เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 372 ฉันอยากอยู่กับเธอที่นี่
“เธอไม่ได้เต้นแย่ซักหน่อย มันก็แค่การเต้นรำ” กู้จิ้งเจ๋อว่า
หลินเช่อมองหน้าเขา ตำแหน่งแดนซิ่งควีนนี่ไม่ใช่สำหรับเธอ มันเป็นของเขาต่างหากล่ะ
การเต้นของคู่เธอกลายเป็นที่สะดุดตาได้ก็เพราะกู้จิ้งเจ๋อเป็นฝ่ายออกแรงทั้งนั้น
หลินเช่อจึงบอกว่า “คุณนั่นแหละที่ควรจะได้เป็นแดนซิ่งควีนของคืนนี้ค่ะ”
กู้จิ้งเจ๋อเถียง “ฉันเป็นคิงต่างหาก เธอเป็นผู้หญิงของฉัน เพราะฉะนั้นเธอก็เป็นควีน”
“ฮ่า หลงตัวเองเป็นบ้าเลย” หลินเช่อยิ่งหัวเราะหนักขึ้นไปอีก แต่เมื่อมองดูเขาแล้ว หญิงสาวก็อดคิดอยู่เงียบๆ ไม่ได้ว่า เขาคู่ควรกับตำแหน่งราชาจริงๆ นั่นแหละ
ชายหนุ่มหันมองเธอ “ยัยบ๊อง ถ้าเธออยากจะขอบคุณฉันจริงๆ ละก็นะ…เธอใส่เสื้อตัวนั้นตอนที่เรากลับถึงห้องก็ได้…”
“…” หลินเช่อชักคิดแล้วว่าเธอไม่ควรเป็นฝ่ายเริ่มเรื่องนี้เลย
ทั้งสองคนคล้องแขนกันและรีบเดินออกจากงานไป
แน่นอนว่าสตีเฟ่นช่วยย้ายห้องนอนใหม่ให้พวกเขาแล้ว
ขณะเดินลงสู่ชั้นล่าง หลินเช่อก็ถามด้วยความแปลกใจว่า “ทำไมเราถึงลงไปข้างล่างกันล่ะคะ”
“คืนนี้เราจะนอนกันข้างล่างน่ะ”
กู้จิ้งเจ๋อพูดเป็นปริศนา แล้วทั้งสองก็เดินลงมาถึงชั้นล่างอย่างรวดเร็ว
ตอนนี้เรือยอร์ชกำลังลอยละล่องผ่านพื้นที่ส่วนที่สวยที่สุดของท้องทะเล น้ำใสแจ๋ว มีเกาะแก่งงามๆ ให้เห็นที่ด้านข้างด้วย ปลาน้อยว่ายวนอยู่ใต้น้ำ และคงจะมองเห็นได้อย่างชัดเจนในช่วงเวลากลางวัน
ส่วนในตอนกลางคืนที่มืดมิดแล้วนี้ เมื่อทั้งสองก้าวเข้าไปในห้อง พวกเขาก็แลเห็นน้ำทะเลอยู่นอกหน้าต่างเรือ
“ว้าว สุดยอดไปเลย เรือนี่มีห้องพักแบบนี้ด้วยหรือคะ”
“ใช่แล้วละ ถูกสร้างขึ้นเป็นพิเศษน่ะ” เขาพูดพลางมองดูหลินเช่อที่วิ่งปร๋อไปที่หน้าต่างและมองออกไปอย่างอยากรู้อยากเห็นทันที
ชายหนุ่มยืนยิ้มอยู่ข้างหลัง มองดูหลินเช่อที่กำลังชมวิวอย่างเพลิดเพลิน
หลินเช่อยกมือเกาะหน้าต่าง และไม่รู้ตัวเลยว่าอีกฝ่ายกำลังขยับเข้ามาใกล้
เขาสวมกอดเธอไว้จากด้านหลัง ซุกไซ้ตรงซอกคอพลางพึมพำว่า “ยังมีอีกเหตุผลที่ฉันอยากเปลี่ยนห้องด้วยนะ”
“เหตุผลอะไรคะ”
“ถ้าเธออยู่ที่นี่ ทั้งหมดที่ฉันมองเห็นก็มีแต่พวกปลาตัวเล็กๆ ข้างนอกนั่นไงล่ะ”
ขณะที่พูด เขาก็จับตัวเธอหมุนมาหา
หลินเช่อหันหน้าไปมองเขา ร่างใหญ่ของเขายืนตระหง่านอยู่เหนือเธอดูแข็งแกร่งยิ่งนัก
“ฉันอยากมีอะไรกับเธอที่ริมหน้าต่างนี่” เขายิ้ม พลางเอื้อมมือเข้ามาหาเธอ…
วันต่อมา ทั้งหลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อไม่ได้ใช้เวลาอยู่บนเรือนานนัก พวกเขากล่าวคำอำลากับเจ้าของเรือและออกเดินทางทันที
หลินเช่อสนุกมาก เธอได้เห็นเรือยอร์ชลำหรูเป็นครั้งแรก ได้เห็นไลฟ์สไตล์ของบรรดาชาวต่างชาติผู้มั่งคั่งเหล่านั้น จนกระทั่งกลับถึงบ้าน หญิงสาวก็ยังอดคิดไม่ได้ว่านั่นเป็นการพักผ่อนที่น่าสนใจเสียจริงๆ
