เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 353
ไม่มีใครกล้าและสามารถทำอะไรหลินเช่อได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่ใช่หลังจากที่กู้จิ้งเจ๋อได้ประกาศออกมาอย่างนั้นแล้ว
จะมีใครทำอะไรได้หากกู้จิ้งเจ๋อปกป้องเธอถึงเพียงนี้
ทุกคนเพียงแต่รู้สึกขุ่นเคืองใจบ้าง พวกเขาคิดว่าชายหนุ่มหยาบคาย เผด็จการ และอวดดีเกินไป เขายังเข้าข้างหลินเช่อแม้ว่าลู่ชูเซี่ยถูกรังแก
พวกเขาได้แต่ด่าทออยู่เงียบๆ และไม่มีใครกล้าพูดอะไร แม้ว่าทุกคนจะคิดว่ากู้จิ้งเจ๋อช่างทะนงตัว แต่ไม่มีใครกล้าพูดมันออกมา
แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดแล้วว่ากู้จิ้งเจ๋อมีเหตุผลให้เขาเป็นคนไม่ไว้หน้าใคร
หลินเช่อมองกู้จิ้งเจ๋อด้วยความตื้นตันพลางชะเง้อหน้าขึ้นมองเขาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
เขาปกป้องเธออย่างนี้ต่อหน้าผู้คนมากมายจริงๆ หรือ
ในชั่วขณะนั้น เธอรู้สึกซาบซึ้งถึงก้นบึ้งหัวใจ
ไม่เคยมีใครปฏิบัติต่อเธอแบบนี้ ไม่เคยมีใครเลือกที่จะเชื่อเธอโดยไม่ลังเลใจและเลือกที่จะอยู่เคียงข้างเพื่อปกป้องดูแลเธอ แม้แต่พ่อของเธอเองก็ไม่เคย
แต่ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ทำให้เธอ
กิริยาท่าทางของกู้จิ้งเจ๋อทำลายความทรมานและหงุดหงิดใจที่เกิดจากคำกล่าวหาของคนพวกนั้นไปทันที หลินเช่อไม่สนใจว่าพวกเขาจะคิดอย่างไรกับเธอ สิ่งที่เธอสนใจที่สุดก็คือกู้จิ้งเจ๋ออยู่ข้างเธอ
เพราะฉะนั้น คนพวกนี้จะคิดยังไงก็ไม่สำคัญอีกต่อไป
คนที่เธอแคร์ที่สุดจะยังคงอยู่เคียงข้างเธอ
ขณะที่กู้จิ้งเจ๋อพูดอยู่นั้น เขาโอบไหล่หลินเช่อและพาเธอเดินออกไป
ลู่ชูเซี่ยเดือดพล่าน เธอเฝ้ามองคนทั้งคู่เดินออกไปและรู้สึกถึงเพียงความเจ็บแค้น เธอเกือบจะระเบิดอารมณ์ออกมา
หญิงสาวพยายามเก็บกดความโกรธเอาไว้เมื่อนึกได้ว่ายังมีคนอยู่รอบตัวเธอ
กู้จิ้งเหยียนชื่นชมพี่ชายของเธออย่างมากที่เขาปกป้องผู้หญิงของตัวเอง
เธอมองไปที่ลู่เป่ยเฉิน ทำเสียงออกทางจมูกแล้วก็เดินออกไป
ในตอนแรกลู่เป่ยเฉินแค่ต้องการมาดูเท่านั้น ตอนนี้เขาฉุนเฉียวเพราะท่าทีของกู้จิ้งเหยียน
เขาเริ่มรู้สึกเสียดายที่เคยคิดว่าจะสามารถใช้ชีวิตที่เหลือกับกู้จิ้งเหยียนได้ การที่เขาแต่งงานกับกู้จิ้งเหยียนก็เหมือนขุดหลุมฝังศพของตัวเอง ตอนนี้เขาต้องทนทุกข์กับผลที่ตามมา เธอมักทำให้เขาอยากจะระเบิดความเกรี้ยวกราดออกมา
มีแต่เธอเท่านั้นที่มีความสามารถนี้ เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำให้เขาบันดาลโทสะ
