เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 311
อวี๋หมินหมิ่นพูดกับหลินเช่อว่า “ฉินเสี่ยวหยวนไม่ยอมจบง่ายๆ เพราะอย่างนี้หล่อนถึงได้เอาเรื่องนี้ไปแพร่ทางออนไลน์ เพราะหล่อนรู้ดีว่ากู้จิ้งอวี่ไม่สนใจว่าพวกแฟนๆ จะพูดกันว่าอะไร ตราบใดที่หล่อนไม่ยอมรับว่าเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ กู้จิ้งอวี่ก็ทำอะไรหล่อนไม่ได้”
หลินเช่อบอกว่า “เขาจะทำยังไงก็ทำไปเถอะค่ะ ยังไงนี่ก็เป็นการโต้เถียงกันระหว่างแฟนคลับ ฉันคงไม่เข้าไปยุ่งด้วย”
ในขณะเดียวฉินเสี่ยวหยวนก็กำลังปั่นกระแสกับบรรดาแฟนคลับของตัวเอง โดยการบอกว่าแฟนคลับของเธอถูกลากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับดราม่าเรื่องนี้อย่างไม่มีเหตุผล และต้องมาถูกกองทัพแฟนคลับของอีกฝ่ายด่าทอ เธอยังพูดเป็นนัยๆ อีกด้วยว่า หลินเช่อนั้นไม่แยแสแฟนคลับของตัวเองเลย
ฉินเสี่ยวหยวนแสดงให้เห็นว่าเธอเป็นคนจริงใจอย่างยิ่งและยังโพสต์ลงในเว่ยป๋อของตัวเองด้วยว่า เธอเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมาไม่เคยปิดบัง
เธอไม่มีวันใช้เล่ห์กลมารยาอะไร และไม่ว่าใครก็สามารถเข้ามาพูดกับเธอตรงๆ ได้ถ้าหากว่ามีความเห็นอะไร โดยไม่จำเป็นต้องลากแฟนคลับของเธอเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะพวกเขาเป็นผู้บริสุทธิ์
วิธีพูดของฉินเสี่ยวหยวนทำให้คนพลอยคิดไปว่า หลินเช่อจงใจที่จะรังแกเธอ
หลินเช่อเองไม่ได้ใส่ใจนักก็จริง แต่เมื่อได้เห็นบรรดาผู้คนที่ก่นด่าและตำหนิเธออยู่ในโลกออนไลน์ทุกวัน หญิงสาวก็รู้สึกไม่เป็นสุขนัก
แต่แล้ว อยู่ๆ กู้จิ้งอวี่ก็โพสต์ข้อความลงในเว่ยป๋อ ระบุว่าหลินเช่อเป็นนักแสดงนำหญิงของเรื่อง นี่เป็นเรื่องที่ตัดสินใจกันเอาไว้ตั้งแต่ต้นแล้วและไม่มีผู้ใดคัดค้าน โปสเตอร์ภาพยนตร์ก็ได้รับความเห็นชอบจากบริษัทเป็นที่เรียบร้อยก่อนจะเผยแพร่ออกมา และเป้าหมายสำคัญของนักแสดงก็คือการรับผิดชอบบทบาทที่ตัวเองได้รับให้ดีที่สุด แต่นักแสดงก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาสั่งเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ทั้งหมดนี้เป็นความรับผิดชอบของทีมงาน เพราะฉะนั้นไม่ใช่ว่าผู้กำกับเพียงคนเดียวจะมีอำนาจในการสั่งเปลี่ยนชื่อบนโปสเตอร์ได้
