เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 235
หลินเช่อยิ้มตอบอย่างอ่อนหวานไม่แพ้กัน พิธีกรจึงยิ้มและถามต่อทันที “อันที่จริง ทั้งฉินหวานหว่านแล้วก็หลินเช่อ พวกคุณทั้งคู่ต่างก็เคยร่วมงานกับกู้จิ้ิ้งอวี่มาแล้วด้วยกันทั้งคู่เลยนี่ครับ”
“ใช่ค่ะ” หลินเช่อว่า
พิธีกรมองหน้าเธอและซักต่อ “แล้วคุณอิจฉารึเปล่าครับเวลาเห็นฉินหวานหว่านได้เล่นละครคู่กับกู้จิ้ิ้งอวี่น่ะ เพราะเมื่อก่อนตอนที่พวกคุณร่วมงานกัน จะเป็นคุณที่ได้ยืนอยู่ในสถานะนี้นี่นา”
“แน่นอนว่าต้องอิจฉาสิคะ พี่จิ้งอวี่น่ะหล่อออกจะตาย แต่เหอเฟิงของฉันก็หล่อเหลาไม่แพ้กันหรอกนะคะ!” หลินเช่อยิ้มกว้างขณะที่พูดถึงนักแสดงนำชายที่เธอได้ร่วมงานด้วยในซีรีส์เรื่องล่าสุดนี้ ก่อนที่จะเริ่มต้นโปรโมทซีรีส์ของตัวเองอย่างแข็งขัน
ตอนนี้เมื่อเริ่มมีประสบการณ์มากขึ้นแล้ว หลินเช่อจึงเรียนรู้วิธีที่จะรับมือกับนักข่าวได้ดีกว่าเมื่อก่อนมาก ทักษะการพูดให้สัมภาษณ์ของเธอก็พัฒนาขึ้นด้วย นอกจากนี้ เธอยังสามารถหาจังหวะในการดึงเอาประเด็นการพูดถึงซีรีส์เรื่องใหม่ของเธอที่กำลังออกอากาศอยู่ มาพูดโปรโมทได้อย่างแนบเนียน
แน่นอนว่า ยิ่งได้ผ่านงานประเภทนี้หลายครั้งเข้า เธอก็ยิ่งชำนาญ
พิธีกรมองหน้าหลินเช่อ “เอาละ ถ้างั้น ก่อนหน้านี้ มันมีข่าวลือระหว่างฉินหวานหว่านกับกู้จิ้ิ้งอวี่ คุณรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง”
ทางด้านฉินหวานหว่านรีบขัดจังหวะขึ้นทันที “เอาละค่ะ เอาละค่ะ ฉันเคยบอกไปแล้วนะคะว่านี่เป็นแค่ข่าวลือน่ะ นี่พวกคุณยังอยากจะพูดถึงเรื่องนี้กันอยู่อีกเหรอคะนี่”
หลินเช่อหันไปมองฉินหวานหว่าน แล้วก็ได้เห็นว่าใบหน้าของเธอกำลังแดงระเรื่อเหมือนกำลังเอียงอาย หล่อนยิ้มขณะที่จับแขนหลินเช่อไว้ด้วยท่าทางอย่างคนที่พูดไม่ออกบอกไม่ถูกไปพร้อมกัน
“จริงรึเปล่าเนี่ย หลินเช่อ ผมรู้มาว่าคุณเป็นคนโกหกไม่เก่ง งั้นไหนคุณช่วยบอกเราหน่อยสิครับ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลินเช่อก็หันไปมองฉินหวานหว่าน เธอไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเธอควรจะมีคำตอบอะไรในเรื่องนี้หรือเปล่า
ถ้าขืนเธอพูดอะไรผิดพลาดไป มันก็จะย้อนกลับมาเล่นงานเธอได้ในอนาคต หญิงสาวจึงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบออกไปว่า “มันก็เป็นไปได้อยู่นะคะ เพราะว่าพวกเราต้องใช้เวลาถ่ายทำซีรีส์ด้วยกันอยู่หลายเดือน เราต้องเจอหน้าค่าตากันทุกวัน แล้วก็ต้องเข้าฉากด้วยกันด้วย ไอ้การจะพัฒนาความรู้สึกขึ้นมามันก็อาจเป็นเรื่องที่ง่ายมากเลยละค่ะ”
