เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 390 ในสายตาฉันคุณร้ายที่สุดแล้ว
ไม่นานบอดี้การ์ดก็กลับไป
หลินเช่อหันกลับมา ให้หยางหลิงซินเข้าไปช่วยจัดเตรียมตารางการทำงานก่อน ความจริงเพียงแค่อยากกันเธอออกไปเท่านั้น
แม้ว่าหยางหลิงซินจะไม่เต็มใจ แต่ก็ทำได้เพียงยู่ปากมองทั้งสองคน แล้วกลับเข้าไปก่อน
เพียงแต่ในใจของเธอยังคงคิดถึงเรื่องนี้ รู้สึกแปลกใจอย่างห้ามไม่ได้ อวี๋หมินหมิ่นพูดจริงเหรอ เธอจะจะแต่งงานกับท่านประธานาธิบดีเนี่ยนะ
เป็นไปได้อย่างไร
แต่ว่า ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย บางทีเธออาจจะรู้จักท่านประธานาธิบดีผ่านหลินเช่อก็ได้ จากนั้นจึงโชคดีได้แต่งงานกับเขา
หยางหลิงซินเม้มปาก คิดในใจ ทำไมคนรอบข้างหลินเช่อมีแต่คนโชคดีทั้งนั้น
เมื่อไหร่ โชคดีแบบนี้จะตกมาถึงเธอกันนะ
——
มองคนที่เดินออกไปแล้ว หลินเช่อจึงรีบจูงอวี๋หมินหมิ่น “เกิดอะไรขึ้น ทำไมพวกคุณถึงได้…”
อวี๋หมินหมิ่นไม่มีทางเลือกจึงต้องเล่ารายละเอียดทุกอย่างให้หลินเช่อฟัง
หลินเช่อตกใจ “ตอนนั้นพวกเธอก็ตกไปอยู่ด้วยกันเหรอ”
อวี๋หมินหมิ่นกระแอม “ระวังคำพูดเธอหน่อย อะไรคือตกไปอยู่ด้วยกัน”
“ก็มันเป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอ เธอไม่เห็นบอกอะไรฉันสักนิด”
“ฉันเองก็แปลกใจ ไม่รู้ทำไมตอนนั้นถึงได้มีคนลักพาตัวฉันไปส่งไว้ที่ห้องของเขา ตอนนั้นฉันดื่มจนเมา ไม่ได้รับรู้อะไร แต่ว่าตอนนี้ลองคิดกลับไป มันก็น่าสงสัยมาก”
“ฉันว่าพวกเขาจับคนผิดแล้วหรือเปล่า” หลินเช่อเอ่ย
อวี๋หมินหมิ่นเห็นด้วย “ฉันว่าก็อาจจะเป็นไปได้”
“แต่ว่าตอนนี้เธอจะแต่งงานกับพี่ใหญ่จริงๆ น่ะเหรอ”
“เขาไม่ได้ให้สิทธิ์ฉันเลือกเลยสักนิด บอกแค่ว่าฉันต้องให้ความร่วมมือกับเขา ฉันรู้ ฐานะของฉันแบบนี้ เขาไม่มองหรอก แต่ก็ต้องจำใจเอาฉันไปบังหน้า ฉันก็ทำอะไรไม่ได้… ปัจจัยทางการเมืองนั้นยิ่งใหญ่ นอกจากวิธีนี้แล้ว ฉันก็ไม่มีทางอื่นให้เลือก”
“จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง…” หลินเช่อพูดต่อ “เขาบ้าไปแล้วหรือเปล่า การแต่งงานไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะ”
“สำหรับเขาแล้ว การแต่งงานก็เป็นแค่เครื่องมือเท่านั้น ช่างเถอะ เขารับปากฉันแล้วว่าทำงานต่อไปได้ แต่ต้องเรียนพวกมารยาทอะไรต่างๆ ทุกวัน จริงๆ เลย… ฉันว่าฉันต้องทรมานตายแน่ๆ”
“ฮ่าๆ เธอต้องเรียนมารยาทเหรอ”