ที่บ้าน
เมื่อหลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อกลับมาถึง บรรดาสาวใช้ก็พากันยินดีและจัดเตรียมอาหารไว้คอยต้อนรับทั้งคู่ หลังจากกลับมากู้จิ้งเจ๋อยังมีงานต้องทำ ส่วนหลินเช่อก็ต้องรีบไปพบกับทีมงานถ่ายทำภาพยนตร์
ที่กองถ่าย
กู้จิ้ิ้งอวี่กลับมาแล้ว และเพราะตารางการถ่ายทำล่าช้าไปมาก ทีมงานจึงเตรียมที่จะเร่งมือเพื่อให้ภาพยนตร์ทันออกฉายตามกำหนด พวกเขาจะต้องถ่ายทำให้เสร็จโดยเร็ว
อวี๋หมินหมิ่นเห็นหลินเช่อกลับมาแล้ว จึงรีบอัปเดตกิจกรรมและกำหนดการการทำงานต่างๆ ให้เธอรู้
ทางบริษัทไม่ได้อัดงานให้หลินเช่อแน่นจนเกินไปนัก เพราะรู้ดีว่าเธอจะต้องมุ่งเป้าไปที่การถ่ายหนัง ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับภาพยนตร์ของกู้จิ้ิ้งอวี่ และเลื่อนงานอย่างอื่นออกไปจนหมด
กู้จิ้ิ้งอวี่เห็นหลินเช่อมาถึงก็รีบวิ่งเข้าไปหา และพูดกับเธอว่า “เธอแอบหนีไปตั้งหลายวันอีกแล้วนะ” หลินเช่อรีบแย้ง “คุณก็เหมือนกันนั่นแหละค่ะ”
“ก็ใช่ ตกลงที่เธอทิ้งกองถ่ายไปนี่เพราะว่าฉันไม่อยู่งั้นเหรอ”
“จะบ้าหรือคะ ไม่ใช่อย่างนั้นซักหน่อย” หลินเช่อทำตาเขียวใส่ ไม่อยากให้เขาพูดเล่นแบบนั้นอีก
กู้จิ้ิ้งอวี่หัวเราะเสียงดัง และพูดกับเธอว่า “เอาเถอะ เอาไว้อีกสองสามวันถ่ายหนังกันเสร็จ ฉันจะพาเธอไปช้อปปิ้งเอง”
“ช่างเถอะค่ะ มารีบถ่ายงานกันต่อเถอะ ใครจะไปสบายใจไร้กังวลขนาดไปช้อปปิ้งได้เล่า”
“ยัยโง่ อีกไม่นานก็จะถึงงานปารีส แฟชั่น วีคแล้ว เธอไม่อยากไปเห็นหรือไงกัน”
เมื่อหลินเช่อได้ยินก็รีบเงยหน้าขึ้นทันที “คุณได้รับเชิญไปร่วมงานหรือคะ”
“ก็ใช่น่ะสิ ฉันได้รับเชิญให้ไปดูโชว์”
“ถ้างั้นแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วยล่ะคะ ฉันไม่ได้รับเชิญด้วยซักหน่อย หรือจะให้ฉันไปป่วนพรมแดงเขาหรือไงกัน”
“โง่จริง เธอก็ไปกับฉันไงล่ะ ถือซะว่าเป็นการโปรโมทหนังกันแต่เนิ่นๆ ลืมไปแล้วรึไงว่าฉันเป็นพระเอก ส่วนเธอก็เป็นนางเอกของเรื่องน่ะ”
“อา…งั้นขอฉันคิดดูก่อนนะคะ”
“ให้ตายสิ นี่เธอยังต้องคิดอีกเหรอ โอกาสหายากขนาดนี้เชียวนะ ทำไมไม่รู้จักคิดซะบ้างเนี่ย”
“…”
กู้จิ้ิ้งอวี่พูดต่อไปว่า “เอาละ มาเถอะ มาถ่ายหนังของเราต่อกันดีกว่า”
หลังจากที่ชายหนุ่มผละออกไปแล้ว หลินเช่อก็หันไปพูดกับอวี๋หมินหมิ่นเรื่องนี้
เมื่อผู้จัดการสาวได้ยินก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก “ฉันได้ยินมาว่าเขาจะไปดูโชว์ครั้งนี้กับทางราชวงศ์ของประเทศเอ็มนะ บัตรเชิญนั่นไม่ได้มีไว้สำหรับตัวแทนทั่วๆ ไป แต่เป็นบัตรเชิญระดับวีไอพี ถ้าเธอสามารถไปร่วมงานนี้พร้อมเขาได้ละก็ รับรองว่าเธอจะต้องดังระเบิดแน่”
“แต่ว่า…” หลินเช่อไม่ค่อยอยากไปกับกู้จิ้ิ้งอวี่นัก แต่นี่ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน บางทีเธออาจจะคิดมากเกินไปก็ได้
