เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 305
ทั้งสองบอกลาคุณยายและเดินออกมาพร้อมกัน
รถของกู้จิ้งเจ๋อจอดรออยู่แล้ว ทั้งสองนั่งไปในรถ ไม่จำเป็นต้องนั่งรถไฟอีกแล้ว
รถขับพาทั้งคู่ไปยังเมืองหลวงของจังหวัดซึ่งมีสนามบินอยู่
ขณะมองขบวนรถที่แล่นออกไป ใครๆ ที่อยู่แถวนั้นต่างก็มองชิวซูอวิ๋นด้วยความอิจฉาที่ได้เข้าไปอยู่ในบ้านหลังใหญ่ ทุกคนล้วนรู้สึกทึ่ง
เพราะมีหลานสาวที่ดี เธอจึงได้มีความสุขในช่วงบั้นปลายชีวิตแบบนี้ หลังจากที่ต้องลำบากตรากตรำมาโดยตลอด
หลินเช่อขึ้นเครื่องพร้อมกู้จิ้งเจ๋อ บนเครื่องบิน หญิงสาวเอาแต่จ้องมองภาพถ่ายที่นำติดตัวมาด้วย
กู้จิ้งเจ๋อมองดูเธอและถามว่า “สุสานของแม่เธออยู่ที่ไหน”
หลินเช่อตอบ “สุสานหนานซานน่ะค่ะ ฉันไปที่นั่นปีละสองครั้ง”
“คราวหน้าพาฉันไปด้วยนะ” เขาบอกเธอ
หลินเช่อเงยหน้า จ้องมองอีกฝ่ายนิ่งนาน
เขาจึงถามเธอว่า “เธอแต่งงานกับฉันแล้ว ฉันไม่ควรจะไปเยี่ยมแม่ยายหรือไงกัน”
เขาไม่เคยยอมรับคนในบ้านตระกูลหลินว่าเป็นพ่อตาของเขา
แต่เมื่อเป็นแม่ของหลินเช่อ กลับไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้มากความ
เขามองภาพถ่ายในมือเธอแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่า แม่ของหลินเช่อดูไม่เหมือนตามข่าวลือที่พูดกันเลยซักนิด น่าจะต้องมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้เรื่องที่ว่ากันว่าเธอเป็นภรรยาน้อยของคนอื่นแพร่กระจายไปแบบนี้
เมื่อลงจากเครื่องบิน ทั้งสองก็ได้รับข่าวจากบ้านตระกูลกู้ พวกเขากำลังเตรียมงานวิวาห์ให้กู้จิ้งเหยียนและต้องการให้กู้จิ้งเจ๋อกลับบ้าน
ชายหนุ่มหันมาบอกกับเธอว่า “ไปที่บ้านตระกูลกู้เลยก็แล้วกัน ฉันคิดว่าคืนนี้เราน่าจะค้างกันที่นั่น”
“โอ้” หลินเช่อตอบ หลังจากทำตัวดื้อดึงมาหลายวันจนทำให้เขาต้องตามเธอไปไกลถึงเมืองเล็กๆ โน่น หลินเช่อนึกกังวลว่าเธอทำให้เขาต้องเสียเวลาอันมีค่าไป
แต่ท่าทางชายหนุ่มดูจะไม่ได้ว่าอะไร เธอจึงได้แต่เงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างลุแก่โทษ
ในขณะเดียวกัน ที่บ้านตระกูลกู้
ลู่ชูเซี่ยมาเยี่ยมบ้านตระกูลกู้ เมื่อตระกูลลู่และตระกูลกู้กำลังจะเป็นทองแผ่นเดียวกัน ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา หญิงสาวจึงใช้เวลาอยู่ที่บ้านหลังนี้ค่อนข้างบ่อย แต่น่าเสียดายที่กู้จิ้งเจ๋อไม่อยู่
กู้จิ้งเหยียนและมู่หว่านฉิงเดินออกมาพร้อมกัน และได้เห็นหญิงสาวมาที่นี่อีกครั้ง มู่หว่านฉิงจึงหันไปพูดกับบุตรสาวว่า “ชูเชี่ยกับเป่ยเฉินนี่สนิทกันมากเลยนะ น้องสาวถึงได้เอาใจใส่งานแต่งงานของพี่ชายขนาดนี้”
กู้จิ้งเหยียนไม่อยากบอกมารดาว่าเป็นเพราะหล่อนสนใจกู้จิ้งเจ๋อต่างหาก
