เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 287
ลู่ชูเซี่ยชอบกู้จิ้งเจ๋อ
และเธอก็รู้สึกว่าไม่น่าจะมีอะไรที่กู้จิ้งเจ๋อจะไม่ชอบเกี่ยวกับตัวเธอ
วิธีคิดของเธอนั้นเรียบง่ายมาก เธอชอบเขา และต้องการที่จะตามตื๊อเขา เธอไม่เคยคิดจะลองทำแบบนี้มาก่อนในอดีตเพราะว่าโม่ฮุ่ยหลิง แต่ถึงกระนั้น ถ้าเขายังเคยชอบโม่ฮุ่ยหลิงได้ แล้วทำไมเขาถึงจะชอบเธอไม่ได้ล่ะ
อันที่จริง ไม่มีอะไรที่เข้าใจยากเลยแม้แต่น้อยว่าทำไมเธอถึงชอบเขา
ใครบ้างล่ะที่จะไม่ชอบกู้จิ้งเจ๋อ จะมีแต่ก็คนที่ไม่กล้าคิดชอบเขาเท่านั้น
หลินเช่อแต่งกายในชุดสีเหลือง และมาถึงสถานที่นัดหมายอย่างรวดเร็ว เมื่อเธอก้าวลงจากรถ เธอก็ได้เห็นว่าสถานที่แห่งนั้นถูกจัดเตรียมไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มันคือคลับขนาดใหญ่ เพดานสูงลิบ
รถจอดลง และคนที่อยู่ข้างในก็ล้วนแต่เป็นคนของกู้จิ้งเจ๋อ พวกเขาทักทายและเดินนำเธอเข้าไปด้านใน
ผู้คนที่ยืนอยู่รอบๆ บอกได้เลยว่านี่ไม่ใช่สถานที่ที่ใครสามารถเข้ามาได้ง่ายๆ มีพนักงานรักษาความปลอดภัยกลุ่มใหญ่คอยพูดใส่อินเตอร์คอมอยู่ตลอดเวลา คนทั่วไปไม่สามารถเข้าใกล้พวกเขาได้ และทุกคนก็รู้ดีว่าคนทั่วไปไม่สามารถเข้ามาในนี้ได้ด้วยเช่นกัน
กู้จิ้งเจ๋อออกมารับหลินเช่อ เมื่อเขาเห็นว่าเธอแต่งกายอย่างเป็นทางการ ก็พูดว่า “จิ้งเหยียนไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นหรอกน่า ใช่มั้ย”
หลินเช่อว่า “ไม่ได้น่ากลัวหรอกค่ะ แต่ฉันก็อยากจะให้เกียรติเธอสำหรับการนัดกันครั้งนี้ อีกอย่างที่นี่ก็ดูแพงมาก มันจะไม่หรูหราไปหน่อยหรือคะถ้าจะทานข้าวกันที่นี่น่ะ”
กู้จิ้งเจ๋อมองหน้าเธอ “นี่เป็นธุรกิจของจิ้งเหยียนน่ะ”
“…” หลินเช่ออ้าปากหวอ “โอ้”
การได้พูดคุยกับกู้จิ้งเหยียนเป็นเรื่องสนุก
ปกติแล้วกู้จิ้งเหยียนไม่ใช่คนที่เข้ากับใครได้ง่าย แต่บางทีอาจเป็นเพราะหลินเช่อรีบตัดสินเธอเร็วเกินไปก็ได้ เพราะความจริงแล้วหญิงสาวเป็นคนที่มีเหตุผลมากๆ คนหนึ่งและชอบหัวเราะไม่แพ้ใคร
ทั้งสามคนรับประทานอาหารกัน กู้จิ้งเหยียนยิ้มร่าขณะออกมายืนส่งหลินเช่อ
“พี่สะใภ้ ถ้าวันไหนเบื่อก็มาหาฉันที่นี่ได้นะคะ มาครั้งนี้ฉันคงจะอยู่ที่นี่นานหน่อย”
“จริงหรือคะ โอ้ จริงสิ คุณต้องอยู่เตรียมงานแต่งงานใช่มั้ย”
“อา…ใช่ค่ะ” กู้จิ้งเหยียนยิ้มแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก
กู้จิ้งเจ๋อจูงมือหลินเช่อและเดินออกไปพร้อมกัน
บนรถ หญิงสาวถามเขาด้วยน้ำเสียงแปลกใจว่า “ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเธอดูไม่ค่อยจะมีความสุขกับการแต่งงานเท่าไหร่เลยล่ะคะ”
“จะเป็นไปได้ยังไง ฉันไม่เห็นรู้สึกอย่างนั้นเลย” กู้จิ้งเจ๋อว่า
หลินเช่อยังแน่ใจ “เธอรู้สึกแบบนั้นจริงๆ นะคะ นี่คุณเป็นพี่ชายเธอได้ยังไงกันเนี่ย ถึงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอกำลังโกรธหรือว่ามีความสุข”
“เธอคิดว่าทุกคนเขาเป็นเหมือนเธอหรือไงล่ะ ที่มีเวลาว่างเหลือเฟือจนไปจุ้นจ้านเรื่องคนอื่นเขาไปทั่วน่ะ”
กู้จิ้งเจ๋อไม่ได้สนใจชีวิตของน้องสาวเท่าไหร่ เมื่อคิดๆ ดูแล้ว เขาก็เป็นคนที่ไม่ช่างเป็นห่วงเป็นใยใครเอาเสียเลย เขาไม่เคยสนใจเรื่องของคนอื่น
หลินเช่อว่า “ฮ่า แสดงว่าคุณก็ไม่สนใจเรื่องของฉันด้วยเหมือนกันใช่มั้ยคะ”
กู้จิ้งเจ๋อนิ่งไป ชักรู้สึกแปลกๆ เพราะเมื่อเป็นเรื่องของหลินเช่อ เขากลับรู้สึกอึดอัด เอาแต่เฝ้าห่วงใยเธออยู่ตลอดเวลา
“ก็ฉันเคยบอกแล้วไงล่ะว่าเพราะระดับสติปัญญาของเธอ ฉันก็เลยไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องคอยดูแลเธอ” เขาตอบพลางขยี้ผมคนช่างถาม
“พอเลย!”
