เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 278
“ไม่ใช่หรอกค่ะ ตอนนี้พี่เป็นดาราแล้วนะคะ พี่เช่อ แน่นอนว่ามันจะต้องต่างจากตอนที่พี่เป็นนักเรียนแน่ ดูคณะผู้ติดตามฉินเสี่ยวหยวนสิคะ”
เมื่อหลินเช่อได้ยินเช่นนั้น เธอก็เงยหน้าขึ้นมองเด็กสาว “เสี่ยวซิน ดาราน่ะไม่ใช่คนพิเศษที่ต้องมีคนคอยติดตามหรอกนะ ฉันอยากจะสร้างชื่อด้วยตัวเอง จัดการทุกอย่างด้วยตัวเองไปพร้อมๆ กับที่ได้รับความนิยมชมชอบจากผู้คน ไม่ว่าจะมีคนติดตามหรือไม่ นั่นมันสำหรับอวดเพื่อให้คนอื่นเห็น มันอาจจะทำให้ใครๆ นึกอิจฉาได้อยู่ซักพักนึง แต่การต้องมีคนมาคอยเดินตามเราทุกวัน มันก็น่ารำคาญอยู่นะ”
หยางหลิงซินได้ยินที่หลินเช่อพูดก็เบิกตากว้างมองอีกฝ่าย และหัวเราะออกมา “ฉันเข้าใจแล้วละค่ะ พี่เช่อ ฉันผิดเองแหละ ไม่ควรคิดแบบนั้นเลย”
“เธอไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วฉันก็ไม่ได้เทศนาเธอด้วย ฉันก็แค่อธิบายความเห็นของฉันให้ฟังเท่านั้นเอง”
“ค่ะ ค่ะฉันรู้ ฉันแค่ไม่ชินกับการได้เห็นคนติดตามฉินเสี่ยวหยวนมากๆ เท่านั้นเอง”
จากนั้นไม่นาน หญิงสาวก็ได้ยินเสียงเอะอะดังขึ้นด้านนอก แล้วพวกเธอก็ได้เห็นฉินเสี่ยวหยวนมาถึง
บรรดาคนติดตามก็พากันแห่เข้ามาด้วย ทำให้หอพักเล็กๆ แห่งนั้นแออัดไปด้วยผู้คน และสร้างความน่ารำคาญได้ไม่น้อยเลย
หลินเช่อดึงหยางหลินซิงให้นั่งลง และรอจนกว่าฉินเสี่ยวหยวนจะรื้อกระเป๋าเสร็จ ก่อนที่ผู้ช่วยของหล่อนจะออกจากห้องไป
จนกระทั่งมีพื้นที่พอที่จะให้หายใจ ฉินเสี่ยวหยวนก็เงยหน้าขึ้นมองหลินเช่อ เธอชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นยืน มองไปทางหลินเช่อ และพูดกับผู้กำกับว่า “ฉันจะเอาเตียงนั้น”
ผู้กำกับนิ่งไปเมื่อหันไปมองหลินเช่อ ก่อนจะพูดกับฉินเสี่ยวหยวนว่า “ฉินเสี่ยวหยวน เตียงนอนถูกกำหนดมาแล้ว อยู่ๆ จะมาขอเปลี่ยนแบบนี้คงไม่ดีเท่าไหร่…”
ฉินเสี่ยวหยวนบอกทันที “ตรงนั้นแสงสวย ฉันอยากได้ตรงนั้น”
ผู้กำกับหันมองสลับไปมาระหว่างหญิงสาวทั้งสองด้วยความลังเล ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี
เมื่อฉินเสี่ยวหยวนเห็นผู้กำกับยังคงมองสลับไปมา ละล้าละลังที่จะตัดสินใจเธอก็หัวเราะเสียงเย็นออกมา “ผู้กำกับคะ คุณรู้รึเปล่าว่าฉันอยู่วงการนี้มากี่ปีแล้ว และนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันยอมมาออกรายการประเภทนี้ ทางคณะผู้จัดทำก็สัญญาแล้วว่าจะดูแลฉันเป็นอย่างดี แล้วฉันก็มาที่นี่เพื่อช่วยโปรโมตภาพยนตร์ของผู้กำกับฝาน แล้วนี่แบบนี้หมายความว่ายังไงกันคะ คุณจะไม่ยอมให้ฉันเปลี่ยนเตียงงั้นเหรอ”
ฉินเสี่ยวหยวนไม่ใช่คนที่จะเอาใจง่ายเลย คนวงในต่างก็รู้เรื่องนี้ดี แล้วเธอก็เอาข้าวของของเธอไปวางตรงจุดที่เธอต้องการ โดยไม่มีใครกล้าที่จะพูดอะไร
