เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 328
เมื่อได้ยินเช่นนั้น กู้จิ้งอวี่ก็พูดได้เพียงว่า “ถ้างั้นก็ได้ ดูเหมือนว่าตารางเวลาของคุณหลินดาราใหญ่ชักจะแน่นแล้วสินะ ต่อไป ฉันคงต้องทำเรื่องนัดเธอล่วงหน้า”
“ฮ่า ฉันชักจะกลัวๆ แล้วละสิคะถ้าคุณกู้ดาราใหญ่พูดแบบนี้น่ะ”
“เฮ้ วันนึง เธอจะได้กลายเป็นราชินีของวงการอย่างแน่นอน เมื่อถึงวันนั้น ฉันก็อาจจะไม่ใช่ดาราดังอีกแล้ว และก็ทำได้แค่เพียงไปออกรายการทีวีเพื่อบอกใครต่อใครว่า ฉันเคยร่วมแสดงหนังกับดาราสาวคนนี้ด้วยนะ”
“พอทีเถอะค่ะ คนอย่างคุณจะเลิกดังได้ยังไง ถ้าเป็นแบบนั้นจริง คุณจะอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ได้ยังไงกันคะ คุณน่าจะเลิกดังไปตั้งนานแล้วละ”
นั่นคือความจริง กู้จิ้งอวี่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน จนถึงทุกวันนี้เขาก็ยังคงเป็นดาราแถวหน้า ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเขาเลยที่จะพาตัวเองมาจนมีชื่อเสียงขนาดนี้ได้
ส่วนเรื่องที่เขาบอกว่าเธอจะได้กลายเป็นราชินีวงการในวันหนึ่งนั้น…
ถ้ากลายเป็นจริงขึ้นมาได้ มันก็คงเยี่ยมไปเลย
คืนนี้ หลินเช่อตกลงใจที่จะออกมากินเนื้อย่างกับซ่งซูไห่ ทั้งสองมาเจอกันที่ทางเข้าโรงถ่ายและนั่งรถคันเดียวกันออกไปยังภัตตาคารเนื้อย่างที่มีชื่อเสียงและสะอาดสะอ้านแห่งหนึ่ง
ซ่งซูไห่เป็นมิตรมาก เธอชักชวนบรรดาทีมงานคนอื่นๆ มาร่วมโต๊ะด้วยหลายคน
เธอเป็นคนน่าคบหากว่าฉินเสี่ยวหยวนอย่างที่อวี๋หมินหมิ่นบอกจริงๆ นั่นแหละ
ทั้งสองนั่งรับประทานเนื้อย่างกันพลางดูข่าวที่ออกอากาศทางโทรทัศน์
ในขณะที่หลินเช่อวุ่นวายอยู่กับการถ่ายทำภาพยนตร์ ฉินหวานหว่านก็ถ่ายทำงานซีรีส์พีเรียดฟอร์มยักษ์ของเธอเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซีรีส์นั้นได้รับความนิยมอย่างมาก และตอนนี้หล่อนก็กำลังออกทัวร์เพื่อโปรโมตละคร เห็นได้ชัดว่าชื่อเสียงของหล่อนจะกลับมาโด่งดังอีกครั้งและมากกว่าเดิมมากทีเดียว
พวกเธอได้เห็นทุกคนต่างพากันชื่นชมฉินหวานหว่านในระหว่างออกทัวร์ โดยพูดกันว่าเธอรับมือกับผู้คนได้ดีมาก และทุกคนก็รู้สึกว่าเธอเป็นคนน่ารักมากด้วย หลินเช่อระบายลมหายใจไปในระหว่างที่ดูข่าว ด้วยรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนขาดคุณสมบัติข้อนี้มาโดยตลอด