“ฉันก็ไม่คิดเหมือนกัน ฉันรู้สึกว่าเซลล์การเรียนของฉันได้คืนให้ครูไปแล้วตั้งแต่จบจากโรงเรียน ไม่คิดว่าจะต้องไปเรียนอีก”
“ฮ่าๆ ถึงตอนนั้นคงไม่ต้องทำการบ้านด้วยหรอกนะ เอามาให้ฉันช่วยเธอทำได้นะ”
“ให้ตายเถอะ”
เธอตีหลินเช่อไปหนึ่งที
เธอเคยชินตั้งแต่เด็กแล้ว ชีวิตมีการเปลี่ยนแปลงไปตามโชคชะตา ดังนั้นตอนนี้จึงไม่ได้รู้สึกอะไร
เพียงแต่
กู้จิ้งหมิงบอกว่าเธอไม่เคยมีความรักและไม่เคยมีคนที่ชอบ ความจริงแล้ว… เขายังสืบได้ไม่ละเอียดพอ…
ถ้าหากเขาสืบให้ละเอียดอีกสักนิด เขาคงจะสืบเจอว่าหลายปีก่อนเธอเคยไปออสเตรเลียครั้งหนึ่ง ไม่ใช่เพราะเหตุผลอื่น เพียงเพราะว่า… อดีตเจ้าของธุรกิจบันเทิงถูกยิงที่นั่น ตอนนั้น เธออยู่ที่ออสเตรเลียเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ก่อนที่จะกลับมายังประเทศซี
แต่ว่าตอนนี้เขาตายไปแล้ว…
——
รู้เรื่องของอวี๋หมินหมิ่นแล้ว หลินเช่อเองก็รู้สึกแปลกใจ แต่ว่าที่แปลกไปกว่านั้นคือหยางหลิงซิน พออวี๋หมินหมิ่นไปทำงาน หยางหลิงซินก็รีบถามทันที “พี่หมินหมิ่นจะไปเป็นภริยาท่านประธานาธิบดีจริงๆ น่ะเหรอ”
“อะไรก็ยังไม่แน่นอน แต่ว่าเธอต้องจำเอาไว้ เรื่องนี้ห้ามแพร่งพรายออกไป ไม่งั้นเกิดอะไรขึ้น อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เธอสามารถควบคุมได้”
หยางหลิงซินได้ยินดังนั้น จึงรีบพยักหน้า “ได้ๆ ฉันจะไม่พูดออกไปแน่นอน”
เธอบอกต่อว่า “แต่ว่าพี่หมินหมิ่นโชคดีจังเลย”
หลินเช่อเอ่ย “เด็กโง่ ได้แต่งงานกับคนที่ตัวเองรักและคนที่รักตัวเอง นั่นถึงจะเรียกว่าโชคดี”
หลินเช่อหวังว่ากู้จิ้งหมิงจะดีกับเธอบ้าง
เธอคิดว่ากู้จิ้งหมิงเป็นคนค่อนข้างเย็นชา แม้ว่าคนทั่วไปจะเรียกเขาว่าท่านประธานาธิบดีผู้อบอุ่น แต่ทว่าเขายังคงไม่ไว้หน้าใคร
——
หยางหลิงซินยังคงนึกอิจฉาอยู่ในใจ เธอมองหลินเช่อแล้วเอ่ย “ฉันเองก็หวังว่าจะเจอสามีที่ดีแบบนี้ก็พอแล้ว”
หลินเช่ออยากบอกกับเธอว่า เรื่องการแต่งงานก็ต้องดูตามความรู้สึกด้วย
แต่งงานเมื่อพร้อมจะไม่มีความสุขกว่าเหรอ
แต่ว่ายังไม่ทันได้เอ่ยออกไป กู้จิ้งเจ๋อก็โทรมา
หลินเช่อจำได้ว่ารับปากกู้จิ้งเจ๋อว่าจะรีบไป จึงต้องรีบออกจากบริษัท
กู้จิ้งเจ๋อรับหลินเช่อไปทานข้าวด้วยกัน
ช่วงนี้กู้จิ้งเจ๋อดูยุ่งมากๆ หลินเช่อเองก็ไม่กล้ารบกวนเขานัก
เธอมองไปยังกู้จิ้งเจ๋อแล้วถาม “ช่วงนี้คุณยุ่งมากเหรอคะ”
