เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 391 เขากำลังหลอกเธออยู่หรือเปล่า
“ไปๆๆ คุณไปนั่งตรงนั้น อยู่ห่างๆ ฉันเลยนะ” หลินเช่อร้องออกมา มองคนขับรถตรงหน้า ที่นี่ยังมีคนอื่นอยู่ด้วยนะ เขายังกล้าเข้ามาใกล้ขนาดนั้น
กู้จิ้งเจ๋อพาเธอมาทานอาหารที่ร้านอาหารร้านหนึ่ง
เมื่อลงจากรถ บอดี้การ์ดก็เคลียร์คนจากด้านในออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทุกคนทำได้เพียงมองกู้จิ้งเจ๋อกอดประคองหลินเช่อเข้ามาอยู่ไกลๆ คาดเดาในใจว่าใครกันที่มา มองสัญลักษณ์สีฟ้าเหล่านั้น มีคนบอกว่านี่เป็นสัญลักษณ์ของบอดี้การ์ดตระกูลกู้ คนพวกนี้น่าจะเป็นคนของตระกูลกู้
กู้จิ้งเจ๋อและหลินเช่อนั่งลง เขาให้หลินเช่อเลือกสั่งอาหารตามที่เธอต้องการ หลินเช่อทานอาหารพลางคิดเรื่องที่เขาบอกว่าจะพาตัวเธอไปเที่ยวไปด้วย จะไปเที่ยวที่ไหนดีนะ
“คุณคิดว่าเกรทแบริเออร์เป็นไงคะ” หลินเช่อถาม
“เธออยากไปเหรอ”
“ฉันแค่ลองคิดดูว่าช่วงนี้มีอะไรน่าเที่ยว ยังไงซะฉันก็ไม่เคยไปที่ไหนอยู่แล้ว ไปที่ไหนก็ได้ทั้งนั้นค่ะ”
กู้จิ้งเจ๋อบอก “ที่ไหนเหมาะแก่การพักผ่อน ก็ได้ทั้งนั้น”
“แต่ฉันก็ยังอยากไปยุโรปบ้าง ไอซ์แลนด์เป็นไงคะ”
“ที่นั่นไปตอนนี้คงไม่ดีเท่าไหร่ แต่ก็สวยมาก”
“เฮ้อ ที่ไหนคุณก็บอกว่าดี ฉันไม่รู้จะเลือกยังไงแล้ว”
“ใช่ เพราะเธอบอกว่าที่ไหนเธอก็ไม่เคยไป และสถานที่พวกนี้ผมเคยไปมาหมดแล้ว ดังนั้นแน่นอนว่าที่ไหนก็ได้”
“ว้าว คุณเคยไปเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ” หลินเช่อมองเขา “คุณคงไม่ได้เคยไปหมดทุกที่ทั่วโลกหรอกนะ”
“เพราะทำงานเลยได้ไปบางที่ ตอนพักร้อนทุกๆ ปีก็เคยไปบางแห่ง รวมที่ไปกับครอบครัวอีกไม่กี่ครั้ง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไปมาหมดทุกที่หรอก แต่ว่าจากสมองของเธอ ชื่อสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่เธอสามารถบอกมาได้ ฉันคงเคยไปมาหมดแล้วล่ะ”
“…” หลินเช่อมองกู้จิ้งเจ๋อด้วยความอิจฉา “งั้นก็ไม่ต้องไปแล้ว คุณเคยไปมาหมดแล้ว ไปอีกจะสนุกอะไรล่ะ ไม่ต้องไปอีกครั้งเพื่อฉันหรอกค่ะ”
กู้จิ้งเจ๋อมองหลินเช่อแล้วบอก “ไม่เป็นไรหรอก เพราะทำงานเลยทำให้ได้ไปหลายที่ แต่ว่า ฉันไม่ค่อยได้เดินเที่ยวหรอก”
“ไปแล้วทำไมถึงไม่เที่ยวให้ทั่วล่ะคะ”
“เพราะไปทำงาน จะเอาเวลาที่ไหนไปเที่ยวกันล่ะ”