เธอมักตกเป็นข่าวอยู่บ่อยๆ ก็จริง แต่เธอก็มักจะไม่ได้รับคำชมมากมายแบบนี้เหมือนที่ฉินหวานหว่านได้รับ
หลายครั้งที่หลินเช่อตกเป็นข่าวอื้อฉาว เธอก็มักจะถูกคนตำหนิต่อว่าแรงๆ ถึงแม้ว่าทุกคนจะชื่นชอบเธอ แต่นั่นก็มักจะเป็นโชคช่วยมากกว่า และหลายครั้งที่เกิดเรื่องก็ทำให้เธอตกอยู่ในสถานะที่น่าอันตรายไม่น้อย
เมื่อเห็นหลินเช่อจ้องมองโทรศัพท์อย่างเอาจริงเอาจัง ซ่งซูไห่ก็ยิ้มออกมาและพูดขึ้นว่า “ฉินหวานหว่านคนนี้นี่ไม่เลวเลยนะ ฉันได้ยินมาว่าพวกเธอสนิทกันมากไม่ใช่หรือจ๊ะ”
หลินเช่อตอบ “ใช่ค่ะ ก็ประมาณนั้น”
ซ่งซูไห่ว่า “แต่ภาพลักษณ์ของพวกเธอสองคนออกจะเหมือนกันไปหน่อยนะ ในอนาคตผลประโยชน์ของพวกเธออาจจะคาบเกี่ยวกันได้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้ามีซีรีส์โทรทัศน์ที่กำลังจะเริ่มถ่ายทำ แล้วทั้งภาพลักษณ์แล้วก็ความดังของพวกเธอก็พอๆ กันแบบนี้ พวกเธอสองคนก็อาจจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ แล้วก็จะต้องแข่งขันกันเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ด้วย”
หลินเช่อรู้ดีว่าดารารุ่นพี่ต้องการจะบอกว่า ทั้งเธอและฉินหวานหว่านอาจจะต้องลงเอยด้วยการเป็นคู่แข่งกันมากกว่าจะเป็นอย่างอื่นในอนาคต
หลินเช่อยิ้ม “นั่นก็ไม่เลวนะคะ ถึงยังไงดาราคนนึงก็สามารถเล่นละครโทรทัศน์ได้หลายเรื่องต่อปีอีกอย่าง มันก็ยังมีละครโทรทัศน์ปีนึงตั้งหลายเรื่อง มันก็ดีเหมือนกันนะคะที่มีการแข่งขันเสียบ้าง เราจะได้ขยันทำงานให้หนักขึ้นไงคะ”
หลินเช่อยิ้มอย่างมองโลกในแง่ดี เมื่อแรกที่เธออยากเป็นดารา นั่นก็เป็นเพราะเธอรู้สึกว่ามันคือสิ่งที่เธอชอบ เธอไม่ต้องการให้สิ่งนี้กลายเป็นประเด็นในการแข่งขันกันเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
เพราะว่าเธอชอบการแสดง เธอชอบมันมาก ชอบมันมากๆ เลยละ
แล้วซ่งซูไห่ก็มองเห็นกู้จิ้งอวี่ที่เดินเข้ามา
เธอรีบกระวีกระวาดลุกขึ้น “จิ้งอวี่ โอ้ ตายจริง นานๆ เธอจะมาร่วมวงกับเราทีนะ”
กู้จิ้งอวี่ยิ้มขณะเดินเข้ามาสมทบ
หลินเช่อหันไปมองเขาด้วยสีหน้างุนงงเล็กน้อย
เขาเดินตรงมายังที่ว่างตรงข้างตัวหลินเช่อ “เป็นอะไรไป ทำไมเห็นหน้าฉันแล้วถึงได้ใจลอยขนาดนั้น ตกใจมากรึ”
ซ่งซูไห่รีบยิ้มพลางถามว่า “เธออยากจะทานอะไรซักหน่อยมั้ยจ๊ะ จิ้งอวี่ ที่นี่สะอาดสะอ้านดีนะ”
กู้จิ้งอวี่นั่งลงแล้วตอบทันทีว่า “ครับ โอเค”
