เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 326
“คอยดูแลคุณผู้หญิงด้วย ส่งคนไปเตือนเธอว่าต้องใส่ยา แล้วก็เตรียมยาบำรุงสำหรับพรุ่งนี้…”
กู้จิ้งเจ๋อสูดลมหายใจยาวขณะคิดกับตัวเองว่า หลินเช่อนั้นอยู่ในอารมณ์หัวฟัดหัวเหวี่ยงอย่างหนัก
ใจเขาลอยไปถึงเรื่องที่เธอพูดเกี่ยวกับการแต่งงานตามข้อตกลง ที่ว่าเธอและเขาไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวก้าวก่ายกันและกัน…
ยัยนั่นเก่งนักเชียวเรื่องทำให้เขาโกรธเนี่ย
กู้จิ้งเจ๋อปั่นป่วนไปหมดจนไม่สามารถหลับลงได้กระทั่งรุ่งสาง เขาได้แต่นอนพลิกไปพลิกมาอยู่บนเตียงแบบนั้น
ที่เรือนหอ
กู้จิ้งเหยียนกำลังจัดการเก็บกวาดรอบบริเวณบ้าน เพราะตอนเที่ยงคืนเป็นเวลาที่เธอจะต้องเข้าร่วมการประชุมทางวิดีโอกับคนที่อยู่อีกฟากหนึ่งของโลก เมื่อร่วมวางแผนการเข้าสู่ตลาดของบริษัท
ในเวลานั้นเอง
เธอได้ยินเสียงประตูปิด
ลู่เป่ยเฉินกลับมาแล้ว
เขายืนอยู่ที่ประตู มองเข้าตรงเข้ามายังหญิงสาวที่ถอดชุดแต่งงานออกแล้วซึ่งยืนอยู่ด้านใน
เรือนหอแห่งนี้ถูกตกแต่งใหม่ทั้งหมด กู้จิ้งเหยียนเป็นคนรับหน้าที่จัดการทุกอย่างโดยที่เขาไม่ต้องเข้าไปช่วยเลยแม้แต่น้อย
แต่ถึงกระนั้น ตอนนี้เขาก็เห็นได้ว่าห้องถูกตกแต่งอย่างสวยงามน่าอยู่ ทั้งเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ต่างๆ ได้แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทเอาใจใส่จากหญิงสาวเจ้าของบ้าน
อันที่จริง กู้จิ้งเหยียนเป็นผู้หญิงประเภทที่ต้องการให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ
ลู่เป่ยเฉินและกู้จิ้งเหยียนรู้จักกันมาไม่น้อยกว่าสิบปี และคบหากันฉันคนรักมาอย่างน้อยสี่ปี เขาเข้าใจผู้หญิงคนนี้ดีกว่าใครหน้าไหนทั้งสิ้น
บอกตามตรงว่า เขาเองก็รู้สึกดีไม่น้อยที่จะได้แต่งงานกับเธอ เขาจึงพยายามอย่างดีที่สุดที่จะช่วยตระเตรียมงานแต่งงานเช่นกัน เขาเองก็ไม่คาดคิดเลยว่า วันวิวาห์ของเขาจะต้องกลายเป็นแบบนี้
จนกระทั่งในวันที่เขาได้พบฟู่เฉินซียืนอยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งนั้น ทำงานเป็นพนักงานขายของ
ทุกอย่างเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงนับตั้งแต่วันนั้น
นับแต่นั้นมา หัวใจของเขาก็แล่นไปอยู่กับฟู่เฉินซี จนเขาไม่สามารถรับมือกับงานแต่งงานได้อย่างที่ควรจะเป็นอีกต่อไป
กู้จิ้งเหยียยนหันมามองลู่เป่ยเฉินก่อนจะฉีกยิ้มอย่างขุ่นมัวออกมา “กลับมาแล้วเหรอคะ คุณเจ้าบ่าว”
ลู่เป่ยเฉินมองเธอด้วยสายตาเย็นชา ยิ่งเมื่อเห็นรอยยิ้มหยันๆ ของอีกฝ่าย ความโกรธเคืองในใจเขาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นอีก
“เธอจะมาตีสีหน้าเจ็บปวดเวลาที่พูดกันฉันไปทำไม มีอะไรงั้นรึ ต่อให้ไม่มีฉัน งานแต่งงานของเธอก็ดำเนินไปได้ด้วยดีนี่นา”
งานแต่งงานของเธองั้นเหรอ
ใช่สิ นี่เป็นงานแต่งงานของเธอ เพราะมันมีแค่เธอคนเดียวนี่
กู้จิ้งเหยียนยิ่งยิ้มกว้างกว่าเดิมเมื่อมองหน้าลู่เป่ยเฉิน “ใช่ค่ะ ไม่ว่าคุณจะไม่พอใจยังไง แต่คุณก็ยังคงเป็นสามีของฉันอยู่ดี คุณโกรธรึเปล่าคะ หรือว่าเสียใจ หรือว่าอยากจะบีบคอฉันให้ตายล่ะ แต่คุณก็คงทำแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ เพราะว่าต่อให้ฉันตาย ฉันก็ยังได้ชื่อว่าเป็นภรรยาคุณอยู่ดี ฉันยังจะไปรอคุณอยู่ในหลุมศพของบรรพบุรุษเรา ฉันจะรอจนกว่าคุณจะตายด้วยและถูกฝังไปพร้อมกับฉัน”
“เธอ…” ลู่เป่ยเฉินโกรธจัด “ก็ได้ ก็ได้ กู้จิ้งเหยียน เธอชนะ ในเมื่อเธออยากจะเป็นคุณนายลู่มากขนาดนั้น ก็ขอเชิญเธอเป็นไป แล้วอย่าเสียใจล่ะ เพราะต่อให้เธอเสียใจ เธอก็คงรู้ตัวดีนะว่าเธอเป็นคนต้องการสิ่งนี้เอง!”