มู่หว่านฉิงไม่ได้รังเกียจอะไรลู่ชูเซี่ย และรู้ดีว่าหญิงสาวรักพี่ชาย เธอเพียงแต่ไม่ค่อยพิสมัยว่าที่ลูกเขยนัก เขากำลังจะแต่งงานอยู่เร็วๆ นี้แล้ว แต่กลับโผล่หน้ามาให้เห็นเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น
“ดูจะเอาใจใส่งานแต่งมากกว่าพี่ชายซะอีก” มู่หว่านฉิงว่า
กู้จิ้งเหยียนยิ้ม “เขาเป็นทายาทตระกูลลู่ ก็ต้องงานยุ่งกว่าชูเซี่ยสิคะ อีกอย่างเรื่องพิธีอะไรก็เตรียมการเสร็จหมดแล้วด้วยค่ะ”
มู่หว่านฉิงพูดต่อไป “ลูกคบกับเป่ยเฉินก็ดีจ้ะ ลูกสองคนเหมาะสมกันดี พื้นเพครอบครัวเขาก็ดี ตัวเขาเองก็เป็นคนดี ถึงเขาจะดูเหลาะแหละไปหน่อย แต่ข้อดีก็คือเขามีธุรกิจเป็นของตัวเอง จะได้ทำงานด้วยกันแล้วก็ช่วยเหลือกันในอนาคต แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ค่อยเอาใจใส่ลูกเลยนี่จ๊ะ เพราะแบบนี้แม่ถึงได้เป็นห่วง”
กู้จิ้งเหยียนว่า “แม่คะ หนูไม่จำเป็นต้องมีใครมาคอยเอาใจใส่หรอกค่ะ นี่เป็นแค่งานแต่งงาน เราต่างคนต่างก็งานยุ่งด้วยกันทั้งคู่ ซึ่งเราก็โอเคกับเรื่องนี้ หนูไม่ได้เป็นเมียประเภทเป็นแม่บ้านอยู่บ้านที่ต้องมีคนคอยอยู่ด้วยตลอดเวลา”
มู่หว่านฉิงว่า “เราเป็นผู้หญิงไม่ควรจะทำตัวหัวแข็งแบบนี้นะจ๊ะ”
กู้จิ้งเหยียนยังไม่ยอมแพ้ “หนูชอบที่ตัวเองเป็นแบบนี้นี่คะ จะมานั่งเบื่ออยู่ที่บ้านเฉยๆ ทำไม หนูชอบทำงาน”
มารดาถอนหายใจและหันมองลูกสาว
กู้จิ้งเหยียนมองตามผู้เป็นแม่ที่เดินออกไปและหันไปหาลู่ชูเซี่ย
จริงอยู่ที่ว่าน้องสาวดูจะเอาใจใส่มากกว่าพี่ชาย
กู้จิ้งเหยียนคิดว่านี่เป็นการแต่งงานที่เธอปรารถนา เพราะฉะนั้นเธอจะโทษใครไม่ได้ และเธอก็ไม่ควรที่จะทำแบบนั้นด้วย
อันที่จริงทั้งเธอและลู่เป่ยเฉินต่างก็ถูกยุให้คบหากันมาตั้งแต่สมัยเรียนไฮสคูลแล้ว
แต่ตอนนั้นเป็นเพราะเธอและเขาต่างก็พยายามแข่งขันกันเป็นนักเรียนอันดับหนึ่ง
และกู้จิ้งเหยียนก็ไม่ใช่คนที่จะยอมแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็นง่ายๆ เธอมักจะคอยขัดขวางลู่เป่ยเฉินมาโดยตลอด นับตั้งแต่แรกก้าวเข้ามาในโรงเรียนจนกระทั่งเรียนจบ ลู่เป่ยเฉินต้องเป็นที่สองมาตลอดสามปีที่อยู่ในโรงเรียน
ตอนนั้นเธอกับเขาเป็นทั้งมิตรและศัตรู เธอ ฟู่เฉินซี ลู่เป่ยเฉิน หร่วนชิงซาน และกัวจวิ้นเหยียน พวกเธอห้าคนมักไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเวลาเหมือนเงาตามตัวกันและกัน แต่ไม่มีใครเลยที่รู้ถึงความรู้สึกของเธอที่มีต่อลู่เป่ยเฉินจนกระทั่งเกิดเรื่องขึ้น…พื้นเพครอบครัวของฟู่เฉินซีไม่ค่อยดีนักและมักถูกบ้านตระกูลลู่ดูแคลนอยู่บ่อยๆ ด้วยเหตุนี้ เธอจึงปลีกตัวออกมาจากลู่เป่ยเฉิน เพื่อที่จะให้กัวจิ้งเหยียนได้มีอนาคตกับเขา