หลินเช่อให้คำตอบคลุมเครือเช่นนี้ แต่พิธีกรก็ยอมที่จะเลิกเซ้าซี้เธอต่อ และหันไปหาฉินหวานหว่าน “ถ้าอย่างนั้นละก็ พวกคุณสองคนเป็นเพื่อนกันนอกจอด้วย ถ้างั้นคุณคงจะรู้เรื่องราวแล้วก็ความลับของกันและกันสินะครับ หวานหว่าน คุณเริ่มก่อนเลยดีกว่า หลินเช่อมีแฟนหรือเปล่าครับ”
ฉินหวานหว่านมีท่าทีช็อกสนิท “ว้าว นี่เราเพิ่งจะเริ่มคุยกันเท่านั้น คุณก็เล่นคำถามแรงเลยเหรอคะเนี่ย”
หล่อนยิ้มขณะหันหน้ามามองหลินเช่อ “ฉันควรจะตอบคำถามนี้ยังไงดีเนี่ย”
ดวงตาของหลินเช่อเบิกกว้าง ก็เธอไม่มีแฟนซักหน่อยนะ
จากด้านข้าง พิธีกรรีบพูดเสียงดังด้วยความประหลาดใจ “ทำไมหรือครับ ถ้าคุณไม่รู้ว่าจะตอบว่าอะไร งั้นก็แปลว่ามันมีอะไรยังไงอยู่ละสิครับเนี่ย”
“มันก็ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ” ฉินหวานหว่านรีบแก้ตัว “ที่ฉันหมายถึงก็คือ ฉันไม่ควรจะเป็นคนตอบคำถามนี้ คุณควรจะถามหลินเช่อเองเลยดีกว่าค่ะ”
หลินเช่อเหลียวมองสีหน้าพิธีกรรายการ เขามองดูเธอราวกับเพิ่งค้นพบดินแดนอันน่าตื่นใจแห่งใหม่และยิงคำถามใส่เธอทันทีว่า “หลินเช่อ คุณมีแฟนหรือครับนี่ ยินดีด้วยนะครับ ยินดีด้วย เขาเป็นใครกันครับ”
หลินเช่อหน้าแดงขึ้นมาทันตา เธอหันไปมองฉินหวานหว่าน ไม่คิดเลยว่าหล่อนจะพูดแบบนี้ออกมาจริงๆ
เพราะไม่ใช่เรื่องที่ทันคาดคิดมาก่อน ตอนนี้หญิงสาวจึงกำลังอยู่ในสภาพปั่นป่วนใจอย่างที่สุด เธอไม่รู้ว่าตัวเองควรจะตอบคำถามนี้อย่างไร
เธอทำได้เพียงแต่มองหน้าพิธีกรของรายการและยิ้มแหยๆ
จริงอยู่ว่าเธอมีผู้ชายของเธอ กู้จิ้งเจ๋อนั้นเป็นสามี แต่ความสัมพันธ์นี้เป็นสิ่งที่ไม่อาจเปิดเผยได้
หนำซ้ำ ถ้าขืนเธอตอบไปว่าเธอไม่มีแฟน แล้วถ้าหากว่าเรื่องเกิดหลุดออกไปถึงหูคนนอกในภายหลังละก็ หญิงสาวก็เกรงว่าคำพูดโกหกที่เธอตอบออกไปในวันนี้จะส่งผลร้ายกับเธอได้
เธอจะยอมรับก็ไม่ได้หรือจะปฏิเสธก็ไม่ได้อีก
สายตาของหลินเช่อกวาดมองสะเปะสะปะไปทั่ว จนเมื่อเธอได้เห็นว่าสายตาของทุกคนกำลังจ้องมองมา หญิงสาวก็กัดฟันและตอบว่า “ฉันมีแฟนเพียบเลยละค่ะ ทุกครั้งที่ถ่ายซีรีส์แต่ละเรื่องที ฉันก็เปลี่ยนแฟนที ฉันกำลังพยายามอย่างสุดเหวี่ยงที่จะจับหนุ่มหล่อในวงการบันเทิงมามัดรวมเอาไว้เพื่อที่ฉันจะได้นอนกับพวกเขาให้ถ้วนหน้าเลย เพราะฉะนั้นนะคะ บรรดาผองเพื่อนผู้กำกับและคนเขียนบททั้งหลาย ถ้าคุณมีซีรีส์ประเภทนี้อยู่ในมือละก็ อย่าลืมนึกถึงฉันซะล่ะ ตราบใดที่มีหนุ่มๆ เอ๊าะๆ รับบทในเรื่องละก็ ฉันยินดีจะลดค่าตัวให้เลยค่ะ”
“ฮ่าๆๆ” พิธีการหัวเราะเสียงดังออกมา
แต่ก็ใช่ว่าเขาจะยอมเลิกราจากประเด็นนี้ง่ายๆ ด้วยเขายังคงไล่ต้อนเธอต่อด้วยคำถามว่า “ถ้างั้นคุณก็ไม่มีแฟนจริงๆ ละสิครับ”
หลินเช่อตอบ “ไม่เลยค่ะ ไม่มีใครมาจีบฉันเลยซักนิด คงเป็นเพราะพวกเขาไม่ชอบที่ฉันผอมแห้งละมั้ง อันที่จริงฉันออกจะอวบอั๋นนะคะถ้าพวกคุณได้เห็นฉันตอนแก้ผ้าละก็”
