เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 221
หลินเช่อไม่อาจทนเห็นคนที่ไม่ชอบหน้าเธอพูดจาไม่ดีใส่คนของเธอได้
เมื่อได้ยินฉินเสี่ยวหยวนพูดเช่นนั้น หลินเช่อจึงยืดตัวตรงขึ้นทันทีและพูดว่า “พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ ถ้าพี่เสี่ยวหยวนอยากตกเป็นข่าวซุบซิบบ้าง ก็ออกไปทำตัวให้เป็นข่าวเอาเองสิคะ แต่ถ้าดูจากสถานะดาราใหญ่ของพี่ตอนนี้แล้ว บางทีอาจจะหาคนยอมตกเป็นข่าวด้วยยากอยู่ซักหน่อยนะคะ เพราะพวกดาราที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับพี่ ส่วนใหญ่ก็แต่งงานกันไปหมดแล้ว”
หลินเช่อไม่ได้ตั้งใจจะพูดเพื่อโจมตีอายุของดารารุ่นพี่ เพียงแต่เธอโกรธที่อีกฝ่ายพูดจาไม่ดีกับอวี๋หมินหมิ่น
คำพูดของหลินเช่อทำเอาใบหน้าที่อัดแน่นด้วยโบท็อกซ์ของฉินเสี่ยวหยวนยับยู่ขึ้นมาได้
“นี่ฉันอุตส่าห์เห็นแก่ท่านประธานชางนะ ก็เลยไม่ได้พูดอะไรถึงเธอ แต่นี่ดูท่าเธอคิดว่าตอนนี้ตัวเองปีกกล้าขาแข็งจนกล้าต่อปากต่อคำกับทุกคนได้ละสินะ เธอคิดว่าตัวเองโด่งดังเสียจนไม่มีใครทำอะไรเธอได้อย่างงั้นเหรอ”
ซ่งซูไห่พยายามกระซิบเตือนว่า “แม่นี่อาจจะมีใครหนุนหลังอยู่นะ เธออย่าเพิ่งพูดอะไรมากไปจะดีกว่า”
“ฮึ ฉันไม่เชื่อหรอก จะมีใครหน้าไหนที่เธอยังจะกลัวอีกงั้นเหรอ”
และแล้วทางด้านหลังก็เกิดความโกลาหลขึ้น
“ท่านประธานชางครับ กู้จิ้ิ้งอวี่มาถึงแล้ว”
ประธานจึงรีบพูดขึ้นว่า “โอ้ จริงสิ กู้จิ้ิ้งอวี่ตกลงที่จะมาเป็นแขกผู้มีเกียรติให้กับเรานี่นา”
ทุกคนไม่คาดคิดว่ากู้จิ้ิ้งอวี่จะมาปรากฏตัวในงานนี้
ปกติแล้วกู้จิ้ิ้งอวี่จะไปไหนมาไหนกับคนสนิทเท่านั้น และไม่คบหากับใครอื่น ดังนั้นการที่ทางบริษัทจะเชิญเขามาร่วมงานเลี้ยงประจำปีจึงเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้น
และเพราะว่าเขาเป็นคนที่ไม่นิยมการพบปะสังสรรค์กับใคร การเชิญเขามาร่วมงานใดๆ จึงไม่ค่อยจะสำเร็จนัก
ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงรู้สึกประหลาดใจถึงขีดสุดเมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นในงาน
ฉินเสี่ยวหยวนและซ่งซูไห่เองก็อดชะเง้อชะแง้มองไม่ได้ สองดาราสาวหันกลับมามองหลินเช่ออีกครั้งและคิดถึงข่าวลือระหว่างกู้จิ้ิ้งอวี่กับหลินเช่อขึ้นมาทันที พวกเธอกำลังสงสัยว่ากู้จิ้ิ้งอวี่นั้นจะ…
ดาราหนุ่มเดินตรงเข้ามาหาพร้อมผู้ติดตามจำนวนหนึ่ง สายตาเขาเฉยเมยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ จนกระทั่งมองเห็นหลินเช่อเข้า เขาจึงยิ้มออกมาน้อยๆ
ถึงแม้ว่าฉินเสี่ยวหยวนจะอยู่ในวงการมานานหลายปี แต่เธอก็ไม่เคยมีโอกาสได้ร่วมงานกับกู้จิ้ิ้งอว่าก่อน
ตอนนี้เมื่อเธอได้เห็นตัวจริงของเขา เธอจึงไม่อาจละสายตาจากเขาไปได้เลย
ดวงตาเขาสดใสเป็นประกายและใบหน้าก็หล่อสะกดใจเป็นอย่างยิ่ง ดูมาดแมนสมชาย รอยยิ้มของเขามีเสน่ห์ดึงดูดผู้คน รวมทั้งการที่เดินเข้ามาพร้อมด้วยทีมงานล้อมหน้าล้อมหลังเช่นนี้ ก็ทำให้เขาโดดเด่นขึ้นมาจากดาราทั่วๆ ไป ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะความโด่งดังของเขาและจำนวนแฟนๆ ที่คอยติดตามอีกมากมายนับไม่ถ้วน รวมถึงการที่หลายๆ คนรู้กันว่า เขาคือคุณชายสามแห่งตระกูลกู้อีกด้วย
แต่กู้จิ้ิ้งอวี่กลับไม่ได้พูดอะไร และตรงเข้าไปยืนข้างหลินเช่อในทันที
ประธานชางรีบประกาศเสียงดังลั่นว่า “คุณมาแล้ว คุณมาแล้ว ยินดีจริงๆ ที่คุณอุตส่าห์มีน้ำใจมาถึงที่นี่นะครับ คุณชายกู้ที่สาม!”
