เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 424 เรื่องกลับตาลปัตรจนคนอื่นๆ ปรับตัวได้ยาก
“ฉันก็ไม่ดูแล้ว มันไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรขนาดนั้น ก็แค่ของเล่นขำๆ ไม่น่าสนใจอะไร”
งานประกาศรางวัลนี้น่าสงสารมากทีเดียว เพราะฉินหวานหว่านก่อเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ซ้ำยังทำให้ทุกคนเริ่มดูถูกการประกาศรางวัลวรรณกรรมในครั้งนี้อีกด้วย
ถึงแม้เปรียบเทียบกับรางวัลทองคำแล้ว มันจะดูไม่มีความสำคัญจริงๆ ก็ตาม
งานมอบรางวัลวรรณกรรมในวันนั้น มีคนไปร่วมงานไม่น้อย แต่เมื่อมองเห็นฉินหวานหว่านนั่งอยู่ตรงนั้น ก็อดรู้สึกเสียหน้าแทนเธอไม่ได้
เดิมทีพวกเขามาร่วมงาน เพื่ออยากจะได้เชิดหน้าชูตาสักหน่อย แต่ตอนนี้กลับไม่อยากแม้แต่จะเข้าร่วม รู้สึกว่ารางวัลใหญ่นั้นด้อยค่าขึ้นมาทันใด
คืนนั้น ฉินหวานหว่านไม่ได้รับอันดับหนึ่งไป คนที่ได้รางวัลใหญ่นั้นกลายเป็นนักแสดงรุ่นใหญ่ที่มีข่าวแต่งงานมีลูกและได้รับการสนับสนุนไม่นานมานี้
วันต่อมา
ข่าวของหลินเช่อถูกวางเต็มหน้า และข่าวฉินหวานหว่านเข้าร่วมงานรับรางวัล โผล่มาแค่ส่วนเล็กๆ ของหน้าหนังสือพิมพ์ ราวกับแค่เอ่ยถึงเพียงเท่านั้น
ในห้องทำงาน พี่หลินรีบบอก “ฉันก็ไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นแบบนี้ หวานหว่าน อย่าพึ่งร้อนใจไป ครั้งนี้เราคาดไม่ถึง ถึงได้โดนพวกนั้นเอาคืน ครั้งต่อไปไม่เป็นแบบนี้แน่นอน เราไม่เคยคิดเลยว่า พวกนั้นจะเก็บเรื่องเงียบขนาดนี้ วิ่งไปหาคณะกรรมการรางวัลทองคำขนาดนั้น แถมยังได้เข้าชิงด้วย”
“เอาล่ะ เธอออกไปเดี๋ยวนี้” ฉินหวานหว่านกัดฟันเอ่ยออกไป ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีม่วง
ด้านหลินเช่อ
หลังจากมาถึงโรงเรียน ทุกคนมองหลินเช่อที่พึ่งจะถูกชำระล้างมลทินไป ตลอดหลายวันที่ผ่านมา เข้าใจเธอผิดมาตลอดก็รู้สึกละอาย ดังนั้นเมื่อมองเห็นเธอ ก็ได้แต่ทักทายอยู่ไกลๆ ยินดีกับเธอ
หลินเช่อรู้สึกโล่งใจ พลันรู้สึกว่าวันนี้อากาศดีเป็นพิเศษ
เข้ามาในห้องเรียน อาจารย์มองไปที่หลินเช่อ ไม่กล้าตีหน้านิ่งใส่เธอ รีบร้อนทักทาย “หลินเช่อ มาแล้วเหรอ จริงสิ เห็นข่าวว่าเธอได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำยอดเยี่ยมนั่นน่ะ ไม่เลวเลย ยังอายุน้อยมีอนาคตอีกไกล สู้ๆ นะ”
หลินเช่อไม่เคยลืมว่าเมื่อก่อนเขาดูถูกเธอ ชื่นชมฉินหวานหว่านขนาดนั้น จึงยิ้มเย็นตอบกลับไป “ขอบคุณค่ะ” แล้วกลับไปยังที่นั่งของตนเอง
