เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 360.2
เมื่อหลินเช่อออกมาจากห้องน้ำ เธอก็ได้ยินใครบางคนกำลังพูดอยู่ว่า
“กู้จิ้งเจ๋อมาจริงๆ เสียด้วยนะ”
“ก็ใช่น่ะสิ ตระกูลกู้เพิ่งจะเกี่ยวดองกับตระกูลลู่ด้วยการแต่งงาน อย่างน้อยๆ กู้จิ้งเจ๋อก็ต้องไว้หน้าน้องสาว แล้วก็ยอมมาสังสรรค์กับพวกตระกูลลู่บ้างนั่นแหละ”
“แม่ลูกสาวตระกูลลู่นั่นจ้องเขาตาเป็นมันมาตั้งนานแล้ว เธอไม่เห็นเหรอว่าหล่อนตามเกาะเขาหนึบขนาดไหนน่ะ”
“ฮ่า ลูกสาวตระกูลลู่ที่เคยทั้งหยิ่งทั้งเล่นตัวนักหนานั่นน่ะเหรอ หล่อนเคยมีคนมาชอบพอเยอะแยะแต่ก็ไม่ยอมชายตามองผู้ชายคนไหนเลย”
“ที่หล่อนไม่แลใครก็เพราะว่ากำลังรอคนนี้ยังไงล่ะจ๊ะ หวังสูงไม่เบานะที่คิดจะคว้ากู้จิ้งเจ๋อน่ะ”
“มีใครไม่อยากเป็นคุณนายกู้บ้างล่ะ”
หลินเช่ออดไม่ได้ที่จะกำมือแน่น
มีใครไม่อยากเป็นคุณนายกู้บ้าง จริงสินะ ดูเหมือนว่าลู่ชูเซี่ยจะรู้เรื่องนี้ดี แต่หล่อนก็ไม่ได้แคร์เลยซักนิด
แล้วกู้จิ้งเจ๋อล่ะ เขาแคร์หรือเปล่า
หลินเช่อเดินออกมา ยังคงหมกมุ่นอยู่กับความคิดของตัวเองจนกระทั่งชนเข้ากับใครคนหนึ่ง
“โอ๊ยตายแล้ว ฉันขอโทษค่ะ คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ขอฉันดูหน่อย”หลินเช่อมองชายชราที่ดูเหมือนจะล้มลงกับพื้น เขานั่งกองอยู่อย่างนั้น ริมฝีปากซีดเซียว ท่าทางอาการไม่ค่อยดีเอาเสียเลย
หลินเช่อนึกกลัว เธอรีบถามเขาด้วยน้ำเสียงห่วงใย “ตายจริง คุณคะ คุณไม่สบายหรือเปล่าคะ”
ชายแก่ผู้นั้นเงยหน้าขึ้นมองหลินเช่อ แล้วทันทีที่เขาเห็นหน้าเธอ เขาก็เงียบไป
“เธอ…เธอคือ…” อยู่ๆเขาก็คว้าข้อมือเธอไว้และถาม
หลินเช่อยิ่งงุนงง รีบถามอีกฝ่ายว่า “คุณคะ ไม่ต้องกลัวนะคะ ฉันไม่ได้คิดหนีไปไหน ฉันรู้ว่าฉันเป็นคนชนคุณล้ม มาเถอะค่ะ มาดูว่าร่างกายคุณเป็นอะไรไปหรือเปล่า”
ชายผู้นั้นได้แต่จ้องมองหลินเช่อเขม็ง เขาหรี่ตาราวกับกำลังพินิจดูใบหน้าของเธออย่างละเอียดลออ
หญิงสาวอดรู้สึกแปลกไม่ได้ เธอมองดูเขา “คุณคะ คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า บอกฉันสิคะ ฉันจะได้ช่วยดูให้”
แต่ชายชราที่เกาะแขนเธอเอาไว้กลับมองหน้าเธอและตอบว่า “ไม่ ไม่หรอก ฉันไม่ได้เจ็บตรงไหน”
หลินเช่อรู้สึกได้ว่าชายชราตรงหน้ามีบางอย่างผิดสังเกต เธอมองดูเขาอย่างเป็นกังวลและถามอีกว่า “เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าคะ ฉันคิดว่าคุณคงจะเจ็บ”
