เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 379 ตำแหน่งที่นั่งคือด้านข้างราชวงศ์
แต่ยังไงก็ตาม ภายในไม่กี่วันกู้จิ้งอวี่ก็ตามมาแล้ว
แม้ว่าชายหนุ่มจะไม่ได้ใส่ใจดูแฟชันโชว์สักเท่าไหร่ ทว่า ชาวเน็ตก็ให้ความสำคัญกับเรื่องอื่นมากกว่า
กู้จิ้งอวี่ดูแฟชันโชว์ไปแล้วเล็กน้อย แน่นอนว่าเป็นแฟชันโชว์ของแบรนด์ดังทั้งนั้น ไม่ง่ายเลยที่จะได้รับบัตรมา
แต่สิ่งที่ทำให้คนรู้สึกไม่อยากจะเชื่อเลยก็คือ
คนที่ไปชมการแสดงกับกู้จิ้งอวี่
มีชาวเน็ตพูดว่า [ทุกคนสังเกตเห็นหรือยัง ในตอนที่หลินเช่อและกู้จิ้งอวี่กำลังดูการแสดงอยู่บนที่นั่ง ไม่เหมือนกับนักแสดงคนอื่นๆ ที่นั่งอยู่แถวด้านซ้ายทั้งหมด แต่ที่นั่งของพวกเขาอยู่แถวหลังชิดทางด้านขวา นั่นเป็นที่นั่งที่ดีที่สุด โดยทั่วไปจะเก็บไว้ให้คนพิเศษเท่านั้น
งั้นที่นั่งตรงนี้จะให้ใครล่ะ ไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นราชวงศ์ของประเทศวายและประเทศเอฟ คนที่จะนั่งที่นั่งตรงนี้ได้ล้วนต้องเป็นคนที่ราชวงศ์แห่งประเทศวายเชิญมาทั้งนั้น
และฉันจะวิเคราะห์ให้พวกคุณฟัง ผู้ชายคนนั้นที่นั่งอยู่ด้านซ้ายของหลินเช่อ คนที่ตัวไม่ใหญ่มากคนนั้นชื่อว่าซือเท่อมั่น เป็นป๋อเจวี๋ยแห่งประเทศวาย และหนุ่มหล่อด้านซ้ายเป็นเชื้อสายราชวงศ์ดั้งเดิมของประเทศวาย ตามหลักแล้วก็คือทายาทอันดับที่สิบสามของประเทศวาย แต่เขาน่าจะไม่เกี่ยวข้องในการสืบทอดราชวงศ์ แต่อย่างน้อยก็บ่งบอกให้เห็นแล้วว่าฐานะเขาสูงแค่ไหน]
แนบมาพร้อมกับรูปภาพบางส่วน โพสต์เหล่านี้ไม่นานก็สามารถดึงดูดผู้คนมากมายได้
ทุกคนต่างตกใจ ไม่คิดว่าหลินเช่อจะนั่งอยู่ตรงนั้นด้วย ดูเหมือนว่าจะประเมินหลินเช่อที่ไปดูแฟชันโชว์ต่ำไปจริงๆ
เมื่อลองย้อนกลับไปนึกดู การแต่งตัวของเธอเมื่อก่อนหน้านี้ รู้สึกจริงๆ ว่าหลินเช่อเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตนและเป็นกันเอง นั่งดูการแสดงอยู่เงียบๆ ไม่ได้คิดอยากแสดงตัวอะไร
เมื่อเห็นแบบนี้ คนที่แสดงออกอย่างตั้งใจ ทั้งถ่ายรูปและยังโพสต์รูปว่ามาดูแฟชันโชว์อย่างฉินหวานหว่าน จึงดูมีความพยายามไปสักหน่อย
ชมแฟชันโชว์อยู่ไม่กี่วัน ในที่สุดการท่องเที่ยวเมืองปารีสครั้งนี้ก็สิ้นสุดลง
หลินเช่อรู้สึกว่าเหมือนยังไม่ได้ทำอะไรเลย แต่กลับเหนื่อยกว่าการถ่ายละครด้วยซ้ำ
กำลังเก็บกระเป๋าอยู่ในโรงแรม อวี๋หมินหมิ่นยังคงเสิร์ชหาข้อมูลอยู่แบบนั้น พลางพูดกับหลินเช่อ “ในที่สุดข่าวของเธอก็มากกว่าฉินหวานหว่านแล้ว”
