เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 58
กู้จิ้งเจ๋อโกรธจัด
นักข่าวเริ่มรู้สึกได้ กู้จิ้งอวี่กำลังพยายามปกป้องนักแสดงหญิงคนนี้อยู่
พวกเขาจึงหันไปหาหลินเช่อ “หลินเช่อ คุณเพิ่งจะมีผลงานใหญ่เป็นครั้งแรกก็มีโอกาสได้รู้จักรุ่นพี่ดีๆ แบบนี้แล้ว รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมั้ยครับ”
คราวนี้กู้จิ้งอวี่ไม่สามารถเบี่ยงประเด็นจากคำถามที่ว่าได้
หลินเช่อยิ้มและรีบตอบอย่างรวดเร็วว่า “แน่นอนค่ะ พี่กู้จิ้งอวี่ดีกับฉันมาก เขาช่วยแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับการแสดงให้ฉันมากมายเลยละค่ะ”
กู้จิ้งอวี่หันมาถาม “ถ้างั้นเธอจะตอบแทนฉันยังไงล่ะ”
“หือ ตอบแทนเหรอคะ” หลินเช่อไม่คิดว่าเขาจะหาทางเบี่ยงประเด็นแบบนี้ “ฉันจะตอบแทนพี่ได้ยังไงละคะ”
กู้จิ้งอวี่ตอบ “เธอก็ควรจะเลี้ยงข้าวฉันไม่ใช่เหรอ”
“…”
บรรดานักข่าวพากันนั่งไม่ติด “พวกคุณสองคนไปกินข้าวด้วยกันด้วยเหรอครับ”
“ก็เธอควรจะเลี้ยงข้าวผมใช่มั้ยล่ะ”
นักข่าวขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก หลินเช่อนึกอยากบีบคอกู้จิ้งอวี่แต่ก็ทำได้เพียงบังคับตัวเองให้พูดออกไปว่า “ใช่ค่ะ แน่นอนเลย ฉันจะเลี้ยงเองนะคะ”
กู้จิ้งอวี่หัวเราะ “ช่างเถอะ เงินเดือนเธอน่ะน้อยนิดแค่นั้น ถ้าต้องเลี้ยงข้าวฉัน เดี๋ยวเธอคงได้กินแกลบแน่ ฉันล้อเล่นน่ะ ยัยโง่เอ๊ย เธอไม่ต้องยอมตามไปซะทุกเรื่องหรอกนะ”
“…” หลินเช่อหน้าเสีย นักข่าวพากันหัวเราะ
ในที่สุดการสัมภาษณ์ก็จบลง กู้จิ้งอวี่ลูบไหล่เธอพลางยิ้มแล้วพูดว่า “เธอยังอ่อนหัดนัก พยายามฝึกเข้าล่ะ!”
หลินเช่อคิดในใจ ก็ถ้าคุณไม่เข้ามาวุ่นวายไปซะทุกคำถาม ฉันก็คงทำได้ดีกว่านี้แหละย่ะ
ไม่ช้าอวี๋หมินหมิ่นก็เข้ามาสมทบ เธอยิ้มแล้วร้องว่า “ทำได้ไม่เลวเลยนะ กู้จิ้งอวี่ดูแลเธอดีมากทีเดียววันนี้ ทั้งชวนคุยทั้งหยอกล้อ”
หลินเช่อถาม “เขาไม่ควรจะล้อฉันเหรอคะ”
“แน่นอนว่าเขาทำได้ แต่คนอย่างกู้จิ้งอวี่น่ะไม่เคยพูดจาเล่นหัวกับนักแสดงคนไหนหรอกนะ เขาชอบอยู่กับพวกผู้ชายมากกว่า แล้วก็ไม่เคยปรายตามองผู้หญิงเลยด้วย เพราะแบบนี้คนถึงคิดว่าเขาเป็นเกย์กันไงล่ะ”
“อา…”
วันต่อมาหลังจากการสัมภาษณ์ หลินเช่อไม่คาดคิดเลยว่าเธอจะตกเป็นข่าวพาดหัวกับกู้จิ้งอวี่อีกครั้งหนึ่ง
คราวนี้เป็นเพราะท่าทีปกป้องที่กู้จิ้งอวี่มีต่อเธอ บรรดาเนื้อหาข่าวจึงพากันชื่นชมเธอกันยกใหญ่
อีกด้านหนึ่ง หลินลี่กำลังอ่านข่าวของตัวเองและก็ต้องโมโหเจียนคลั่งทีเดียว
รูปภาพขนาดใหญ่ของกู้จิ้งอวี่และหลินเช่อนั้นขึ้นพาดเต็มหน้า ในขณะที่ของเธอเป็นเพียงรูปเล็กๆ อยู่ที่มุมหนึ่งเท่านั้น
เธออุตส่าห์ลงทุนสวมกระโปรงแบรนด์เนมราคาแพงลิบเพื่อที่จะได้ดูสวยเตะตาที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ข่าวกลับเป็นชื่อหลินเช่อตัวเท่าบ้าน แถมพวกนักข่าวยังเขียนสั้นๆ แค่ว่าหลินลี่ก็ร่วมแสดงในเรื่องนี้ด้วย
แค่เนี้ย!