ซ่งซูไห่รีบเรียกบริกรให้นำเมนูมาให้ และสั่งอาหารเพิ่มอีกรอบ
กู้จิ้งอวี่ไม่เคยกินอะไรแบบนี้มาก่อน จึงปล่อยให้พวกผู้หญิงสั่งอาหารที่ต้องการ เพราะถึงอย่างไรมันก็ไม่สำคัญสำหรับเขาอยู่แล้ว
หลินเช่อหันมองดาราหนุ่มแล้วถามด้วยความประหลาดใจว่า “คุณมาที่นี่ทำไมคะ”
ชายหนุ่มตอบ “พวกเธอมากินข้าวเย็นกันแล้วไม่ชวนฉันแบบนี้ ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอว่าฉันมาทำไม ทำไมล่ะ ไม่อยากให้ฉันมาขนาดนั้นเลยเรอะ”
ซ่งซูไห่รีบพูด “ไม่หรอกน่า จิ้งอวี่ก็พูดเล่นไปอย่างงั้นเอง เธอไม่รู้หรอกว่าพวกเรารู้สึกเป็นเกียรติแค่ไหนที่เธอมาร่วมวงด้วย ต้องขอบคุณหลินเช่อนะจ๊ะ”
เขากระทุ้งเข้าที่สีข้างเธอ
หลินเช่อพูดอะไรไม่ออก กู้จิ้งอวี่คนนี้นี่ช่างคาดเดาไม่ได้เอาเลย เขาทำทุกอย่างโดยปราศจากเหตุผลโดยสิ้นเชิง นี่คนอื่นทนกันไหวได้ยังไงนะ
จากนั้น แม้ว่ากู้จิ้งอวี่จะไม่เคยรับประทานอาหารประเภทนี้มาก่อน และซ่งซูไห่ก็คิดว่าเขาไม่น่าจะทานได้เยอะ แต่ชายหนุ่มก็ลงมือกินอย่างจริงๆ จังๆ และเริ่มดื่มเบียร์ด้วย จนดูเหมือนเป็นหนุ่มจอมสังสรรค์คนหนึ่งเลยทีเดียว
เมื่อกินอาหารเสร็จ ก็ใกล้จะเป็นเวลาค่ำแล้ว หลินเช่อไม่ได้ดื่มโดยอ้างว่าเธอรู้สึกไม่ค่อยสบาย เธอเพิ่งจะเย็บแผลมา ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงการบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ก็จะเป็นการดีกว่าที่จะไม่ดื่มแอลกอฮอล์
เมื่อการสังสรรค์จบลง กู้จิ้งอวี่ก็เสนอตัวไปส่งหลินเช่อที่บ้าน และออกไปเอารถมาก่อน
ซ่งซูไห่กับคนอื่นๆ ยืนมองชายหนุ่มเดินออกไป และหันมาพูดกับหลินเชอ่ว่า “ต้องขอบใจเธอมากจริงๆ นะจ๊ะ ที่ทำให้ฉันได้เห็นกู้จิ้งอวี่กินอาหารขยะแบบนี้เป็นครั้งแรกน่ะ”
หลินเช่อว่า “ก็ไม่ได้มีอะไรมากมายนี่คะ”
“กู้จิ้งอวี่น่ะขึ้นชื่อเรื่องถือตัว เขาไม่มีทางออกมาร่วมวงสังสรรค์กับทีมงานได้หรอก ฉันไม่อยากจะเชื่อด้วยซ้ำที่ทุกคนพากันพูดว่าเขาต่างไปจากเดิมเวลาอยู่กับเธอ แต่ตอนนี้ฉันเชื่อแล้วละจ้ะว่ามันเป็นความจริง ทีมงานคนอื่นๆ มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเขาแบบนี้ก็เพราะว่าตามเธอมา ฉันละอิจฉาเธอจริงๆ เลยจ้ะ บอกมาหน่อยสิ ทำไมสาวน้อยอย่างเธอถึงได้มีคนคอยปกป้องมากมายอย่างนี้ เธอมีเสน่ห์ตรงไหนกันนะ ฉันละตาร้อนผ่าวไปหมดแล้ว”