“เสียใจเหรอ ในพจนานุกรมของฉันไม่มีคำว่าเสียใจอยู่ในนั้นหรอกนะ อ้อ ว่าแต่ว่า คืนนี้เป็นคืนแต่งงาน เธอมาได้จังหวะพอดีเลย นี่ยังไม่เลยเที่ยงคืน ตามธรรมเนียมแล้ว เรายังพอมีเวลากันอยู่กัน เธอจะว่าไงล่ะจ๊ะ เตียงก็พร้อมแล้ว เอาซักรอบนึงมั้ย”
กู้จิ้งเหยียนจงใจยิ้มออกมาเมื่อมองหน้าอีกฝ่าย
ลู่เป่ยเฉินหน้าตึง เขาตอบเธอด้วยน้ำเสียงเหยียดหยันว่า “ถ้าเธออยากมากขนาดนั้น งั้นก็เชิญจัดการตัวเองไปเถอะ แล้วก็ต่อไปในอนาคตมันก็จะเป็นแบบนี้ต่อไป ในเมื่อเธอสามารถจัดการพิธีแต่งงานด้วยตัวเองได้ งั้นคืนเข้าหอก็คงไม่ใช่เรื่องยากอะไรจริงมั้ยล่ะ ถึงยังไงคุณหนูกู้ก็ทำได้ทุกอย่างอยู่แล้วนี่”
กู้จิ้งเหยียนยังคงยิ้มเยือกเย็นอยู่เมื่อเธอตอบเขาว่า “จัดการตัวเองงั้นเหรอ เธอคิดว่าใช้เวลาหลายปีที่ผ่านมาอย่างเปล่าประโยชน์หรือไงกัน ใจเย็นน่า ถึงฉันเป็นผู้หญิงมากตัณหาจริง ฉันก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องหาผู้ชายมานอนด้วยหรอก ผู้ชายไอ้นั่นใหญ่น่ะหาง่ายพอๆ กับที่คางคกสามขาหายากนั่นแหละ ด้วยความสามารถของฉันแล้ว ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะหาผู้ชายเป้าเริ่ดแรงดีมาทำยาน่ะ ตรงกันข้าม สำหรับเธอคงจะยากหน่อยนะ ที่ต้องคอยรักษาพรหมจรรย์ของตัวเองไว้ให้ฟู่เฉินซีน่ะ ถ้าเธอทำไม่ได้ ก็ให้ลองสนองความอยากของตัวเองซะด้วยการมีอะไรกับฟู่เฉินซีซักสองสามครั้ง เธอก็คงเติมเต็มได้จากการมีอะไรกับผู้หญิงคนเดิม แต่ที่เขาว่าความรักชนะทุกอย่างสำหรับพวกเธอสองคนนั่นก็คงจะจริง เธอคงจะสามารถเอาชนะความต้องการทางร่างกายของตัวเองได้ จริงมั้ยล่ะจ๊ะ”
“กู้ จิ้ง เหยียน!”