เขามองเธอด้วยสายตาแปลกๆ อยู่นาน ก่อนที่กิริยาของเขาจะกลับมาเป็นปกติ เขาถอนหายใจและตอบว่า “ไม่หรอก ไม่เป็นไร แม่หนู ฉันไม่ได้เจ็บตรงไหน ฉันแค่คิดว่าเธอดูเหมือนใครบางคนที่ฉันรู้จักน่ะ เธอชื่ออะไรรึ”
หญิงสาวตอบไป “ฉันชื่อหลินเช่อค่ะ”
“โอ้ หลินเช่อ…นั่นเป็นชื่อที่ดีนะ ฉันไม่เป็นไรแล้วละ เธอไม่ต้องกังวล” ชายแก่บอก
หลินเช่อยังอดรู้สึกไม่ได้ว่าท่าทางเขาไม่ปกติ “คุณคะ ให้ฉันช่วยพยุงเถอะนะคะ อย่าเพิ่งขยับค่ะ”
เธอช่วยให้เขาลุกขึ้น ก่อนจะบอกว่า “คุณคะ ถ้าคุณเป็นอะไรไปล่ะก็ คุณต้องบอกฉันนะคะ ฉันจะได้พาคุณไปหาหมอ ฉันเป็นฝ่ายชนคุณ ฉันควรจะรับผิดชอบ”
ชายแก่ยิ้มและโบกมืออย่างไม่ถือสา “ฉันไม่เป็นไรจริงๆ เธอไม่ได้ชนฉันหรอก ฉันไม่ระวังเองต่างหากล่ะ”
“จะเป็นอย่างนั้นไปได้ยังไงกันคะ ถึงยังไงนี่ก็เป็นความผิดของฉันอยู่ดี ฉันไม่ได้มองทาง ฉันไม่รู้ว่ามัวแต่คิดอะไรอยู่ในหัว ก็เลยมองอะไรไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ ต้องขอโทษด้วยนะคะ” หลินเช่อพูดอย่างรู้สึกผิด
ชายชรามองดูเธอ “คนส่วนใหญ่ที่เดินชนคนอื่นมักจะโทษคนอื่นว่าเป็นฝ่ายผิด แต่เธอกลับใจดีเหลือเกินที่ยืนกรานว่าตัวเองต้องรับผิดชอบแบบนี้”
“ก็เพราะว่ามันเป็นความรับผิดชอบของฉันตั้งแต่ต้นนี่คะ แล้วนี่ครอบครัวของคุณไปไหนซะล่ะ ให้ฉันพาคุณไปหาพวกเขามั้ยคะ”
“ครอบครัวของฉันอยู่ข้างนอกน่ะ ไม่เป็นไรหรอก ฉันไปเองได้” เขามองดูหลินเช่อ “แล้วนี่เธอเป็นลูกสาวบ้านไหนล่ะ เธอนามสกุลหลินนี่นา เธอเป็นลูกสาวตระกูลหลินงั้นรึ ไม่น่าจะใช่ ไม่มีคนจากตระกูลหลินมาที่นี่เลย”
“ฉันไม่ใช่คนสำคัญอะไรหรอกค่ะ แค่ทำตัวล่องหนแอบเข้ามากินอาหารฟรีเท่านั้นเอง” หลินเช่อทำเป็นหน้านิ่ว
“หือ ทำตัวอะไรนะ ทำตัวล่องหนงั้นเหรอ”
“โอ้ ใช่ค่ะ ทำตัวล่องหน แปลว่าฉันเดินเข้ามาเฉยๆ เลย โดยที่คนอื่นไม่มีใครสนใจเพราะว่าฉันไม่ใช่คนสำคัญอะไรยังไงล่ะคะ” เธออธิบาย
“ฮ่าๆ เข้าใจพูดนี่ แม่สาวน้อย เธอจะทำตัวล่องหนได้ยังไงกันล่ะ เธอออกจะสวยน่ารักขนาดนี้” เขามองตาเธอขณะที่พูด
หลินเช่อยิ้มจนตาหยี “ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะ ฮิๆ แต่ว่าคืนนี้ที่นี่มีแต่คนสวยๆ เต็มไปหมดเลย ฉันคงจะยอมเชื่อที่คุณพูดไม่ได้ซักเท่าไหร่ ไม่อย่างงั้นคงโดนคนอื่นว่าเอาแย่เลย”
“เธอนี่น่าสนใจซะจริงเลยนะ สาวน้อย”
หลินเช่อถาม “ว่าแต่ แล้วครอบครัวของคุณอยู่ไหนล่ะคะ”
“โน่นแน่ะ ฉันเดินไปเองได้ เธอไปสนุกเถอะ!”