แต่ฟู่เฉินซีมักจะเชื่อฟังและเข้าอกเข้าใจ เธอไม่ทางที่จะทำตัวหยิ่งยโสและกดขี่ข่มขู่
กู้จิ้งเหยียนคนนี้…
ลู่เป่ยเฉินกลับออกไปหลังจากนั้นเช่นกัน เขาหันมามองลู่ชูเซี่ย ส่ายหน้าและไม่พูดอะไรอีก
เธอเป็นคนก่อเรื่องขึ้นเอง เธอรู้ว่าตระกูลลู่ไม่สามารถที่จะไปงัดข้อกับตระกูลกู้ด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องเช่นนี้ กู้จิ้งเจ๋อเป็นคนอารมณ์ร้อนมาแต่ไหนแต่ไรและไม่ใช่คนที่จะไปล้อเล่นด้วยได้ แต่เธอก็ยังรนหาที่
อย่างน้อยก็ยังมีคนคอยล้อมหน้าล้อมหลังปลอบใจเธอ
พวกคนที่ยังอยู่กับเธอเห็นว่าคนอื่นๆ กลับไปหมดแล้ว ลู่ชูเซี่ยมองพวกเขาแล้วกัดปากล่างดูน่าสงสาร “ช่างมันเถอะ จิ้งเจ๋อพูดถูก เธอเป็นผู้หญิงของเขาและเขาต้องปกป้องเธอไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม”
คนที่อยู่กับเธอได้ยินเช่นนั้นก็เกิดโมโห พวกเขาปลอบใจลู่ชูเซี่ย “ช่างมันเถอะ ชูเซี่ย กู้จิ้งเจ๋อแค่เป็นเกราะให้กับเธอ เขารู้ว่าหลินเช่อเป็นฝ่ายผิด”
“จริงที่สุด กู้จิ้งเจ๋ออาศัยอำนาจของตระกูลกู้และคิดว่าไม่มีใครกล้าแตะต้องเขา”
“ยัยหลินเช่อนั่นช่างเป็นหนามทิ่มแทง ถ้าเป็นเมื่อก่อนกู้จิ้งเจ๋อไม่มีทางทำอย่างนี้แน่ นี่เขากลายเป็นคนไร้เหตุผลเพราะผู้หญิงคนเดียวงั้นรึ”
“ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นความผิดของผู้หญิงนั่น เธอไม่มีวันเข้าใจ พวกเราไม่ควรสุงสิงกับพวกผู้หญิงที่เป็นแค่คนธรรมดาสามัญ”
“ใช่ กู้จิ้งเจ๋อเป็นคนฉลาด อีกไม่นานเขาก็จะรู้เอง คุณชูเซี่ย ผู้หญิงคนนั้นเทียบกับคุณไม่ได้เลย อย่าโกรธไปเลย ไม่คุ้มค่าที่จะไปเสียเวลาโมโหคนแบบนั้น”
พวกเขามองดูคนที่เหลือกลับออกไปและในเมื่อคนพวกนั้นก็คงไม่ได้ยินอะไรอยู่แล้ว พวกเขาจึงรีบพูดออกไปต่อหน้าลู่ชูเซี่ย
คนพวกนี้ดูถูกผู้หญิงคนนั้นจริงๆ ไม่ว่าเธอจะเป็นอย่างไร ก็ไม่มีวันที่จะเทียบได้กับลู่ชูเซี่ยผู้งดงามและมาจากครอบครัวมั่งคั่งเพียบพร้อมไปด้วยพลังอำนาจ อย่างไรก็ตาม เธอก็ยังเป็นผู้หญิงของกู้จิ้งเจ๋อและพวกเขาไม่กล้าที่จะพูดแบบนั้นต่อหน้าเขา
แต่ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว
เมื่อได้ยินคนมากมายปลอบใจเธอและคิดว่าสิ่งที่พวกเขาพูดอาจจะเป็นเรื่องจริง ลู่ชูเซี่ยบังคับตัวเองให้พยักหน้า เธอมองไปยังคนพวกนี้ แอบคิดในใจว่าไม่มีใครเลยที่สู้กู้จิ้งเจ๋อได้ ถึงอย่างไร คนพวกนี้ก็เป็นผู้ชายและพวกเขาชอบเธอมาก ซึ่งก็หมายความว่ากู้จิ้งเจ๋อไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ชอบเธอ ยังไงเธอก็ยังมีเสน่ห์และเป็นที่สนใจ