หลินเช่อทำตาเขียวใส่เขา “แต่จิ้งเหยียนดูท่าทางจะไม่อยากแต่งงานจริงๆ นะคะ อย่าบอกนะคะว่าเธอถูกบังคับให้ต้องแต่งงานกับคนรักของเธอเหมือนเราน่ะ”
“ไม่ใช่แน่นอน” ชายหนุ่มตอบ “พวกเขารู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนไฮสคูล แต่ฉันจำได้ว่าตอนนั้นพวกเขาไม่ได้เป็นแฟนกันนะ”
“แล้วตอนนั้นพวกเขาเป็นอะไรกันคะ”
“แน่นอนว่าจิ้งเหยียนน่ะเป็นดาวโรงเรียน แล้วเธอก็ยังเป็นนักเรียนตัวท็อปของโรงเรียนด้วย ส่วนเขาเป็นพวกที่มักจะได้ที่สองอยู่เสมอ ทั้งสองคนเป็นทั้งเพื่อนและคู่แข่งกัน ฉันเดาว่าคงจะออกแนวพี่น้องน่ะนะ ที่สำคัญที่สุดก็คือลู่เป่ยเฉินน่ะออกเดตกับเพื่อนรักของจิ้งเหยียนในตอนนั้น”
“อา…แล้วพวกเขามาคบกันได้ยังไงล่ะคะ”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน มันน่าจะเกิดขึ้นตอนที่ไปอยู่ต่างประเทศนั่นแหละ”
หลินเช่อพยักหน้ารับรู้ กู้จิ้งเจ๋อว่าจึงบอกว่า “สนใจเรื่องของตัวเองแทนเรื่องของคนอื่นเถอะ”
หลินเช่อเถียง “มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ขี้สงสัยนี่คะ”
“เธอหันมาสงสัยฉันให้มากกว่านี้ก็พอแล้วละ” กู้จิ้งเจ๋อรู้สึกว่าหลินเช่อไม่ค่อยจะสนใจเขาเท่าไหร่ เธอดีกับคนอื่นมาก และปฏิบัติกับคนอื่นด้วยความยกย่องให้เกียรติ ในขณะที่เอาแต่คอยแว้ดๆ ใส่เขา
หญิงสาวถาม “สงสัยเรื่องอะไรคะ”
“ก็อย่างที่เธอสงสัยถามเรื่องของกู้จิ้ิ้งอวี่ยังไงล่ะ”
“กู้จิ้ิ้งอวี่ไม่เหมือนกันนี่คะ เขาเป็นระดับซุปเปอร์สตาร์ในอาชีพของฉัน แน่นอนว่าฉันก็ต้องอยากรู้เรื่องเขาสิคะ”
กู้จิ้งเจ๋อหน้าตึง
แต่หลินเช่อยังพูดต่อ “อีกอย่าง คุณเป็นสามีฉัน แล้วจะให้ฉันสงสัยเรื่องคุณทำไมล่ะคะ มีอะไรเกี่ยวกับคุณที่ฉันยังไม่เคยเห็นอีกหรือ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น อารมณ์ขุ่นมัวของชายหนุ่มก็หายวับไปกับตารวดเร็วพอๆ กับตอนที่มันเกิดขึ้น
เพราะคำพูดของเธอ เขาจึงรู้สึกมีชีวิตชีวา เขายกมือขึ้นโอบไหล่เธอขณะก้มลงมองผู้หญิงร่างเล็กบอบบางในอ้อมแขน บนใบหน้ามีรอยยิ้มน้อยๆ
หลินเช่อเงยหน้าขึ้นมองรอยยิ้มแสนเพอร์เฟกต์ของเขา เป็นอีกครั้งที่เธอรู้สึกลุ่มหลงในตัวผู้ชายคนนี้
สามีของเธอเป็นผู้ชายที่เธอไม่มีวันจะเบื่อได้ลง
ผู้ชายคนนี้เป็นของเธอ…
ทุกครั้งที่เธอมองดูเขา เธอจะรู้สึกถึงความภาคภูมิใจอย่างที่สุด เธอไม่รู้ว่าชาติที่แล้วเธอทำบุญมาด้วยอะไรถึงได้มาอยู่กับผู้ชายอย่างกู้จิ้งเจ๋อและเป็นภรรยาของเขาแบบนี้…
