เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 356
“อ้า แม่ว่าแล้วเชียว เขาจะเข้าไปง่ายๆ ได้ยังไง แล้วอย่างนี้พวกเราจะทำยังไงดีล่ะ”
“โอเคค่ะ แม่ เดี๋ยวหนูจะแวะไปดูว่าพ่อเป็นยังไงบ้าง ให้เขาอยู่ในนั้นไปอีกสองสามวันเขาจะได้ทบทวนถึงสิ่งที่ตัวเองทำลงไป” หากเขาออกมาก็มีแต่จะสร้างปัญหาให้พวกเธอ ให้เขาถูกขังแน่นหนาอยู่ในนั้นน่าจะดีเสียกว่า
“หมินหมิ่น แกพูดถึงพ่อแบบนั้นได้ยังไง ถึงอย่างไรเขาก็ยังเป็นพ่อของแกนะ ข้างในนั่นเละเทะจะตายแล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นกับพ่อแกล่ะ…น้องชายแกกับแม่จะอยู่กันยังไง”
อวี๋หมินหมิ่นมองหน้าแม่ของเธอ “แม่ ตอนนี้หนูเป็นคนหาเลี้ยงแม่กับน้องนะ พ่อไม่มีส่วนช่วยอะไรเลย”
“ก-แก…”
“เอาเถอะ แม่ ร่างกายแม่อ่อนแอ ไปพักผ่อนเถอะ หนูจะไปดูพ่อ”
ที่ห้องขัง
พ่อของอวี๋หมินหมิ่นเห็นว่าหญิงสาวมาเขาจึงรีบถาม “ลูกสาวแสนดี พ่อลืมตัวไปหน่อย พ่อน่าจะถามลูกก่อน ใครจะไปคิดล่ะว่าลูกจะจับประธานาธิบดีได้ เขาบอกลูกมั้ยว่าจะให้เงินเท่าไหร่”
“หนูมาเพื่อเอาเสื้อผ้ามาให้” อวี๋หมินหมิ่นยื่นสิ่งของของเขาให้ทันที
“อะไรนะ”
อวี๋หมินหมิ่นพูด “พ่ออยู่ในนี้ไปก่อนละกันและอาจจะต้องอยู่ที่นี่ซักพัก ไม่ต้องห่วงนะ หนูช่วยขอห้องเดี่ยวให้แล้วเพราะฉะนั้นคงไม่มีปัญหาอะไรมาก มีข้าวให้กินมีที่ให้อยู่ พักให้สบายนะคะ”
“แก…แก…อวี๋หมินหมิ่น แก่มันเด็กอกตัญญู แกจะทิ้งพ่อแล้วใช่มั้ยจับประธานาธิบดีได้แล้วนี่”
ใช่ ถ้าไม่ใช่เพราะน้องชาย เธอคงทิ้งครอบครัวนี้ไปนานแล้ว ทว่า เธอต้องอดทนกับพ่อเลวๆ มานานหลายปีเพราะเห็นแก่น้องชาย
ในตอนนั้นเอง หลินเช่อโทรหาอวี๋หมินหมิ่นและถามว่าเธออยู่ที่ไหน
อวี๋หมินหมิ่นตอบ “ฉันกำลังจะกลับไปเดี๋ยวนี้แล้ว ไม่ต้องร้อนใจไป”
“มีเอกสารหายไป น้องซินบอกว่ามันเป็นแบบนี้อยู่แล้วตอนที่เธอเอาให้น้อง”
“เอกสารอะไรหาย ไม่เป็นไร ฉันกำลังกลับไปเดี๋ยวนี้แล้ว”
อวี๋หมินหมิ่นกลับมาถึงบริษัทอย่างรวดเร็ว
หยางหลิงซินกำลังขอโทษยกใหญ่ “ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ พี่เช่อ ฉันไม่ได้ตั้งใจ แต่จำได้ว่านี่คือทั้งหมดที่พี่อวี๋ส่งให้”
อวี๋หมินหมิ่นว่า “มันคือสัญญากับข้อมูลเกี่ยวกับตัวแทนโฆษณาใช่มั้ย”
“ใช่…เราทำเอกสารส่วนหนึ่งหายไป” หลินเช่อพูดพลางมองไปที่อวี๋หมินหมิ่น
หยางหลิงซินรีบพูด “ฉันขอโทษ…”
อวี๋หมินหมิ่นถาม “สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไง”
“หยางหลิงซินว่า “ฉันก็ไม่รู้ว่าเอกสารบางส่วนหายไปได้ยังไง เพราะช่วงสองสามวันที่ผ่านมาพี่อวี๋ยุ่งตลอด ฉันคิดว่าเธออาจจะหลงลืมอะไรไปบ้าง”