หยางหลิงซินเอ่ยอยู่ข้างๆ “นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว เธอมีแผนใครๆ ก็ต้องดูออก แค่มาโอ้อวดสักนิดแล้วก็ไป แต่ตัวเลขการค้นหาก็สูงเยอะสู้เราไม่ได้อยู่ดี”
อวี่หมินหมิ่นมองหยางหลิงซินเล็กน้อยแล้วเอ่ย “ยังไงเป้าหมายของเธอก็สำเร็จแล้ว ยึดหน้าหนึ่งได้ตั้งหนึ่งวัน”
“แต่พี่เช่อของเราครอบครองมาได้ตั้งหลายวันนะ อันดับในเวยปั๋วก็ขึ้นอันดับหนึ่ง ดูตอนนี้ยังมีคนบอกว่าชุดที่พี่เช่อใส่ไปชมแฟชันโชว์สวยมาก เท่มากๆ ด้วย”
หลินเช่อพูดขึ้น “ตอนนี้ฉันรู้สึกเพียงแค่เหนื่อยเท่านั้น รีบกลับกันดีกว่า”
“ค่ะ เดี๋ยวเราก็กลับกันแล้ว ไปกันเถอะ”
ทั้งหมดมุ่งหน้าไปยังสนามบินด้วยกัน ครั้งนี้ไม่มีใครไปพร้อมกับกู้จิ้งอวี่ เขายังต้องอยู่ต่ออีกไม่กี่วันเพื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงของราชวงศ์
เมื่อมาถึงสนามบิน ฉินชิงที่อยู่อีกฝั่งก็มองเห็นหลินเช่อ เขาชะงักพลางเอ่ย “บังเอิญจังเลยนะครับ”
หลินเช่อเองก็แปลกใจ “ใช่ค่ะ บังเอิญจัง ตอนกลับก็เที่ยวบินเดียวกันอีกแล้ว”
ฉินชิงเปลี่ยนที่นั่งทันที มานั่งด้านข้างของหลินเช่อ
หยางหลิงซินนั่งอยู่ด้านหลังถามอวี๋หมินหมิ่นอย่างแปลกใจว่าคนนี้เป็นใครกัน
อวี๋หมินหมิ่นเอ่ยตอบ “เธอไม่เคยดูข่าวมาก่อนเหรอ เมื่อก่อนเขาเป็นคู่หมั้นของหลินลี่”
“อ๋อ งั้นก็ไม่ใช่ทายาทเศรษฐีหรอกเหรอ?”
“ก็ใช่น่ะสิ เขาเป็นคุณชายรองของตระกูลฉิน”
“สวรรค์ ทำไมคนที่พี่เช่อรู้จักถึงได้มีแต่แบบนี้นะ” หยางหลิงซินพูดด้วยความรู้สึกชื่นชม
อวี๋หมินหมิ่นบอก “คนนี้รู้จักกับหลินเช่อและหลินลี่มาตั้งแต่เด็กแล้ว ไม่เหมือนคนอื่น”
“อ๋อ แบบนี้นี่เอง”
“ใช่ ตระกูลหลินของหลินเช่อเอง เดิมก็ไม่ใช่ตระกูลเล็กอะไรอยู่แล้ว แต่ก็ยังห่างจากตระกูลกู้อยู่มากทีเดียว”
“โอเค” หยางหลิงซินมองด้วยสายตาอิจฉา ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มีแต่คนรักและทะนุถนอมหลินเช่อทั้งนั้น
ไม่นานเครื่องบินก็ลงจอด
ฉินชิงรู้สึกว่าเวลาที่ได้อยู่กับเธอมันมักจะสั้นจริงๆ
ตอนที่อยู่บนเครื่อง มองเห็นหลินเช่อหลับพิงเก้าอี้นั่ง ฉินชิงจึงห่มผ้าให้เธอเบาๆ นึกถึงสมัยเด็กๆ ที่เธอนั่งอยู่บนชิงช้าในสวนสาธารณะก็เป็นแบบนี้ นอนอยู่ดีๆ ก็หลับไป
สิบกว่าชั่วโมง ทว่ากลับเหมือนพึ่งจะผ่านไปไม่นาน
ลงจากเครื่องแล้ว ฉินชิงจึงบอก “รถผมจอดอยู่ด้านล่าง ให้ผมขับรถไปส่งคุณนะ”
หลินเช่อจึงรีบเอ่ย “ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวบริษัทเราก็ส่งคนมารับแล้ว”
“ไม่เป็นไร ทางผ่านพอดี ยังไงซะผมก็ขับรถคนเดียว”
