เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 346
ด้านในรถ
กู้จิ้งหมิงมองออกไปจากทางด้านหลัง
อวี๋หมินหมิ่นเดินเข้าไปในลิฟต์ที่ดูทรุดโทรมกับน้องชายของเธอ
คนขับรถที่อยู่ด้านหน้าถามขึ้น “ท่านประธานาธิบดีครับ ท่านจะกลับเลยมั้ยครับ”
“อืม ไปเลย” เขาหันกลับไปมองเนิ่นนานแล้วตอบคำถามเสียงเบา
วันต่อมา
ขณะที่อวี๋หมินหมิ่นยังอยู่ที่บริษัท เธอได้ยินใครบางคนในออฟฟิศพูดขึ้นว่า “ว้าย ตายแล้ว เป็นไปไม่ได้ ประธานาธิบดีประกาศว่าเขามีคู่หมั้นแล้ว”
“อ้า…ฉันอกหักซะแล้ว ประธานาธิบดีไปมีคู่หมั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
“เธอไม่เห็นรูปประธานาธิบดีในห้องนอนที่แพร่ไปทั่วอินเทอร์เน็ตหรือยังไง ท่านประธานาธิบดีก็เลยออกมาประกาศว่าเขาเองมีชีวิตส่วนตัวเหมือนกัน เขาได้เจอคู่หมั้นเมื่อปีที่แล้วและเพิ่งจะขอแต่งงานสำเร็จ แล้วยังขอให้พวกที่แอบถ่ายรูปว่าอย่าไปยุ่งกับเรื่องส่วนตัว ยิ่งตอนนี้ที่มีชีวิตส่วนตัวของผู้หญิงที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลยเข้ามาเกี่ยวข้อง เขาขอให้ผู้คนช่วยมีเมตตาต่อกันเพราะอีกฝ่ายเป็นแค่หญิงสาวธรรมดาไม่มีพื้นเพอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งก็หมายความว่าเธอมีชีวิตธรรมดาของเธอและเขาหวังว่าจะไม่มีใครไปรบกวนเธอ”
เหล่าชาวเน็ตออกมาประณามปาปารัสซี่คนนั้นทันที พวกเขาเชื่อว่าประธานาธิบดีก็เป็นคนเหมือนกันและด้วยวัยที่เหมาะสม การที่เขาอยู่กับคู่หมั้นจึงไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร
คนบางกลุ่มเริ่มที่จะไปให้ความสนใจกับความจริงที่ว่าประธานาธิบดีมีคู่หมั้นแล้วและยังออกมายอมรับเองด้วย
บางคนก็สนใจไปที่การคาดเดาเรื่องราวของหญิงสาวคนนั้น พากันสงสัยว่าลูกสาวครอบครัวไหนกันช่างโชคดีเหลือเกินเพราะเธอก็เป็นแค่คนธรรมดา เรื่องราวทำนองนี้ทำให้พวกเขานึกไปถึงเรื่องของเจ้าหญิงไดอาน่าจากสามัญชนสู่ราชวงศ์ เรื่องพวกนี้ช่วยทำให้พวกเขามีความหวัง
อวี๋หมินหมิ่นเห็นข่าวแล้วก็ขำพูดไม่ออก คนพวกนี้เชื่อจริงๆ …ว่านิทานซินเดอเรลล่าเป็นเรื่องจริง
แย่หน่อยที่ซินเดอเรลล่าภาคของเธอถูกคนอื่นสร้างเรื่องขึ้นมาทั้งเพ
เธอถอนใจ หยิบสมุดโน้ตและแล็ปท็อปแล้วก็รับโทรศัพท์ “คุณอวี๋ ฉันชื่อลินดานะคะ เป็นหัวหน้าเลขาของท่านประธานาธิบดีค่ะ ต่อไปไม่ว่าคุณมีปัญหาอะไรก็ตาม กรุณาโทรหาฉันได้เลยนะคะและถ้าท่านประธานาธิบดีต้องการอะไร ฉันจะแจ้งให้คุณทราบเองค่ะ”
“โอ้ ขอบคุณที่ช่วยโทรมานะคะ” เธอตอบ
“ไม่ต้องเกรงใจนะคะ คุณอวี๋ คุณคือว่าที่ท่านผู้หญิงของเกลซท์ ไทล์ พาเลซ ฉันเป็นฝ่ายที่ต้องรับใช้คุณค่ะ”
