เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 381 พวกเขาแต่งงานกันแล้ว
เมื่อออกมาจากโรงแรมแล้ว หลินเช่อรั้งกู้จิ้งเจ๋อเอาไว้ “คุณกำลังทำอะไรกันแน่ ทำไมฉินชิงถึงมาอยู่ที่นี่”
กู้จิ้งเจ๋อตอบ “ทำไมหรอ” เขามองหลินเช่อด้วยใบหน้าไร้เดียงสา “ตระกูลฉินคว้าโครงการครั้งนี้ไปได้ และเขาก็เป็นตัวแทนของตระกูลฉินมาเป็นตัวแทนดูแลในครั้งนี้ไง”
“…” ก็ได้ ฟังแล้วไม่มีทางที่จะตอบโต้ได้เลย “แล้วทำไมคุณต้องไปร่วมงานเลี้ยงอะไรนั่นกับบริษัทตระกูลฉินด้วยล่ะคะ”
กู้จิ้งเจ๋อบอก “ทำไมจะไปตามคำเชิญไม่ได้ ในเมื่อเป็นเพื่อนของเธอ เมื่อก่อนความสัมพันธ์ของเธอกับเขาก็ดีมากด้วย ดังนั้นฉันจึงเห็นแก่หน้าเขา ไปตามคำเชิญดูสักหน่อย ช่วยให้เขาไม่ถูกรังแกเพราะอายุยังน้อยสำหรับการทำงานโครงการก่อสร้าง นี่มีอะไรไม่ถูกต้องตรงไหน”
ยังกล้าพูดแบบนี้อีก
หลินเช่อหมดคำพูดไปชั่วขณะ แต่ว่าเมื่อมองไปยังกู้จิ้งเจ๋อ พลันรู้สึกว่ามันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
แต่ว่ากู้จิ้งเจ๋อนั้นไม่ได้สนใจเธอแล้ว เดินตรงออกไปด้านนอก
หลินเช่อรีบเดินตามหลังเขาไป “กู้จิ้งเจ๋อ คุณกลับมาเดี๋ยวนี้นะ คุณยังพูดไม่ทันรู้เรื่องเลยนะ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่”
“พูดมากจริง กลับไปค่อยคุยเถอะ” กู้จิ้งเจ๋อขมวดคิ้ว เปิดประตูรถและเข้าไป
หลังจากนั้น เมื่อกลับถึงบ้าน เธอยังไม่ทันได้ถามให้ละเอียด ปากเขาก็ปิดผนึกแน่นหนาซะแล้ว
เฮ้อ… ตกลงกันแล้วนะว่ากลับมาจะคุยกันให้ละเอียดว่าทำไม
วันต่อมากู้จิ้งเจ๋อเตรียมจะไปบริษัทตระกูลฉินตั้งแต่เช้า
หลินเช่อคิดอยากจะหนีออกไปทางด้านหลังอย่างเงียบๆ
แต่กู้จิ้งเจ๋อกลับมองเห็นเธอจากในกระจกแล้ว
“หลินเช่อ เธอจะไปไหน” เขาถามขณะกำลังผูกเนกไท
หลินเช่อรีบตอบ “ฉัน… ฉันกำลังจะออกไปข้างนอก ไปกองถ่าย ถ่ายละครค่ะ”
“ฉันให้อวี๋หมินหมิ่นไปลาให้แล้ว วันนี้ไม่ต้องไปกองถ่าย” เขาบอก
“อะไรนะ” หลินเช่อตกใจ “คุณคิดจะทำอะไรกันแน่”
“วันนี้มีงานสังคม แน่นอนว่าเธอต้องไปกับฉัน” กู้จิ้งเจ๋อบอกพลางยื่นชุดมาให้
หลินเช่อบอกอย่างจนปัญญา “ฉัน ฉัน ฉันคงไม่ต้องไปหรอกมั้ง”
กู้จิ้งเจ๋อเอ่ย “เพื่อนเธอนะ คุณจะไม่ไปได้ยังไง ฉันไปร่วมงานของบริษัทตระกูลฉินในนามของเธอ เธอไม่ไป ฉันจะไปยังไงล่ะ”
ดูเหมือนหลินเช่อจะหนีไม่รอด
เธอทำได้เพียงสวมชุดเข้าไปด้วยความจำยอม ตามไปจนถึงหน้างานประมูลของบริษัทตระกูลฉิน
เฉินเหม่ยลี่ได้ยินมานานแล้วว่าหลินเช่อจะมากับกู้จิ้งเจ๋อ
