เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 374 มีเรื่องน่าสยดสยองแบบนี้ด้วยเหรอ
เฉินอวี่เฉิงหันมองหน้าเฉินโยวหรานด้วยท่าทีไม่สู้จะมั่นใจนัก
หัวใจของเฉินโยวหรานแทบจะหยุดเต้น แต่เธอก็ยังคงมองหน้าเขาและพูดว่า “พูดในสิ่งที่คุณต้องพูดเถอะค่ะ ไม่เป็นไร ฉันรับได้ ถึงยังไงเฉินโหยวหลันก็เป็นคนก่อเรื่องนี้ขึ้นเอง เขาก็จะต้องยอมรับผลที่ตามมาจากการทำผิดของตัวเองให้ได้”
เฉินอวี่เฉิงอธิบายว่า “คนพวกนี้ไม่เกรงกลัวการกระทำความผิดใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าหากว่าพวกมันไม่ได้เงินมาใช้หนี้ พวกมันจะขายผู้หญิงพวกนั้นไปเป็นโสเภณีเพื่อหาเงินคืน และในโกดังใต้ดินที่ว่านั่น บางทีเฉินโหยหลันอาจจะถูก…จัดการเรียบร้อยแล้วก็ได้”
เมื่อเฉินโยวหรานได้ยินเช่นนั้น หัวใจเธอก็หล่นวูบ
แม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับน้องสาวจะไม่ค่อยดีนัก แต่ถึงยังไงหล่อนก็ยังเป็นน้องสาวของเธอ หญิงสาวนิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า “อย่างอื่นไม่สำคัญหรอกค่ะ ขอแค่ให้โหยวหลันได้กลับมาก็พอ”
หลินเช่อเองก็เข้าใจดีว่าที่เขาพูดว่า ‘ถูกจัดการ’ หมายความว่าอย่างไร หญิงสาวเริ่มรู้สึกอึดอัดขึ้นมาในใจเช่นกัน และเธอก็คิดว่าคนพวกนี้ช่างชั่วร้ายเสียเหลือเกิน
แต่แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือการได้ตัวเฉินโหยวหลันกลับมา
เฉินอวี่เฉิงพูดขึ้นว่า “บอดี้การ์ดของตระกูลกู้ถูกส่งตัวไปแล้ว พวกเขาทำงานรวดเร็ว และน่าจะสามารถระบุตำแหน่งของพวกมันได้ในเวลาไม่นาน”
เฉินโยวหรานพยักหน้าและหันมองคนทั้งสอง “ขอบคุณมากนะ ทุกคน”
“ไม่มีเหตุผลที่จะต้องขอบคุณจ้ะ เราเป็นครอบครัวเดียวกัน” หลินเช่อว่า
ไม่นาน บอดี้การ์ดของตระกูลกู้ก็เดินเข้ามาจากด้านนอก เขาทักทายหลินเช่ออย่างสุภาพ
“คุณผู้หญิง เราพบตัวพวกมันแล้วครับ”
“โอเคจ้ะ เราจะรีบไปที่นั่น”
เฉินโยวหรานรีบห้ามเอาไว้ทันที “ที่นั่นอันตรายออก เธอรออยู่นี่แหละ ฉันจะไปเอง”
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันแค่ไปดูเท่านั้น”
“ไม่ได้นะ อย่าพูดถึงเรื่องอื่น ถ้าเกิดมีใครถ่ายรูปเธอที่นั่นได้ล่ะ ฉันจะไปช่วยน้องสาวฉันเอง คนของตระกูลกู้ก็อยู่ที่นั่น พวกนั้นคงไม่กล้าทำอะไรฉันหรอก จริงมั้ย”
เฉินอวี่เฉิงก็พูดขึ้นว่า “ฉันจะไปด้วย”
เมื่อได้ยินนายแพทย์พูดเช่นนั้น หลินเช่อก็ค่อยเบาใจ หลินเช่อจึงพยักหน้า
ทั้งสองรีบตรงไปยังที่แห่งนั้นทันที
เฉินโยวหรานมองเห็นคนมากมายกำลังรวมตัวกันอยู่ที่นั่น มีทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและบอดี้การ์ดของตระกูลกู้
ด้านใน มีชายศีรษะโล้นคนหนึ่งยืนอยู่ เขาหันมองเฉินโยวหรานและเฉินอวี่เฉิง “ฮ่า ไม่คิดเลยนะว่าคนที่จับตัวมาวันนี้จะมีคนพ่วงตามมาด้วยแบบนี้ โชคไม่ดีซะจริงเชียว”