คำพูดก๋ากั่นของหลินเช่อทำให้ทุกคนพากันหัวเราะครืนอีกรอบ
แต่ถึงกระนั้น หญิงสาวก็ยังอดกังวลไม่ได้ แต่ก็พยายามปลอบตัวเองอยู่ในใจด้วยการคิดว่า ก็พิธีกรถามถึงแฟนหนุ่มนี่นา
มันก็จริงนี่ที่ว่าเธอไม่มีแฟนน่ะ
กู้จิ้งเจ๋อเป็นสามีต่างหาก เขาไม่ใช่แฟนซักหน่อย
หลินเช่อคิดว่าถ้าหากเรื่องของเธอกับกู้จิ้งเจ๋อถูกเปิดเผยขึ้นมาวันใด เธอก็จะใช้ข้ออ้างนี้นี่แหละ
ฉินหวานหว่านยังคงยิ้มพลางมองดูเธอ เมื่อรายการจบลง เธอก็รีบหันมาพูดว่า “หลินเช่อ ฉันขอโทษนะ เมื่อกี้อยู่ๆ พิธีกรก็ถามขึ้นมาฉันเลยลนลานไปหมด แต่โชคดีนะที่ไม่ได้หลุดปากออกไป แล้วเธอเองก็รับมือได้เสียด้วย”
“ไม่เป็นไรหรอก” หลินเช่อตอบสุภาพ “ถึงยังไง ฉันก็ไม่ได้มีแฟนอยู่แล้วตั้งแต่แรกนั่นแหละ”
“ไอ้หยา ถ้างั้นแล้วความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับกู้จิ้ิ้งอวี่นี่มันยังไงกันแน่ล่ะจ๊ะเนี่ย” ฉินหวานหว่านยิ้มพลางพยายามส่งสายตารู้ทัน
หลินเช่อตอบ “เรื่องนั้นเธอเข้าใจผิดไปเอง กู้จิ้ิ้งอวี่น่ะชอบพล่ามเรื่องไร้สาระแล้วก็สร้างปัญหาไปเรื่อยนั่นแหละ”
“เอาละ เอาละ ตัวเธอเองก็รู้อยู่แก่ใจนั่นแหละนะว่าจริงหรือไม่จริง ฉันจะไม่ขอยุ่งละ แต่ถ้าหากว่าเรื่องนี้หลุดออกไป มันก็น่าจะทำให้เธอกับเขายิ่งดังไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมเธอสองคนถึงไม่ยอมเปิดเผยเรื่องนี้กันล่ะ หรือว่ามันมีนอกมีในอะไรมากกว่านี้อีก”
“ก็เพราะว่าเราไม่ได้เป็น…” หลินเช่อชักรำคาญ
ฉินหวานหว่านขัดขึ้น “ช่างเถอะ ถ้าเธอไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ ฉันก็จะไม่ถามแล้วละ อย่าห่วงไปเลย ต่อให้ในวันข้างหน้าฉันก็ไม่บอกใครหรอก เธอกับกู้จิ้ิ้งอวี่ก็ออกเดตกันไปตามสบายก็แล้วกัน ฉันจะเก็บเงียบไว้เลย แต่ไม่ช้าก็เร็ว พวกเธอสองคนก็ต้องประกาศเรื่องความสัมพันธ์นี้ให้คนอื่นได้รู้อยู่ดีนั่นแหละ เอาไว้ให้พวกเธอประกาศเสียก่อน ถึงตอนนั้นฉันค่อยแสดงความยินดีกับเธอแบบออกหน้าออกตาก็แล้วกันนะจ๊ะ”
“ฉันไม่ได้…ช่างเถอะ ฉันจะไม่อธิบายอะไรอีกแล้ว ยิ่งพูดก็ยิ่งเละเทะไปหมด”
หลังจากแยกจากฉินหวานหว่าน อวี๋หมินหมิ่นก็เดินเข้ามาหาและถามว่า “เกิดอะไรขึ้นกับแม่นั่นน่ะ ทำไมอยู่ๆ หล่อนถึงได้เจ๋อพูดเรื่องนี้ขึ้นมา”
หลินเช่อตอบ “ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ”
ทางด้านหลังของเธอ เฉินโยวหรานเอ่ยว่า “นี่ยังไม่ชัดอีกรึไงล่ะ แม่นั่นน่ะตั้งใจทำให้หลินเช่อดูแย่น่ะสิ ทำไมฉันถึงได้รู้สึกว่าหล่อนไร้มารยาทเอามากๆ เลยนะ อยู่ๆ ก็มีพูดเรื่องที่ทำให้เธอต้องตกที่นั่งลำบากแบบนี้ ยิ่งหล่อนเห็นเธออึกอัก ไม่รู้ว่าจะตอบคำถามยังไง หรือหลุดปากพูดอะไรที่ไม่สมควรออกมาเพราะว่าวิตกกังวลใจ หล่อนก็จะยิ่งมีความสุข”