บรรดาแฟนคลับก็เข้าใจได้ในทันทีว่ากู้จิ้งอวี่เลือกที่จะเข้าข้างหลินเช่อ เขากำลังช่วยหลินเช่อชี้แจงว่าฉินเสี่ยวหยวนไม่มีสิทธิ์ใดๆ ในการสั่งเปลี่ยนตำแหน่งชื่อ และทั้งหมดนี้เป็นการตัดสินใจของทีมงานผู้ผลิต หลินเช่อเองก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนอะไรด้วย เพราะเธอคือนางเอกของเรื่องมาตั้งแต่แรก
นี่เท่ากับเป็นการตบหน้าฉินเสี่ยวหยวนฉาดใหญ่ทีเดียว
นักแสดงรุ่นพี่อ่านบรรดาคอมเมนต์ทางออนไลน์ด้วยความเกรี้ยวกราด พวกเขาเข้าข้างหลินเช่อทันที แถมยังล้อเลียนเธอที่ถูกกู้จิ้งอวี่ซัดกลับแบบไม่ไว้หน้าอีกด้วย หล่อนโกรธจัดเสียจนอยากจะสบถคำหยาบคายออกมา
“นังหลินเช่อตัวดี ก็ได้ ก็ได้ แกมันเก่ง” หล่อนระบายโทสะลงกับผู้ช่วยของตัวเอง “แกมันเก่งมาก สามารถทำให้กู้จิ้งอวี่ยอมเข้าข้างแกได้แบบนี้ เก่งจริงๆ”
“ช่างมันเถอะค่ะ พี่เสี่ยวหยวน พวกเราคงลดตัวลงไปหลอกใช้ผู้ชายแบบแม่นั่นไม่ได้หรอกค่ะ แบบนี้เราก็คงทำอะไรไม่ได้” ฉินเสี่ยวหยวนกำโทรศัพท์แน่นพลางกระหน่ำเลื่อนดูภาพถ่ายที่เธอไหว้วานคนให้ไปแอบถ่ายมาให้อย่างหัวเสีย มันคือภาพเบลอๆ ของหลินเช่อกับผู้ชายคนอื่น
“หึ หลังจากที่มีข่าวว่าแม่นั่นเป็นเมียเก็บคนอื่นแพร่ออกไป ฉันอยากจะดูน้ำหน้านักว่ากู้จิ้งอวี่ยังจะเข้าข้างนังหลินเช่อแล้วก็ช่วยแก้ตัวแทนมันอยู่อีกรึเปล่า…”
ผู้ช่วยของหล่อนมองมาด้วยท่าทีวิตก “พี่เสี่ยวหยวนคะ…พี่หมายความว่ายังไงคะ ตอนนี้พี่คิดจะทำอะไรกันแน่…”
ฉินเสี่ยวหยวนพูดโทสะ “ปล่อยข่าวนี้ออกไป ฉันจะดูสิว่าแกจะกล้าลองดีกับฉันอีกมั้ย นังหลินเช่อ แกคิดว่าฉันไม่มีไม้เด็ดมาใช้จัดการแกงั้นเรอะ”
วันต่อมา แอคเคาน์หนึ่งในเว่ยป๋อก็โพสต์ภาพแอบถ่ายดังกล่าว
แอคเคาน์นั้นระบุว่า ได้รับภาพนี้มาจากแหล่งข่าวนิรนาม ซึ่งอ้างว่าเขาถ่ายภาพหลินเช่อกับชายมีอายุคนหนึ่งได้ ชายสูงวัยผู้นั้นขับรถหรูและดูเหมือนจะรักใคร่เอาอกเอาใจหลินเช่ออย่างมาก มีบางคนบอกว่าหลินเช่อตั้งใจที่จะเข้ามาอยู่ในวงการเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น เพราะเธอก็มีชีวิตที่หรูหราสุขสบายอยู่แล้ว จากภาพเซลฟี่ที่เธอถ่ายกับบรรดาเพื่อนๆ ก็เห็นได้ชัดว่าเธอใช้ชีวิตอย่างผู้มีอันจะกินทีเดียว