เฉินโยวหรานถามออกไปทันที “น้องสาวฉันอยู่ไหน เราตกลงกันเรื่องเงินได้ แต่น้องฉันจะต้องกลับไปพร้อมกับฉัน”
“ถ้ายอมปล่อยน้องเธอไป เราจะได้เงินรึเปล่าล่ะ” ชายหัวโล้นถาม
เฉินอวี่เฉิงตอบว่า “บอกความจริงมา ผู้หญิงนั่นยืมเงินไปเท่าไหร่ แล้วทำไมมันถึงได้กลายเป็นเงินตั้งหลายแสนได้”
“เฮ้ โปรดเข้าใจให้ชัดเจนด้วย แม่นั่นน่ะยืมเงินไปหลักแสน เงินต้นน่ะแค่ไม่แสนแต่บวกดอกเบี้ยแล้วก็เป็น 520,000”
“อะไรนะ”
เฉินอวี่เฉิงหันมองเฉินโยวหราน
หญิงสาวไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแค่นักศึกษาธรรมดาจะต้องการเงินมากมายขนาดนั้น
เฉินอวี่เฉิงตอบไปว่า “เราจะคืนเงินให้เท่ากับที่ผู้หญิงคนนั้นยืมไป ส่วนเรื่องดอกเบี้ยน่ะลืมไปได้เลย”
“เฮ้ ที่นี่เราทำธุรกิจกันแบบนี้ พี่น้องฉันทำงานหนัก แล้วก็ต้องเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง” ชาวหัวโล้นพูดอย่างไม่สบอารมณ์
เฉินอวี่เฉิงว่า “นี่เป็นการคืนเงินเท่าที่ยืมมา ดอกเบี้ยนั่นเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ฉันเชื่อว่าพวกนายก็คงไม่อยากทำให้เรื่องมันยากไปกว่านี้ ถ้าอยากจะท้าทายเรา เรื่องนี้ก็อาจจะจบไม่สวยสำหรับพวกเราทุกคนได้นะ เราไม่จำเป็นต้องสู้กันนี่นา ยังมีอีกตั้งหลายที่ให้พวกนายไปตักตวงผลกำไรน่ะ ไม่จำเป็นต้องมาเสียเลือดเสียเนื้อกับเราหรอก เสียเวลาพวกนายเปล่าๆ น่า”
“เฮ้ นายก็พูดง่ายนี่ แต่นี่เป็นกฎของเรา ถ้าไม่ปฏิบัติตามแล้วจะควบคุมกันได้ยังไง”
“เอาเถอะ ถ้ามีใครถามว่าทำไมนายถึงยอมแหกกฎ ก็บอกพวกนั้นให้มาหาฉันก็แล้วกัน ฉันจะช่วยบอกให้เองว่าทำไมนายถึงต้องแหกกฎ”
ชายหัวโล้นชะงัก มองดูเฉินอวี่เฉิงและบรรดาคนที่อยู่รอบๆ ตัวนายแพทย์หนุ่ม
ชายหัวโล้นหันไป กระซิบกระซาบบางอย่างกับคนของตัวเอง ก่อนจะหันกลับมา “เอาละ เราจะคืนผู้หญิงนั่นให้”
เฉินโยวหรานมองหน้าเฉินอวี่เฉิงอย่างประหลาดใจ “นี่พวกมันยอมคืนน้องสาวฉันให้ง่ายๆ แบบนี้เลยหรือคะ”
เฉินอวี่เฉิงตอบ “ถ้าพวกมันกล้าพูดเรื่องกฎกับตระกูลกู้ งั้นพวกมันก็ต้องชดใช้”
“อา…โอเคค่ะ” เฉินโยวหรานว่า
ชายหัวโล้นนำตัวเฉินโหยวหลันออกมาส่งให้
สภาพของหล่อนเหมือนเพิ่งถูกทรมานมา หน้าตาเนื้อตัวสกปรกมอมแมม กระเซอะกระเซิงไปหมด
ทันทีที่หล่อนเห็นพี่สาว เฉินโหยวหลันก็กรีดร้องออกมา “พะ พี่ ช่วยฉันด้วย ได้โปรดช่วยฉันด้วย”
เฉินโยวหรานรู้สึกเหมือนใจจะขาด เธอมองดูตำรวจนำตัวน้องสาวออกมาและพาไปขึ้นรถ
เฉินโยวหรานรีบเดินตามไป
เฉินอวี่เฉิงเหลียวมองรอบๆ เขาปล่อยให้สองพี่น้องได้พูดคุยกันตามลำพัง และในเมื่อเขาไม่อยากจะอยู่เกะกะเธอ เฉินอวี่เฉิงจึงกระโดดขึ้นไปบนรถของตัวเอง
เฉินโยวหรานรีบหยิบผ้าเปียกออกมาเช็ดใบหน้าสกปรกของน้องสาว ตอนนี้หล่อนปลอดภัยแล้ว เฉินโหยวหรานจึงระเบิดความโกรธจนอยากที่จะบีบคอน้องสาวให้ตายคามือออกมาอย่างสุดกลั้น และถามหล่อนว่า “นี่เธอคิดว่าเธอทำอะไรอยู่น่ะ!”
