เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 368
เขาตวัดสายตาชิงชังไปยังลู่ชูเซี่ยและรีบเดินเข้าไปหาทันที
ลู่ชูเซี่ยไม่คิดว่ากู้จิ้งเจ๋อจะตามาไวขนาดนี้ เธอจึงร้องครวญครางเสียยกใหญ่ว่า
“เท้าฉัน เท้าฉัน…หลินเช่อเหยียบเท้าฉัน ฉันเจ็บจะตายอยู่แล้วเนี่ย”
เธอนั่งอยู่บนพื้นและยกชายกระโปรงขึ้น ข้อเท้าของเธอบวมเป่งขึ้นทันทีด้วยรองเท้าส้นสูงของหลินเช่อ
ลู่ชูเซี่ยจับข้อเท้าตัวเองไว้ด้วยความโกรธ หล่อนหันไปมองกู้จิ้งเจ๋อที่กำลังช่วยพยุงหลินเช่อให้ลุกขึ้นอย่างระมัดระวัง รวมทั้งก้มลงสำรวจดูหลินเช่ออย่างใกล้ชิดด้วย
ในขณะเดียวกัน คนรับใช้ก็รีบปราดเข้ามาข้างตัวลู่ชูเซี่ยและถามว่า “คุณหนูลู่ คุณ…”
“ไปให้พ้น ไม่ต้องสะเออะมาเป็นห่วง” ลู่ชูเซี่ยตวาดอย่างหัวเสีย “หลินเช่อ นี่เธอกล้าทำแบบนี้กับฉันเชียวเหรอ”
หลินเช่อที่เพิ่งยืนขึ้น และดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรจากการล้ม ชุดของเธอหนาพอที่เธอจะไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลย
เธอหันมาหาลู่ชูเซี่ยด้วยท่าทีไว้ตัว “คุณหนูลู่ คุณเป็นคนยื่นเท้าออกมาเองนะคะ แล้วตอนนี้จะมาโทษฉันได้ยังไง”
ลู่ชูเซี่ยจ้องหน้าอีกฝ่าย “นี่เธอหมายความว่าฉันตั้งใจยื่นเท้าฉันออกไปงั้นเหรอ เธอจงใจเหยียบเท้าฉันชัดๆ! แหกตาดูบ้างสิว่าอาการบาดเจ็บของใครที่มากกว่า เป็นฉันชัดๆ! ไม่เห็นหรือไง เพราะว่าเธอเหยียบเท้าฉัน”
หลินเช่อทำเสียงหยันๆ “นั่นเป็นเพราะคุณยื่นเท้าออกมา คุณเป็นคนหาเรื่องใส่ตัวเองนะคะ”
“แก…หลินเช่อ…” ลู่ชูเซี่ยเงยหน้าขึ้นและหันมองกู้จิ้งเจ๋อ “พี่จิ้งเจ๋อคะ เห็นรึเปล่าว่าเขาทำกับฉันขนาดไหนน่ะ นี่พี่จะไม่พูดอะไรเลยรึไง”
กู้จิ้งเจ๋อมองดูลู่ชูเซี่ย “ฉันเชื่อว่าเขาไม่ได้ตั้งใจ”
“อะไรนะ” ลู่ชูเซี่ยระเบิดอารมณ์ “แบบนี้ยังเรียกว่าไม่ตั้งใจอีกเหรอคะ เขาจงใจเหยียบเท้าฉันขนาดนี้ นี่แสดงว่าเจตนาจะไม่ให้ฉันเต้นรำในคืนนี้ได้อีกแน่ๆ!”