“เอาเถอะค่ะ เดี๋ยวพอถึงเวลาก็รู้เองนั่นแหละ”
อวี๋หมินหมิ่นว่า “อันที่จริงทางบริษัทก็ช่วยเธอติดต่อกับทางปารีส แฟชั่น วีคแล้วนะ แต่ด้วยความที่มันง่ายใครก็ไปได้ ก็เลยไม่ค่อยจะมีดาราดังๆ ไปกันเท่าไหร่ แถมพวกเขายังถูกเรียกว่าเป็นพวกขอเดินพรมแดงอีกต่างหาก คนพวกนี้จะตกเป็นข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์อยู่ทุกปี ทางบริษัทเองก็ไม่ได้อยากจะมองข้ามโอกาสนี้ แต่พวกเขาก็กังวลว่ามันจะเป็นการทำให้เธอเสียชื่อแทนที่จะเป็นสร้างชื่อ เพราะอย่างนี้พวกเขาก็เลยยังไม่ได้ตัดสินใจ แต่ถ้าเธอจะไป เธอก็อาจจะไปเจอกับกู้จิ้ิ้งอวี่ที่นั่น”
“พี่พูดถูกค่ะ” หลินเช่อว่า “ถ้างั้น เมื่อถึงเวลาฉันจะบอกกู้จิ้ิ้งอวี่เอง”
หยางหลิงซินยืนดูอยู่ข้างๆ “ถ้าอย่างงั้น พวกเราทุกคนจะได้ไปปารีสหรือคะ”
อวี๋หมินหมิ่นตอบ “ใช่”
“อา ฉันจะได้ออกนอกประเทศด้วยหรือคะ จริงเหรอเนี่ย..ฉันไม่เคยไปต่างประเทศมาก่อนเลย”
“บริษัทจะช่วยจัดการเรื่องเอกสารที่จำเป็นเอง เธอแค่รอเฉยๆ ก็พอ”
หยางหลิงซินเดินออกไปด้วยความดีใจ
อวี๋หมินหมิ่นมองเด็กสาวที่เดินออกไปแล้ว และหันมาพูดกับหลินเช่อว่า “หยางหลิงหาเอกสารพวกนั้นเจอหลังจากนั้นรึเปล่า”
“เจอค่ะ หยางหลิงซินมาที่บ้านตอนกลางดึก กู้จิ้งเจ๋อช่วยจองห้องที่โรงแรมให้เพราะเห็นว่าดึกแล้ว เธอก็เลยได้ไปนอนค้างที่โรงแรมคืนนั้น”
เมื่ออวี๋หมินหมิ่นได้ยินเช่นนั้นก็หันมองออกไปด้วยท่าทีไม่สบายใจนัก แต่เธอก็ไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจเท่าไหร่ ถึงยังไงก็ยังมีกู้จิ้งเจ๋อคอยช่วยสอดส่องแทนหลินเช่ออยู่ บางทีเธออาจจะไม่ต้องกังวลใจอะไรขนาดนั้นก็ได้
แต่เธอก็ยังอยากจะจับตาดูเด็กสาวคนนี้เอาไว้ หยางหลิงซินหุนหันพลันแล่นเกินไป และอวี๋หมินหมิ่นก็ไม่อาจวางใจหล่อนได้
ถ้าหากหยางหลิงซินเป็นแค่เด็กสาวใสซื่อและไม่ได้สนใจอะไรมากมายนักก็คงจะดี แต่นี่ดูเหมือนว่าเธอจะมีปัญหาอื่นด้วย และนั่นไม่ใช่เรื่องดีแน่
อวี๋หมินหมิ่นได้แต่หวังให้หยางหลิงซินเป็นเพียงเด็กสาวไร้เดียงสาที่เพิ่งได้รู้จักกับโลกแห่งความเป็นจริง จนทำให้ปั่นป่วนวุ่นวายใจ
เมื่อหลินเช่อกลับมาถึงบ้าน เธอก็ได้พบกับเฉินอวี่เฉิง
“คุณหมอเฉินคะ”
“โอ้ คุณนายกู้ อย่าห่วงไปเลยครับ ผมแค่แวะมาตรวจร่างกายตามปกติเท่านั้น”
“โอ้ ถ้าอย่างงั้นก็เชิญเถอะค่ะ”
เฉินอวี่เฉิงพูดอีกว่า “ในเมื่อตอนนี้ท่านประธานอยู่กับคุณแล้ว เขาก็เลยไม่ต้องกินยาอีก ผมก็เลยเป็นห่วงว่าวันนึงตัวเองอาจจะโดนไล่ออกน่ะครับ เฮ้อ”
“โถ คุณหมอเฉินออกจะเก่งขนาดนี้ ยังมีคนอยากได้คุณไปร่วมงานด้วยเยอะแยะไป แล้วเขาจะไล่คุณออกทำไมคะ”
แล้วกู้จิ้งเจ๋อก็เดินออกมาจากข้างใน เมื่อเห็นคนทั้งสองกำลังพูดคุยกัน เขาก็หันไปหานายแพทย์หนุ่ม