เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 260
กู้จิ้งอวี่ว่า “เอาละ ในเมื่อเธอรู้ตัวดีแล้ว งั้นฉันจะไม่อ้อมค้อมละนะ”
เมื่อหลินเช่อได้ยินกู้จิ้งอวี่พูดเช่นนี้ เธอก็จ้องหน้าเขาเขม็ง “คุณนี่ทำตัวไม่เหมือนคนอื่นเลยนะคะ ในเวลาแบบนี้คุณควรจะให้กำลังใจฉัน แล้วก็บอกฉันว่ายังพอมีหวังสิคะ”
“แต่เฝ่ยหรานน่ะทรงอิทธิพลออกขนาดนี้ จะให้ฉันโกหกได้ยังไงกันเล่า”
“พอเลยค่ะ คุณน่ะทำมิตรภาพของเราล่มสลายหมดแล้ว ฉันจะไม่สนใจคุณอีกต่อไปแล้ว”
แต่ถึงจะพูดแบบนั้น ลึกๆ ลงไปหลินเช่อก็เข้าใจดีว่ามันแทบเป็นไปไม่ได้สำหรับเธอเลยในวันนี้ที่จะได้รางวัล
ในที่สุดก็มาถึงการประกาศรางวัลใหญ่
เมื่อการแสดงบนเวทีจบลงอีกรอบ พิธีกรก็เชิญผู้ประกาศรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในคืนนี้ขึ้นมา
มู่เฝ่ยหรานได้รับการเสนอชื่อจากละครพีเรียดเรื่องราวในรั้ววัง หลินเช่อได้รับการเสนอชื่อจากละครยุคปัจจุบัน แล้วก็ยังมีละครสายลับและละครชีวิตอีก ภาพของนักแสดงหญิงทั้งสี่ที่ได้รับการเสนอชื่อถูกตัดสลับไปมา พร้อมเสียงพิธีกรที่กึกก้องอยู่ในห้องจัดงาน
เมื่อประกาศถึงชื่อมู่เฝ่ยหราน ภาพบนจอก็ฉายให้เห็นถึงเส้นทางบันเทิงของเธอนับตั้งแต่ต้นจนกระทั่งได้เป็นราชินีของวงการ และจบลงที่ความสามารถทางการแสดงของเธอ ทั้งหมดนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การเดินทางของมู่เฝ่ยหรานนั้นก้าวขึ้นมาจากที่ไม่มีอะไรและสมควรได้รับการยกย่องโดยแท้
เมื่อถึงตาหลินเช่อ ภาพบันทึกเกี่ยวกับการทำงานของเธอมีอยู่น้อยมาก เสียงบรรยายเรียบเรื่อยพูดถึงที่มาของเธอว่า มาจากนักแสดงตัวรองโนเนมคนหนึ่ง ก่อนที่จะกลายเป็นดาราที่ทุกคนต่างพากันกล่าวขวัญถึง และได้กลายเป็นนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมในที่สุด ภายในเวลาเพียงปีเดียว หลินเช่อก็ได้แสดงให้ทุกคนเห็นว่า การโด่งดังขึ้นมาในชั่วข้ามคืนนั้นเป็นอย่างไร พวกเขาตั้งตารอที่จะได้เห็นผลงานการแสดงจากเธอมากขึ้นและฝีไม้ลายมือที่ดีขึ้นในวงการบันเทิงนี้
หลินเช่อมองดูภาพวีดิทัศน์ที่ฉายแล้วก็รู้สึกว่าวันนี้เธอโชคดีเหลือเกิน นี่เป็นสิ่งที่ตัวเธอในอดีตไม่เคยคิดฝันเลยว่าจะได้มาถึง
ไม่เสร็จสิ้น ก็ได้เวลาประกาศผล
“ด้วยเหตุนี้ รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม แพนด้า ทีวี อวอร์ดประจำปีนี้จึงตกเป็นของ…”
“มู่เฝ่ยหราน!”