นักเรียนคนอื่นๆ รีบรุมล้อมเข้ามา พูดกับหลินเช่อ “ถ้าครั้งนี้เธอกลายเป็นราชินีแห่งภาพยนตร์จริงๆ ล่ะก็ ฉันก็ถือว่าเคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นของราชินีภาพยนตร์แล้ว”
“ใช่ ไม่คิดเลยว่าเราจะได้รู้จักกับราชินีภาพยนตร์ด้วย ไม่อยากจะเชื่อเลย”
“หลินเช่อสู้ๆ นะ ต่อไปเราก็สามารถแอบอ้างเธอได้แล้ว”
ทุกคนรู้สึกว่า หลินเช่อเก่งมากจริงๆ ทั้งนับถือและอิจฉาเธอ
อายุยังน้อย แต่ไม่กี่วันก็กลายเป็นดาราดัง ได้ลงหน้าหนังสือพิมพ์ เกือบจะอยู่ในจุดที่ไม่มีใครไม่รู้จักหลินเช่อแล้ว
หลินเช่อเองก็ประหลาดใจ ไม่คิดว่า ด้วยคำด่า และอาศัยเรื่องนี้ ส่งผลให้แฟนคลับเธอเพิ่มมากขึ้นไม่น้อยเลย ความโด่งดังมีชื่อเสียงก็เพิ่มมากขึ้น เพราะได้ขึ้นหน้าหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ หลายคนที่ก่อนหน้านี้ไม่อ่านข่าวบันเทิง ไม่ดูละคร ล้วนรู้ว่าหลินเช่อเป็นใคร
เธอควรจะขอบคุณฉินหวานหว่านหน่อยไหมนะ
น่าเสียดายก็คือ ฉินหวานหว่านไม่ได้มาเรียนแล้ว แจ้งว่ากำลังเข้ารับการรักษาอาการป่วย
สุดท้ายอาจารย์ได้บอกว่า การฝึกจะจบลงในอีกสองสัปดาห์ หลังจากที่จบแล้ว ให้ทุกคนเตรียมการแสดงความสามารถพิเศษ ถือว่าเป็นการสอบปลายภาค
หลินเช่อลำบากใจ เธอยังไม่มีความสามารถอะไรเลย มองเพื่อนร่วมห้องที่ตื่นเต้นกับความสามารถพิเศษของตัวเอง เธอก็กดดันขึ้นมา
ตอนเย็น ในที่สุดฉินหวานหว่านก็กลับมาที่โรงเรียน แม้พึ่งจะผ่านไปเพียงวันเดียว แต่ดูเหมือนเธอจะผอมลงไปไม่น้อย
ทุกคนกำลังนั่งดูหนังพลางกินเมล็ดทานตะวัน มองเห็นฉินหวานหว่านเดินเข้ามา จึงชะงักไป
ฉินหวานหว่านเข้ามา “พวกเธอกำลังคุยอะไรอยู่เหรอ”
เสี่ยงชิงตอบกระอักกระอ่วน “อ้อ เรากำลังดูโทรทัศน์น่ะ”
ฉินหวานหว่านเข้ามา เดินตรงเข้าไปหาหลินเช่อ
หลายคนเริ่มเครียด กลัวว่าเธอจะทะเลาะกับหลินเช่อ
หลายวันมานี้ พวกเธอเข้าใจผิดหลินเช่อ นึกว่าเธอเป็นคนไม่ดี แต่ว่าตอนนี้เข้าใจแล้ว พวกเขานึกย้อนกลับไป คิดว่าความจริงแล้วหลินเช่อเองก็เป็นคนดี ไม่ถือสาอะไร แถมยังเข้าหาได้ง่ายอีกด้วย
ถึงแม้เธอจะเป็นดาราดังไปแล้ว แต่ว่า ก็ยังมานั่งพูดคุยกินเมล็ดแตงโมกับพวกเธอ ไม่เมินเฉยเลยสักนิด และยังไม่รังเกียจอีกด้วย
ดังนั้นตอนนี้จึงมีความรู้สึกอยากปกป้องหลินเช่อ
ยังดีที่ฉินหวานหว่านไม่ได้ทำให้หลินเช่อลำบากใจ เธอทำเพียงนั่งลงข้างๆ หลินเช่อ พูดกับหลินเช่อ “จริงสิ ยินดีด้วยนะที่เธอได้เข้าชิงรางวัลทองคำ เยี่ยมจริงๆ หนังเรื่องแรกก็ได้เข้าชิงแล้ว”
“ขอบใจนะ ฉันเองก็แปลกใจเหมือนกัน” หลินเช่อตอบอย่างไม่ใส่ใจ