หลินเช่อออกมาพร้อมกู้จิ้งเจ๋อ ขณะที่พวกกำลังเดินออกมา หลินเช่อมองอย่างระแวดระวังไปที่กู้จิ้งเจ๋อ “เมื่อกี้ที่คุณพูดไปแบบนั้นจะเป็นอะไรมั้ยคะ”
กู้จิ้งเจ๋อว่า “ไม่เป็นไรหรอก จะเป็นอะไรล่ะ”
“พวกเขาจะไม่มีเรื่องมีราวกับคุณ ใช่มั้ยคะ”
“ถ้าพวกเค้ากล้าจริง เมื่อกี้คงไม่แค่นั่งฟังฉันพูดแบบนั้นหรอก” กู้จิ้งเจ๋อตอบ
หลินเช่ออึ้ง “คุณนี่ช่าง…อย่าวางอำนาจนักสิคะคราวหน้าน่ะ มันไม่ดีกับตัวคุณเองนะ ถ้าคุณมีเรื่อง…”
กู้จิ้งเจ๋อพูดอย่างภูมิใจ “เธอคิดว่าฉันจะทำอะไรโดยไม่ไตร่ตรองก่อนเหรอ ใจเย็นสิ ฉันไม่ใช่เธอนะ ฉันไม่ใช่คนที่จะทำอะไรลงไปถ้ายังไม่แน่ใจหรอก”
“…” หลินเช่อหน้าคว่ำใส่กู้จิ้งเจ๋อ “คุณอย่าหลงตัวเองนักได้มั้ย”
แต่เขามั่นใจในตัวเองจริงๆ ตระกูลกู้แข็งแกร่งมากขนาดที่ไม่มีใครกล้าท้าทายเขา
เขาแข็งแกร่งและทระนงอย่างแท้จริง
หลินเช่อส่ายหน้าเมื่อเห็นว่าเขาไม่ถ่อมตัวเลยแม้แต่น้อย
ทว่า เธอยังมองไปที่กู้จิ้งเจ๋อ “แต่คุณไว้ใจฉันขนาดนั้นจริงๆ เหรอ คุณคิดจริงเหรอว่าฉันคงไม่มีทางผลักเธอโดยไม่มีสาเหตุ”
“ถูกต้อง”
“ถ้าแท้จริงแล้วฉันเป็นผู้หญิงเลวล่ะ ถ้าฉันจงใจทำแล้วแกล้งทำเป็นคนดีต่อหน้าคุณ” หลินเช่อถาม
กู้จิ้งเจ๋อมองหลินเช่อใกล้ๆ พลางถอนใจแล้วพูดว่า “ถ้าวันนึงเธอเกิดฉลาดขึ้นมาได้อย่างนั้น ฉันคงไม่ต้องคอยกังวลว่าเธอจะถูกรังแกหรอก”
“…” หลินเช่อชะงักแล้วโต้กลับ “ขอเถอะ ฉันกำลังพูดจากใจจริงนะ ฉันไม่ชอบเสแสร้ง”
กู้จิ้งเจ๋อมองเธอ “ไม่ว่ายังไงก็ตาม ฉันเชื่อว่าเธอไม่ใช่คนแบบนั้น”
หัวใจของหลินเช่อหวั่นไหว “แล้วถ้ามีหลักฐานพิสูจน์ว่าฉันทำผิดจริงล่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นหลักฐานนั่นก็ต้องเป็นของปลอมด้วย”
“คุณจะยังเชื่อฉันอย่างไม่มีข้อแม้เหรอ”
“ถูกต้อง”
หัวใจของหลินเช่อถูกเติมเต็มไปด้วยความอบอุ่น เธอมองกู้จิ้งเจ๋อแล้วเอื้อมมือไปจับแขนเขาไว้ หญิงสาวยิ้มกว้างขณะที่เดินไปพร้อมกันกับเขา
กู้จิ้งเจ๋อยิ้มเมื่อเห็นเธอวิ่งเข้ามาหาเขา เขาเอาแขนโอบกอดเธอไว้ “มาเถอะ ฉันจะพาเธอไปเลือกม้า”
“อ้า จริงเหรอคะ แต่ม้าที่นี่ราคาแพงมากไม่ใช่เหรอคะ ฉันซื้อไม่ไหวหรอก”
“คิดซะว่าเป็นของขวัญจากฉันก็แล้วกัน” เขาว่า
“คงไม่ดีมั้งค่ะ ฮี่ๆ” เธอแกล้งทำหน้าเจ้าเล่ห์
กู้จิ้งเจ๋อตอบ “ยัยทึ่ม ของของฉันก็คือของของเธอนั่นแหละ”
“ตายแล้ว อย่าพูดอย่างนั้นสิคะ คุณมีเงินตั้งมากมายและถ้าเป็นของฉันทั้งหมด ฉันคงเป็นทุกข์มาก” หลินเช่อว่า
“เป็นทุกข์เรื่องอะไรเหรอ”
“เป็นทุกข์เรื่องตายก่อนจะใช้เงินหมดน่ะ ฉันก็ตายเปล่าสิคะ”
“…” กู้จิ้งเจ๋อหัวเราะพลางอุ้มหลินเช่อขึ้น