เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 420 มู่เฝ่ยหรานบอกว่า ก็ฉันชอบหลินเช่อ
คนรอบข้างรีบประจบ “หวานหว่าน เธอรู้จักคนเยอะจังเลยนะ”
“นั่นน่ะสิ ความนิยมเธอดีจังเลย ใครก็ดีกับเธอทั้งนั้น”
“อาจารย์ต่างก็เป็นคนคุ้นเคยกับเธอ น่าอิจฉาจังเลย”
“ใครใช้ให้หวานหว่านเป็นดาราดังล่ะ ไม่เหมือนเราอยู่แล้ว ปีนี้ยังได้เข้าชิงรางวัลใหญ่ยอดนิยมด้วยนะ”
“ยอดนิยมอะไรล่ะ ต้องเป็นรางวัลใหญ่แน่ๆ ปีนี้ใครจะดังสู้หวานหว่านได้อีก”
ทุกคนเอ่ยถึงการเข้าชิงรางวัลขึ้นมา ไม่ได้สนใจหลินเช่อที่ถอนตัวออกจากการเข้าชิงรางวัล ที่นั่งอยู่ข้างๆ
ฉินหวานหว่านยิ้มให้ทุกคน เดินเข้าไปหาอาจารย์พูดคุยหัวเราะสนุกสนาน
บางคนนั่งซุบซิบอยู่ข้างๆ รู้จักอาจารย์นี่ดีจริงๆ ทุกคนต่างถูกทิ้งไว้แบบนั้น
ทุกคนมองฉินหวานหว่าน แน่นอนว่ารู้สึกอิจฉา
ตอนนั้นเอง ด้านนอกเกิดเสียงกรี๊ดขึ้นมา มีคนเข้ามาอีกแล้ว
มีคนตะโกน “อ๊ายยย วันนี้แขกพิเศษที่มาคือมู่เฝ่ยหราน”
ด้านหน้า อาจารย์ที่กำลังพูดรีบลุกขึ้นมา “มู่เฝ่ยหรานมาแล้วเหรอ จริงสิ วันนี้มู่เฝ่ยหรานจะมาพูดเรื่องความลับของการโด่งดังแบบยาวนานนะ”
ทุกคนเริ่มสนใจขึ้นมา
หลินเช่อเองก็ลุกขึ้นยืน มองเห็นมู่เฝ่ยหราน สวมแว่นกันแดด กำลังถูกทุกคนรุมล้อม เมื่อเข้ามาแล้ว คนด้านนอกก็ยังมุงดูกันอยู่
มู่เฝ่ยหรานถอดแว่นออก คนด้านข้างรีบแนะนำ “คงไม่ต้องแนะนำ ทุกคนก็คงรู้จักราชินีซูเปอร์สตาร์ของเรา คุณมู่เฝ่ยหราน”
ทุกคนรีบปรบมือ มองมู่เฝ่ยหรานอย่างตื่นเต้น
มู่เฝ่ยหรานหัวเราะ “ทุกคนต่างก็เป็นศิลปินเหมือนกัน ไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้น ฉันก็แค่เข้าวงการก่อนพวกคุณแค่นั้น ดังนั้นจึงได้มีโอกาสมาพูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์ของฉันอยู่ตรงนี้”
มู่เฝ่ยหรานเป็นไอดอลที่มีความสามารถรอบด้าน ความสามารถเต็มเปี่ยม ทุกคนต่างก็ชื่นชอบเธอ
ชั่วครู่เธอพลันมองเห็นหลินเช่อ จึงรีบเอ่ย “อ้าว หลินเช่อ คุณก็มาเข้าร่วมการฝึกครั้งนี้เหรอคะ”
ทุกคนต่างก็อึ้งตามกันไป
หลินเช่อยืนอยู่ตรงนั้น มู่เฝ่ยหรานเดินเข้ามาแล้วเอ่ยขึ้นอย่างสนิทสนม “ความจริงการฝึกก็มีประโยชน์นะ”
“ใช่สิ ไม่คิดว่าพี่เฝ่ยหรานจะมาค่ะ”
“ฉันก็แค่รับปากจะช่วยเพื่อน มาดูสักหน่อยน่ะ”
ทั้งคู่พูดคุยกันอยู่ตรงนั้นด้วยความสนิทสนม อีกด้าน ฉินหวานหว่านที่ยืนอยู่ด้านข้างอาจารย์ ก็รู้สึกกระอักกระอ่วน ใบหน้าตึงขึ้นมา
รู้จักอาจารย์เยอะแล้วอย่างไร ไม่ได้ครึ่งสิ่งนี้เลยสักนิด