มีบางคนบอกกับเธอว่า “กู้จิ้งเหยียน เธอนี่มันโง่จริงๆ เชียว ถ้าเธอรู้ตัวว่าอยากอยู่กับลู่เป่ยเฉิน แล้วทำไมเธอถึงไม่รู้จักยอมแพ้เค้าบ้างตอนอยู่ที่โรงเรียนน่ะ ให้เขาได้เป็นหัวหน้าบ้างสิ นี่พอแต่งงานกันไป เขาจะต้องจำได้แน่ว่าสมัยที่เรียนอยู่สามปีเธอกดขี่เขายังไงบ้างน่ะ”
อีกคนหนึ่งบอกเธอว่า “หลังแต่งงานไปแล้วนะจิ้งเหยียน เธอจะต้องเลิกทำตัวแก่งแย่งแข่งขันกับเขาได้แล้ว ต้องหัดเคารพสามีให้มากกว่านี้ล่ะ”
กู้จิ้งเหยียนรู้ดีว่าเธอและลู่เป่ยเฉินเหมาะสมกันยิ่งกว่ากิ่งทองใบหยก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบนเตียง การทำงานหรือว่าการใช้ชีวิต แต่…ในแง่ของความรู้สึก ทั้งเธอและเขาต่างก็เป็นคนหัวแข็งไม่ยอมแสดงความอ่อนแอให้ใครเห็นด้วยกันทั้งคู่
กู้จิ้งเหยียนจึงได้แต่ยิ้มให้ใครต่อใครที่พร่ำบอก และบอกกับพวกเขาว่าเธอก็เป็นของเธอแบบนี้นี่แหละ แต่เธอก็ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใครไม่ว่าเธอจะรู้สึกอ่อนแอแค่ไหนก็ตาม ว่าผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเธอ ในหัวใจเขา ผู้หญิงที่ดีที่สุดยังคงเป็นฟู่เฉินซีมาโดยตลอด และกู้จิ้งเหยียนก็ไม่เคยบอกเรื่องนี้กับเพื่อนรักของเธอ
กู้จิ้งเหยียนหันไปมองลู่ชูเซี่ย
“ชูเซี่ย ฉันว่าเธอควรจะยอมแพ้ได้แล้วนะ ฉันไม่คิดว่าพี่ชายรองจะหวั่นไหวอะไรกับเธอหรอก เขาหัวแข็งเกินไป”
แต่ลู่ชูเซี่ยตอบกลับว่า “ฉันก็หัวแข็งเหมือนกัน ฉันอยากจะเห็นว่าหัวใครแข็งกว่ากัน”
ลู่ชูเซี่ยคิดว่านี่น่าจะเป็นเพียงโอกาสเดียวของเธอแล้ว เพราะผู้หญิงที่อยู่เคียงข้างเขาตอนนี้ไม่ใช่โม่ฮุ่ยหลิง แต่เป็นผู้หญิงที่ไม่คู่ควรกับเขาแม้แต่นิดเดียว ถ้าไม่ให้เธอเดินหน้าตอนนี้ วันหนึ่งวงสังคมก็ต้องรู้ว่าเขาเลิกกับคนรัก และทุกคนก็จะต้องมารุมตามตื๊อเขากันอย่างแน่นอน
เธอต้องเริ่มลงมือก่อนใคร ไม่อย่างงั้นจะต้องมีคู่แข่งเกิดขึ้นอีกมากมายจนโอกาสของเธอพลอยลดน้อยลงไปด้วย
แล้วสาวใช้ก็โผล่เข้ามาแจ้งว่า คุณชายรองและภรรยามาถึงแล้ว
ลู่ชูเซี่ยชะงัก นี่ยัยหลินเช่ออะไรนั่นตามเขามาที่นี่ด้วยงั้นรึ
ทั้งที่สาวใช้ยังพูดไม่จบ แต่หญิงสาวก็ลุกขึ้นเดินตามกู้จิ้งเหยียนออกไปแล้ว
กู้จิ้งเหยียนหันมาบอกเธอว่า “พี่สะใภ้ฉันมากับพี่ชายรองน่ะ”
ลู่ชูเซี่ยว่า “ก็เพราะอย่างนี้ฉันถึงอยากออกไปดูไงล่ะ”
เธออยากจะเห็นนักว่าหลินเช่อหน้าตาเป็นอย่างไร ทำไมถึงทำให้ชายหนุ่มยอมเลิกรากับโม่ฮุ่ยหลิงและมาแต่งงานกับหล่อนแทนได้สำเร็จ แม้ว่าจะเป็นการแต่งงานที่เกิดจากการบังคับ แต่เธอก็อยากเห็นอยู่ดีว่า ผู้หญิงแบบไหนกันที่ตระกูลกู้ยอมรับให้เข้ามาอยู่ในครอบครัว