แอคเคาน์นั้นยังพูดถึงเหตุผลให้ชวนขบคิดอีกด้วยว่า หลินเช่ออาจจะหาเงินได้มากก็จริง แต่ก็ไม่น่าจะมากพอที่จะซื้อคฤหาสน์หลังใหญ่ย่านในกลางเมืองได้ ถึงแม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนว่าบ้านของเธอตั้งอยู่ที่ไหน แต่ก็เชื่อแน่ได้ว่าบ้านแต่ละหลังในย่านนั้นล้วนเป็นคฤหาสน์หลังมหึมา ที่น่าจะมีราคาไม่ต่ำกว่าสิบล้านทั้งสิ้น
พวกเขาพูดเป็นนัยๆ ว่าหลินเช่อน่าจะถูกเลี้ยงดูโดยใครบางคน
ภาพนั้นถูกตั้งใจทำให้เบลอเพื่อที่จะได้ไม่มีใครเห็นได้ชัดเจนว่าผู้ชายในภาพเป็นใคร แต่ถึงกระนั้น ก็ยังเป็นได้ชัดเจนว่าผู้หญิงในภาพคือหลินเช่อจากรายการเรียลลิตี้ ‘ฉันจะไปโรงเรียน’ อย่างแน่นอน
พวกเขาแอบนัดพบกันข้างนอกในช่วงที่มีการถ่ายทำ ให้ตายสิ…
ในตอนแรกพวกแฟนๆ ไม่อยากเชื่อ พวกเขาไม่คิดว่าหลินเช่อจะทำอะไรแบบนั้น
แต่ถึงกระนั้น ก็มีอีกหลายคนที่รู้สึกว่าเรื่องแบบนี้เป็นของธรรมดาสำหรับวงการบันเทิง และหลินเช่อเองก็ไม่น่าจะใช่ข้อยกเว้น
เมื่อหลินเช่อเห็นภาพเหล่านั้น ก็ตกใจจนตัวแข็งทื่อทันที
นี่มันหมายความว่ายังไงกัน…
เห็นได้ชัดว่าภาพนี้ คือภาพตอนที่กู้จิ้งเจ๋อและเธอกำลังเดินอยู่ด้วยกันริมถนนในวันหนึ่ง
อวี๋หมินหมิ่นบอกว่า “มีคนแอบถ่ายภาพเธอในวันนั้นมางั้นเหรอ”
หลินเช่อตอบ “อันที่จริง วันนั้นไม่มีใครจำฉันได้เลยนะคะ แต่คนที่ถ่ายรูปนี่จะต้องรู้แน่ว่าเป็นฉันและแอบถ่ายมาจากระยะไกล และมาตัดสินใจที่จะปล่อยรูปเอาในช่วงนี้ แสดงว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ก็คือ…นี่ยังจะต้องให้ฉันพูดชื่อออกมาอีกเหรอคะ”
“ฉินเสี่ยวหยวนถ่ายภาพนี้ไว้ได้นานแล้วแต่เพิ่งมีโอกาสได้ใช้มัน” อวี๋หมินหมิ่นว่า
หลินเช่อหันมองหน้าผู้จัดการ “แล้วเราจะทำยังไงกันดีล่ะคะ”
อวี๋หมินหมิ่นสูดลมหายใจเข้าลึก “เรื่องสำคัญตอนนี้ก็คือ จะต้องไม่เปิดเผยความสัมพันธ์ของเธอกับกู้จิ้งเจ๋อออกไป ไม่อย่างงั้นเธอจะไม่มีทางอธิบายได้เลยว่าผู้ชายที่อยู่ในรูปนี่เป็นใคร เธออาศัยอยู่ที่ไหน แล้วก็สถานะทางการเงินของเธอด้วย”
หลินเช่อว่า “คนพวกนี้รู้ว่าจะเอาทุกอย่างมาเชื่อมโยงกันยังไงเพื่อที่จะป้ายสีคนอื่นให้เสียชื่อเสียง ให้ตายสิ…ฉันก็แค่ถ่ายเซลฟี่เล่นๆ เวลาได้ไปอยู่ในที่สวยๆ ก็เท่านั้นเอง สมัยนี้ใครๆ เขาก็ทำกันไม่ใช่เหรอ”