และในตอนนั้นเอง ฝั่งนั้น บอดี้การ์ดของตระกูลกู้คนหนึ่งก็รีบเดินเข้ามา
“คุณผู้หญิงครับ” เขาเรียกหลินเช่อ
หลินเช่อตะลึง ฉินชิงเองก็ตะลึงตามไปด้วย
มองไปยังบอดี้การ์ดของตระกูลกู้ รอยยิ้มบนใบหน้าค่อยๆ เลือนหายไปช้าๆ
และยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง ด้านหลังของบอดี้การ์ด ก็ปรากฏใบหน้าของกู้จิ้งเจ๋ออย่างรวดเร็ว
ไม่รู้กู้จิ้งเจ๋อมาตั้งแต่เมื่อไหร่
หลินเช่อคาดไม่ถึงว่ากู้จิ้งเจ๋อจะมารับเธอด้วยตัวเอง
เธอตะลึงงัน หันไปมองกู้จิ้งเจ๋อ “คุณมาได้ยังไง”
กู้จิ้งเจ๋อสายตาทะมึนมองฉินชิง
ฉินชิงชะงักไปชั่วครู่ มือที่อยู่ข้างๆ ประสานอย่างช่วยไม่ได้ แต่ว่ายังคงค้อมศีรษะให้เขาแล้วเอ่ย “สวัสดีครับประธานกู้”
กู้จิ้งเจ๋อเพียงมองเขาเล็กน้อย ยิ้มพลางยื่นมือออกไปดึงกระเป๋าในมือของหลินเช่อมาถือแล้วตอบ “ครับ”
คนด้านหลังก็รับกระเป๋าต่อทันที
กู้จิ้งเจ๋อโอบไหล่หลินเช่อแล้วเดินตรงออกไป
หลินเช่อพลันรู้สึกขอโทษขึ้นมา รีบหันกลับไปบอกกับฉินชิง “งั้นฉันไปก่อนนะคะ”
กู้จิ้งเจ๋อพาเธอเดินตรงไปยังออกทางออกวีไอพีอย่างเป็นธรรมชาติ
ด้านหลัง สายตาของฉินชิงมองไปยังแผ่นหลังของทั้งคู่
ทางออกวีไอพีเป็นทางออกเฉพาะของตระกูลกู้ คนอื่นไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้ เขาทำได้เพียงยืนมองอยู่ตรงนั้น
มองพวกเขาเดินผ่านไป ด้านในมีรถมารอรับอยู่ก่อนแล้ว ดูเอิกเกริก จากนั้นก็แล่นออกไป
ไม่คิดว่ากู้จิ้งเจ๋อจะมารับหลินเช่อด้วยตัวเอง
พูดได้ว่าในใจของกู้จิ้งเจ๋อ หลินเช่อคงมีความสำคัญอยู่มากเลยใช่ไหม
เขาควรยินดีกับหลินเช่อหรือเปล่า แต่เขาไม่ได้อยากทำมันเลยสักนิด
——
หลินเช่อขึ้นรถมาพร้อมกับกู้จิ้งเจ๋อ เอ่ยถามอย่างแปลกใจ “คุณมาได้ยังไงคะ”
กู้จิ้งเจ๋อเอ่ยตอบ “ทำไม ผมมารบกวนคุณหรือไง”
ใบหน้ากู้จิ้งเจ๋อทะมึนขึ้น จ้องเธอเขม็ง
“จะเป็นไปได้ยังไงคะ” หลินเช่อบอก “เราแค่บังเอิญเจอกันที่ปารีส”
กู้จิ้งเจ๋อไม่ได้เจอเธอมาหลายวัน จึงอยากมารับเธอด้วยตัวเอง อยากเซอร์ไพรส์เธอสักหน่อย แต่ไม่คิดว่าจะได้เจอกับฉินชิง
หลินเช่อแอบมองไปที่กู้จิ้งเจ๋อ หัวเราะออกมา “ทำไม… ผ่านไปตั้งนานแล้ว คุณยังหึงเขาอยู่อีกเหรอ”
ใบหน้าของกู้จิ้งเจ๋อทะมึนขึ้นอีกครั้ง “หลินเช่อ!”
กล้ามาพูดว่าเขาหึง
เด็กผู้หญิงคนนี้ช่วงนี้อวดเก่งอีกหรือไง
หลินเช่อหัวเราะแล้วพูดกับเขา “เอาล่ะ ความจริงเขากับฉันก็ไม่ได้มีอะไรแล้ว เราเป็นแค่เพื่อนกันธรรมดา ต่างคนต่างยุ่ง รวมแล้วแทบไม่ได้เจอกันเลยด้วยซ้ำ”
ก็ใช่น่ะสิ เธอคิดกับเขาแค่เพื่อน เขาเชื่อ
แต่ว่า ผู้ชายคนนั้นน่ะหรือ…