กู้จิ้งเจ๋อส่งสายตาเยาะๆ “ฉันหวังว่าเธอจะไม่ทำให้เราต้องเสียเวลานะ ถ้ามันเป็นอย่างที่เธอพูดจริงๆ ฉันก็จะขอเรียกดูภาพจากกล้องวงจรปิด แล้วคนทั้งงานนี้ก็จะได้ดูพร้อมๆ กัน ถึงตอนนั้น เราจะได้รู้ว่าตกลงมันเป็นปัญหาของใครกันแน่”
ลู่ชูเซี่ยยืนนิ่งงัน นึกคำพูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ
ถ้าพวกเขาตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจริงๆ ละก็ ทุกอย่างก็จะเป็นที่ชัดเจน
เมื่อเห็นลู่ชูเซี่ยนิ่งไป ชายหนุ่มก็ทำเสียงหึ
หลินเช่อไม่อยากจะให้เป็นเรื่องเป็นราวไปมากกว่านี้ เธอจึงดึงแขนกู้จิ้งเจ๋อ “พอเถอะค่ะ ไปกันดีกว่า”
ชายหนุ่มพยักหน้าและพาเธอออกไปจากตรงนั้น
ลู่ชูเซี่ยโกรธจัดมาก แต่ก็ทำได้เพียงมองคนทั้งสองเดินหายไปจนลับตา
กู้จิ้งเจ๋อเหลือบมองกลับเข้าไปข้างใน ถึงแม้ว่าจะเจ็บเท้า แต่ลู่ชูเซี่ยก็ไม่ยอมพลาสโอกาสที่จะได้ลงแข่งชิงตำแหน่งแดนซิ่งควีนอยู่ดี ด้วยเหตุนี้ เมื่อเธอกลับเข้าไปในงานอีกครั้ง เธอจึงคว้าเอาหนุ่มหล่อคนหนึ่งมาได้และระบายความโกรธเกรี้ยวทั้งหมดที่มีลงในการเต้นรำ เธออยากจะเต้นรำให้ได้ดีกว่านี้ เพื่อที่จะได้ดูโดดเด่นกว่าใคร และทำให้หลินเช่อรู้สึกพ่ายแพ้
หลินเช่อมองเห็นลู่ชูเซี่ยกลับเข้าไปในงานหลังจากได้ยินผู้คนส่งเสียงเรียก
เธอเงยหน้าขึ้นพูดกับกู้จิ้งเจ๋อว่า “คุณหนูลู่เป็นนักเต้นรำที่เก่งจริงๆ นะคะ”
สายตาของเขาตวัดกลับมา และถามเธอว่า “เธออยากเต้นรำรึเปล่า”
หลินเช่อตอบ “อย่าเลยค่ะ ฉันเต้นรำเป็นซะที่ไหนกันล่ะ”
“ง่ายจะตาย ถ้าเธออยากเต้น เดี๋ยวฉันสอนให้”
“อะไรนะคะ คุณอยากเต้นรำเหรอ” หลินเช่อจำได้ที่ได้ยินคนพูดกันว่ากู้จิ้งเจ๋อไม่เคยเต้นรำให้ใครเห็นในงานไหนทั้งสิ้น
แต่คนตัวใหญ่กลับตอบว่า “ก็แค่อยากเต้นเป็นเพื่อนเธอ”
เมื่อหลินเช่อได้ยินก็อดซึ้งใจไม่ได้ “ไม่ดีหรอกค่ะ…”
“คิดซะว่าเป็นรางวัลการบริการฉันที่นานๆ เธอจะทำซักทีในวันนี้ก็แล้วกัน”
“…” แล้วแบบนี้เธอจะปฏิเสธรางวัลได้ยังไงกันล่ะ
กู้จิ้งเจ๋อยกนิ้วขึ้นแตะจมูกเธอ “มาเถอะ ฉันจะพาเธอเข้าไปลองซักเต้นดูซักหน่อย แค่หมุนแบบที่เธออยากหมุนก็พอ ไม่จำเป็นต้องสนใจอะไรมากนัก”
หลินเช่อรีบพยักหน้าโดยเร็ว เธอมองดูสูทสีดำขลิบขาวของเขาแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นไปหมด เธออยากเห็นเหลือเกินว่าเวลาเขาเต้นรำจะเป็นยังไง
กู้จิ้งเจ๋อจับมือเธอ
หลินเช่อใช้มือข้างหนึ่งจับชุดของตัวเองไว้ ส่วนอีกข้างวางไว้บนมือเขาหลวมๆ
ด้วยชุดของเธอและเขาที่สวมอยู่ ทำให้หลินเช่อรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังมองดูเจ้าชายจากยุคกลางยังไงยังงั้น
เหมือนว่าเธอกำลังดูหนังเรื่อง ‘กอน วิท เดอะ วิน’ ช่างงดงามอลังการเสียเหลือเกิน
เขาจับจูงเธอออกไป ไม่ช้าทั้งสองก็ขึ้นไปอยู่บนฟลอร์เต้นรำ
ดนตรีเริ่มบรรเลง เขายิ้มให้เธอ “มาเถอะ เต้นรำกัน”