หลินเช่อว่า “ฉันคิดว่าการที่ฉันดึงดูดผู้คนแบบนี้มันออกจะเป็นโชคร้ายมากกว่านะคะ”
ใช่ นับตั้งแต่ได้พบกับกู้จิ้งเจ๋อ ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างมหาศาล
เมื่อก่อน เธอไม่เคยต้องประสบปัญหามากมายขนาดนี้เลยด้วยซ้ำ
เพราะความเกลียดชังที่มีต่อกู้จิ้งเจ๋อ ทำให้หลินเช่ออดหดหู่กับสิ่งที่ตัวเองต้องเจอในช่วงนี้ไม่ได้
กู้จิ้งอวี่กลับมาพร้อมรถ และรับหลินเช่อไปส่งบ้าน
เขาดื่มแอลกอฮอล์นิดหน่อยจนรู้สึกว่าขอบตาร้อนผ่าว เวลาที่หันมามองหลินเช่อ เขาจึงยิ้มด้วยท่าทีผ่อนคลายมากกว่าปกติที่เคยเป็น
เมื่อก้าวลงจากรถ หลินเช่อก็หันไปบอกว่า “เอาละค่ะ คุณกลับไปได้แล้ว ฉันจะเข้าบ้านละ”
“ได้สิ…อ้อ ว่าแต่” กู้จิ้งอวี่จำได้ว่าเขามีบางอย่างจะให้เธอ จึงหันกลับไปหยิบมัน “นี่เป็นสัญญาโฆษณา ลองเอากลับไปอ่านดูนะ ถ้ารับเธอจะต้องถ่ายโฆษณาตัวนี้คู่กับฉัน ลองพิจารณาดูก็แล้วกัน”
“ว้าว เยี่ยมไปเลยค่ะ!”
“แน่นอนสิ ทีนี้รู้หรือยังว่าฉันดีกับเธอแค่ไหนน่ะ”
“ค่ะ ค่ะ ค่ะ คุณดีกับฉันที่สุดเลย!”
กู้จิ้งอวี่บอก “เข้าบ้านซะ”
“ค่ะ ฉันจะอ่านตอนกลับถึงบ้าน แล้วจะติดต่อคุณไปอีกทีนะคะ เอาไว้คุยกันทางวีแชท”
“โอเค”
ทันใดนั้นกู้จิ้งอวี่ก็รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ จนซวนเซไปข้างหน้าสองก้าว
หลินเช่อรีบเข้าไปพยุงเขาทันที
“โอ๊ะ ระวังหน่อยค่ะ เกือบไปแล้ว ทำไมถึงดื่มเข้าไปมากขนาดนี้ล่ะคะ”
“ก็เธอนี่ไร้หัวใจซะจริง ก็ไม่ใช่เพราะฉันดีใจที่ได้ไปกินข้าวกับเธอรึไงล่ะ” เขาพูดพลางยกมือที่อ่อนเปลี้ยของตัวเองขึ้นวางบนแขนเธอ เขาต้องพยายามอยู่ซักพักทีเดียวกว่าจะทรงตัวได้อีกครั้ง
หลินเช่อมองดูไอดอลแห่งชาติที่กำลังหมดสภาพและนึกสงสัยว่า แฟนๆ ของเขาจะคิดว่าตัวเองกำลังอยู่ในโลกอีกใบนึงหรือเปล่าถ้าได้มาเห็นเขาในตอนนี้
แต่เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ หญิงสาวไม่รู้เลยว่ากู้จิ้งเจ๋อยืนอยู่ด้านในประตูและกำลังมองมายังเธอและกู้จิ้งอวี่…
หลังจากเลิกงาน ชายหนุ่มก็กลับไปพักผ่อนที่วิลล่าซึ่งเขาตั้งใจจะพักอยู่ที่นั่นชั่วคราว
แต่ด้วยความที่ไม่อาจตัดกังวลได้ และเป็นห่วงว่าหลินเช่อจะใส่ยาแผลหรือยัง และปฏิบัติตามคำแนะนำที่ให้หลีกเลี่ยงอาหารบางอย่างเป็นที่เรียบร้อยดีหรือไม่
เขารู้ดีว่าสาวใช้ได้รับการกำชับให้ดูแลเธอเป็นอย่างดีแล้ว แต่เขาก็ยังอดห่วงอยู่ลึกๆ ไม่ได้นั่นเอง