หลินเช่อมองที่หญิงสาวทั้งสองแล้วพูดกับอวี๋หมินหมิ่น “ไม่เป็นไร พวกเราคงทำหายที่ไหน พวกเราถามเขาได้ว่ามีสำเนาหรือเปล่า”
“เราทำได้แค่นั้น” อวี๋หมินหมิ่นชำเลืองมองหยางหลิงซินและไม่พูดอะไรอีก
ขณะที่อวี๋หมินหมิ่นพาหลินเช่อไปที่สถานที่ถ่ายทำ เธอเอ่ยกับหลินเช่อ “ฉันไม่ได้ทำเอกสารหายแน่นอนตอนที่ส่งให้เธอ”
หลินเช่อได้ยินอย่างนั้นก็บอกกับอวี๋หมินหมิ่น “ใช่ ฉันรู้ว่าเธอไม่ใช่คนทำงานแบบนั้น”
อวี๋หมินหมิ่นพูดต่อไปว่า “ถูกต้อง แต่วิธีที่เธอพูด ฉันบอกไม่ถูกเหมือนเธอจงใจจะบอกว่านี่เป็นความผิดของฉัน จริงๆ นะ…”
หลินเช่อเองก็รู้สึกว่าสิ่งที่เธอพูดทำให้ดูเหมือนว่ากำลังพยายามทำให้เกิดความแตกแยก
โชคดีที่หลินเช่อเชื่อมั่นในตัวอวี๋หมินหมิ่นอย่างไม่มีข้อกังขา เธอรู้ว่าอวี๋หมินหมิ่นไม่มีทางปล่อยให้ปัญหาส่วนตัวมีผลกับเรื่องงาน แม้ว่าเธอจะยุ่งก็ตาม หญิงสาวจะทำให้แน่ใจว่าทำงานของเธอดีแล้ว ทว่า หลินเช่อยังคิดไม่ออกว่าทำไมอวี๋หมินหมิ่นจึงมีเรื่องยุ่ง
เธอมองไปยังพี่อวี๋ “พี่อวี๋ เป็นอะไรคะ มีอะไรเกิดขึ้นที่บ้านหรือเปล่า”
อวี่หมินหมิ่นยิ้ม “จะมีเรื่องอะไรได้ล่ะจ๊ะ”
“พ่อพี่ แม่พี่ หรืออะไรอย่างอื่น”
“พ่อถูกขังอยู่ในคุกอีกแล้ว แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกฉันมั่นใจ เวลาที่เขาอยู่ในห้องขังฉันก็ไม่ต้องกังวลอะไรมาก ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ไม่ต้องห่วงนะ”
“ก็ได้ค่ะ…พี่ต้องบอกฉันนะถ้ามีปัญหาอะไรน่ะ”
“ไม่ต้องห่วง ฉันบอกแน่ถ้าต้องการความช่วยเหลือน่ะ…อันที่จริงครอบครัวฉันมีเรื่องโชคร้ายและมีเรื่องราวบางอย่างเกิดขึ้น แต่…ตอนนี้พวกเรายังไม่แน่ใจว่าต่อไปจะเป็นยังไง” อวี๋หมินหมิ่นรู้ว่าเรื่องชู้สาวระหว่างเธอกับประธานาธิบดีบอกไปคงไม่มีใครเชื่อ แต่ถ้ามันเป็นเรื่องจริง เธอคงต้องให้ความร่วมมือกับกู้จิ้งหมิงและกลายเป็นคู่หมั้นของเขา ถ้าเป็นเช่นนั้น เธอต้องบอกให้หลินเช่อรู้ไม่ช้าก็เร็ว
แต่ตอนนี้ ยังไม่มีอะไรแน่นอนและอวี๋หมินหมิ่นไม่ต้องการพูดถึงเรื่องนี้แม้แต่น้อย
หลินเช่อพูด “ได้ค่ะ ยังไงก็ตาม พี่อวี๋ พี่ต้องจำไว้ว่าอย่าทนทุกอย่างอยู่คนเดียว พวกเราจะเผชิญกับปัญหาด้วยกัน มันน่าจะดีกว่านะคะ”
“จ้า ฉันรู้ มาเถอะ ไปกองถ่ายดีกว่า”
หลินเช่อและอวี๋หมินหมิ่นไปที่กองถ่ายทำ พวกเขาต้องถ่ายทำฉากอื่นเพราะฉากนี้เป็นฉากของกู่จิ้งอวี่และเขายังไม่กลับมาเข้ากอง