หลินลี่หัวฟัดหัวเหวี่ยง เธอปาหนังสือพิมพ์ลงพื้น
นอกจากเธอแล้ว หันไฉ่อิงเองก็ไม่คาดคิดเช่นกันว่าเรื่องราวจะออกมาแบบนี้ หล่อนพูดขึ้นว่า “นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมนังหลินเช่อนั่นถึงได้มีอำนาจมากขนาดนี้” เมื่อได้อ่านข่าวของลูกสาวที่มีให้เห็นเพียงไม่กี่บรรทัดในเนื้อหา หันไฉ่อิงก็ยิ่งเดือด “หลินเช่อจะต้องตั้งใจกันลูกไว้ไม่ให้เห็นแน่ๆ”
ใบหน้าของหลินลี่แดงก่ำด้วยโทสะ “นังหลินเช่อ…รอก่อนเถอะ ฮึ!”
ในขณะเดียวกันที่บ้านตระกูลกู้ อยู่ๆ หลินเช่อก็จามยกใหญ่
สาวใช้คนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามาหา “คุณผู้หญิงคะ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ แอร์เปิดแรงเกินไปหรือเปล่า”
“ไม่มีอะไรๆ” หลินเช่อยิ้มแล้วลุกขึ้นพร้อมหนังสือพิมพ์ในมือ กู้จิ้งเจ๋อกลับถึงบ้านแล้ว เธอมองเขาด้วยสีหน้าดีอกดีใจและบอกว่า “ฉันเป็นข่าวพาดหัวด้วยแหละ จากงานโปรโมตซีรีส์น่ะค่ะ”
กู้จิ้งเจ๋อเห็นอีกฝ่ายยิ้มกว้างปากแทบถึงหูจึงเดินเข้ามาหาและรับหนังสือพิมพ์ไปดู เขาเห็นภาพของเธอและกู้จิ้งอวี่ยืนคู่กัน
หลินเช่อเล่าต่อ “ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันที่ได้เห็นตัวเองเป็นข่าวพาดหัวแบบนี้น่ะ”
เขากำหนังสือพิมพ์แน่นและถามเบาๆ ว่า “แต่ดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่ครั้งแรกนี่”
หลินเช่อรู้ดีว่าเขาหมายถึงข่าวลือก่อนหน้านี้ “มันไม่เหมือนกันนี่คะ นั่นน่ะแค่ข่าวลือ แต่ครั้งนี้มันเป็นเพราะงานของฉัน ฉันได้อยู่ในข่าวในฐานะนักแสดงเลยนะ มันแตกต่างกันนะคะ”
กู้จิ้งเจ๋อเงยหน้าขึ้น “ดูเหมือนว่ากู้จิ้งอวี่จะดูแลเธอดีทีเดียวนะ”
เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้น เธอก็พยักหน้ารับด้วยความเต็มใจ “ใช่ค่ะ ใช่ กู้จิ้งอวี่ดูแลฉันดีมากๆ เลยล่ะ พี่อวี๋ยังบอกเลยว่าปกติเขาไม่เป็นแบบนี้ ใครจะไปคิดละคะว่าความจริงแล้วเขาก็เป็นคนดีเหมือนกัน แถมยังเก่งแล้วก็มีประสบการณ์ในการรับมือการสัมภาษณ์มากๆ ด้วยนะคะ ไม่มีคำถามไหนที่ทำเขาจนมุมได้เลย ฉันไม่รู้เลยนะคะว่าเขาไม่ได้เก่งแค่การแสดงอย่างเดียวแต่ยังเก่งเรื่องตั้งรับนักข่าวด้วย ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเขาถึงได้ดังขนาดนี้”
“…” หน้ากู้จิ้งเจ๋อเริ่มเปลี่ยนสี
