เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 272
กู้จิ้งเจ๋อชะงักและมองหน้าหลินเช่อ
หลินเช่อโพล่งออกมาโดยไม่ได้คิดอะไร และตอนนี้เธอก็เริ่มที่จะนึกเสียใจแล้ว ทำไมเธอถึงต้องพูดเรื่องโม่ฮุ่ยหลิงขึ้นมาตอนนี้ด้วยนะ
แต่ชายหนุ่มกลับตอบเธอด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “อันที่จริงตอนที่อยู่กับโม่ฮุ่ยหลิง ฉันไม่เคยคิดอยากจะทำอะไรกับเขาเลย แค่จับมือกันก็รู้สึกประหลาดแล้ว อย่างมากที่สุดที่เราทำก็คือจุ๊บแก้มกันสองสามครั้งเท่านั้น และเขาก็เป็นฝ่ายเริ่มก่อนด้วย แต่สุดท้ายอาการป่วยของฉันก็จะกำเริบขึ้นทันที”
กู้จิ้งเจ๋อพูดด้วยสุ้มเสียงแปลกใจ “ฉันไม่คิดว่าฉันจะรู้สึกอะไรกับเขา ก็เลยไม่เคยคิดอยากจะทำอะไรเขา ตอนที่ยังคบกับโม่ฮุ่ยหลิง ฉันคิดด้วยซ้ำว่าต่อให้ฉันไม่สามารถแตะต้องเขาไปได้ทั้งชีวิต ก็ไม่เป็นไร เพราะฉันไม่เคยนึกปรารถนาในตัวเขาเลย”
หลินเช่อเอียงคอมองอีกฝ่าย “นี่คุณกำลังจะบอกว่า คุณไม่เคยมีความรู้สึกอะไรแบบนั้น…กับเธอเลย…อย่างนั้นหรือคะ”
“ใช่ ฉันเองก็แปลกใจเหมือนกันนะ แต่ฉันก็ไม่เคยมีความรู้สึกแบบนั้นเลย”
หลังจากที่ได้รู้ว่า อย่างมากที่สุดที่เขาและโม่ฮุ่ยหลิงทำก็คือการจับมือและจูบแม้ว่าจะคบกันมานานหลายปี นั่นทำให้หลินเช่อรู้สึกสบายใจเป็นที่สุด
ชายหนุ่มยังเล่าต่อไป “แต่ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฉันถึงได้อยากจะเปลื้องผ้าเธอให้เร็วที่สุดทุกครั้งที่ฉันเห็นเธอ ฉันไม่อยากเสียเวลาที่จะได้อยู่กับเธอไปเลย”
หลินเช่อว่า “เฮ้ ถ้าอย่างงั้นนั่นก็เป็นปัญหาของคุณเองนะคะ คุณนั่นแหละผิดเองที่เป็นพวกหื่นกาม”
“เขาว่าคบคนเช่นไรย่อมเป็นเช่นนั้น เมื่อก่อนฉันไม่เคยเป็นแบบนี้ ตอนนี้ฉันกลายเป็นคนหื่นเมื่อมาอยู่กับเธอ เพราะฉะนั้น มันก็เป็นความผิดของเธอนั่นแหละ”
กู้จิ้งเจ๋อมองดูหลินเช่อที่มีผ้าห่มคลุมตัวเรียบร้อย เส้นกระดูกไหปลาร้าของเธอดูเด่นสะดุดตา และยังมีร่องรอยจากคืนก่อนให้เห็นบนเนื้อตัว ความรู้สึกของเขาก็ไหลบ่าเข้ามาอีกครั้ง ชายหนุ่มกลิ้งตัวเข้าไปหา และกดเธอไว้ใต้ร่างอีกรอบหนึ่ง
หลินเช่อรีบร้อง “ไม่เอานะคะ ไม่เอา กู้จิ้งเจ๋อ นี่คุณทำอะไรน่ะ ปล่อยฉัน เรายังต้องไปทำงานกันนะคะ”
“เธอต้องดับไฟที่เธอเป็นคนก่อสิ”
“ฉันทำไม่ได้จริงๆ กู้จิ้งเจ๋อ นี่มันเพิ่งจะเช้าตรู่เองนะคะ คุณ…เมื่อคืนยังไม่หนำใจคุณอีกหรือไง”
กู้จิ้งเจ๋อเองก็อดคิดไม่ได้เหมือนกันว่ามันแปลก แต่เขาก็ควบคุมตัวเองไม่ได้จริงๆ ทุกครั้งที่ได้เห็นเธอ ราวกับว่าร่างกายของเขาไม่ใช่ของเขาอีกต่อไป
หรือการที่ต้องอดทนอดกลั้นมาตลอดหลายปีมันทำให้เขาเป็นบ้าไปเสียแล้ว ทำไมเขาถึงได้ถูกกระตุ้นอารมณ์ง่ายนักนะ