เมื่อหลินเช่อมาถึงทุกคนรีบมาต้อนรับเธอ มีกลุ่มแฟนๆ มาปักหลักอยู่ด้านนอกเพื่อรอเวลากู้จิ้งอวี่กลับมา แต่พวกเขาก็เข้าใจว่าระยะนี้ดาราหนุ่มไม่อยากมาในที่คนพลุกพล่าน มิฉะนั้นแล้ว เหตุการณ์ที่คล้ายกับเรื่องกู้จิ้งเจ๋ออาจเกิดขึ้นอีก นั่นจะเป็นเรื่องที่กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้
ภายในฝูงชนนั้นมีแฟนๆ ของหลินเช่อและซ่งซูไห่อยู่ด้วย พวกเขามารออยู่ด้านนอกนานแล้วและทันทีที่หลินเช่อเดินผ่าน เธอเห็นแฟนๆ ของเธอกรีดร้องและเรียกชื่อของเธอ
หลินเช่อโบกมือให้และนั่นทำให้พวกเขามีความสุขมากแล้ว พวกเขาถ่ายรูปหลินเช่อและดูสุขใจมากที่ได้ทำ
ตอนกลางคืน หลินเช่อรีบกลับบ้านด้วยความรวดเร็ว
กู้จิ้งเจ๋อยังคงพักฟื้นอยู่ที่บ้าน เขาไม่ได้ใส่เสื้อกับกางเกง ร่างกายของเขายังถูกพันไปด้วยผ้าพันแผลและมันยุ่งยากที่จะใส่เสื้อผ้าอีกรอบ
หลินเช่อเห็นว่ากู้จิ้งเจ๋อยังยุ่งอยู่ในห้องทำงาน เธอหยิบหนังสือและเข้าไปในห้องเพื่ออยู่เป็นเพื่อนเขา
หลังจากนั้นครู่ใหญ่กู้จิ้งเจ๋อก็ทำงานเสร็จ เขามองขึ้นมาเห็นหลินเช่อกำลังอ่านหนังสือ ทว่า เธอนั่งสัปหงกไปเรียบร้อยแล้ว
ถึงจะยังหัวค่ำอยู่แต่เธอดูจะเบื่อเหลือทน
กู้จิ้งเจ๋อว่า “ในเมื่อที่นี่ไม่มีอะไรให้เธอทำ ทำไมไม่ไปด้านนอกแล้วดูทีวีหรือไม่ก็ไปนอนซะล่ะ”
“ไม่ค่ะ ฉันอยากอยู่กับคุณ” เธอตอบ
“แต่ฉันมีประชุมทางวิดีโอคืนนี้ มันอาจจะดึกหน่อยนะ” เขาว่า
หลินเช่อตอบ “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันอยู่ได้”
บาดแผลบนตัวเขายังไม่หายดี เธอทิ้งเขาไว้คนเดียวที่นี่ไม่ได้เพราะกลัวว่ามันจะลำบากเกินไปสำหรับชายหนุ่ม ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับตัวเขาแล้วไม่มีคนคอยช่วยเขาล่ะ
ทุกคนรู้ว่ากู้จิ้งเจ๋อเป็นพวกบ้างาน ถ้าไม่มีใครดูแล เขาก็คงไม่สนใจสุขภาพของตัวเอง ไม่ว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร ก็จะยังคงทำงานต่อไป
เพราะฉะนั้นหลินเช่อถึงได้ยืนกรานที่จะอยู่ข้างๆ ขณะที่เขาทำงาน จริงๆ แล้วก็ไม่ได้น่าเบื่ออะไร เธอจะนั่งมองเขาก็ได้แค่นั้นก็ทำให้เธอเพลินตาแล้ว
แต่แล้ว จู่ๆ กู้จิ้งเจ๋อก็ลุกขึ้นและพูดกับหลินเช่อ “ช่างมัน มานี่สิ มาเล่นกันหน่อยดีกว่า”
“ห๊า เล่นได้เหรอ คุณยุ่งอยู่ไม่ใช่เหรอ”
“ฉันแค่ต้องรอให้พวกเขาเตรียมพร้อมสำหรับการประชุมทางวิดีโอ มานี่สิ”
“โอ้ โอเค อะไร อะไร คุณอยากทำอะไรคะ” หลินเช่อเดินเข้าไปหาแล้วถาม “พวกเราจะทำอะไรกัน”
อันที่จริงกู้จิ้งเจ๋อต้องการจะบอกว่าเขาอยากเล่นกับเธอ…
แต่แผลของเธอ…
เขาเฝ้าแต่เป็นห่วงร่างกายของหญิงสาว จะอย่างไรก็ตามเขาเป็นคนทำให้บาดแผลนั้นเกิดขึ้น มันคงรู้สึกไม่สบายตัวไม่น้อย
เขามองเธอและถาม “เธออยากเล่นอะไรล่ะ”