เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 212
ทุกคนยินดีกับยอดผู้ชมเป็นอย่างมาก และไม่มีใครสนใจด้วยว่าฉินหวานหว่านจะขอโทษหลินเช่อหรือไม่ เมื่อเริ่มตกดึก หลินเช่อจึงเตรียมตัวกลับบ้าน
ทุกคนเริ่มทยอยกันกลับ หลายคนมาล่ำลาหลินเช่อ กิจกรรมที่จะตามมาหลังจากนี้จะเป็นงานหนัก ทุกอย่างเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น
เมื่อหญิงสาวกลับถึงบ้าน ปรากฏว่ากู้จิ้งเจ๋อยังไม่กลับมา หลินเช่อเดาว่าเขาคงยุ่งมากเพราะเป็นช่วงสิ้นปี เธอจึงไล่อ่านคอมเมนต์ต่างๆ ในเว่ยป๋อไปพลางๆ ก่อนจะเตรียมตัวเข้านอน
ปรากฏว่ากู้จิ้ิ้งอวี่อดไม่ได้ที่จะมีส่วนร่วมกับความวุ่นวายในวันฉายรอบปฐมทัศน์นี้ ด้วยการส่งข้อความมาทางวีแชทถึงหลินเช่อว่า [ไม่เลวนี่ ฉันเห็นแล้วนะว่าเรตติ้งกับยอดวิวใช้ได้เลยทีเดียว อย่างนี้เท่ากับว่าเธอสำเร็จวิชาเรียบร้อยแล้ว ต่อให้ไม่ต้องมีฉันคอยสอน เธอก็เป็นนักแสดงที่ดีได้ด้วยตัวเองแล้ว]
หลินเช่อล้อกลับไปว่า [ใช่แล้วละ ขอคารวะจากใจนะท่านอาจารย์ที่ช่วยชี้แนะมาโดยตลอด ข้ารู้สึกขอบคุณอย่างที่สุด…]
[ถ้าเธออยากจะขอบคุณจริงๆ ละก็ ทำไมไม่เลี้ยงข้าวฉันซักมื้อล่ะ อย่ามาขอบคุณแต่ปากหน่อยเลยน่า]
หลินเช่อเห็นคำตอบจากอีกฝ่ายแล้วก็อดรู้สึกไม่ได้ว่ามันแปลกๆ จึงถามเขากลับไปว่า [นี่ก็ใกล้ปีใหม่แล้ว คุณไม่กลับไปร่วมฉลองกับที่บ้านหรือคะ]
กู้จิ้ิ้งอวี่ถามกลับมาทันที [เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่กลับบ้านน่ะ]
[ฉันไม่รู้หรอกค่ะ ก็แค่ถามไปอย่างงั้น]
[ฉันไม่ได้กลับบ้านมาสองสามปีแล้ว ก็เลยกลายเป็นเรื่องปกติน่ะ] เขาตอบ
หลินเช่อยังคงสงสัย [ทำไมล่ะคะ]
[ก็เพราะฉันเข้ากับที่บ้านไม่ได้น่ะสิ นี่เธอไม่เคยได้ยินเรื่องลูกหัวดื้อหัวแข็งบ้างรึไง ฉันก็เป็นหนึ่งในนั้นนั่นแหละ มีปัญหารึไงเล่า]
[เกิดอะไรขึ้นระหว่างคุณกับครอบครัวที่ทำให้ความสัมพันธ์ไม่ดีหรือเปล่าคะ] หลินเช่อถาม
[ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นห่วงเป็นใยเรื่องของฉันซะจริงนะ ฉันควรจะดีใจรึเปล่าเนี่ย] กู้จิ้ิ้งอวี่เริ่มพูดจาหลงตัวเองแบบหน้าไม่อายอีกแล้ว
หลินเช่อรีบตอบว่า [เป็นศิษย์ไม่ควรจะยุ่มย่ามเรื่องของอาจารย์!]