ฉินเสี่ยวหยวนมองหน้าหลินเช่อ หลินเช่อเริ่มหงุดหงิดใจ เธอมองตอบอีกฝ่าย ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าฉินเสี่ยวหยวนจงใจหาเรื่องเธอ
ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันในงานเลี้ยงประจำปี ฉินเสี่ยวหยวนก็คอยจ้องแต่จะหาเรื่องเธอมาตลอด แต่พวกเธอก็ไม่มีโอกาสได้เจอกันอีกเลย และครั้งนี้ทั้งสองต้องมาพบกันในการถ่ายทำรายการเดียวกัน แน่นอนว่าฉินเสี่ยวหยวนไม่ยอมปล่อยโอกาสให้หลุดมือไปอย่างแน่นอน
ฉินเสี่ยวหยวนเงยหน้าขึ้นมอง ไม่มีกู้จิ้งอวี่มาคอยปกป้องหล่อนแบบนี้ อยากรู้นักว่าหลินเช่อจะมีปัญญาทำอะไรได้
หลินเช่อก็มองตอบอย่างไม่ลดละ “พี่เสี่ยวหยวนคะ ตอนนี้กล้องกำลังถ่ายพวกเราในตำแหน่งนี้อยู่นะคะ ถ้าอยู่ๆ พี่มาเปลี่ยนตำแหน่ง คนดูคงจะคิดว่ามันดูแปลกๆ”
ฉินเสี่ยวหยวนหัวเราะ “โอ๊ย นี่เธอคิดไม่ได้หรือไง พวกเขาสามารถตัดฉากนี้ออกแล้วถ่ายใหม่ได้จ้ะ มีทางแก้ตั้งเยอะแยะไป”
แต่หลินเช่อนั่งนิ่งไม่ยอมขยับง่ายๆ “ถ้าแบบนั้นก็คงจะลำบากทีมงานเปล่าๆ อย่าให้พวกเขาต้องเดือดร้อนเลยนะคะ”
“ฮ่า หลินเช่อ อย่าทำเป็นว่าเธอห่วงใยคนอื่นในขณะที่ฉันไม่สนใจเลยนะ ฉันเป็นคนถูกถ่าย เพราะฉะนั้นความรู้สึกของฉันจึงสำคัญที่สุด ถ้าฉันอารมณ์ไม่ดีละก็ ภาพที่ออกมาก็จะห่วย แบบนั้นเธอจะรับผิดชอบได้มั้ยล่ะ หืม ฉันน่ะอยู่วงการนี้มานาน ฉันรู้ดีกว่าพวกอ่อนหัดอย่างเธอมาก ไม่ต้องมาทำเป็นมึนตึงต่อหน้าฉันหรอกนะ”
ดวงตาของหลินเช่อหรี่ลงขณะมองดูฉินเสี่ยวหยวน “ในเมื่อพี่เสี่ยวหยวนพูดเองแบบนี้ ถ้างั้นในฐานะคนที่ถูกตามถ่าย อารมณ์ของฉันก็สำคัญเหมือนกันค่ะ ถ้าเราสลับตำแหน่งกัน ฉันก็คงอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่”
“นี่เธอ…”
“ก็พี่เสี่ยวหยวนเป็นคนสอนฉันเองไม่ใช่หรือคะ ฉันก็เรียนรู้จากพี่นี่แหละค่ะ” หลินเช่อพูดพลางเลิกคิ้ว
“หลินเช่อ นี่แกคิดว่าแกเป็นใคร ถึงกล้ามายอกย้อนฉันแบบนี้ ความรู้สึกของแกงั้นเรอะ แกคิดว่าความรู้สึกของแกสำคัญนักเรอะ เชอะ นี่แกคงคิดสินะว่าแกดังเท่าฉันแล้วถึงได้มาเล่น ‘นางฟ้ากรงทอง’ นี่ แกอาศัยความสัมพันธ์กับกู้จิ้งอวี่ แล้วยังจะกล้ามาทำตัวอวดดีต่อหน้าฉันอีกเหรอ”
ผู้กำกับมองดูสองสาวที่เปิดฉากทะเลาะกันทันทีตั้งแต่เดินเข้าโรงเรียนมา ส่วนตัวเขาก็ติดอยู่ตรงกลางและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
“สาวๆ ได้โปรดใจเย็นๆ ก่อนนะครับ หลินเช่อ ทำไมเธอถึงไม่…”
“ผู้กำกับคะ ฉันอาจจะเป็นดาราหน้าใหม่ แล้วฉันก็ควรจะให้ความเคารพรุ่นพี่ตามธรรมเนียม แต่ฉันไม่อยากเปลี่ยนที่จริงๆ ค่ะ”
