เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 216
เมื่อโม่ฮุ่ยหลิงได้ยินกู้จิ้งเจ๋อบอกว่า เขาและหลินเช่อมีอะไรกันแล้ว มันก็ทำให้เธอยิ่งหัวเสียหนัก
แต่แล้ววันหนึ่ง โม่ฮุ่ยหลิงก็ฉุกคิดถึงเรื่องที่ว่ากู้จิ้งเจ๋อไม่เคยแตะต้องเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทั้งที่เขาเองก็คบหากับเธอมาเป็นเวลานานหลายปี
แสดงว่าความรักของกู้จิ้งเจ๋อที่มีต่อเธอจะต้องจริงแท้และบริสุทธิ์มากแน่ๆ
แต่ที่พักนี้เขาดูจะเอาใจใส่หลินเช่อนั้น เป็นเพราะเขาสามารถแตะเนื้อต้องตัวหลินเช่อได้ ทำให้เขาปรารถนาในตัวแม่นั่นก็เท่านั้น
ถึงอย่างไรกู้จิ้งเจ๋อก็เป็นผู้ชาย ถึงเธอจะไม่ค่อยชอบใจนักที่ผู้ชายของเธอไปเกี่ยวข้องกับผู้หญิงอื่นแต่ที่พ่อของเธอเคยบอกเอาไว้ก็เป็นเรื่องจริง นั่นคือเป็นธรรมดาของผู้ชายที่จะมีการหาเศษหาเลยนอกบ้านกันบ้าง
ผู้ชายล้วนมีความต้องการในเรื่องนี้กันทั้งนั้น
เธอเข้าใจดี
ด้วยเหตุนี้ เมื่อคิดทบทวนดูดีๆ แล้ว โม่ฮุ่ยหลิงก็รู้สึกโล่งใจ และเริ่มกลับมามีศรัทธาในตัวของชายหนุ่มใหม่อีกครั้ง
เธอเชื่อเหลือเกินว่าสุดท้ายแล้วกู้จิ้งเจ๋อจะต้องกลับมาอยู่เคียงข้างเธอ เพียงแต่ต้องรอให้เขาเบื่อหน่ายหลินเช่อก่อนก็เท่านั้น แล้วเขาก็จะเริ่มมองเห็นข้อดีของเธอ และกลับมาหาเธอในที่สุด
เพราะถึงอย่างไรเธอก็อยู่กับเขามานาน หลินเช่อจะมาเทียบได้อย่างไรกันเล่า
หลินเช่อมองหน้าโม่ฮุ่ยหลิงแล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่หญิงสาวพูดนัก
หล่อนหมายความว่ายังไงที่จะต้องให้กู้จิ้งเจ๋อเบื่อเธอเสียก่อน หล่อนหมายความว่ายังไงที่ว่าเขาแค่เล่นสนุกกับเธอ
นี่กู้จิ้งเจ๋อบอกโม่ฮุ่ยหลิงเหรอว่าเธอมีอะไรกับเขาแล้วน่ะ…
มันไม่ควรจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นสิ
ลึกๆ ในใจหลินเช่อเองก็อดรู้สึกผิดน้อยๆ ไม่ได้ ในตอนแรก ไม่มีใครคิดว่าสถานการณ์ระหว่างเธอและกู้จิ้งเจ๋อจะพัฒนากันมาจนถึงขั้นนี้
เธอรู้ดีว่าเธอเป็นฝ่ายแย่งเขามาจากโม่ฮุ่ยหลิง
แต่ว่ามันก็เป็นความยินยอมพร้อมใจของคนสองคนด้วยเหมือนกัน
กู้จิ้งเจ๋อเป็นคนบอกเองว่าเขาเลิกกับหล่อนแล้ว และตอนนี้ก็กลายเป็นโม่ฮุ่ยหลิงที่มาคอยตามรังควานรบกวนเธอและเขา แล้วนี่หล่อนยังจะมาโทษเรื่องนี้ว่าเป็นความผิดของเธออีกงั้นหรือ
หลินเช่อรู้ว่านี่เป็นความผิดของเธอ แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดพลาดของเธอแต่เพียงผู้เดียวเช่นกัน
หญิงสาวหันไปมองโม่ฮุ่ยหลิง “ไม่ว่าคุณจะพูดอะไร คุณก็ควรจะไปพูดกับกู้จิ้งเจ๋อเขาตรงๆ นะคะ ถ้าคุณต้องการแย่งเขาคืนไป ก็โปรดทำตามนั้น ถ้าเขายังอยากกลับไปหาคุณ ฉันก็ขออวยพรให้ แต่ถ้าไม่ มันก็เป็นเรื่องระหว่างคุณสองคนอีกนั่นแหละค่ะ มาบอกฉันแบบนี้ก็มีแต่จะเปล่าประโยชน์”
“นี่แก…หลินเช่อ ฉันจะยอมให้แกปากดีแบบนี้ไปได้อีกไม่กี่วันหรอกนะ รอก่อนเถอะ!”