วันต่อมา หลินเช่อรีบไปถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องใหม่ของเธอกับกู้จิ้ิ้งอวี่
เมื่อเธอมาถึงกองถ่าย ผู้กำกับและนักแสดงคนอื่นๆ ก็ตรงมาทักทายเธอ
จากด้านนอก เธอมองเห็นว่าพื้นที่นั้นถูกห้อมล้อมไปด้วยบรรดาแฟนคลับจำนวนมาก ทุกคนพากันร้องตะโกนชื่อกู้จิ้ิ้งอวี่ แม้ทุกคนจะรู้ดีว่าจะไม่มีโอกาสได้เห็นเขา แต่ก็ยังคงปักหลักยืนกันอยู่ตรงนั้นไม่ยอมถอย
หยางหลิงซินตามหลินเช่อมาภายหลัง เธอมองเห็นสถานการณ์รอบๆ แล้วก็อดถามขึ้นไม่ได้ว่า “พี่เช่อคะ ทำไมกู้จิ้ิ้งอวี่ถึงได้ดังขนาดนี้ล่ะคะ”
“ก็เพราะว่าเขาหล่อน่ะสิจ๊ะ” หลินเช่อตอบ
“แต่ถ้าผู้ชายหล่อขนาดนั้นมาสนิทสนมกับพี่เช่ออย่างนี้ งั้นก็แสดงว่าพี่เป็นผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมมากเลยสินะคะ”
“อย่าไปฟังพวกข่าวซุบซิบเลยน่า ความสัมพันธ์ของเราไม่ได้มีอะไรพิเศษหรอก”
“เป็นไปได้ยังไงกันคะ ทุกคนต่างก็พูดว่ากู้จิ้ิ้งอวี่น่ะไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับใคร แต่เขากลับเข้ามาคุยกับพี่ทุกครั้งที่เจอพี่แบบนี้ แถมยังชมพี่อีกต่างหาก”
จังหวะนั้นเอง ใครคนหนึ่งที่อยู่ในกองถ่ายก็เดินเข้ามาทักทายพวกเธอ
ตอนนี้หลินเช่อทุกเป็นข่าวแทบทุกวัน ชื่อของเธอปรากฏในพาดหัวข่าวเป็นประจำ ข่าวคราวทุกอย่างเกี่ยวกับเธอไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหนต่างก็มีรายงานหลุดรอดออกมาอยู่ตลอด เธอกลายเป็นศูนย์กลางของบทสนทนาไปเสียแล้ว
ด้วยเหตุนี้ เมื่อทุกคนเห็นหลินเช่อ พวกเขาก็จะพากันเดินเข้ามาทักทาย
สายตาหลายคู่ก็พลอยจับจ้องมาที่หน้าเธอด้วย ทั้งพินิจพิเคราะห์ สงสัย และริษยา
ผู้กำกับและทีมงานคนอื่นๆ ก็สุภาพกับเธออย่างยิ่ง และบอกให้เธอไปนั่งพักผ่อนที่ห้องแต่งตัวก่อน
แน่นอนว่าเมื่อหลินเช่อเดินเข้าห้องแต่งตัวไป กู้จิ้ิ้งอวี่ก็มาถึงพอดี
เขาเดินเข้ามาและถามทันทีว่าหลินเช่ออยู่ไหน เมื่อผู้กำกับบอกว่าเธอเพิ่งเดินเข้าไปด้านใน ดาราหนุ่มก็รีบเดินตามไปทันทีโดยไม่พูดอะไรอีก
ผู้ช่วยสองสามคนของหลินเช่อได้ยินเสียง ก็รีบลุกขึ้นจัดแจงเนื้อตัวเป็นการใหญ่
“กู้จิ้ิ้งอวี่มา…พระเจ้า นี่ลิปสติกฉันไปไหนนะ”
“ไม่มีเวลาแล้วละ กู้จิ้ิ้งอวี่มาถึงแล้ว”
หยางหลิงซินหันไปมองและบอกว่า “ไม่เอาน่า เขามาหาพี่เช่อต่างหาก ไม่ใช่พวกเธอซักหน่อย”
เสี่ยวเถาว่า “เราทุกคนต่างก็ได้รับความสนใจเพราะกู้จิ้ิ้งอวี่ไม่ใช่หรือไงล่ะ ดูสิว่าทุกคนต่างกันมองเราด้วยสายตาอิจฉาริษยาขนาดไหน พวกเขาไม่มีทางได้เข้าใกล้กู้จิ้ิ้งอวี่แบบนี้แน่”