เธอโดนฉินเสี่ยวหยวนหาเรื่องทันทีที่มาถึง ถ้าเธอยอมแพ้ในวันนี้ เธอก็จะต้องไม่พ้นโดนรังแกอีกแน่ๆ ด้วยเหตุนี้ หลินเช่อจึงรู้ดีว่า วันนี้เธอจะต้องสู้จนถึงที่สุด ไม่อย่างงั้น เธอจะอยู่ในรายการนี้ต่อไปอีกตั้งเจ็ดวันได้ยังไง
ผู้กำกับไม่คิดเลยว่าหลินเช่อจะกล้าหาญชาญชัยขึ้นมา เธอกล้าทะเลาะกับฉินเสี่ยวหยวน แถมยังพูดจาล่วงเกินฉินเสี่ยวหยวนอีกต่างหาก เขาจนปัญญาแล้วจริงๆ
“แก…หลินเช่อ นี่แกกล้าดี…”
หลินเช่อเงยหน้า “ทำไมคะ พี่เสี่ยวหยวนจะทำอะไรหรือคะ จะเลิกถ่ายรายการทั้งที่ยังโกรธอยู่แบบนี้น่ะหรือคะ”
ฉินเสี่ยวหยวนพูดไม่ออก
เธอได้รับการเลือกให้เล่นหนังด้วยการไปออดิชั่นเอง ภาพยนตร์ของกู้จิ้งอวี่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครจะมีโอกาสได้เข้าไปเล่น ถ้าภาพลักษณ์ ทักษะการแสดง และกลุ่มผู้ชมเป้าหมายไม่ใช่แล้วละก็ เธอก็ไม่มีทางที่จะได้รับเลือก ยังมีคู่แข่งที่เหมาะสมกับบทอีกหลายคนเช่นกัน แต่เธอก็โชคดีที่มาถึงเป็นคนแรก และสามารถโชว์ผลงานได้เข้าตาผู้กำกับ
มันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เธอจะคว้าบทนี้มาได้ แล้วจะให้เธอโยนมันทิ้งงั้นเหรอ
รายการเรียลลิตี้นี้ก็เพื่อเป็นการโปรโมตภาพยนตร์ ถ้าเธอไม่ยอมถ่ายต่อ แล้วเธอจะยังมีโอกาสได้ถ่ายหนังได้อย่างไร
เธอจ้องหลินเช่อเขม็งและผุดลุกขึ้นอย่างหัวเสีย ใบหน้าบิดเบี้ยวเมื่อพูดกับหลินเช่ออย่างรังเกียจที่สุดว่า “ก็ได้! งั้นรอดูก็แล้วกัน หลินเช่อ!”
เธอเปิดประตู และกระแทกเท้าปึงปังออกไป
หยางหลิงซินมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและหันไปหาหลินเช่อ
“พี่เช่อคะ…”
หลินเช่อสูดลมหายใจเข้าลึกและบอกกับเด็กสาวว่า “ไม่เป็นไร เขาไม่ถอนตัวหรอก เธอไปเถอะ ฉันจะเริ่มทำงานแล้ว”
หยางหลิงซินยังไม่หายคาใจ “แล้วพูดจาล่วงเกินเขาแบบนี้จะไม่เป็นไรหรือคะ เขามีคนติดตามมาด้วยตั้งเยอะ ฉันเกรงว่าเขาอาจจะทำอะไรที่เป็นการกลั่นแกล้งพี่ เพราะท่าทางเขาน่าจะทำได้ไม่ยากเสียด้วย”
หลินเช่อบอก “ไม่เป็นไรหรอก ทุกปัญหามีทางแก้อยู่แล้วละ”
หยางหลินซิงถามด้วยความแปลกใจ “พี่เช่อคะ ท่านประธานกู้ออกจะร่ำรวยแล้วก็ชอบพี่มากซะขนาดนั้น ทำไมพี่ถึงไม่ถอนตัวล่ะคะ ทำไมถึงยังปล่อยให้ตัวเองโดนรังแกอยู่แบบนี้”
หลินเช่อตอบ “ชอบฉันเหรอ ตรงไหนกันที่เธอคิดว่าเขาชอบฉันน่ะ เรา…เราก็ดีอยู่ แต่ว่ามันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดหรอกนะ”
“โถ ก็ท่านประธานดีกับพี่ซะขนาดนั้น”
“ใช่ เขาดีกับฉัน แต่ผู้หญิงก็ต้องมีอาชีพของตัวเองนี่นะ ใครจะรู้ว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้น จริงมั้ย เธอจะเอาความหวังไปฝากไว้กับผู้ชายไม่ได้หรอกนะ เข้าใจรึเปล่า”