“ยังไม่หนำ ฉันยังไม่หนำใจเลย ยัยตัวเล็กเอ๊ย ฉันเชื่อว่าฉันจะต้องตายคามือเธอเข้าซักวันแน่ๆ จะต้องแห้งตายเพราะเธอนี่แหละ” เขาพูดด้วยท่าทางคุกคามสุดๆ ชายหนุ่มเองก็คิดว่านี่เป็นเรื่องที่แปลกมากเหมือนกัน ปกติแล้วเขาเกลียดการทำตัวเหลวไหลแบบนี้ แต่ตอนนี้กลับโยนตัวเองเข้าใส่ปัญหาอยู่เรื่อย ไม่รู้ว่ายัยผู้หญิงตัวเล็กตรงหน้านี้ใช้วิธีอะไรดึงดูดเขากันแน่
หลินเช่อถูกคนตัวใหญ่กว่ากดเอาไว้ ถึงแม้ว่าเขาจะดูหล่อเร้าใจยังไง แต่วันนี้เธอมีธุระสำคัญต้องไปทำจริงๆ หญิงสาวจึงรีบร้องขึ้นว่า “เจ็บค่ะ เจ็บค่ะ…คุณทำฉันเจ็บนะคะ…”
กู้จิ้งเจ๋อมองอย่างแปลกใจ เขารู้ดีว่าไม่ได้ออกแรงอะไรมากมาย แต่บางทีเขาก็อาจจะลืมตัวไปก็ได้ ชายหนุ่มจึงหยุด “ไหนขอฉันดูหน่อย เจ็บตรงไหน ขอโทษที คราวหน้าฉันจะระวังให้มากขึ้น”
หลินเช่อฉวยจังหวะตอนนี้รีบกระโดดลงจากเตียง “ฉันต้องไปทำงานค่ะ นี่ก็สายแล้ว ไม่งั้นไม่รู้จะแก้ตัวว่ายังไง”
ในห้องอันมืดมิด
อวี๋หมินหมิ่นที่ถูกขังเอาไว้ที่นี่ตลอดทั้งคืนรู้สึกได้ว่าประตูห้องเปิดออก
หญิงสาวที่อยู่ในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่น เมื่อได้ยินเสียงก็รีบผุดลุกขึ้นทันที
กู้จิ้งหมิงเดินเข้ามาและได้เห็นเธอรีบยืนขึ้น เสื้อผ้าของเธอยับยู่ยี่ แต่ดวงตายังมองเขาด้วยความระแวดระวัง
เขาเดินตรงเข้ามา คิดว่าเธอน่าจะหมดฤทธิ์แล้วหลังจากที่โดนขังมาทั้งคืน
“บอกฉันมาสิว่าเธอต้องการอะไร” เขาถาม
หลังจากถูกขังเอาไว้ตลอดคืน ความเหนื่อยอ่อนทำให้อวี๋หมินหมิ่นนึกโกรธ เธอมองดูอีกฝ่ายและคิดว่า หากเป็นคนอื่นคงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ยืนอยู่ต่อหน้าท่านประธานาธิบดีเช่นนี้ แต่สำหรับเธอแล้วมันกลับกลายเป็นความโชคร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นในชีวิตของเธอมากกว่า
เธอก็แค่ใช้ชีวิตของเธอ แต่เขากลับเข้ามาวุ่นวายกับเธอโดยไม่มีเหตุผลแบบนี้ หนำซ้ำยังกล่าวหาว่าเธอมีแผนการเจ้าเล่ห์เพทุบายต่างๆ นานาอีกต่างหาก อวี๋หมินหมิ่นไม่เคยพบเจอผู้ชายที่ทั้งยโสอวดดีและมีอำนาจมากขนาดนี้มาก่อนเลย
หญิงสาวกัดฟันแน่น เงยหน้ามองกู้จิ้งหมิง “พอซักทีเถอะค่ะท่านประธานาธิบดี ใช่ค่ะ ฉันตั้งใจที่จะเข้าหาคุณเพราะมีเจตนาร้าย แค่นี้พอไหมคะกับการรับสารภาพ ฉันมีเป้าหมายลับๆ และต้องการจะข่มขู่ท่านประธานาธิบดีผู้ทรงอำนาจและสูงส่งเหลือเกิน เพราะอย่างนี้ฉันถึงพยายามหาทางเข้าใกล้คุณ ฉันพยายามบอกคุณไปแล้วตั้งแต่แรก แต่ก็ยังถูกขังอยู่ดี ว่าฉันแค่จะเอาของมาส่งเท่านั้น แต่กลับถูกจับขังเอาไว้ทั้งคืนแถมยังโดนคุณพูดจาถากถางอีกต่างหาก!”