เป็นไปตามคาดโดยไม่ต้องสงสัย
มู่เฝ่ยหรานยืนขึ้นและน้อมรับคำยินดีชื่นชม เธอยิ้มและเดินขึ้นเวที
หลินเช่อที่นั่งอยู่จึงรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาเล็กน้อย
แม้ว่าจะรู้อยู่แล้วว่าคงไม่ใช่เธอ แต่หญิงสาวก็ยังอดผิดหวังไม่ได้อยู่นั่นเอง
เพราะว่าได้รับการเสนอชื่อ นั่นจึงหมายความว่าเธอมีหวัง เมื่อพลาดไปเธอจึงอดเสียใจไม่ได้ หลินเช่อเงยหน้าขึ้นมองมู่เฝ่ยหรานที่กำลังกล่าวสุนทรพจน์อย่างคล่องแคล่วอยู่บนเวที ด้วยความที่คว้ารางวัลมาแล้วนับไม่ถ้วน ทำให้ท่าทีของเธอดูสบายๆ สีหน้าก็เรียบเฉยปราศจากความตื่นเต้นดีใจ
หลินเช่อนั่งนึกสงสัยไปว่า ตัวเธอเองจะมีวันเป็นเหมือนมู่เฝ่ยหรานที่ชีวิตเต็มไปด้วยความสำเร็จมากมายเช่นนี้ได้หรือไม่
การเดินทางของเธอเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น
บางครั้ง แฟนคลับก็ไม่ได้มีความหมายอะไร ความนิยมชมชอบที่เป็นสิ่งชั่วคราวก็ไม่ได้สำคัญนัก การจะรักษาชื่อเสียงโด่งดังเอาไว้ได้นานข้ามปีอย่างมู่เฝ่ยหราน หมายความว่าเธอจะต้องเป็นนักแสดงที่มีความสามารถอย่างแท้จริงต่างหาก
แล้วฉินหวานหว่านที่นั่งอยู่ข้างหน้าก็หันมาพูดกับหลินเช่อว่า “หลินเช่อ แค่ได้รับการเสนอชื่อก็เท่ากับได้พิสูจน์ความสามารถของเธอแล้วละนะ อย่าไปใส่ใจเลย ครั้งนี้เธออาจไม่ชนะ แต่คราวหน้าเธอจะต้องคว้ารางวัลได้แน่จ้ะ”
หลินเช่อยิ้ม “ขอบคุณสำหรับความปลอบใจนะจ๊ะ ไม่เป็นไรหรอก ฉันรู้อยู่แล้วว่าไม่มีทางได้แน่ๆ สิ่งสำคัญก็คือฉันได้มาเป็นส่วนหนึ่งของรางวัลนี้นี่แหละ”
“ถูกต้อง แค่ได้รับการเสนอชื่อฉันก็อิจฉาเธอแล้วละเนี่ย” ฉินหวานหว่านพูดพลางยิ้มหวาน
ดวงตาหลายคู่พากันหันมามองเธอราวกับอยากจะพูดว่าหลินเช่อไม่มีความสามารถ เป็นเพียงไม้ประดับในการแข่งขันวันนี้เท่านั้น
หลินเช่อที่ในตอนแรกก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก แต่ภายใต้สายตาเช่นนี้ หญิงสาวก็เริ่มจะรู้สึกหดหู่ใจขึ้นมาบ้างเหมือนกัน
เธอจะชนะหรือไม่ แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกเขาล่ะ
ฉินหวานหว่านที่ดูจะสังเกตเห็นสายตาที่มองมาเช่นกัน ก็หันกลับมาปลอบเธอต่อว่า “ไม่เป็นไรนะ หลินเช่อ พวกนี้ก็เป็นแบบนี้แหละ พวกนี้น่ะไม่ชอบช่วยเหลือคนยามยาก แต่ชอบไล่ซ้ำเติมมากกว่า วงการนี้ก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่เหรอจ๊ะ อย่าไปสนใจพวกเขานักเลย”
หลินเช่อฝืนยิ้ม “ใช่ อยากมองก็เชิญมองไปเถอะ ฉันคิดว่าตัวเองตอนนี้ก็ยังดีกว่าตอนที่หาบทอะไรเล่นไม่ได้สมัยเข้าวงการใหม่ๆ น่ะ”
“ใช่แล้ว”
บนเวที รางวัลยังถูกมอบออกไปไม่หยุด
หลังจากผลรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม และรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมถูกประกาศเสร็จสิ้นแล้ว เสียงพิธีกรก็ดังขึ้นอีกครั้ง “ลำดับต่อไป เป็นการประกาศผลผลโพลออนไลน์ในตำแหน่งคิง ออฟ แฟชั่น นักแสดงหญิงและชายที่ได้รับความนิยมมากที่สุด การโหวตออนไลน์เพิ่งจะสิ้นสุดลงเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมานี้เอง และตอนนี้ทุกคนก็จะได้เห็นการนับจำนวนผลโหวตล่าสุดในทันทีนะครับ”
“ตลอดช่วงเวลาหนึ่งเดือนที่เราให้ลงคะแนนเสียงออนไลน์นี้ ในที่สุดชาวเน็ตหลายล้านคนของเราก็ได้ช่วยกันเลือกคิง ออฟ แฟชั่นของเราออกมาแล้วในคืนนี้”
แล้วบนหน้าจอก็แสดงตัวเลยจำนวนคะแนนโหวตขึ้นมา
บนนั้นมีชื่อของหลินเช่อด้วย และเห็นได้ชัดว่าคะแนนโหวตของเธอก็สูงกว่าคนอื่นๆ ทุกคน
พิธีกรบนเวทีหันมา ยิ้มให้และพูดว่า “ขอแสดงความยินดีกับคิง ออฟ แฟชั่นในปีนี้ นักแสดงนำหญิงยอดนิยมเป็นของหลินเช่อครับ!”