แต่แล้วกู้จิ้งเจ๋อก็เดินมาแต่ไกล
ชายหนุ่มขยับตัวอย่างว่องไว เขาดึงหลินเช่อให้เข้ามายืนแอบหลังเขาเอาไว้
ปิดป้องเธอจากโม่ฮุ่ยหลิง และมองอีกฝ่ายด้วยสายตาคมปลาบ
แววระแวดระวังฉายชัดอยู่ในดวงตา เขามองโม่ฮุ่ยหลิงและถามว่า “เธอทำอะไรน่ะ”
โม่ฮุ่ยหลิงมองชายหนุ่มอย่างแปลกใจ กู้จิ้งเจ๋ออยู่ตรงหน้าเธอแท้ๆ แต่กลับปกป้องหลินเช่ออย่างออกนอกหน้า ทำเอาหัวใจเธอแทบสลาย
“ฉันกำลังทำอะไรน่ะเหรอคะ ฉันก็แค่กำลังคุยกับหลินเช่อ ฉันไม่ได้ทำอะไรเธอซักหน่อย ทำไมคุณถึงตั้งแง่กับฉันและคิดว่าฉันกำลังจะทำอะไรเธอแบบนี้เลยล่ะ จิ้งเจ๋อ นี่คุณจะใจร้ายกับฉันเกินไปแล้วนะคะ”
เมื่อโม่ฮุ่ยหลิงพูดจบ เธอก็ผลักกู้จิ้งเจ๋อ และวิ่งหนีไปพลางกลั้นน้ำตาไว้อย่างสุดกำลัง
ชายหนุ่มชะงัก เขารู้ดีว่าตอนนี้เขาแทบไม่สนใจความรู้สึกของโม่ฮุ่ยหลิงเลย ที่เธอต่อว่าเขาว่าใจร้ายก็ถูกแล้ว
เพียงแต่เมื่อเขาเห็นหญิงสาวทั้งสองยืนอยู่ด้วยกันจากระยะไกล เขาก็อดคิดไม่ได้ว่าโม่ฮุ่ยหลิงกำลังจะทำร้ายหลินเช่อ
นี่โม่ฮุ่ยหลิงกลายเป็นผู้หญิงร้ายกาจในสายตาเขาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
อันที่จริงโม่ฮุ่ยหลิงก็ไม่ได้ทำเรื่องเลวร้ายหรือชั่วช้าอะไร เขาไม่ควรจะทำตัวไร้หัวใจกับเธอขนาดนี้ มันมีแต่จะเป็นการทำร้ายโม่ฮุ่ยหลิงเท่านั้น
เธอและเขาเลิกรากันไปแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำให้เธอเจ็บช้ำน้ำใจเพิ่มอีก
ถึงอย่างไรเธอก็คบหากับเขามาหลายปี ถึงอย่างไรก็ยังมีเยื่อใยต่อกันอยู่
เมื่อชายหนุ่มเหลียวมองออกไปข้างนอก สีหน้าของเขาก็สลดลง
หลินเช่อสังเกตเห็นจึงพูดขึ้นว่า “ถ้าคุณอยากจะตามเธอไปก็ไปเถอะค่ะ ไม่มีปัญหาหรอก”
ชายหนุ่มหันมา “แล้วทำไมฉันถึงจะต้องวิ่งตามเขาไปด้วยล่ะ”
หลินเช่อว่า “ที่คุณทำลงไปเมื่อกี้น่ะมันรุนแรงมากเลยนะคะ ตามไปปลอบใจเธอเถอะค่ะ ไม่อย่างนั้นเธออาจจะคลุ้มคลั่งไปอีกก็ได้”
กู้จิ้งเจ๋อหันมาจับมือของหลินเช่อ “ฉันจะคอยไล่ตามไปทุกครั้งที่เขาอยากจะทำเรื่องบ้าบอแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ”
“มันไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะ…” หลินเช่อพูดอย่างไม่ใส่ใจ
“ก็ได้ งั้นรอฉันอยู่ตรงนี้นะ ฉันจะตามไปดูเขาซักหน่อย” กู้จิ้งเจ๋อว่าแล้วทำท่าจะผละไปจริงๆ
หลินเช่อผงะ มองหน้าเขาด้วยความประหลาดใจ
แต่แล้วชายหนุ่มก็หันกลับมายิ้มเผล่ให้
“เอาน่า ฉันไม่ตามไปหรอก แค่แหย่เธอเล่นเท่านั้นเอง”
“…”
เขายกมือขึ้นลูบแก้มเธอ “ทำไม กังวลเหรอ ฉันกลัวว่าถ้าฉันตามไปเธอจะคิดสั้นอีกน่ะ ช่างมันเถอะ”
“อีตาบ้า ฉันไม่คิดสั้นหรอกย่ะ” หลินเช่อหน้าแดง ผลักเขาออกไป