อาจารย์ทุกคนที่ล้วนเดินเข้าไปหา ใบหน้ายินดีชื่นชม วางอำนาจการเป็นรุ่นพี่ลง แล้วห้อมล้อมมู่เฝ่ยหราน ก็พอจะรู้แล้วว่าตอนนี้มู่เฝ่ยหรานมีอิทธิพลมากแค่ไหนในวงสังคม
ทุกคนมองไปยังมู่เฝ่ยหรานกับหลินเช่อ หลินเช่อพูดคุยหัวเราะร่า มู่เฝ่ยหรานเองก็พูดคุยสนุกสนาน ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะดูไม่เลวเลยทีเดียว
เหล่านักเรียนต่างมองหน้ากัน คล้ายกับกำลังใช้สายตาสื่อความหมายหากัน
พอมู่เฝ่ยหรานมาแล้ว ฉินหวานหว่านก็กลายเป็นคนไร้ตัวตนไปเลย
ก็ใช่น่ะสิ มู่เฝ่ยหรานมาถึง ก็พุ่งตรงไปหาหลินเช่อ ไม่สนใจฉินหวานหว่านเลยสักนิด ดูเหมือนฉินหวานหว่านจะไม่ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเหล่าดาราดังๆ พวกนี้สักเท่าไหร่
แต่หลินเช่อกลับรู้จักคนเหล่านี้ คนที่รู้จักกับเธอมีแต่ดาราดังๆ ทั้งนั้น
ใช่ คนรู้จักดาราดังหนึ่งคน แน่นอนว่าต้องสุดยอดยิ่งกว่าคนที่รู้จักกับรุ่นพี่ไร้ชื่อเสียงไปทั่วอยู่แล้ว
ทุกคนต่างมองหน้ากัน แสงออร่าที่สว่างไสวของฉินหวานหว่านเมื่อสักครู่ ตอนนี้ดับลงไปแล้ว หลินเช่อกลับกลายเป็นคนที่ทุกคนต่างก็อิจฉา
ฉินหวานหว่านมอง เดินเข้ามาจากทางด้านหลัง เอ่ยทักทายมู่เฝ่ยหราน “พี่เฝ่ยหรานมาแล้วเหรอคะ”
เธอคิดว่า เธอเองก็รู้จักมู่เฝ่ยหรานเช่นกัน ไม่ได้มีแค่หลินเช่อเท่านั้นหรอกที่รู้จักดาราดังๆ เหล่านี้
จากนั้น มู่เฝ่ยหรานแค่เหลือบมองเธอ “อ้อ ใช่”
จากนั้นเธอจึงหันไปบอกกับอาจารย์ “เริ่มเรียนเถอะ”
แน่นอนว่าอาจารย์เชื่อฟังเธอ รีบพยักหน้ารับ “อ้อ ได้เลย”
มู่เฝ่ยหรานไม่ชายตามองฉินหวานหว่านเลยแม้แต่น้อย เดินเข้าไปนั่งด้านหน้า
ใบหน้าของฉินหวานหว่านเข้มขึ้น
ทำได้เพียงมองไปด้านหน้า กลับไปนั่งในที่ของตัวเอง
มู่เฝ่ยหรานเล่าถึงประสบการณ์ของตนเอง มองลงมาด้านล่าง เอ่ยถามขึ้นมา “ความจริงแล้วคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ก็มีคนที่มีประสบการณ์คล้ายๆ ฉัน ก็คือหลินเช่อนั่นเอง”
ทุกคนหันไปมองหลินเช่อ
มู่เฝ่ยหรานบอก “ตอนนั้นฉันเองก็เป็นคนธรรมดาที่ไม่ได้มีบทบาทอะไร นานทีเดียวถึงได้เริ่มรับบทเป็นตัวเอก ดังนั้นฉันเชื่อมาตลอดว่า ความพยายามมักจะเห็นผลเสมอ อีกทั้ง ในความพยายามที่สะสมมาหลายปี ฉันได้ลองบทบาทที่หลากหลาย และก็เป็นตอนนั้น ที่มันฝึกฝนขัดเกลาทักษะการแสดงของฉันมา ฉันคิดว่า ตอนนี้นักแสดงหลายคนเติบโตมาในห้องที่อบอุ่น ให้ความสำคัญกับชื่อเสียง แต่กลับลืมสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนักแสดงนั่นคือทักษะการแสดง และฉันก็หวังว่า การฝึกฝนในครั้งนี้ จะสามารถพัฒนาทักษะการแสดงของพวกคุณได้มากขึ้น พวกคุณถึงจะกลายเป็นความหวังของวงการบันเทิงต่อไป”