หลินเช่อมองออกไปด้านนอกแล้วสูดหายใจเข้าลึก “ช่างเถอะ”
อวี๋หมินหมิ่นว่า “ไม่เป็นไรหรอก ถึงยังไงเธอก็รับมือได้ดีทีเดียว หลินเช่อ นี่ช่วงนี้เธอทำได้ดีมากเลยนะ ความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์ของเธอก้าวหน้าขึ้นเยอะเชียว”
“ก็เพราะว่าฉันถูกบังคับให้ต้องทำในสิ่งที่เหนือกว่าความสามารถของตัวเองน่ะสิคะ ตอนนั้นฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะต้องพูดอะไร”
เฉินโยวหรานว่า “วงการของเธอนี่มันบ้าบอจ้อจี้สิ้นดีเลยนะ อยู่ๆ เธอก็ต้องโดนคนรุมโจมตีทั้งที่ไม่ได้ไปทำอะไรซักหน่อย ยอกย้อนซ่อนเงื่อนกว่าเรื่องในออฟฟิศของเราซะอีก”
“พอเถอะ นี่เธอคิดว่ากำลังรับบทในละครประเภทซ่อนเงื่อนเฉือนคมหรือไงกันจ๊ะ” หลินเช่อหันมองเพื่อนที่ทำตัวราวกับเด็กวัยรุ่น
อีกไม่กี่วันต่อมา รายการนั้นก็ออกอากาศ
การออกอากาศทางอินเทอร์เน็ตออกจะเป็นเรื่องห้าวหาญอยู่ซักหน่อย เพราะสิ่งที่เธอให้สัมภาษณ์ออกไปจะถูกออกอากาศสดๆ ทันทีโดยไม่มีการตัดต่อ
หลังจากนั้นรายการก็ถูกพูดถึงอย่างกว้างไปทั่วอินเทอร์เน็ต
หลินเช่อขึ้นไปนั่งบนรถตู้ประจำตำแหน่ง แล้วเธอก็ได้เห็นว่าบรรดาผู้คนในโลกออนไลน์นั้นรู้สึกว่าหลินเช่อเป็นคนตลกเอามากๆ หลังจากที่ได้ยินการตอบคำถามของเธอ แม้ว่าคำตอบออกจะสัปดนมากอยู่ซักหน่อยแต่ก็เป็นความสัปดนในแบบที่ผู้คนชอบ
หลังจากนั้น รายการนี้ก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีทีเดียวในอินเทอร์เน็ต และกลายเป็นหนึ่งในตอนที่มียอดวิวสูงที่สุด เป็นรองก็แต่เพียงตอนที่กู้จิ้ิ้งอวี่มาออกรายการเท่านั้น
จากนั้นไม่นาน ทางทีมงานผู้ผลิตรายการก็โทรศัพท์มาถึงอวี๋หมินหมิ่นเพื่อที่จะขอบคุณหลินเช่อ ถ้าหากว่าไม่ใช่เพราะลีลาของหลินเช่อในคราวนี้แล้ว เรตติ้งรายการก็คงจะไม่สูงลิ่วขนาดนี้ แม้ว่าเธอจะเป็นเพียงดาราที่มาขัดตาทัพ แต่ในท้ายที่สุด เธอก็ช่วยรายการเอาไว้ได้เป็นอย่างดี
หลินเช่อไถหน้าจอขึ้นไปดูส่วนบนสุดของรายการความคิดเห็น อันเป็นที่ซึ่งแฟนๆ ของฉินหวานหว่านและแฟน ๆ ของเธอมักจะมาทะเลาะทุ่มเถียงกันอยู่เป็นประจำ แฟนๆ ของหลินเช่อโพสต์อย่างยิ้มย่องว่าคราวนี้ หลินเช่อเป็นฝ่ายกำราบฉินหวานหว่านลงได้อย่างราบคาบ ในคลิปตัวอย่างรายการ หลินเช่อก็ได้เห็นหน้ามากกว่าฉินหวานหว่าน และในระหว่างการถ่ายทำรายการ หลินเช่อก็ได้ออกกล้องมากกว่าอีกอยู่ดี ส่วนในเรื่องของการพูดคุยในรายการ พวกเขาก็บอกว่าเรื่องที่หลินเช่อพูดนั้นน่าตื่นเต้นกว่า และหลินเช่อก็ดูเป็นธรรมชาติอย่างมากด้วย