สีหน้าของกู้จิ้งหมิงเปลี่ยนไป
หญิงสาวจ้องหน้าเขาไม่ลดละ “ใช่ค่ะ ฉันมันเป็นแค่คนตัวเล็กๆ คนธรรมดาอย่างฉันจะตายจะเป็นยังไงมันก็ไม่สำคัญเท่าสวัสดิภาพของประธานาธิบดีอย่างคุณหรอก ฉันเกิดในสลัม มีพ่อเป็นผีพนัน มีแม่ป่วยออดๆ แอดๆ แถมฉันยังต้องดูแลส่งเสียน้องชายอีก ฉันเทียบไม่ได้หรอกค่ะกับคนที่มีคนยกย่องนับถือมากมาย แถมไม่ว่าจะทำอะไรก็มีอิทธิพลต่อประเทศไปหมดแบบคุณ ฉันไม่ใช่คนสำคัญก็จริง แต่ฉันก็ยังเป็นมนุษย์คนหนึ่งนะคะ คุณจะตั้งข้อสงสัยและจับฉันขังเอาไว้โดยไม่มีหลักฐานแบบนี้ไม่ได้ คุณ…คุณมีสิทธิ์อะไรมาทำแบบนี้!”
อวี๋หมินหมิ่นมองดูบานประตูที่ปิดอยู่ และรู้ดีว่ามีคนอยู่ข้างนอก เธอเหลือบมองกู้จิ้งหมิงและบอกว่า “ปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้นะ!”
ริมฝีปากของกู้จิ้งหมิงเม้มสนิท เขายืนนิ่งไม่ไหวติง
อวี๋หมินหมิ่นจ้องหน้าเขาอย่างไม่ลดละ และตรงไปที่ประตูทันทีโดยไม่สนใจอะไรอีก
ถึงแม้ว่าเธอจะตัวเล็ก แต่ด้วยโทสะที่กำลังคุกรุ่น เธอจะไม่มีทางยอมโดนรังแกอยู่แบบนี้
กู้จิ้งหมิงขมวดคิ้ว เขาหมุนตัวไปคว้ามือเธอเอาไว้
โทสะของอวี๋หมินหมิ่นแล่นปรี่ขึ้นมาทันที เธอยกมือและตบเข้าที่ใบหน้าของเขาฉาดใหญ่
เสียงดังสนั่น
ทั้งกู้จิ้งหมิงและอวี๋หมินหมิ่นต่างก็ยืนตะลึงด้วยกันทั้งคู่
หญิงสาวตระหนกสุดขีด เธอมองหน้ากู้จิ้งหมิงและไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองเพิ่งทำลงไป…
หน้าของชายหนุ่มเกิดรอยแดงเป็นปื้นใหญ่
ผู้หญิงคนนี้…
เขากระชากตัวเธอขึ้นมา
คอเสื้อของอวี๋หมินหมิ่นถูกดึงยกขึ้น จนหญิงสาวตัวลอยอยู่บนปลายเท้า
“คุณ…ปล่อยฉันนะ…คุณ…”
แล้วคนที่อยู่ข้างนอกก็ดูจะได้ยินเสียงเอะอะที่เกิดขึ้นข้างใน
บอดี้การ์ดติดอาวุธรีบเปิดประตู และพุ่งเข้ามาในห้องอย่างรวดเร็ว
อวี๋หมินหมิ่นหวาดกลัวสุดขีด เธอหันไปมองกระบอกปืนสีดำมะเมื่อมแล้วก็ต้องชะงักจนตัวแข็ง เมื่อนึกย้อนไปว่าเธอเพิ่งตบหน้าคนที่เป็นประธานาธิบดีไปหมาดๆ
ถ้าหากว่าคนใดคนหนึ่งเกิดยิงเธอขึ้นมาตอนนี้ มันก็คงจะไม่แปลกละ
แต่ใบหน้าเย็นชาของกู้จิ้งหมิงกลับหันไปมองด้วยสีหน้าที่แทบจะไม่เปลี่ยนเลยแม้แต่น้อย และตำหนิว่า “ใครสั่งให้พวกนายเข้ามา”
บรรดาบอดี้การ์ดต่างก็ชะงัก หันมองสลับไปมาระหว่างอวี๋หมินหมิ่นและประธานาธิบดี
นี่ท่านประธานาธิบดีกำลังทำอะไรอยู่แนแน่…
เขากำลังดึงคอเสื้อผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งด้วยมือเปล่า นี่มัน…หมายความว่ายังไงกันแน่
แถมบนหน้าของท่านประธานาธิบดีนั่นยัง…