ทุกคนอดไม่ได้ที่จะหันไปมองหลินเช่ออีกครั้ง แล้วหันกลับไม่มองฉินหวานหว่าน
แน่นอนว่าฉินหวานหว่านคือคนที่เติบโตมาในห้องที่อบอุ่น คำพูดนี้เสียดแทงใจ ทำให้หลายคนรู้สึกไม่พอใจแทนฉินหวานหว่าน
ฉินหวานหว่านเองก็แสดงดีนี่นา
ด้านหลังมีคนลุกขึ้นมา “พี่เฝ่ยหราน ฉินหวานหว่านเองก็มีทักษะการแสดง พี่พูดแบบนี้กำลังต่อว่าฉินหวานหว่านอยู่หรือเปล่า แบบนั้นจะลำเอียงไปหน่อยไหม”
มู่เฝ่ยหรานมองเธอ “ใช่ ฉันลำเอียง แต่ฉันก็เป็นคนคนหนึ่ง ฉันมีคนที่ฉันชอบ มีคนที่ไม่ชอบ ฉันชอบหลินเช่อ ทำไม ไม่ได้เหรอ”
ทุกคนต่างก็ตะลึงงันอยู่แบบนั้น
ยังพูดแบบนี้อีก บอกตรงๆ ว่าชอบหลินเช่อ
แต่ว่าใครก็ไม่อาจโต้แย้งได้เลย
แน่นอนว่าเธอมีสิทธิ์ที่จะชอบใครก็ได้
หลินเช่อพลันหน้าแดงขึ้น แต่ทุกคนต่างมองหลินเช่อด้วยความริษยา
มู่เฝ่ยหรานบอกว่าเธอชอบหลินเช่อ หลินเช่อมีอะไรดี ถึงทำให้นักแสดงดังๆ มากมายชื่นชอบเธอ
มู่เฝ่ยหรานเองยังเป็นถึงนักแสดงตัวท็อปเลยก็ว่าได้
มู่เฝ่ยหรานบอก “อีกอย่างความสัมพันธ์ของฉันกับหลินเช่อก็ดีมาตลอด เธอก็เหมือนน้องสาวคนหนึ่งของฉัน ฉันชอบเธอเพราะเธอเป็นคนดี ทักษะการแสดงก็ดี แบบนี้ไม่ได้เหรอ”
ทุกคนต่างก็ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา
มองเพียงใบหน้าตึงของฉินหวานหว่าน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ บรรยากาศกระอักกระอ่วนขึ้นมา
ในที่สุดก็เลิกเรียนแล้ว
ก่อนที่มู่เฝ่ยหรานจะออกไป ยังตั้งใจเข้ามาหาหลินเช่อ “สู้ๆ นะ หลายวันมานี้ฉันเห็นว่าเธอกำลังถูกใส่ร้ายอยู่ แต่ข่าวมันจะอยู่ได้อีกไม่นานหรอก”
หลินเช่อรู้สึกขอบคุณที่มู่เฝ่ยหรานยอมที่จะยืนอยู่ข้างเธอ “ขอบคุณนะคะ พี่เฝ่ยหราน”
“ไม่เป็นไรเลย ฉันแค่พูดความจริง ฉันกับเธอเรามีประสบการณ์คล้ายกัน ตั้งใจแสดงให้มันดี คนที่มีความพยายาม ไม่มีวันเสียเปรียบแน่นอน”
“ค่ะ ฉันจะพยายาม”
รอจนมู่เฝ่ยหรานจากไปแล้ว เสี่ยวชิงกับฮุ่ยฮุ่ยจึงมองไปยังหลินเช่อ “ทำไมเธอสนิทกับมู่เฝ่ยหรานขนาดนั้นล่ะ”
“ความจริงมู่เฝ่ยหรานเองเป็นแบบนี้หรอกเหรอ”
ห้อมล้อมหลินเช่อเดินออกไป ทุกคนต่างก็ไม่ได้สังเกตฉินหวานหว่านที่กำลังนั่งอยู่ตรงนั้น มือของเธอกำแน่นเข้าด้วยกัน
ตอนบ่าย ทุกคนมุ่งไปยังห้องฝึกซ้อมการแสดงเพื่อฝึกซ้อม
อาจารย์กำลังกล่าวถึงความสำคัญของการแสดงอยู่ด้านหน้า แถมยังชื่นชมทักษะการแสดงของฉินหวานหว่านเป็นพิเศษ