ครับ คุณผู้หญิง เราจะรีบจัดการทันทีเลย”
หลังจากต้องประสบกับความงี่เง่าเอาแต่ในของโม่ฮุ่ยหลิงมาพักใหญ่ การได้เห็นหลินเช่ออีกครั้งจึงเป็นเหมือนการได้เห็นญาติสนิท พวกเขารับคำสั่งหลินเช่อและจัดการเตรียมรถอย่างรวดเร็ว
เพียงชั่วโมงต่อมา ทุกคนก็กลับถึงคฤหาสน์
หลินเช่อมองดูร่างใหญ่ที่ยังคงไม่ได้สติ เธอจึงจัดการเตรียมน้ำและผ้าขนหนูเพื่อที่จะได้เช็ดหน้าตาเนื้อตัวให้เขา หญิงสาวเดินวุ่นวายเข้าๆ ออกๆ ห้องอยู่หลายรอบ
หลินเช่อใช้ผ้าชุบน้ำค่อยๆ แตะลงบนแก้มของเขา ใบหน้าของกู้จิ้งเจ๋อแดงก่ำอย่างผิดธรรมชาติ ราวกับมีไข้สูง ทั้งที่เขาไม่ได้เป็นไข้ อุณหภูมิร่างกายเขาอยู่ที่ 37 องศาตามปกติและไม่ได้ขึ้นสูงไปมากกว่านั้น
หลินเช่อนึกถึงความตั้งใจที่จะใช้เวลาตลอดทั้งวันนี้อย่างมีความสุข แต่เป็นเพราะการมาถึงโดยไม่ได้บอกล่วงหน้าของโม่ฮุ่ยหลิง ที่ทำให้ทุกอย่างพังทลายมาจนถึงจุดนี้
แรกทีเดียว เธอก็ไม่ได้คิดอะไรมากกับการที่กู้จิ้งเจ๋อจะออกไปรับประทานอาหารกับคนรักเก่า แต่ใครจะรู้ว่ามันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่แบบนี้ขึ้นมาได้
เธอยังนึกย้อนไปถึงก่อนหน้านี้ ที่เธอถูกทิ้งเอาไว้อย่างโดดเดี่ยวเพียงคนเดียวในคฤหาสน์หลังใหญ่ และเฝ้าครุ่นคิดสงสัยว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างเขากับโม่ฮุ่ยหลิงบ้าง เมื่อเหลียวไปมองชายหนุ่มอีกครั้ง หลินเช่อจึงอยากจะพูดใส่หน้าเขาเป็นกำลังว่า สมควรโดนแล้ว
แต่เฉินอวี่เฉิงบอกว่า กู้จิ้งเจ๋อโดนวางยา
โม่ฮุ่ยหลิงวางยาเขางั้นรึ
โม่ฮุ่ยหลิงคิดอะไร ทำไมหล่อนถึงทำแบบนั้นนะ
ถ้าหากว่าเป็นอย่างนั้นจริงละก็ หลินเช่อก็อดคิดไม่ได้ว่าโม่ฮุ่ยหลิงออกจะทำเกินไปหน่อย ก็ไหนหล่อนบอกว่ารักกู้จิ้งเจ๋อนักหนาไงล่ะ ถ้ารักเขา แล้วทำไมถึงได้ทรมานเขาแบบนี้
แต่เมื่อหันไปมองกู้จิ้งเจ๋อ เธอก็อดหน้ามุ่ยไม่ได้ สมน้ำหน้าเถอะ ก็อยากไปรักผู้หญิงแบบนั้นเองทำไมล่ะ แบบนี้จะไปโทษใครได้
บางทีพวกเขาอาจจอยากหาอะไรทำเพื่อเพิ่มรสชาติให้กับความสัมพันธ์ละมั้ง เขาถึงได้ยินยอมพร้อมใจกินยานี่เข้าไปเอง
หลินเช่อมองดูร่างสูงใหญ่ตรงหน้าด้วยความรู้สึกอันสับสนปนเป ใจหนึ่งเธอก็คิดว่าเขาสมควรโดนแล้ว แต่อีกใจหนึ่งเธอก็อดสงสารและเจ็บปวดแทนเขาไม่ได้ แต่ถึงแม้จะรู้สึกเจ็บใจนิดๆ เธอก็ยังคงลงมือเช็ดตัวให้เขาอยู่ดี
แล้วกู้จิ้งเจ๋อก็ลืมตาขึ้น
ภาพเงาดำสลัวเลือนรางร่างหนึ่งกำลังขยับเข้ามาใกล้เขา
หลินเช่อเหรอ…