กู้จิ้งเจ๋อพยักหน้า “ใช่ ช่วงนี้ยุ่งๆ หน่อยน่ะ” เขามองหลินเช่อ ยื่นมือไปขยี้ศีรษะเธอแล้วบอก ว่า“รอเสร็จธุระแล้ว ฉันจะพาเธอไปเที่ยวนะ”
“จริงเหรอคะ ไปเที่ยวที่ไหนคะ”
“ให้เธอเลือก”
หลินเช่อมองกู้จิ้งเจ๋อ “งั้นคุณกำลังยุ่งเรื่องงานแต่งของพี่ใหญ่อยู่หรือเปล่าคะ”
กู้จิ้งเจ๋อพยักหน้า หันมามองเธอ “เธอรู้ด้วยเหรอ”
หลินเช่อบอก “เอ่อ… ค่ะ คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันรู้แล้ว ฉันยังไม่พูดอะไรเลยนะ”
กู้จิ้งเจ๋อบอก “เธอไม่เคยยุ่งเรื่องของฉัน แต่กลับถามขึ้นมา แน่นอนว่าต้องรู้”
“ก็ได้ แต่ว่า ทำไมต้องเป็นอวี๋หมินหมิ่นด้วยละคะ”
กู้จิ้งเจ๋อบอก “แค่เธอบังเอิญรู้เรื่องเข้า จะโทษใครก็ไม่ได้”
“แต่ว่าพี่ใหญ่ไม่ได้คิดอะไรกับเธอเลยใช่ไหมคะ”
“ครับ”
“งั้นก็ร้ายไปหน่อยนะคะ”
“นี่เป็นเรื่องการเมือง” กู้จิ้งเจ๋อมองหลินเช่อ “อวี๋หมินหมิ่นนับว่าเป็นผู้เสียสละให้กับการปกครอง เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้น่ะ”
“ความหมายของคุณคือเมื่อหมินหมิ่นแต่งไปแล้ว อาจจะต้องอยู่คนเดียวไปชั่วชีวิตหรือคะ”
“ครับ”
หลินเช่อเบ้ปาก “พวกคุณร้ายจริงๆ”
กู้จิ้งเจ๋อบอก “เรื่องนี้มันไม่มีทางให้ถอยกลับแล้ว ถ้ามี เราก็คงไม่ตัดสินใจแบบนี้ แต่ว่า มันขึ้นอยู่กับว่าพี่ใหญ่จะอยู่ในตำแหน่งนี้ได้ต่อไปหรือเปล่า เป็นปัญหาของประชาชนที่ต้องเผชิญ ดังนั้น ร้ายที่บอกนั่นไม่ผิด แต่ว่าก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี”
หัวใจหลินเช่อหนักอึ้ง
เพียงแต่ถึงปัญหาหนักหนาขนาดนี้ มันก็ไม่ใช่ความรู้สึกส่วนตัวที่จะบังคับให้ขยับซ้ายหลีกขวาได้
หลินเช่อเพียงเศร้าใจแทนอวี๋หมินหมิ่นแค่นั้นเอง
“ยิ่งไปกว่านั้น บางทีเธอก็อาจจะไม่สนใจก็ได้ ยังไงซะการได้เป็นภริยาของประธานาธิบดี อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลกับเสื้อผ้าอาหาร”
หลินเช่อมองไปยังกู้จิ้งเจ๋อ
เขาเองก็คิดแบบนี้เหรอ ไม่ได้คิดถึงเรื่องความรู้สึก แค่เพียงไร้กังวลเรื่องเสื้อผ้าอาหารก็พอแล้ว
หลินเช่อเอ่ย “หมินหมิ่นไม่ได้เป็นคนแบบนั้น ถ้าเธอสนใจเสื้อผ้าอาหารจริง ก็คงไม่ยอมเป็นแค่ผู้จัดการที่ไม่มีชื่อเสียงอะไรแน่”
กู้จิ้งเจ๋อมองหลินเช่อ “เอาเถอะ ยังไงซะสมองหมูอย่างเธอ ใครอยู่ในสายตาเธอล้วนดีไปหมดนั่นแหละ”
“ไม่นะ คุณร้ายที่สุดในสายตาฉัน” หลินเช่อค้อน
ดวงตากู้จิ้งเจ๋อกระตุก จ้องมองเธอแล้วกระซิบเสียงเบาข้างๆ หู “ฉันร้ายยังไง บอกฉันมาสิ”