[ก็ดี ฉันจะได้รู้ว่าฉันไม่มีพื้นที่ในหัวใจของเธอเลย!] เจ้าตัวทำเสียงกะลิ้มกะเหลี่ยและเล่าต่อไปว่า [บางมีอย่างเกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนน่ะ ที่จริงมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก แต่ฉันยังไม่ค่อยชินกับการกลับบ้านอยู่ บางทีอีกซักสองสามปีให้ลืมๆ ไปมากกว่านี้ก่อน ฉันอาจจะกลับไปก็ได้ ให้ทุกอย่างมันโอเคกว่านี้น่ะ]
หลินเช่อจับโทรศัพท์แน่นและมองดูตัวหนังสือที่ถูกพิมพ์ส่งมา ในใจเธอยิ่งอยากรู้หนักขึ้นไปอีกว่ามันเป็นเรื่องอะไรแน่ แต่ถ้าเธอยังเซ้าซี้ถามต่อละก็ มันก็ดูจะเป็นการล้ำเส้นเกินไปที่จะอยากรู้อยากเห็นเรื่องในตระกูลกู้ ด้วยเหตุนี้ ต่อให้อยากรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างกู้จิ้ิ้งอวี่กับที่บ้านของเขามากแค่ไหน เธอก็ไม่เคยเอ่ยปากถามกู้จิ้งเจ๋อแม้ซักครั้ง เพราะไม่อยากทำตัวสอดรู้สอดเห็นเกินควร
แต่เมื่อได้เห็นกู้จิ้ิ้งอวี่ตอบมาแบบนั้น หลินเช่อก็ค่อยมีความกล้าที่จะลองแหย่ต่อไป [อย่าบอกนะคะว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้หญิงน่ะ ฮิๆ]
อีกฝ่ายเงียบหายไปพักใหญ่ จนหลินเช่อคิดว่าเขาคงจะไม่ตอบแล้ว แต่อยู่ๆ กู้จิ้ิ้งอวี่ก็พิมพ์กลับมาว่า [แน่นอนสิ ก็อาจารย์คนนี้เป็นหนุ่มโรแมนติกนี่นา!]
เขากำลังพูดเล่น
แต่หลินเช่อที่ถือโทรศัพท์อยู่ก็อดคิดไม่ได้ว่า หรือจะเป็นเรื่องผู้หญิงจริงๆ นะ
การที่เขาทำตัวดื้อรั้นแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่นี่เขาหยุดติดต่อกับครอบครัวเพราะเรื่องผู้หญิงจริงๆ น่ะเหรอ
แต่ถึงจะเป็นเรื่องนี้ก็นับว่าไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร ดูจากสภาพแวดล้อมของตระกูลกู้แล้ว ลูกชายทั้งสามคนของบ้านนี้ต่างก็มีความโดดเด่นไม่ธรรมดาด้วยกันทั้งสิ้น
หลินเช่อคิดว่ามู่หว่านฉิงคงจะปลื้มใจไม่น้อย
หรือต่อให้สิ่งที่กู้จิ้ิ้งอวี่พูดจะเป็นความจริง เธอก็ต้องยอมรับว่าความสำเร็จของเธอในวันนี้ก็มีส่วนมาจากความเอาใจใส่ของเขา เพราะฉะนั้นเธอก็ควรจะเลี้ยงข้าวเขาซักมื้อเป็นการตอบแทน
วันต่อมา ยอดเรตติ้งยิ่งพุ่งสูงขึ้นไปอีก ซีอีโอของบริษัทถึงขนาดโทรศัพท์มาหาหลินเช่อเป็นการส่วนตัวเพื่อแสดงความยินดีและเชิญเธอมาร่วมการประชุมประจำปีของบริษัท