กู้จิ้ิ้งอวี่พยักหน้าอย่างสุภาพก่อนจะหันไปหาหลินเช่อ “จ้องฉันทำไมนักล่ะเนี่ย หรือว่าอยู่ๆ ก็รู้สึกว่าฉันมีเสน่ห์ดึงดูดขึ้นมา”
“ไม่มีทาง!” อีตานี่ช่างไร้ยางอายซะจริง หลินเช่อคิดอยู่ในใจ
“เอาละ อย่ามัวแต่แซวกันเองอยู่เลย นั่งลงเถอะ”
“โอ๊ะ…” เมื่อได้ยินคำพูดของเขา หลินเช่อก็ตั้งท่าจะกลับไปยังที่นั่งของตัวเอง แต่เขาคว้ามือเธอไว้เสียก่อน “นี่เธอจะไปไหน”
ประธานชางเห็นเช้าจึงรีบบอกว่า “นั่นน่ะสิ หลินเช่อ เธอจะไปไหนล่ะนั่น นั่งตรงนี้แหละ”
หลินเช่อหันไปมองกู้จิ้ิ้งอวี่ แต่อีกฝ่ายนั่งลงเป็นที่เรียบร้อย แถมยังกดไหล่บังคับให้เธอนั่งลงบนเก้าอี้ด้วย
บรรดาคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะนี้ล้วนแต่เป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัททั้งสิ้น มีเพียงดาราระดับท็อปเพียงไม่กี่คน ทำให้หลินเช่อรู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะที่จะนั่งอยู่ตรงนี้
หลายคนเฝ้ามองพร้อมอ้าปากค้าง เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้ทุกคนที่มองมาแปลกใจมากขึ้นทุกที
แม้ว่าคนทั้งสองจะมีข่าวลือด้วยกันและร่วมงานต่างๆ ด้วยกันมา แต่กู้จิ้ิ้งอวี่ก็ดูจะดูแลหลินเช่อดีเป็นพิเศษ ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครเคยเห็นว่าทั้งสองติดต่อกันเป็นการส่วนตัว
ด้วยเหตุนี้ใครๆ จึงพากันคิดว่า กู้จิ้ิ้งอวี่ทำแบบนี้ก็เพื่อสร้างกระแสขึ้นมา
เนื่องจากเขาเป็นนักแสดงที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการมานาน ทำให้เขารู้ดีถึงขีดจำกัดของการสร้างกระแสให้กับผลงานของตัวเอง หลินเช่อเป็นคนหนึ่งที่ถูกเขาใช้เพื่อการนี้ และโชคดีจนโด่งดังมีชื่อเสียงไปแล้ว
ไม่มีใครคิดว่ากู้จิ้ิ้งอวี่จะไปมีความสัมพันธ์จริงจังกับดาราเกรดต่ำกว่าอย่างหลินเช่อ
หลินเช่อเองก็ไม่เคยคาดคิดว่าเธอจะมีความสัมพันธ์ใดๆ กับตระกูลกู้มาก่อน แต่ในความเป็นจริงตอนนี้ เธอกลับกลายเป็นเพื่อนของกู้จิ้ิ้งอวี่ และยังมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับกู้จิ้งเจ๋อ ทั้งหมดนี่ช่างน่าแปลกจริงๆ
ประธานชางมองดูคนทั้งคู่นั่งอยู่ด้วยกันแล้วก็อดอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาไม่ได้ เขาพิจารณาดูหนุ่มสาวทั้งสองก่อนจะเอ่ยถามขึ้นว่า “นี่คุณชายสามสนิทสนมกับหลินเช่อของเราเป็นการส่วนตัวหรือครับนี่”
กู้จิ้ิ้งอวี่หัวเราะก่อนจะหันกลับไปมองหลินเช่อ สีหน้าอบอุ่นอ่อนโยนของเขาทำเอาหลายคนต้องอ้าปากค้างหนักขึ้นไปอีก
“ใช่แล้วละครับ ยัยบ๊องนี่โชคดีที่ได้รู้จักผม ไม่อย่างนั้นคงจะได้เป็นดาราที่สาบสูญไปนานแล้วละ เราติดต่อกันเป็นการส่วนตัวอยู่ตลอด ทำไมหรือครับ นี่เธอไม่เคยบอกใครเลยงั้นเหรอ”