จากนั้นฉินหวานหว่านจึงบอก “จริงสิ เรื่องครั้งนี้ฉันเองก็เห็นข่าวแล้ว ที่แท้เพราะพี่หลินเข้าใจเธอผิด ฉันอยากขอโทษเธอแทนพี่หลินด้วยนะ เธอคงไม่โกรธใช่ไหม”
เธอพูดมาแบบนี้แล้ว หลินเช่อจะตอบอะไรได้อีกล่ะ จึงทำเพียงมองหน้าเธอแล้วบอก “ไม่หรอก ฉันไม่ได้โกรธ”
“งั้นก็ดีแล้วล่ะ”
ทุกคนเห็นว่าฉินหวานหว่านไม่ได้เป็นอะไร ก็พ่นลมหายใจออกมา
“เอาล่ะ รีบมาเล่นเกมกันต่อเถอะ”
ตอนนั้นเอง โทรศัพท์คนข้างๆ ก็ดังขึ้น เสี่ยวชิงบอก “เฮ้ เรามาเล่นเกมนี้กันดีกว่า ถ้าเสียงโทรศัพท์ใครดังขึ้น ก็ให้คนข้างๆ รับให้ ฮ่าๆ เป็นยังไง”
ทุกคนได้ยินดังนั้น รู้สึกว่ามันน่าสนใจ จึงเห็นด้วย
ตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของฉินหวานหว่านก็ดังขึ้น
ความจริงสายของหลินเช่อและฉินหวานหว่านต้องเยอะอยู่แล้ว เพราะทั้งสองนั้นค่อนข้างมีชื่อเสียง คนที่ติดต่อหาพวกเธอก็มีเยอะ
เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ของฉินหวานหว่านดังขึ้น ทุกคนก็ร้องขึ้นมา ให้คนด้านหลังไปรับ
น่าเสียดายก็คือ สายนั้นเป็นแค่พี่เลี้ยงโทรเข้ามา สอบถามเรื่องราวของที่บ้าน
ทุกคนรู้สึกไม่สนุก โทรศัพท์ของหลินเช่อพลันดังขึ้น
เสี่ยวชิงที่อยู่ด้านหลังของหลินเช่อเอ่ยขึ้น “ดีจังเลย ฉันรับได้หรือยัง เอ๋ สามีที่รัก ไม่ใช่หรอกใช่ไหม หลินเช่อ แฟนเธอเหรอ เลี่ยนจังเลย”
หลินเช่อหน้าแดง ลืมว่าบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของกู้จิ้งเจ๋อเอาไว้แบบนี้
ยังดีที่ทุกคนไม่ทันได้คิดว่าเธอแต่งงานไปแล้วหรือยัง อย่างไรซะแฟนกันที่เรียกกันว่าสามีภรรยามีถมเถไป
หลินเช่อรีบบอก “เอ่อ ฉันไม่เล่นแล้ว”
เสี่ยวชิงจะยอมได้อย่างไร รีบกดรับสาย
แถมยังเปิดลำโพงอีกด้วย
“ฮัลโหล” เสียงทุ้มดังขึ้น
เสียงทุ้มราวกับเสียงเชลโลดังขึ้น ทำเอาละลายไปตามๆ กัน
เสียงนี้น่าฟังมาก
เสี่ยวชิงบอก “โอ้ นี่สามีของหลินเช่อใช่ไหมคะ เราเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเธอ”
คนในสายเงียบไปสักพัก
หลินเช่อรู้สึกราวกับสุนัขที่เจอทางรอด
“วางแล้ววางแล้ว วุ่นวายจัง”
เสี่ยวชิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วออกวิ่ง “ตอนนี้หลินเช่ออยู่ในมือของพวกเรา ถ้าอยากไถ่คืนต้องเอาของกินมาแลก ไม่งั้นหลินเช่อจะตกเป็นของพวกเรา”
ไม่นาน ปลายสายก็เอ่ยเสียงเบา “ได้ครับ เดี๋ยวอีกสักพักจะเอาของกินไปให้พวกคุณ”
“ห๊ะ จริงเหรอคะ”
“แน่นอนสิ”
“สวรรค์…”
หลินเช่อกลับมาแย่งโทรศัพท์คืนได้ในตอนนั้น