หลินเช่อจุ๊ปากสองครั้ง มองกู้จิ้งเจ๋อด้วยความเห็นใจ แม้จะมีเงินมากมาย แต่ว่าเพราะยุ่ง ถึงได้พลาดบรรยากาศมากมายรอบข้างไป
หลินเช่อกำลังพูด แต่กลับได้ยินเสียงโทรศัพท์ของกู้จิ้งเจ๋อดังขึ้นมา
กู้จิ้งเจ๋อหยิบโทรศัพท์ออกมา ดูชื่อ สีหน้าปกติ แต่เหลือบมองหลินเช่อก่อนแล้วลุกขึ้น ออกไปรับโทรศัพท์
หลินเช่อแปลกใจ ใครโทรมากันถึงได้ทำลับๆ ล่อๆ เช่นนี้
น้อยมากที่มีสายเข้ามาแล้วเขาจะหลบเธอไปคุย แม้จะมีความลับเรื่องงานมากมาย แต่เธอก็ฟังไม่รู้เรื่องอะไรอยู่ดี จึงไม่เคยสนใจสักนิด เขาเองก็ไม่เคยแอบไปคุยลับหลังเธอ
——
กู้จิ้งเจ๋อกดรับสาย “มีอะไร”
ลู่ชูเซี่ยที่อยู่ในสายพูดว่า “เพราะเป็นห่วงอาการป่วยของพี่ ฉันอยากบอกว่าฉันรู้จักหมอที่ไม่เลวอยู่สองคน มาเจอกันหน่อยไหมคะ”
“ฉันทานข้าวอยู่ ค่อยคุย”
“ไม่เอาสิ พี่จิ้งเจ๋อ ฉันหวังดีกับพี่นะ อีกย่าง ฉันก็ยังไม่เข้าใจ พี่เป็นอะไรกันแน่ ลองคาดเดาไปเองต่างๆ นานาแล้วก็แปลกใจน่ะ บอกรายละเอียดสักหน่อยสิคะ”
กู้จิ้งเจ๋อเงียบนิ่ง กำโทรศัพท์เอาไว้
ผ่านไปไม่นาน จึงเอ่ย “ได้สิ”
“ดีจังเลย พี่จิ้งเจ๋อ แล้วเจอกันนะคะ”
หลินเช่ออยู่ด้านใน มองเห็นว่ากู้จิ้งเจ๋อกลับมาแล้วจึงถามเขา “เป็นอะไรคะ มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”
กู้จิ้งเจ๋อส่ายหัว “ทานต่อข้าวเถอะ”
กู้จิ้งเจ๋อไม่อยากให้หลินเช่อต้องมาคิดมากกับเรื่องพวกนี้จึงไม่ได้พูดอะไร
รอจนทั้งสองทานข้าวเสร็จแล้วก็ตกลงกันไม่ได้ว่าสรุปจะไปที่ไหน กู้จิ้งเจ๋อจึงบอกว่าตัวเองต้องไปจัดการธุระหน่อย ให้คนไปส่งเธอกลับบ้านก่อน
หลินเช่อจำต้องพยักหน้ารับ มองกู้จิ้งเจ๋อแล้วก็รู้สึกว่าช่วงนี้เขายุ่งมากจริงๆ
——
หลังจากลู่ชูเซี่ยวางสาย ริมฝีปากก็ไม่ต้องสะกดกั้นรอยยิ้มอีกต่อไป
เธอได้สิ่งต่อรองกับกู้จิ้งเจ๋อแล้ว
เธอรู้ว่าเรื่องนี้กู้จิ้งเจ๋อไม่ต้องการให้คนนอกรับรู้
ดูเหมือนว่าตอนนี้ ข้อต่อรองนี้จะได้ผลอยู่ ที่แท้กู้จิ้งเจ๋อกลัวเธอเพราะเหตุผลนี้นี่เอง
แต่ว่าแค่นี้ยังไม่พอ
เธอต้องใช้ประโยชน์จากมันให้คุ้มค่าด้วย
ลู่ชูเซี่ยคิดแล้วคิดอีก เรื่องนี้เธอจะทำเองไม่ได้ แต่ว่าช่วงนี้เธอพึ่งจะเลี้ยงสุนัขไว้หนึ่งตัวไม่ใช่เหรอ
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เล่นของตรงหน้า ต่อสายหาหลินลี่
“หลินลี่ คุณช่วยไปจัดการเรื่องหนึ่งให้ฉันหน่อยได้ไหม”
——