ลู่เป่ยเฉินจ้องมองผู้หญิงแสนร้ายกาจตรงหน้า
ทำไมถึงมีผู้หญิงแบบนี้บนโลกได้นะ เธอกล้าพูดเรื่องแบบนี้กับสามีตัวเองได้ยังไงกัน
เขาจะต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ที่เคยคิดว่าการต้องใช้ชีวิตที่เหลือร่วมกับเธอก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไร แม้ว่าจะทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยๆ ก็ตาม
ลู่เป่ยเฉินมีโอกาสได้รู้จักผู้หญิงมากมาย แต่ก็ไม่มีใครถูกใจเขาเหมือนเธอคนนี้
เขาทะเลาะถกเถียงกับเธอมานานกว่าสิบปี แต่เขาก็ไม่เคยเบื่อหน่ายเลย เขาคิดว่าทั้งเธอและเขาก็คงจะเป็นแบบนี้กันต่อไปในอนาคต แต่แล้วฟู่เฉินซีก็กลับมาอีกครั้ง
ลู่เป่ยเฉินยิ้มเยาะและมองหน้าเธอ เขาหมุนตัว ดึงประตูเปิดออก และเดินออกไปง่ายๆ อย่างนั้น
เมื่อประตูปิดลงตามหลัง รอยยิ้มของกู้จิ้งเหยียนก็จางหายไปเหลือเพียงใบหน้าแข็งทื่อปราศจากอารมณ์
ไม่เป็นหรอก…
เข้าพิธีแต่งงานคนเดียว เข้าหอคนเดียว…เธอทำทุกอย่างคนเดียวได้ มันก็แค่งานแต่งงาน จะเป็นไรไปล่ะถ้าเธอจะต้องทำคนเดียว
ลู่เป่ยเฉินออกจากบ้านและหาที่พักข้างนอกทันที
ข่าวเรื่องการเข้าพิธีแต่งงานตามลำพังของกู้จิ้งเหยียนถูกเผยแพร่ออกไปในวันนี้
เขายังจำครั้งแรกที่ได้พบเธอในพิธีจบการศึกษาของโรงเรียนชั้นมัธยมต้นได้
ก่อนหน้านี้เขาน่าจะเคยเห็นเธอมาก่อน เพราะถึงอย่างไรสถานะของทั้งสองครอบครัวก็ใกล้เคียงกันอย่างมาก ตระกูลลู่และตระกูลกู้เป็นหนึ่งในตระกูลชั้นนำของประเทศซี พวกเขาจึงมักได้ยินเรื่องของกันและกันอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม ในวันนั้น ในฐานะตัวแทนนักเรียนในพิธีจบการศึกษา กู้จิ้งเหยียนได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในชุดสีแดง ผมสลวยของเธอดูราวกับริบบิ้นไหม ปลิวไสวไปมา เธอยืนอยู่ใต้แสงแดด ผิวขาวราวกับน้ำนมของเธอสะท้อนอยู่ในแสงอาทิตย์
ผู้คนรอบตัวเขาพากันบอกว่า ผู้หญิงคนนั้นคือกู้จิ้งเหยียน ลูกสาวสุดที่รักของตระกูลกู้ ผลการเรียนของเธอติดหนึ่งในสามของโรงเรียน หลังจากจบการศึกษา กู้จิ้งเหยียนก็เข้าเรียนต่อที่ไฮสคูลเอช ความสวยของเธอทำให้ทุกคนต้องตกตะลึง แต่สำหรับเด็กนักเรียนที่ยังเยาว์วัยแล้ว ยังไม่มีใครรู้สึกตื่นใจอะไรกับความสวยของเธอในเวลานั้น สังคมในเวลานั้นยังไม่เปิดกว้างเหมือนสมัยนี้ ที่เด็กม.ต้นก็เริ่มออกเดตกันแล้ว ตอนนั้นพวกเขาแค่รู้สึกว่าเธอเป็นเด็กผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่งเท่านั้น
ชั่วพริบตาต่อมา เธอและเขาก็กลายมาเป็นเพื่อนนักเรียนกัน แม้ว่าจะอยู่คนละห้อง แต่ก็สนิทสนมคุ้นเคยกันดีเพราะมีพื้นฐานครอบครัวใกล้เคียงกัน
อย่างไรก็ตาม กู้จิ้งเหยียนเป็นคนไม่คนมีเหตุผลนัก เธอเสียงดังโวยวาย ชวนทะเลาะ เธอกระหายที่จะทำทุกอย่างให้ได้ดี และชอบการแข่งขันเป็นที่สุด ในสายตาของลู่เป่ยเฉิน นอกจากความจริงที่ว่าเธอเป็นคนสวยแล้ว คุณสมบัติอื่นๆ ในตัวกู้จิ้งเหยียนก็ไม่มีอะไรที่ดูเหมือนผู้หญิงเลยซักอย่าง
ตรงกันข้าม ฟู่เฉินซีที่ตัวเล็กบอบบางและมีเสน่ห์ดึงดูดใจ เธอมาจากครอบครัวที่ค่อนข้างยากลำบาก แต่กลับทำให้ลู่เป่ยเฉินหัวใจแกว่งได้ด้วยความอ่อนหวานนุ่มนวลของเธอ เขาคบกับเธอเป็นเวลาสองปีครึ่ง ส่วนกู้จิ้งเหยียนกับเขาก็เป็นเพียงเพื่อนที่ดีต่อกันในเวลานั้น
ถ้าหากว่าตอนนั้นเขายังคงเป็นเพื่อนกับเธอต่อไป ทั้งเธอและเขาก็คงไม่ต้องมาลงเอยอย่างวันนี้