สัญชาตญาณของเขาอยากจะผลักเธอออกให้ห่าง เพราะคิดว่าตัวเองยังคงเห็นภาพหลอนอยู่
แต่ในอึดใจต่อมา เขาก็จำกลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวเธอได้
กู้จิ้งเจ๋อรีบคว้ามือของเธอที่กำลังถือผ้าขนหนูอยู่ไว้ทันที
มือนั้นชะงักอยู่ที่ข้างแก้มเขา เธอก้มลงมองสายตาที่อ่อนล้าพร่ามัวเต็มทีของเขา ดวงตาดำใหญ่นั้นดูเลื่อนลอยห่างไกลออกไปราวกับถูกปกคลุมด้วยกลุ่มเมฆดำ มันทำให้เขายิ่งดูลึกล้ำยากจะเข้าถึงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เขาลืมตาขึ้น ขนตายาวนั้นสั่นระริก หลินเช่อแปลกใจกับสายตาของเขาที่มองตรงมาหา
คนดูดีนี่ก็ช่างดูดีได้ในทุกสถานการณ์เสียจริงๆ ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสภาพที่ใกล้ไร้สติขนาดนี้ กู้จิ้งเจ๋อก็ยังดูหล่อแทบขาดใจ
“คุณรู้สึกตัวแล้วเหรอคะ เป็นยังไงบ้าง”
กู้จิ้งเจ๋อมองหน้าและจับมือเธอไว้แน่น ก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ
หลินเช่อโล่งใจ “ฟิ้ววว งั้นก็ดีแล้วละค่ะ คุณหมอเฉินบอกฉันว่าหลังกินยาแล้วคุณจะไม่เป็นไร แต่…”
แต่หมอเฉินก็บอกอีกเหมือนกันว่า จะต้องรอให้ฤทธิ์ยานอนหลับนั้นหมดไปเองอย่างช้าๆ
หลินเช่อจำได้ว่ายานอนหลับที่เธอเคยใช้นั้น ต้องรอจนถึงเช้าวันถัดไปทีเดียวกว่าจะหมดฤทธิ์
ชายหนุ่มขยับปาก บอกว่า “ฉันหิวน้ำ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลินเช่อก็รีบลุกขึ้นออกไปหาน้ำดื่มให้เขา
เธอรีบวิ่งกลับมาพร้อมแก้วน้ำในมือ เขาอ้าปากและดื่มลงไปหลายอึกแต่ก็ยังไม่หายคอแห้งอยู่นั่นเอง ทั้งปากทั้งลิ้นเขาแห้งผากไปหมด เนื้อตัวก็ร้อนผ่าว
หลินเช่อยื่นหน้าเข้ามาใกล้และกระซิบบอกว่า “ค่อยๆ ดื่มนะคะ ยังมีอีกค่ะ”
กู้จิ้งเจ๋อดื่มน้ำจนหมด แต่อาการระคายคอก็ยังไม่ดีขึ้น
สายตาของเขาคอยหันมาจับจ้องอยู่ที่เธอเป็นระยะ
แม้ว่าภายนอกจะมีหิมะตกหนักจนแทบจะกลายเป็นเมืองน้ำแข็ง แต่ระบบทำความร้อนในคฤหาสน์ใหญ่ทำให้ภายในตัวบ้านอบอุ่นราวกับฤดูใบไม้ผลิ
หลินเช่อสวมเสื้อถักนิต ดูอบอุ่นน่าสบาย ลำคอขาวผ่องสะอาดสะอ้านโผล่พ้นออกมาจากคอเสื้อ ไม่ว่าจะขยับเขยื้อนไปทางไหน ช่วงคอระหงนั้นก็ดูผุดผ่องเต่งตึง ปราศจากริ้วรอยและตำหนิใดๆ กู้จิ้งเจ๋อกวาดตามองขึ้นลงไม่หยุด กระดูกบอบบางที่ช่วงบ่านั้นดูจะสะกดสายตาของเขาเอาไว้ไม่ให้เลื่อนไปไหน
มือของชายหนุ่มค่อยๆ เอื้อมออกมาจับเตียงนอนไว้และกุมจนแน่น เสี้ยววินาทีต่อมา หัวใจเขาก็เริ่มเต้นรัวแรงขึ้นอีกครั้ง เขาอยากจะฉีกกระชากเสื้อผ้าของเธอออก