เฉินโหยวหลันทำปากยื่นแล้วมองดูพี่สาว “มะไม่มีอะไรนี่…ฉันก็แค่ยืมเงินไปซื้อของนิดหน่อยเท่านั้น แต่ฉันหาเงินมาคืนไม่ได้ เมื่อวานนี้ฉันก็เลยขอเงินพี่ แต่พี่ไม่ยอมให้ไงล่ะ”
“เธอขอเงินฉันสองสามแสน ไม่คิดบ้างรึไงว่าใครจะไปบ้ามีให้น่ะ”
“ก็พี่มีเฉินอวี่เฉิงไม่ใช่เหรอ เขารวยออกจะตาย แต่พี่กลับไม่ยอมให้เงินฉัน เพราะว่าพี่นั่นแหละ ฉัน…ฉัน…” เฉินโหยวหลันยกมือปิดหน้าแล้วร่ำไห้อย่างน่าสงสาร
เฉินโยวหรานมองดูด้วยสายตาชิงชังไม่เชื่อถือ เรื่องนี้ฟังยังไงก็ยังทะแม่งอยู่ดี “เธอยืมเงินมากมายขนาดนั้น แล้วมันหายไปไหนหมด บอกฉันมาซิว่าเอาไปเล่นการพนันใช่มั้ย”
“ฉัน…ฉันก็แค่ซื้อกระเป๋าสองใบ แล้วฉันก็ซื้อ…เครื่องสำอางนิดหน่อย รองเท้านิดหน่อย แล้วก็เสื้อผ้า…”
“กระเป๋าสองใบมันแพงขนาดนั้นเลยหรือไง ฉันไม่เชื่อ”
“ฉันซื้อกระเป๋าชาแนลน่ะ ใบนึงก็ตั้งสามหมื่นเข้าไปแล้ว”
“…”
เฉินโยวหรานแทบจะกระอักออกมาเป็นเลือด
ไม่ช้า เฉินโหยวหลันก็ถูกพาตัวมายังโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกาย
หลินเช่อมาถึงพอดี
เมื่อเห็นเฉินโยวหรานดูท่าทางไม่ค่อยดี เธอจึงเดินเข้ามากุมมือเพื่อนสนิทไว้ “เอาละ ยังไงก็ได้ตัวกลับมาอยู่กับเราแล้ว เรื่องอื่นเอาไว้ค่อยคุยกันวันหลังเถอะนะ”
เฉินโยวหรานพยักหน้า ระหว่างทางมาที่นี่เธอโทรหาหลินเช่อและเล่าให้ฟังเรื่องที่น้องสาวใช้จ่ายเงินไปมหาศาล ซึ่งเธอทั้งโกรธทั้งไม่อยากจะเชื่อไปพร้อมกัน
“หล่อนเป็นแค่นักศึกษา แต่กลับซื้อกระเป๋าแพงขนาดนั้น” เฉินโยวหรานว่า “ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะกลับไปอธิบายกับพ่อแม่ว่ายังไง”
แล้วนายแพทย์ก็เดินออกมาและพูดกับเฉินโยวหรานว่า “เมื่อคืนนี้คนไข้น่าจะโดนข่มขืนนะครับ”
หัวใจเฉินโยวหรานบีบแน่น
แต่คุณหมอก็ยังพูดต่อไปว่า “แต่ถึงยังไง ช่องคลอดของเธอก็มีร่องรอยบาดแผลที่เกิดมานานแล้ว มันเป็นแผลเก่าน่ะครับ ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่อะไรสำหรับร่างกาย”
เฉินโยวหรานอ้าปากค้าง คราวนี้เธอยิ่งไม่อยากจะเชื่อเข้าไปอีก
น้องสาวของเธอเพิ่งอายุสิบเจ็ดเท่านั้น…
เฉินโยวหรานสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนจะดึงตัวเองกลับสู่โลกของความเป็นจริง เธอหันไปพูดกับหลินเช่อว่า “ถ้าแม่ฉันรู้เรื่องนี้ จะต้องแทบคลั่งเลยทีเดียว…”
เฉินโหยวหลันได้รับการทะนุถนอมราวกับสมบัติล้ำค่ามาตั้งแต่เด็ก แม่มักคิดว่าเฉินโหยวหลันเรียนเก่ง หน้าตาดี แล้วก็มีทุกอย่างที่แม่อยากให้มี ลูกสาวคนเล็กนี้จะต้องมีอนาคตไกลอย่างแน่นอน แต่ใครจะคิดว่าเบื้องหลังภาพลักษณ์ดีๆ เหล่านั้น…