ก่อนหน้านี้เฉินเหม่ยลี่เคยถูกกู้จิ้งเจ๋อทำให้อับอายขายขี้หน้า เธอไม่เคยลืมเรื่องนั้นมาจนถึงทุกวันนี้
ดังนั้นที่ฉินชิงพูดขึ้นมาเมื่อวาน ในใจเฉินเหม่ยลี่จึงต่อต้านถึงที่สุด ทว่ากลับถูกพ่อของฉินชิงดุไปหนึ่งรอบ
บอกว่าเธอเป็นผู้หญิง ไม่รู้อะไร ถึงตอนนั้นก็ให้ยืนอยู่ด้านหลัง อย่ามาขวางหูขวางตา
เธอยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่
เก้าโมงตรงแล้ว ในที่สุดกู้จิ้งเจ๋อก็มาถึง
แน่นอนว่าฉินชิงนั้นมารอรับที่หน้าประตูอยู่ก่อนแล้ว ฉินชิงมองเห็นประตูรถถูกเปิดออก กู้จิ้งเจ๋อเดินนำลงมาก่อน จากนั้นก็เปิดประตูด้วยตัวเองเพื่อให้หลินเช่อตามลงมา
คล้ายกับว่าคนรอบข้างนั้นคุ้นชินไปหมดแล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้เข้ามาช่วย ปล่อยให้กู้จิ้งเจ๋อเป็นคนทำหน้าที่เปิดประตูเอง ถัดจากนั้นก็จับมือหลินเช่อ เธอก้าวออกมา
หลินเช่อลงมาแล้ว เมื่อมองเห็นคนตระกูลฉิน พลันรู้สึกราวกับความฝัน
หลายปีแล้วที่ไม่ได้มาบ้านตระกูลฉิน ได้เจอกับคนในตระกูลฉินแบบนี้
ตอนเด็ก เธอยังมาเล่นบ่อยๆ คนตระกูลฉินไม่นับว่าดีกับเธอ เพราะเธอเป็นลูกนอกสมรส
เมื่อเดินเข้าไปพร้อมกับกู้จิ้งเจ๋อ ผู้นำตระกูลฉินก็รีบเอ่ยทันที “ประธานกู้ การที่คุณมาร่วมงานนั้นทำให้งานประมูลของบริษัทตระกูลฉินของเราดูเปล่งประกายขึ้นมาทันทีเลย รีบเข้าไปด้านในกันดีกว่า เชิญครับ”
เขาเหลือบตามองหลินเช่อที่อยู่ด้านข้างเล็กน้อย สิ่งแรกคือชะงัก รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย จากนั้นจึงบอก “เสี่ยวเช่อ ตอนนี้เธอนี่จริงๆ เลยนะ มีประธานกู้คอยช่วยเหลืออยู่เคียงข้าง การงานของเธอต้องรุ่งโรจน์แน่ๆ ยินดีด้วยนะ”
หลินเช่อทำได้เพียงกล่าวขอบคุณยิ้มๆ
“รีบเข้ามา รีบเข้ามาเถอะ”
ด้านหลัง เฉินเหม่ยลี่กำลังมองภาพๆ นั้นอยู่ ไม่ค่อยอยากเข้ามา จ้องไปยังหลินเช่อ รู้สึกไม่พอใจอยู่ในใจ
ฉินชิงอยู่ข้างๆ จ้องมองหลินเช่อ มองแล้วมองอีก จนกระทั่งเธอเดินเข้าไปด้านในพร้อมกับกู้จิ้งเจ๋อ ถึงยอมถอนสายตากลับมา
กู้จิ้งเจ๋อฟังผู้นำตระกูลฉินแนะนำ จนเดินมาถึงด้านหน้าสุด
กู้จิ้งเจ๋อเองก็มองเห็นเฉินเหม่ยลี่แล้ว แต่เขาทำเพียงกวาดตามองผ่านๆ ไปเท่านั้น ราวกับไม่ได้อยากมอง ฟังผู้นำตระกูลฉินแนะนำต่อไปเงียบๆ ไม่รู้เหมือนกันว่าฟังเข้าหูบ้างหรือเปล่า
เมื่อเฉินเหม่ยลี่มองเห็นสายตาแบบนั้นของกู้จิ้งเจ๋อ ก็นึกถึงตอนนั้นที่บอดี้การ์ดของเขาตบหน้าเธอ จากนั้นเขาก็บอกเสียงเรียบ บอดี้การ์ดของเขาช่างไม่รู้จักพลิกแพลงซะเลย เขาบอกเพียงว่า ใครกล้าต่อว่าหลินเช่อแม้เพียงเล็กน้อยก็ตบปากมันซะ พวกเขากลับทำมันจริงๆ