เขาอยากจะฉีกทึ้งทุกสิ่งที่ห่อหุ้มเอาไว้และได้มองดูเรือนร่างสมบูรณ์แบบที่อยู่ข้างใต้นั้น
มือเขาจิกทึ้งผ้าปูเตียงแรงเสียจนมันแทบขาดกระจุย
หลินเช่อรู้สึกได้ว่ากู้จิ้งเจ๋อกำลังพยายามควบคุมตัวเองอย่างหนัก เธอมองเห็นมือของเขาที่กุมผ้าปูเตียงแน่นเสียจนแลเห็นเส้นเลือดสีน้ำเงินที่ขยับแทบจะปะทุออกมา นิ้วมือเขาเผือดขาวเพราะถูกบีบจนสุดแรง กระดูกของเขาก็ดูราวกับจะหักลงได้ในทุกนาที
หลินเช่อตกใจมาก รีบวางแก้วน้ำลงทันที
แต่ก่อนที่เธอจะทันได้หันกลับมา เธอก็รู้สึกได้ว่าวงแขนแข็งแรงนั้นเอื้อมมาตวัดคว้าเอวและเหวี่ยงตัวเธอลงบนเตียงใหญ่
หลินเช่องุนงง ทั้งหมดเกิดขึ้นในฉับพลันชนิดตั้งตัวไม่ติด กู้จิ้งเจ๋อรีบตรงเข้ามาประชิดตัวเธออย่างรวดเร็ว มือของหลินเช่อจึงทั้งผลักทั้งดันให้เขาถอยออกไปโดยสัญชาตญาณ แต่แผ่นอกกว้างและร้อนผ่าวนั้นก็กำลังค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาหาเธอ ปกติแล้วร่างกายผู้ชายมักจะร้อนกว่าผู้หญิง แต่ร่างกายของกู้จิ้งเจ๋อตอนนี้ร้อนราวกับไฟจนแทบจะแผดไหม้เนื้อตัวเธอ
มือใหญ่กระชากเสื้อผ้าเธอออกอย่างรุนแรง ดวงตาแดงก่ำของเขากวาดมองผิวเนื้อนวลของทรวงอกขาวผ่อง ก่อนจะเอื้อมมือออกมาคว้าไว้โดยแรง
หลินเช่อหวีดร้องด้วยความเจ็บ
“กู้จิ้งเจ๋อ คุณ…คุณเป็นอะไรไปน่ะ”
ถึงแม้จะพอรู้อยู่แล้วว่าน่าจะเกิดจากฤทธิ์ยา แต่เธอก็ยังอดตกใจไม่ได้
ชายหนุ่มเคยเป็นแบบนี้มาแล้วในครั้งแรกของเธอกับเขา เขาก็ฉีกกระชากเสื้อผ้าเธออย่างรุนแรงแบบนี้เหมือนกัน เพียงแต่หลินเช่อรู้สึกว่า ในครั้งนี้ดูจะรุนแรงและหนักมือยิ่งกว่า
เขากดจูบที่ลำคอเธอ ทั้งจูบทั้งดูดหนักหน่วงราวกับแวมไพร์จนหลินเช่อเจ็บ ชายหนุ่มไม่อาจห้ามตัวเองไม่ให้ขบกัดลงบนผิวเนื้อขาวๆ นั้นได้ กู้จิ้งเจ๋อดูราวกับจะเสียสติไปแล้ว
ชายหนุ่มเคยคิดว่าเขาเป็นคนที่ควบคุมตัวเองได้ เพราะเป็นสิ่งที่ทำมาเนิ่นนานแล้วและคิดว่าเขายิ่งทำได้ดีขึ้นกว่าเดิมมาโดยตลอด
แต่ในชั่วเสี้ยววินาทีนี้เอง ที่เขาได้เห็นดวงหน้าขาวสะอาดนวลเนียนของหลินเช่อ เขาก็เกิดแรงกระตุ้นอย่างรุนแรงขึ้นภายใน แรงที่ทำให้เขาอยากจะกลืนกินผู้หญิงคนนี้ด้วยหัวใจที่หิวกระหายเสียให้สมอยาก
เขากดไหล่เธอไว้กับเตียง แยกแขนขาเธอออก จ้องมองลำคอขาวๆ นั้นแล้วก้มลงทั้งกัดและจูบโดยแรง ลิ้นเขาลากไล่ลงมาตามเรือนร่างที่ปราศจากอาภรณ์ปกปิด ทิ้งร่องรอยชื้นฉ่ำเอาไว้ มันทำให้หลินเช่อตัวสั่นระริกและอยากจะงอร่างเพื่อปิดป้องตัวเอง แต่กู้จิ้งเจ๋อหายอมให้เธอทำเช่นนั้นไม่…