“ใจเย็นก่อนเถอะ ถ้ามีใครที่อยากจะทำลายชื่อเสียงของเธอ เขาก็หาทางได้อยู่ดีนั่นแหละ ต่อให้เธอกำลังจะไปห้องน้ำ เขาก็ยังกุเรื่องว่าเธอท้องผูกหรือไม่ก็สุขภาพไม่ดีเพราะว่าเป็นเมียเก็บคนอื่นได้อยู่นั่นเอง ทุกอย่างมันไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกันหรอก แต่ถ้ามีคนพยายามทำให้เธอเกี่ยว มันก็จะมีคนที่ยอมเชื่ออยู่”
ในตอนนั้นเอง กู้จิ้งอวี่ก็โทรหาหลินเช่อ
หญิงสาวเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
ชายหนุ่มถามมาจากปลายสายว่า “ในรูปนั่นสามีเธองั้นเหรอ”
หลินเช่อตอบ “ใช่ค่ะ ทำไมเหรอคะ”
“ไม่มีอะไรหรอก ภาพมันเบลอมากน่ะ ฉันแค่อยากเห็นว่าเขาเป็นใครเท่านั้นเอง”
“เอาละ ตอนนี้ฉันกำลังโดนกระหน่ำด่าอยู่นะคะ คุณยังจะมีอารมณ์มาพูดเล่นอีก”
“ก็ได้ ถ้างั้นฉันจะไปเตือนฉินเสี่ยวหยวน เธอเองก็อย่าโมโหกับเรื่องนี้มากเกินไปนักล่ะ ตราบใดที่เธอไม่สนใจมัน เดี๋ยวซักพักมันก็ดีขึ้นไปเองนั่นแหละ”
“ฉันรู้ค่ะ ว่าถ้าฉันไม่ยอมรับแล้วก็ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผู้คนก็จะหยุดพูดถึงมันไปเองไม่ช้าก็เร็ว จริงมั้ยคะ”
“ใช่แล้ว ถ้าเธอไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง ก็ปล่อยมันเอาไว้แบบนั้นเป็นดีที่สุด เธอไม่ต้องเปิดเผยเรื่องการแต่งงานลับๆ ของเธอด้วย เข้าใจมั้ย”
หลินเช่อได้แต่รับคำว่า “ค่ะ ฉันไม่บอกหรอกค่ะ”
“เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในวงการเป็นประจำนั่นแหละ นี่จะไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของเธอด้วย ในวงการนี้เธอจะต้องหัดควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ได้ก่อน ไม่อย่างงั้นเธออาจจะตายเพราะความโกรธได้ในทุกนาทีแน่ๆ”
“โอเคค่ะ” หลินเช่อถอนหายใจ “อย่าห่วงเลยค่ะ ฉันแค่อารมณ์เสียนิดหน่อยเท่านั้น เดี๋ยวก็หายค่ะ อย่างมากฉันก็แค่เลิกอ่านคอมเมนต์ในออนไลน์เท่านั้นเอง”
หลังจากวางสาย หลินเช่อก็ถอนหายใจยาวก่อนจะกดปุ่มปิดโทรศัพท์ เธอไม่อยากจะเห็น แต่เธอก็ยังอยากจะเห็น ความรู้สึกในขณะนี้กำลังสับสนปนเปขนาดหนัก
ที่สตูดิโอ หลินเช่อเข้าไปพูดคุยเรื่องตารางการทำงานของช่วงบ่ายกับอวี๋หมินหมิ่น
แล้วเธอก็ได้พบฉินเสี่ยวหยวนและบรรดาทีมงานของหล่อนที่กำลังเดินวางมาดสวนออกมา