เธอรู้สึกว่าใบหน้าพลันเจ็บขึ้นมา รีบดึงสายตากลับคืน ไม่กล้ามองอีก
โดยเฉพาะเมื่อคิดว่า ตัวเองคงจะต้องถูกขังที่สถานีตำรวจอีกหลายวันกว่าจะถูกปล่อยออกมา ดังนั้นเธอจึงได้แต่เก็บความไม่พอใจเอาไว้ในใจ
——
เมื่อนั่งที่แล้ว ผู้นำตระกูลฉินก็รีบเอ่ยถาม “ทั้งสองท่านจะรับอาหารว่างอะไรดีครับ เดี๋ยวผมให้คนไปจัดการให้”
กู้จิ้งเจ๋อหันไปมองหลินเช่อที่อยู่ด้านข้าง “เธออยากทานอะไร”
หลินเช่อรีบตอบ “เอ่อ อะไรก็ได้ค่ะ”
“งั้นก็เอามาอย่างละเล็กละน้อยก็ได้ครับ” เขาเงยหน้าขึ้นไปบอก
“…” เธอไม่ได้บอกให้เอามาทั้งหมดนะ เลือกมาอย่างสองอย่างก็พอแล้ว
คนตระกูลฉินที่นั่งดูอยู่ รู้สึกว่ามันแปลกไหมนะ
ผู้นำตระกูลฉินกลับไม่ได้สนว่าคำขอของกู้จิ้งเจ๋อจะมากเกินไป เพียงหัวเราะและไปจัดการให้
เหลือฉินชิงที่นั่งอยู่ตรงนั้น มองไปยังกู้จิ้งเจ๋อและหลินเช่อ หลินเช่อรู้สึกอึดอัด ลุกขึ้นแล้วบอกว่าตัวเองจะไปห้องน้ำแล้วเดินออกไป
เมื่อรู้สึกว่ากู้จิ้งเจ๋อกำลังมองตัวเองอยู่ ฉินชิงจึงถอนสายตากลับมา
กู้จิ้งเจ๋อหรี่ตาลง “ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ที่ผ่านมาของคุณกับหลินเช่อจะไม่เลวนะครับ”
“น่าตลกนะครับ เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว”
“งั้นคุณคงรู้จักเธอเป็นอย่างดีเลยสินะครับ ผมยังไม่รู้เลยว่าที่ผ่านมาเธอมีเรื่องอะไรน่าสนใจเกิดขึ้นบ้าง ไม่รู้ว่าตอนนั้นก็เปิ่นแบบนี้หรือเปล่า สมองไม่พัฒนาเลยจริงๆ”
ฉินชิงมองรอยยิ้มของกู้จิ้งเจ๋อ “ประธานกู้ใส่ใจหลินเช่อมากเลยนะครับ”
“แน่นอนครับ เธอเป็นภรรยาของผม ในฐานะสามี ต้องใส่ใจภรรยาของตัวเองอยู่แล้ว ไม่ใช่เหรอครับ”
ฉินชิงตกใจตัวแข็งไปทั้งร่าง
เขาบอกว่า หลินเช่อเป็น… เป็นภรรยาของเขางั้นเหรอ
ฉินชิงมองกู้จิ้งเจ๋ออย่างไม่อยากจะเชื่อ
“หลินเช่อแต่งงานแล้วเหรอครับ”
สายตาคู่นั้นไม่ได้ปกปิดไว้อีกแล้ว ท่าทางไม่เชื่อของเขาแสดงออกมาอย่างชัดเจน
กู้จิ้งเจ๋อบอก “ทำไมครับ เธอไม่ได้บอกคุณเหรอ”
เป็นไปได้อย่างไร หลินเช่อ จะแต่งงานกับกู้จิ้งเจ๋อได้อย่างไร…
ตอนนี้เธอเป็นคุณนายกู้ไปแล้วเหรอ
ฉินชิงไม่เคยได้ยินมาก่อนถึงข่าวการแต่งงานของกู้จิ้งเจ๋อ
เขามองกู้จิ้งเจ๋ออย่างไม่เชื่อ “คุณโกหก พวกคุณคงไม่ได้… เป็นไปไม่ได้ที่จะแต่งงานแล้ว”
ดวงตาของกู้จิ้งเจ๋อวาววับ จ้องมองฉินชิง “หมายความว่ายังไงที่ว่าเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะแต่งงานกับผม ผมกับเธอเราแต่งงานกันมาปีกว่าแล้ว คุณคิดว่าไม่ได้ ทำไมถึงไม่ได้ล่ะครับ”