หลินเช่อไม่ทันสังเกตจึงยังคงเล่าต่อไปด้วยความตื่นเต้นและสีหน้าชื่นชม
กู้จิ้งเจ๋อลุกพรวดพราดขึ้น ปัดหนังสือพิมพ์ลงจากโต๊ะ
“เฮ้ นี่คุณโยนหนังสือพิมพ์ฉันทิ้งเหรอคะ” หลินเช่อเงยหน้าขึ้นมองอย่างไม่พอใจ
กู้จิ้งเจ๋อหยุดแล้วหันไปสั่งสาวใช้ “ตั้งแต่พรุ่งนี้ สั่งยกเลิกรับหนังสือพิมพ์บันเทิงไร้สาระพวกนี้ซะด้วย”
“ได้ค่ะ”
“อะไรนะ” หลินเช่อยืนขึ้น “กู้จิ้งเจ๋อ ทำไมละคะ”
กู้จิ้งเจ๋อตอบโดยไม่หันมามอง “ฉันไม่ชอบที่เธอไปทำระริกระรี้แบบนั้น”
หลินเช่อโกรธจนหน้าชา “คุณ…กู้จิ้งเจ๋อ คุณมันอคติ การแสดงไม่ใช่เรื่องทำตัวระริกระรี้นะคะ มันคือศิลปะต่างหาก! คุณไม่รู้เรื่องพวกนี้เลยสักนิด!”
กู้จิ้งเจ๋อเหมือนถูกจี้จุด เขาหันขวับมาทันที ตาดำของเขาวาววับอยู่ในดวงตาสุดจะเย็นชาคู่นั้น เขาพูดเสียงยะเยือกว่า “ศิลปะก็คือการขายเรือนร่างของเธอด้วย”
“คุณ…” หลินเช่อยิ่งเดือดดาล “นายทุน คนโลภ ใจร้อน ไร้การศึกษา ไร้วัฒนธรรม! ตัวคุณน่ะมันมีแต่กลิ่นเงิน!”
มุมปากของกู้จิ้งเจ๋อกระตุกขึ้นเล็กน้อย เขาหัวเราะแล้วตวัดสายตามองเธอ “อย่าลืมสิว่าเธอเองก็กำลังกินกำลังใช้เงินของฉันอยู่น่ะ”
หลินเช่อยืนนิ่งขณะที่กู้จิ้งเจ๋อโบกมือเรียกฉินเฮ่าเข้ามา
เขาพูดเรียบๆ ว่า “จัดการยกเลิกข่าวบันเทิงพวกนี้ไปให้หมด ขยะพวกนี้จะทำให้พวกเด็กๆ เสียคน เก็บเอาไว้ก็มีแต่จะสร้างปัญหา ถ้ายกเลิกเรียบร้อยแล้วก็ให้เอาข่าวเศรษฐกิจมาใส่แทน!”
“ครับท่าน” ฉินเฮ่ามองสีหน้าเย็นชาของกู้จิ้งเจ๋อก่อนจะชำเลืองดูหลินเช่อแล้วถอยออกจากห้องไปเงียบๆ
หลินเช่อยกนิ้วอันสั่นเทาชี้หน้าอีกฝ่าย “คุณ…คุณมันจอมบงการชัดๆ!”
กู้จิ้งเจ๋อยิ้มเยาะ เขาก้าวเท้ายาวๆ ออกจากห้องไป
หลินเช่อมองด้านหลังของชายหนุ่ม แล้วกระแทกตัวลงนั่งด้วยความโมโห ปีกจมูกบานด้วยแรงโทสะขณะมองดูหนังสือพิมพ์ที่ถูกโยนลงพื้นห้อง
อีตาบ้ากู้จิ้งเจ๋อ
นี่เขาหาว่าเธอทำตัวระริกระรี้แถมยังใส่ความว่าเธอจะทำให้เด็กเสียคนอีกต่างหาก
จริงอยู่ว่าพวกนักแสดงทั้งหลายก็มักโดนเข้าใจผิดแบบนี้บ่อยๆ โดยเฉพาะคนประเภทนายทุนอย่างเขาที่เชื่อว่านักแสดงคืออาชีพไร้ความหมาย
นักแสดงอาจจะถูกมองเกินจริงและถูกใครต่อใครดูหมิ่นอยู่บ้าง
แต่เธอไม่คิดเลยว่ากู้จิ้งเจ๋อเองก็จะคิดแบบนี้ด้วยเหมือนกัน
หมอนี่ช่างเป็นคนที่เน่าเฟะจนถึงแก่นเลยทีเดียว