“งั้นก็ได้ค่ะ ถ้างั้น…” หญิงสาวคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเรียกสาวใช้เพื่อขอปากกาและกระดาษ
เธอเขียนเบอร์โทรศัพท์ของตัวเองลงไป “ถ้าคุณหาครอบครัวของคุณไม่เจอ หรือว่ารู้สึกไม่สบายละก็ โปรดโทรหาฉันนะคะ”
ก่อนจะหันไปพูดกับสาวใช้ที่ยืนอยู่ข้างๆ “ช่วยฉันดูแลผู้ชายคนนี้ด้วยนะคะ ฉันชนเขาล้มน่ะ คอยดูด้วยว่าเขาไม่ได้เป็นอะไร”
สาวใช้หันขวับไปมองชายชราด้วยท่าทางตกใจ ก่อนจะหันกลับมามองหลินเช่อแล้วรีบพยักหน้าแข็งขัน
หลินเช่อยิ้มให้ชายชรา ก่อนจะหมุนตัวและเดินจากมาอย่างสบายใจ
กู้จิ้งเจ๋อคว้าแขนหลินเช่อไว้ได้ในขณะที่เขากำลังเดินตามหาเธอ
หลินเช่อตกใจ เธอเงยหน้าขึ้นมอง และเมื่อได้เห็นว่าเป็นกู้จิ้งเจ๋อเธอก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
กู้จิ้งเจ๋อถามขึ้นว่า “นี่เธอหายไปไหนมา ยัยบ๊อง”
หลินเช่อตอบ “ฉันไปห้องน้ำมาค่ะ แต่เดินไปชนใครบางคนที่ด้านนอกเข้า ก็เลยกลับมาช้าไปหน่อย”
เมื่อชายหนุ่มได้ยินเธอพูดเช่นนั้นก็ขมวดคิ้ว เขาก้มลงและมองหน้าเธอใกล้ๆ “เธอเดินไปชนใครเข้า แล้วเป็นอะไรรึเปล่า แล้วเธอเจ็บตรงไหน”
“ไม่ค่ะ ไม่ ฉันไม่เป็นไร” เขาจับตัวเธอหมุนไปรอบๆ ขณะที่มองสำรวจเธออย่างถี่ถ้วน
เมื่อเห็นว่าหลินเช่อไม่เป็นไรจริงๆ เขาก็โล่งอก
หญิงสาวรีบบอกว่า “ก็ฉันบอกแล้วไงล่ะคะว่าไม่เป็นไร”
กู้จิ้งเจ๋อเคาะหัวคนตัวเล็ก “คราวหน้าอย่าหลงทางอีกล่ะ”
“ให้ตายสิ ฉันไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะคะ!” หลินเช่อเงยหน้าขึ้นประท้วง
กู้จิ้งเจ๋อนึกถึงว่าเขารู้สึกเป็นห่วงมากแค่ไหนตอนที่เธอหายตัวไปช่วงสั้นๆ เขารู้สึกราวกับว่าจะต้องมีเหตุอะไรเกิดขึ้นซักอย่างทุกครั้งที่เธออยู่นอกสายตา
นี่เป็นความรู้สึกที่น่าหงุดหงิดไม่น้อย เขารู้ดีว่าไม่น่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นที่นี่ได้ เนื่องจากการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาอย่างมาก คนของเขาก็คอยประจำการอยู่ในทุกจุด แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังไม่อาจวางใจได้อยู่ดี
เขาอยากจะจับยัยนี่ยัดใส่ไว้ในกระเป๋าเสียนัก
และแล้วเขาก็ได้ยินเสียงลู่ชูเซี่ยดังขึ้น
“หลินเช่อ นี่เธอไปไหนมาเหรอจ๊ะ พี่จิ้งเจ๋อน่ะเป็นห่วงเธอแทบแย่แน่ะ”
หลินเช่อหันไปมองท่าทีสุดจะเสแสร้งของลู่ชูเซี่ย แต่ตอนนี้เธอกำลังอารมณ์ดีอย่างมาก ดีพอที่จะเสแสร้งกลับไปเช่นกัน
หลินเช่อตอบว่า “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ฉันแค่ออกไปเดินเล่นนิดหน่อยเท่านั้น” เธอมองหน้าลู่ชูเซี่ยด้วยสายตาเยือกเย็น คิดว่าเธอเองอุตส่าห์เลี่ยงที่จะไม่พบหล่อนแล้วนะ แต่ลู่ชูเซี่ยกลับเป็นฝ่ายตรงเข้ามาหาเธอเองเลย ให้ตายสิ…