บรรดาสายตาแสดงความสมเพชทั้งหลายในงานพลันเปลี่ยนเป็นประหลาดใจระคนริษยาทันควัน แต่ถึงอย่างไร ตัวเลขผลโหวตของแพนด้าทีวีเฟสติวัลก็ไม่เคยเป็นของปลอม เป็นเธอที่ได้รางวัลจริงๆ
กู้จิ้งอวี่กระทุ้งสีข้างหลินเช่อ “เอ้า ขึ้นไปรับรางวัลสิ”
หลินเช่อตัวแข็งทื่อ และก่อนที่จะทันได้พูดอะไร เธอก็ลุกขึ้นอย่างขัดเขิน
เธอมัวสนใจแต่รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมเพียงอย่างเดียว เพราะไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้รับการเสนอชื่อ จนกระทั่งเธอลืมส่วนของการประกาศผลรางวัลนี้ไปสนิทใจ
แต่ถึงกระนั้น เธอก็ไม่ทันฉุกคิดถึงรางวัลนี้อยู่ดีนั่นเองเพราะมีนักแสดงมากมายหลายคนเหลือเกินที่ได้รับการเสนอชื่อ และเธอก็ไม่คิดว่าตัวเองจะมีโอกาสได้ เพราะเธอก็ไม่ได้มีแฟนคลับหนาแน่นอะไรนัก
ตอนนี้เธอจึงดูงงๆ ไปหมดจนน่าขัน
เธอก้าวขึ้นแท่นไม้ไปหยิบรางวัล และยังคงไม่เชื่ออยู่นั่นเองว่าเธอเป็นผู้ชนะ
ที่ด้านล่าง มู่เฝ่ยหรานหัวเราะหึและพูดว่า “ฉันไม่คิดเลยว่าจะเป็นหลินเช่อ แต่มันก็สมเหตุสมผลอยู่ เขาได้ออกรายการเยอะแยะในช่วงนี้ แล้วก็ยังเป็นคนดูสดใสน่ารักอยู่เสมอ เป็นคนที่เหมาะกับการไปออกรายการวาไรตี้ แล้วในอินเทอร์เน็ตก็ชอบเธอกันมากด้วย”
ฉินหวานหว่านที่นั่งอยู่ข้างๆ พูดว่า “ใช่ค่ะ หลินเช่อเป็นคนที่โดดเด่นสะดุดตาจริงๆ”
ไม่ค่อยจะมีใครมองหลินเช่อในแง่ดีนัก เพราะเธอเริ่มต้นการเป็นดาราดังได้ไม่ค่อยดี และมีชื่อเสียงขึ้นมาเพราะเหตุบังเอิญโดยแท้ ไม่ใช่ลักษณะดาราที่บรรดาบริษัททั้งหลายจะชื่นชมนัก แล้วเธอเองก็ไม่ค่อยสนใจประจบประแจงใครเพื่อใช้เส้นสาย
ในขณะที่ฉินหวานหว่านนั้นแตกต่างออกไป นับตั้งแต่เริ่มต้นงานในวงการแสดง ทางบริษัทก็มุ่งมั่นตระเตรียมเธอให้พร้อมสำหรับการเป็นนักแสดงชั้นนำ ทำให้ฉินหวานหว่านโด่งดังขึ้นมาทันทีที่เธอเริ่มต้นทำงาน ว่ากันว่าเธอเป็นดาราที่ดูสวยที่สุดเมื่อไม่ได้แต่งหน้า และทรงอิทธิพลมากที่สุดด้วย
ฉินหวานหว่านหน้าตึงขึ้นมาทันที เธอหันไปมองหลินเช่อที่กำลังก้าวลงจากเวที
ใครๆ ต่างก็พากันแสดงความยินดีกับหลินเช่อ และหญิงสาวก็เข้าไปหาผู้คนที่ร้องเรียกเธอ
หลินเช่อยิ้มและตอบรับคำพูดของแต่ละคนเป็นอันดี จนมือที่ถือถ้วยรางวัลอยู่เริ่มที่จะชื้นเหงื่อ
จนกระทั่งได้นั่งลงแล้วนั่นแหละ หลินเช่อจึงจะเริ่มได้สติกลับคืนมา เธอบอกว่า “นี่ทำไมฉันถึงได้เป็นฉันล่ะคะ…”
กู้จิ้งอวี่นึกขำ เขาหยิกแก้มเธอและพูดว่า “ยัยบ๊องเอ๊ย ก็เพราะว่าเป็นเธอ มันถึงได้เป็นเธอน่ะสิ คนที่โหวตทางออนไลน์เป็นคนเลือกเธอ แล้วเธอมาถามว่าทำไมถึงเป็นเธอแบบนี้ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ”
เมื่องานเลี้ยงหลังงานประกาศผลเริ่มต้น อาหารถูกลำเลียงออกมาเสิร์ฟ หลินเช่อที่เพิ่งนั่งพักได้เดี๋ยวเดียวก็ได้รับโทรศัพท์จากกู้จิ้งเจ๋อ