คำพูดเหล่านั้นทำให้เธออยากหัวเราะออกมา
เรื่องที่พวกนั้นบอกให้เธอทำช่างท้าทายเสียจริง ตอนนี้ชีวิตต่ำต้อยของเธอเป็นเหมือนลูกเป็ดขี้เหร่ที่ติดแหง็กอยู่ท่ามกลางความสำเร็จอันรุ่งโรจน์ของท่านประธานาธิบดี
เมื่อตอนที่กู้จิ้งเจ๋ออาการดีขึ้นมากแล้ว คำสั่งห้ามภายนอกก็ได้ถูกยกเลิกเช่นกัน แม้ว่าพวกเขายังคงตามหาผู้ต้องสงสัยอยู่ สื่อมวลชนเปิดเผยว่าเขาน่าจะหนีออกนอกประเทศไปแล้ว พวกนั้นไม่ได้รายงานว่าผู้ต้องสงสัยถูกวางระเบิดและเสียชีวิตแล้ว และคนที่พวกเขาตามหาอยู่คือผู้บงการ
กู้จิ้งเจ๋อกลับมาบ้านพร้อมกับหลินเช่อทำให้เหล่าสาวใช้ต่างพากันปีติยินดี
ก่อนหน้านี้ไม่มีใครรู้ว่าโอกาสที่กู้จิ้งเจ๋อจะรอดชีวิตนั้นมากน้อยเพียงใดและนั่นทำให้พวกเขากระวนกระวายใจ ตอนนี้เมื่อเขากลับมาบ้านแล้ว พวกเขาก็โล่งใจ
หลินเช่อวิ่งวุ่นเข้าออกเพื่อช่วยกู้จิ้งเจ๋อขนของและหยิบน้ำ เธอเริ่มชินกับการทำเรื่องพวกนี้ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา กู้จิ้งเจ๋อไม่ชอบให้คนรับใช้เข้าไปในห้องของเขา ดังนั้นจึงมีเพียงหลินเช่อที่คอยปรนนิบัติเขา
กู้จิ้งเจ๋อมองเธอเดินถือน้ำมา เขาหยุดเธอไว้แล้วพูดว่า “พอได้แล้ว เธอไม่ต้องทำอะไรอีกแล้ว ปล่อยให้พวกสาวใช้ทำสิ เธอเดินไปเดินมาทั่วไปหมดทำไมกัน”
หลินเช่อตอบ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันก็ไม่มีอะไรต้องทำอยู่แล้ว”
“โอเค งั้นนั่งตรงนี้ เธอทำฉันปวดหัวไปหมดแล้วเดินไปมาแบบนั้น” กู้จิ้งเจ๋อขมวดคิ้วพลางกดไหล่ให้หลินเช่อนั่งลง
สาวใช้เห็นดังนั้นก็รีบบอก “คุณท่าน คุณผู้หญิง กรุณาพักผ่อนเถอะค่ะ ปล่อยให้พวกเราจัดการงานจิปาถะ พวกนี้เองค่ะ”
สาวใช้อีกคนที่อยู่ตรงนั้นก็พูดว่า “คุณผู้หญิงทำงานหนักเกินไปแล้วค่ะ เรื่องพวกนี้ควรปล่อยให้พวกเราทำดีกว่าค่ะ คุณผู้หญิงกับคุณท่านเป็นผู้มีศักดิ์มีศรี และไม่ควรทำงานต่ำต้อยพวกนี้นะคะ”
หลินเช่อถาม “มีศักดิ์ศรีอะไรกัน พวกเราทุกคนก็เหมือนกัน! งานพวกนี้อยู่บ้านฉันก็ทำจ้ะ”
“คุณผู้หญิง คุณช่างใจดีเหลือเกินค่ะ” สาวใช้มองหลินเช่อรู้สึกอัศจรรย์ใจ พวกเธอไม่ได้เจอคนทั้งสองมาสักพักใหญ่แล้วและตอนนี้ทั้งคู่ก็ดูมีความสุขล้น สีหน้าของพวกสาวใช้แสดงให้เห็นถึงความรักความอบอุ่นที่แม้แต่กู้จิ้งเจ๋อยังรู้สึกได้
ปกติเวลาที่เขาไม่ได้กลับบ้าน เขาไม่เคยเห็นคนพวกนี้ตื่นเต้นแบบนี้มาก่อน
สาวใช้อีกคนกล่าวว่า “ไม่เป็นไรค่ะ คุณผู้หญิง งานพวกนี้เป็นหน้าที่ของพวกเราอยู่แล้ว ถ้าคุณช่วยทำให้ แล้วพวกเราจะทำอะไรล่ะคะ”
“จริงด้วย แค่คุณกลับมาพร้อมคุณผู้ชายพวกเราก็ดีใจที่สุดแล้วล่ะค่ะ ตอนที่พวกคุณไม่อยู่ที่นี่รู้สึกไม่เหมือนบ้านเลย ตอนนี้สิคะค่อยรู้สึกว่าเป็นบ้านขึ้นมาแล้ว”