หลินเช่อตอบตกลงทันทีที่ได้ฟังคำเชิญ ก่อนจะพร่ำขอบคุณซีอีโอไม่ขาดปากด้วยความซาบซึ้ง
เมื่อวางสาย สีหน้าของหญิงสาวก็ยังคงแช่มชื่นเบิกบาน
จนกู้จิ้งเจ๋อที่นั่งอยู่ข้างๆ อดหัวเราะออกมาไม่ได้เมื่อได้เห็น “ทำไมถึงได้หน้าบานขนาดนี้ล่ะ”
หลินเช่อนอนลงบนเตียงและตอบว่า “ก็ต้องหน้าบานสิคะ ซีอีโอของบริษัทลงทุนโทรมาหาฉันด้วยตัวเอง แถมยังเชิญฉันไปร่วมการประชุมประจำปีของบริษัทอีกต่างหาก”
“แล้วยังไงต่อ” กู้จิ้งเจ๋อทำท่าไม่เข้าใจ
“มีแต่ดาราดังๆ เท่านั้นแหละค่ะ ที่จะได้รับเชิญไปร่วมการประชุมประจำปีของบริษัท บริษัทของเราอาจจะไม่ได้ใหญ่อะไรอะไรสำหรับคุณ แต่ก็จัดว่าเป็นคู่แข่งคนสำคัญในวงการเลยทีเดียว เราปั้นดาราดังๆ มาแล้วหลายคน แล้วก็มีนักแสดงอีกมากมายในสังกัด นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้รับเชิญไปร่วมการประชุมนี้นะคะ แถมยังได้รับคำเชิญเป็นการส่วนตัวจากผู้บริหารอีกต่างหาก”
หลินเช่อปลาบปลื้มเสียจนฮัมเพลงออกมา
กู้จิ้งเจ๋อมองดูเธอ เมื่อได้เห็นว่าหญิงสาวรื่นรมย์ขนาดนั้นเขาก็ส่ายหน้าอย่างขบขัน
บริษัทของหลินเช่อยังไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างหลินเช่อและเขา เพราะฉะนั้นการที่เธอพาตัวเองมาได้ไกลถึงขนาดนี้จึงไม่ใช่เรื่องยากเลย
หรือต่อให้กู้จิ้งเจ๋อจะช่วยให้เธอมีโอกาสในช่วงต้นๆ แต่ถ้าเธอไม่มีความสามารถอย่างแท้จริง เธอก็คงไม่มีทางโด่งดังได้เช่นกัน
หลินเช่อมีอุปนิสัยซึ่งน่าเป็นที่ชื่นชอบหลายอย่าง และเธอยังเป็นตัวของตัวเองเสมอ ไม่เคยเสแสร้งแกล้งทำ
กู้จิ้งเจ๋อจึงอดแหย่ไม่ได้ “ด้วยระดับสติปัญญาอย่างเธอ กว่าจะมาอยู่ตรงจุดนี้ได้ก็คงไม่ง่ายเลยแหละเนอะ”
“เฮ้! นี่ฉันใช้ความสามารถตัวเองล้วนๆ เลยนะคะ ความสามารถของฉันเองน่ะ เข้าใจรึเปล่า”
“ก็ใช่น่ะสิ เห็นมั้ยล่ะว่าสวรรค์ก็ยังยุติธรรมอยู่ ถึงสติปัญญาของเธอจะมีจำกัด แต่ก็ยังโชคดีที่เธอรูปร่างหน้าตาดี เพราะแบบนี้เธอถึงเป็นนักแสดงได้ยังไงล่ะ”
“อีตาบ้า นี่จะช่วยชมกันดีๆ บ้างไม่ได้รึไงนะ” หลินเช่อกระโดดผึงด้วยความโกรธ