กู้จิ้งเจ๋ออาศัยจังหวะนี้คว้ามือเธอไว้ “ใจเย็นน่า ฉันไม่ตามเขาไปหรอก ฉันจะไม่ทำแบบนั้นอีกแล้ว เขาจะต้องเรียนรู้ที่จะโตเป็นผู้ใหญ่เสียที ฉันจะคอยตามดูแลเขาทุกฝีก้าวไม่ได้ เพราะถึงยังไงฉันก็เป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้ว เธอเป็นภรรยาของฉัน ฉันจะไม่ทิ้งเธอไว้แล้วไล่ตามเขาไปแน่นอน”
หัวใจของหลินเช่อเบิกบานด้วยความอบอุ่น เธอมองหน้าเขา
ชายหนุ่มพูดต่อไป “อีกอย่าง ฉันก็ได้เสียกับเธอแล้ว ฉันควรจะรับผิดชอบเธอ”
“…” คราวนี้คนฟังตะเบ็งเสียงลั่นๆ อย่างโกรธจัด “ใครได้ใครมิทราบ ฉันต่างหากที่ได้คุณน่ะ อย่าลืมสิว่าฉันเป็นคนที่ลงมือวางยาคุณก่อนนะ”
“แต่ฉันคิดว่าถ้าเป็นเรื่องแบบนี้ คนที่อยู่ข้างบนควรจะเป็นคนที่ได้ ส่วนคนที่อยู่ข้างล่างควรจะเป็นคนที่เสียนะ ถ้าเธออยากจะได้ฉันจริงๆ ละก็…งั้นคืนนี้ก็ลองอยู่ข้างบนดูก็แล้วกัน”
“…” หน้าของหลินเช่อแดงซ่าน
เธอจะทำแบบนั้นได้ยังไงกันเล่า ก็เธอทำไม่เป็นซักหน่อยนี่
ทุกครั้งที่มีช่วงเวลาลึกซึ้งร่วมกัน เธอเป็นฝ่ายรับมาโดยตลอด แล้วนี่เธอจะกลายเป็นฝ่ายรุกเขาได้ยังไง
ให้เธออยู่ข้างบนงั้นเรอะ
น่าอายออกจะตาย
แล้วถึงยังไง เธอก็ไม่รู้จริงๆ ว่าจะต้องทำอะไรบ้างเวลาเป็นฝ่ายอยู่ข้างบนน่ะ
กู้จิ้งเจ๋อมองดูหลินเช่อแล้วก็หัวเราะ ลูบไล้มือเธอไปมาก่อนจะพูดว่า “เอาละ ไปกันเถอะ ฉันได้ยินมาว่ามีคนพยายามลวนลามเธอ”
“ใช่ค่ะ…ฉันขอโทษด้วยนะคะ” เธอนึกถึงคำพูดของโม่ฮุ่ยหลิงแล้วก็เผลอเอ่ยคำขอโทษออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ทำไมเธอต้องขอโทษฉันด้วย” กู้จิ้งเจ๋อถาม
หลินเช่อว่า “ถ้าฉันไม่มาต่อที่นี่ เรื่องแบบนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น”
“แล้วมันกลายเป็นความผิดของเธอได้ยังไงกันล่ะ จะให้เธอนั่งๆ นอนๆ อยู่บ้านทุกวันเพื่อป้องกันไม่ให้ใครมาลวนลามได้งั้นเหรอ ผู้ชายคนที่ลวนลามเธอต่างหากที่เป็นฝ่ายผิด ไม่ใช่เธอซักหน่อย”
หลินเช่อยิ้มและเงยหน้าขึ้นมองเขา
เขาเป็นคนมีเหตุผลมากทีเดียว
“ฉันก็คิดแบบนั้นแหละค่ะ ผู้ชายแบบนั้นก็คงไม่มีอะไรจะพูดนอกไปจากบอกว่าเพราะกระโปรงของเราสั้นเกินไป คนพวกนี้นี่คือมะเร็งร้ายในหมู่ผู้ชายดีๆ นี่เอง ไม่ว่าฉันจะสวมอะไร หรือต่อให้ฉันตัดสินใจที่จะไม่ใส่อะไรเลยออกไปเดินอยู่บนถนน มันก็เป็นความผิดของพวกเขาที่เข้ามาลวนลามฉัน จริงมั้ยคะ”
“ใช่ ใช่ ใช่…แต่…เธอจะออกไปเดินถนนทั้งเปลือยๆ แบบนั้นไม่ได้หรอกนะ” กู้จิ้งเจ๋อเตือน
“รู้น่า ฉันไม่ได้โง่ซักหน่อย”
เมื่อทั้งสองเดินออกไป ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่อวี๋หมินหมิ่นและชาวคณะก็เดินออกมาพอดี
เมื่อได้เห็นกู้จิ้งเจ๋อ พวกเธอก็รู้ว่าเวลาของการสังสรรค์จบลงแล้ว
เฉินโยวหรานมองดูเวลาและร้องว่า “โอ๊ะ ตายจริง เกือบเที่ยงคืนแล้วเหรอเนี่ย ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมท่านประธานกู้ถึงมาอยู่ที่นี่ พวกเราคงเอาเวลาของหลินเช่อมามากเกินไปแล้วน่ะ ใช่ไหมคะ”