“ฮ่าๆ อย่าบอกนะว่าคิดถึงฉัน?” หลินเช่อหัวเราะคิกคักพลางถาม
พวกสาวใช้ที่ได้ยินต่างก็เข้ามาช่วยกันตอบ “ใช่แล้วค่ะ พวกเราคิดถึงคุณผู้หญิง เวลาที่คุณไม่อยู่ บ้านมันช่างเงียบเหงาเหลือเกิน”
กู้จิ้งเจ๋อมองดูพวกนั้น ยิ้มและส่ายหน้า เขาดึงหลินเช่อเข้ามาใกล้ๆ แล้วพูดว่า “เอาล่ะ ปล่อยให้พวกเขาทำงานของเขาไปส่วนเธอมานั่งเป็นเด็กดีตรงนี้”
หลินเช่อทำได้เพียงแค่เฝ้ามองสาวใช้ทำความสะอาดบ้าน เธอพิงตัวตรงนั้นและมองไปยังกู้จิ้งเจ๋อที่นอนอยู่บนเตียง
อันที่จริง แม้ว่าการพักที่สถานพักฟื้นจะเป็นประโยชน์ แต่บ่อยครั้งก็ทำให้รู้สึกหดหู่ ตอนนี้พวกเขาอารมณ์แจ่มใสขึ้นมากเมื่อได้กลับมาอยู่บ้านแล้ว ดังเช่นหลินเช่อผู้ยิ้มแย้มอย่างมีความสุขขณะที่มองดูเหล่าสาวใช้เก็บทำความสะอาดห้องด้วยความรวดเร็ว เธอรู้สึกสบายอกสบายใจมากในช่วงเวลานั้น
และที่สำคัญที่สุด กู้จิ้งเจ๋อมักจะคอยจับมือเธอบ้าง สัมผัสและลูบไล้เธอบ้าง หญิงสาวมองไปยังกู้จิ้งเจ๋อที่กำลังอ่านเอกสารบางอย่างอยู่ และรู้สึกว่าสีหน้าของเขาดูพึงพอใจ ความรู้สึกที่ต่างไปนี้ราวกับว่าเธอสามารถมองเขาอย่างนี้ตลอดไปและไม่มีวันเบื่อหน่าย
กู้จิ้งเจ๋อดูเอกสารแล้วก็มองที่พวกสาวใช้ ในชั่วขณะนั้น เขาเองก็นึกภาพบ้านที่ไม่มีหลินเช่อในนั้นไม่ออกเช่นกัน
อย่างหนึ่งที่เขาแน่ใจก็คือ หากเป็นเมื่อก่อนนี้บรรดาสาวใช้คงไม่คิดถึงเขาแบบนี้
เมื่อเห็นว่าพวกนั้นออกไปแล้ว กู้จิ้งเจ๋อก็พูดขึ้น “ดูเธอซิ ยังจะพูดอีกว่าตัวเองไร้ประโยชน์ เธอได้ใจของทุกคนในบ้านไปครองแล้วนะ”
หลินเช่อถามด้วยความประหลาดใจ “เป็นไปได้ยังไงคะ!”
“ปกติพวกนั้นเขาไม่คิดถึงฉันหรอกนะ”
“นั่นเพราะคุณเข้มงวดเกินไปน่ะสิ คุณชอบทำหน้าแข็งทื่อและยังดุมากอีกด้วย ใครจะไปคิดถึงคุณล่ะคะ”
“…” กู้จิ้งเจ๋อจ้องเธอตาเขม็งแล้วว่า “ไม่ใช่อย่างนั้น พวกเขาภักดีต่อฉันอย่างไม่ต้องสงสัย แต่กับเธอมันเป็นความรู้สึกอีกแบบหนึ่ง”
“ความรู้สึกแบบไหนคะ”
“ถ้าลักษณะนี้ แสดงว่าเธอคงไปทำอะไรไว้ที่ทำให้ชนะใจพวกเขาได้”
“เป็นไปไม่ได้ ฉันนึกว่าเพราะฉันเป็นภรรยาของคุณและนั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาดีต่อฉันเหลือเกิน”
กู้จิ้งเจ๋อส่ายหน้า เขาไม่พูดอะไรอีกเพียงแต่มองอย่างลึกซึ้งไปที่หลินเช่อ
ตอนนั้นเอง หลินเช่อที่กำลังเลื่อนหน้าจอโทรศัพท์อยู่ก็ได้เห็นข่าวของกู้จิ้งหมิง “โอ ตายแล้ว! พี่ใหญ่มีคู่หมั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะ ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
กู้จิ้งเจ๋อเลิกคิ้วมอง “โอ้”