กู้จิ้งเจ๋อเอ่ย “เอาละ เอาละ ไม่ต้องโกรธขนาดนั้นก็ได้ นี่ยังไม่ถือเป็นคำชมอีกเหรอ เรื่องมากจริง เธอต้องถ่อมตัวให้มากนะ ถ่อมตัวน่ะ เข้าใจรึเปล่า ทำไมอยู่ๆ ถึงอยากได้คำชมขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผลแบบนี้นะ”
กู้จิ้งเจ๋อลุกขึ้นและทำท่าจะเดินออกนอกห้องไป แต่อยู่ๆ เขาก็นึกบางอย่างขึ้นได้ จึงหันกลับมาพูดว่า “เราต้องไปร่วมงานปีใหม่ที่บ้านตระกูลกู้ เธอต้องระวังอย่ารับงานชนกับวันนั้นล่ะ”
“ไม่ต้องห่วงค่ะ ช่วงปีใหม่ฉันไม่มีงานอะไร”
หลินเช่อยิ้มสนุกก่อนจะต่อสายหาอวี๋หมินหมิ่น เธอเล่าให้ผู้จัดการส่วนตัวฟังอย่างปลื้มปริ่มว่าเธอกำลังจะได้ไปร่วมงานประชุมประจำปี และซีอีโอของบริษัทก็เป็นคนโทรมาแสดงความยินดีกับเธอด้วยตัวเอง
อวี๋หมินหมิ่นพลอยยินดีไปกับหญิงสาวด้วย
“อย่างนี้ต้องเลี้ยงแล้วละ! ไม่ต้องพูดอะไรแล้วนะ เธอต้องเลี้ยงข้าวฉัน” อวี๋หมินหมิ่นว่า
“ได้เลยค่ะ ฉันจะเลี้ยงข้าวทุกคนเอง เตรียมตัวให้พร้อม แล้วก็เชิญทุกคนที่ฉันรู้จักมาร่วมด้วย มื้อนี้ฉันจ่ายเองค่า”
หลินเช่ออารมณ์ดีจนถึงขนาดตกปากรับคำอย่างใจป้ำ
เมื่อกู้จิ้งเจ๋อรู้เรื่องเข้า จึงจัดการสั่งคนของตัวเองให้มาช่วยเธอจัดการเรื่องการจองโต๊ะและเตรียมการ
ก่อนที่ปีใหม่อันแสนวุ่นวายจะมาถึง หลินเช่อชวนอวี๋หมินหมิ่นและเฉินโยวหราน พร้อมด้วยเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ มาร่วมรับประทานอาหารกัน ทุกคนต่างก็มาถึงร้านในเวลาอันรวดเร็ว
เมื่อหลินเช่อมาถึง เธอก็ต้องประทับใจกับร้านที่กู้จิ้งเจ๋อเป็นคนเลือก ที่นี่เป็นภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมือง ว่ากันว่าซาชิมิของที่นี่ถูกสั่งตรงมาจากญี่ปุ่นเป็นประจำทุกวัน ทำให้อาหารสดสุดๆ ไปเลยทีเดียว
ตรงทางเข้า หญิงสาวแลเห็นฉินเฮ่ายืนอยู่ เมื่อเขาเห็นหลินเช่อ ก็รีบก้มศีรษะทักทายอย่างสุภาพ
หลินเช่อเดินตรงเข้าไปหา “อย่าบอกนะคะว่าคุณเป็นคนช่วยจองโต๊ะวันนี้ให้ฉันน่ะ ผู้ช่วยฉิน”
ฉินเฮ่ารีบบอก “แน่นอนครับ นายท่านสั่งผมมาเป็นพิเศษให้มาคอยดูแลวันนี้ เรื่องของคุณผู้หญิงถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุดของนายท่านครับ”
แล้วเฉินโยวหรานก็ตามมาสมทบทางด้านหลัง เมื่อเธอเห็นฉินเฮ่าก็รีบตรงเข้ามาทักทาย “ผู้ช่วยฉิน ทำไมถึงมายืนอยู่ตรงนี้ล่ะคะ ไม่เข้าไปจิบชาด้วยกันหน่อยเหรอคะ ฮิๆ”