ก็ต้องไม่เคยสิยะ หลินเช่อไม่ได้โง่นะ ถ้าเธอเที่ยวไปบอกใครต่อใครว่าเธอรู้จักมักจี่กับกู้จิ้ิ้งอวี่เป็นอันดีละก็ จะมีใครยอมเชื่อเธอกันล่ะ และไม่ว่าพวกเขาอยากจะเชื่อเธอหรือไม่ก็ตาม แต่หญิงสาวก็คงไม่เที่ยวป่าวประกาศเรื่องนี้ให้ใครรู้อยู่ดีนั่นเอง
ประธานชางรีบตอบทันที “ไม่ ไม่เลยครับ แม่หนูหลินเช่อนี่มีจิตใจดีทีเดียว ที่ไม่ฉวยโอกาสหาประโยชน์ด้วยการใช้ชื่อของคุณชายสามน่ะ พวกคุณคงอยากจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นการส่วนตัว ทางเราเองก็ไม่เข้าไปยุ่มย่ามวุ่นวายกับชีวิตส่วนตัวของนักแสดงด้วยเหมือนกัน”
กู้จิ้ิ้งอวี่ยิ้ม ปกติแล้วชายหนุ่มเป็นคนที่ไม่สนใจใคร แต่เขากลับคอยตักอาหารให้หลินเช่อ พูดคุยกับเธอ แถมยังแชทกันเป็นการส่วนตัวกับเธอทางโทรศัพท์อีกต่างหาก
ผู้บริหารหลายคนที่โต๊ะได้เห็นภาพดังกล่าวแล้วก็ได้แต่มองตากันไปมา นี่เป็นเรื่องน่าช็อกเอามากๆ แต่ก็เป็นสิ่งที่คาดกันเอาไว้อยู่แล้ว
ซ่งซูไห่เองก็เฝ้าดูไม่วางตา โดยเฉพาะเมื่อเธอคอยจับตามองกู้จิ้ิ้งอวี่และรำพึงขึ้นมาเบาๆ ว่า “กู้จิ้ิ้งอวี่นี่ดูใกล้ๆ แล้วหล่อมากจริงๆ เลยนะ”
“ฉันไม่ได้ตาบอดย่ะ ฉันก็เห็นเหมือนกัน” ฉินเสี่ยวหยวนพูดอย่างไม่สบอารมณ์
ซ่งซูไห่ว่า “ไม่คิดเลยนะว่านังเด็กหลินเช่อนั่นจะโชคดีขนาดนี้ ดูเอาสิว่าเขาคุยกันสนุกสนานขนาดไหน…ฉันละสงสัยจังว่ากู้จิ้ิ้งอวี่เกิดมาติดใจอะไรแม่เด็กคนนี้เข้า จริงๆ นะ…”
ฉินเสี่ยวหยวนนิ่งฟัง ทั้งที่ตอนนี้เนื้อตัวเธอร้อนรุ่มราวกับสุมไฟ
สายตาของใครต่อใครรอบตัว ดูจะพากันมองมาทางเธอราวกับเป็นตัวตลก
ยิ่งเมื่อถูกย้อนด้วยคำพูดของตัวเองเข้าด้วย ในใจของฉินเสี่ยวหยวนก็ยิ่งพลุ่งพล่าน
เมื่อได้เห็นหลินเช่อกลายเป็นศูนย์รวมความสนใจของงานเลี้ยงใหญ่ครั้งนี้ขึ้นมาในพริบตา เธอก็อดคิดอย่างหงุดหงิดไม่ได้ว่า หลินเช่อ เธอจงใจหักหน้าฉัน…นี่กล้ามาลองดีกับฉันใช่มั้ย หึ ฉันยังมีโอกาสเล่นงานเธออีกเยอะหรอกน่า
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ กู้จิ้ิ้งอวี่ก็เสนอตัวทันทีที่จะพาหลินเช่อไปส่งที่บ้าน
ผู้บริหารหลายคนจึงเดินไปส่งทั้งคู่อย่างมีมารยาท
นักแสดงเบอร์เล็กๆ หลายคนที่ได้มาร่วมงานเลี้ยงนี้ ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีโอกาสได้เห็นกู้จิ้ิ้งอวี่ สายตาของทุกคนจึงเฝ้ามองหลินเช่อที่ยืนอยู่เคียงข้างดาราหนุ่มคนดังด้วยความอิจฉาตาร้อน
“เห็นรึเปล่านั่น นั่นแหละซุปเปอร์สตาร์ของแท้เลยละ เฉพาะทีมผู้ติดตามด้านหลังก็มากพอๆ กับทีมงานทั้งกองถ่ายแล้ว เจ๋งเป็นบ้าเลย” ใบหน้าที่ระบายไปด้วยความริษยาของหลายคนหันไปมองหลินเช่อ ที่มีโอกาสได้เป็นส่วนหนึ่งของคนกลุ่มนั้น