หลินเช่อมองกู้จิ้งเจ๋อออกไปแล้ว ตัวเองก็นั่งรถกลับบ้าน
ตอนนั้นเอง เธอกดเข้าอ่านวีแชท เห็นว่าหลินลี่ส่งข้อความมาหาเธอ
[น้องเล็ก หลายวันนี้สื่อต่างๆ เล่นข่าวหนักเกินไป เธอไม่ต้องไปใส่ใจนะ]
พังพอนมอบของขวัญปีใหม่ให้กับไก่ ไว้ใจไม่ได้
หลินเช่อคิดแล้วคิดอีก ตอบกลับไปว่า [ไม่เป็นไรค่ะ เห็นพี่โดนด่ายับแบบนั้น ฉันก็ชื่นใจ]
หลินลี่ตอบกลับมาโดยไว [ยังไงนั่นก็งานนี่นา เรื่องงาน ฉันคงทำอะไรไม่ได้หรอก ก็ได้แต่ฟังเขา เธอก็รู้ แต่ว่า ยังไงเธอก็เป็นน้องสาวฉัน มีบางอย่างที่ฉันต้องเตือนเธอหน่อย ทำไมช่วงนี้กู้จิ้งเจ๋อถึงได้ใกล้ชิดกับผู้หญิงคนอื่นจังเลยล่ะ]
นี่มันพังพอนมอบของขวัญปีใหม่ให้ไก่จริงๆ
[เหรอคะ ขอบคุณที่เตือนนะคะ] หลินเช่อไม่คิดจะสนใจเธออีก
แต่ว่าห้ามไม่ให้หลินลี่พูดต่อไม่ได้ [ที่ทำการสมาคมถนนจงเหมินสาม ฉันบังเอิญผ่านไปเจอกู้จิ้งเจ๋ออยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอว่าค่ำมืดแบบนี้ อยู่กับผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่สมาคม จะมีเรื่องอะไรล่ะ แน่นอน อาจจะเป็นการคบค้าสมาคม ฉันก็หวังว่าตัวเองจะคิดมากเกินไป]
หลินเช่อจ้องหลินลี่ในโทรศัพท์เขม็ง ปิดหน้าจอ
แต่ว่า ถ้าบอกว่าไม่สนใจก็คงจะเป็นไปไม่ได้ ในใจนั้นยังสนใจอยู่ดี
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ดวงตากลอกไปมา สุดท้ายก็ทนไม่ได้ ต่อสายหากู้จิ้งเจ๋อ
ต่อสายได้ไม่นานปลายสายก็กดรับ
หลินเช่อถาม “ยังยุ่งอยู่หรือเปล่าคะ”
“อืม”
“อ่อ ยุ่งเรื่องอะไรอยู่คะ เรื่องพี่ใหญ่เหรอ”
“อืม ต้องเจอคนนิดหน่อย”
กู้จิ้งเจ๋ออยู่ที่นั่นก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แค่ตอบไปตามสถานการณ์ มองลู่ชูเซี่ยที่อยู่ตรงหน้า สีหน้าเรียบนิ่ง
หลินเช่อมองโทรศัพท์ ตอนนั้นเองก็เห็นว่าหลินลี่ส่งรูปมาให้เธอรูปหนึ่ง
ในรูปนั้น เป็นกู้จิ้งเจ๋อและลู่ชูเซี่ยนั่งอยู่บนโต๊ะกลมสองฝั่ง ไม่รู้คุยอะไรกัน
หัวใจหนักอึ้ง
เธอรู้สึกเพียงว่าการเต้นของหัวใจนั้นเจ็บปวด หายใจแทบไม่ออก
เม้มริมฝีปากแน่น กลับบ้านไปทั้งแบบนั้น ไม่พูดไม่จาแล้วเดินเข้าห้องไป ไม่อยากจะพูดอะไร
จนกระทั่งกู้จิ้งเจ๋อกลับมาถึง ถามสาวใช้ว่าคุณผู้หญิงไปไหน
สาวใช้บอก “คุณผู้หญิงไม่รู้ว่าป่วยหรือเปล่าค่ะ เข้าไปในห้องแล้วก็ไม่ออกมาอีกเลย”
หัวคิ้วกู้จิ้งเจ๋อขมวดเข้าหากัน
สาวเท้าก้าวเดินเข้าไปในห้องนอน