ขณะที่พูด เขาก็ดึงตัวหลินเช่อพาหมุนไปรอบหนึ่ง เธอเหวี่ยงตัวเองออกไปจนกระทั่งกลับมาอยู่ข้างตัวเขา หลินเช่อตกตะลึง มือข้างหนึ่งเกาะไหล่เขาเอาไว้ ส่วนอีกข้างอยู่ในมือเขา
มืออีกข้างของกู้จิ้งเจ๋อแตะลงตรงเอวเธอ ทำให้หลินเช่อเผลอยืดตัวขึ้นตรงทันทีเมื่อมองหน้าคู่เต้นรำของตัวเอง
รอบแล้ว รอบเล่า
หลินเช่อพอรู้พื้นฐานการเต้นรำอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้คล่องแคล่วนัก เธอจึงปล่อยให้เขานำ ความสนใจทั้งหมดมวลของเธอพุ่งไปอยู่ที่รูปร่างสูงสง่าของเขา หญิงสาวลืมทุกอย่างไปหมด เลิกใส่ใจใครคนอื่น และเต้นรำด้วยความรู้สึกในหัวใจแทน นี่มันรู้สึกดีจริงๆ แฮะ
ที่ด้านนอก
ใครคนหนึ่งอุทานขึ้นว่า “ดูนั่นสิ! ใครกันน่ะ นั่นกู้จิ้งเจ๋อเหรอ ทำไมเขาถึงเต้นรำล่ะ”
“โอ้ พระเจ้า! นั่นกู้จิ้งเจ๋อจริงๆ ด้วย”
“นี่ฉันตาฝาดไป ใช่มั้ย”
ผู้คนเริ่มห้อมล้อมกันเข้ามามุงดู ทั้งร้องอุทานและชี้นิ้วกันขวักไขว่ ในขณะที่เฝ้าดูกู้จิ้งเจ๋อบนฟลอร์เต้นรำ
นักเต้นคนอื่นกำลังเต้นรำกันอย่างเพลิดเพลิน แต่เมื่อพวกเขาหันมาเห็นกู้จิ้งเจ๋อที่กำลังเต้นรำอยู่กับหลินเช่อ ทุกคนก็พากันหันขวับ กระโดดจนตัวลอย คนอื่นพากันหยุดสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ และหันมามองทั้งคู่ด้วยความช็อค
ทุกคนพากันหลีกทางให้กับคู่เต้นรำที่กำลังเต้นรำไปพลางพูดคุยไปพลางโดยไม่รู้ตัว หลินเช่อก้มลงหัวเราะเป็นระยะ และกู้จิ้งเจ๋อก็พูดจาโต้ตอบกับเธอ
วิธีเต้นรำของทั้งคู่ไม่ได้ดูดีอะไรนัก หลินเช่อนั้นเต้นได้แย่ทีเดียว ส่วนกู้จิ้งเจ๋อก็เป็นคนควบคุมจังหวะและย่างก้าว เขาพยายามอย่างดีที่สุดที่จะเป็นคนนำ
แต่อย่างไรก็ตาม การได้เห็นทั้งคู่เต้นรำกลับเป็นภาพที่น่าดู
โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยเห็นกู้จิ้งเจ๋อเต้นรำมาก่อน รูปร่างสมสวนอย่างชายแท้ของเขาเป็นสิ่งที่ชวนมองไม่วางตาจริงๆ
เขาคือบุรุษเหนือบุรุษอื่นใด
ลู่ชูเซี่ยรู้สึกได้ว่าคนรอบตัวกำลังพากันพูดถึงอะไรบางอย่าง เธอจึงเงยหน้าขึ้นมอง
กู้จิ้งเจ๋อโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ มาอยู่บนฟลอร์เต้นรำ
และคนที่อยู่ข้างเขาก็คือหลินเช่อ
เขา…นี่เขากำลังเต้นรำกับหลินเช่อจริงๆ น่ะรึ
หลินเช่อกำลังเต้นรำตามการนำของกู้จิ้งเจ๋อ และเธอก็รู้สึกเหมือนจะเป็นลมให้ได้
เธอไม่คาดคิดมาก่อนว่าเขาจะเต้นรำได้เก่งขนาดนี้ นี่ถ้าไม่มีเธอเป็นตัวถ่วงอยู่ละก็ เขาคงจะเต้นได้ลื่นไหลงดงามอย่างที่สุด
จนถึงตอนนี้ เธอก็ยังรู้สึกได้ว่าทุกจังหวะก้าวของเขาแผ่วพลิ้วราวกับผีเสื้อ การเคลื่อนไหวของเขาถูกต้อง เหมาะเจาะ
หลินเช่ออดใจไม่ได้ จนต้องเงยหน้าขึ้นถามเขา “คุณเรียนเต้นรำได้ยังไงคะ”
“ฉันเคยเรียนที่บ้านตอนเด็กๆ น่ะ”
“โอ้ พระเจ้า นี่ครอบครัวคุณสอนคุณทุกอย่างเลยหรือคะ”
“ใช่ เราต้องหัดให้เป็นทุกอย่าง”
“สุดยอดไปเลย”
ทว่าในจังหวะนั้นเอง หลินเช่อรู้สึกเหมือนขาของเธอกำลังร่วงทรุดลงไป
เส้นรองเท้าของเธอหัก…