เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 69
เธอรู้มานานแล้วว่าในเมื่อมันเป็นซีรีส์โทรทัศน์ของกู้จิ้งเจ๋อ ฉะนั้นก็แปลว่าการโปรโมตจะต้องเกิดขึ้นในรายการคุณภาพเยี่ยมแบบนี้เพื่อสร้างความสนใจและประชาสัมพันธ์ก่อนที่ซีรีส์จะออกอากาศ เพียงแต่หลินเช่อไม่คิดว่าตัวเธอเองจะมีโอกาสได้ปรากฏตัวในรายการดังนี้ด้วย อย่างไรก็ตามการประชุมกันระหว่างทีมงานและทีมผู้สร้างก็ยังคงอยู่ในช่วงตัดสินใจว่าพวกเขาจะเลือกใครเมื่อถึงเวลาที่ต้องไปออกรายการจริงๆ
หลินเช่อเตรียมพร้อมสำหรับงานนี้ด้วยความตื่นเต้นสุดขีด
แต่เมื่อก้าวออกมาจากบริษัท เธอก็เห็นกู้จิ้งเจ๋อที่เดินทางมารับ
เขาขับรถเข้ามาที่ด้านนอกตึก หลินเช่อรีบหันไปบอกอวี๋หมินหมิ่นว่า “งั้นฉันไปก่อนนะคะ พี่อวี๋”
อวี๋หมินหมิ่นพยักหน้า “ไปเถอะ เร็วเข้า”
อวี๋หมินหมิ่นเหลือบมองรถปอร์เช่คันกะทัดรัดของตระกูลกู้แล้วก็ได้แต่เนื้อเต้น นี่มันตรงกันข้ามกับที่เธอคิดเอาไว้เลย กลายเป็นว่าหลินเช่อดูจะเกี่ยวข้องกับกู้จิ้งเจ๋อจริงๆ เสียด้วย
ก่อนหน้านี้เธอไม่แน่ใจว่าอะไรกันแน่ที่เป็นสิ่งดึงดูดใจในตัวแม่สาวน้อยหลินเช่อคนนี้
แต่หลังจากที่ได้ปฏิสัมพันธ์กับเจ้าหล่อนมาสักระยะ เธอก็พบว่าหลินเช่อเป็นคนโผงผางตรงไปตรงมา น่าสนใจและจริงใจไม่น้อยทีเดียว
หลินเช่อก้าวเข้าไปในรถพลางมองหน้ากู้จิ้งเจ๋อ “ทำไมถึงมารับฉันได้ละคะ”
“สามีมารับภรรยาก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่เหรอไง” เขากลับเป็นฝ่ายย้อนถามเธอเสียอย่างนั้น
หัวใจหลินเช่อเต้นระรัว
ชายหนุ่มยิ้มน้อยๆ ที่มุมปาก “ตระกูลกู้อยากให้เราไปหาน่ะ ฉันก็เลยมารับเธอนี่แหละ”
เธอรู้อยู่แล้วหรอก…
หลินเช่อนึกอายกับสีหน้าดีอกดีใจที่เธอแสดงออกไปในตอนแรกจนหญิงสาวนึกอยากจะตบหน้าตัวเองสักฉาดสองฉาด
ไม่ช้าทั้งคู่ก็ไปถึงคฤหาสน์ตระกูลกู้
พนักงานรักษาความปลอดภัยตรงทางเข้านั้นเข้มงวดมากทีเดียว แต่เป็นเพราะเธอมากับกู้จิ้งเจ๋อ พวกเขาจึงเพียงแต่ส่งสัญญาณให้ชายหนุ่มขับรถผ่านประตูสีทองแดงเข้าไปได้ทันที
เมื่อเข้าไปถึง หลินเช่อไม่ได้เดินเข้าไปพร้อมกู้จิ้งเจ๋อ เธอล่วงหน้าเข้าไปก่อนและมองหามู่หว่านฉิงทันที
“คุณแม่ขา หนูมาแล้วค่ะ” เธอร้องบอกพร้อมรอยยิ้มเมื่อก้าวเท้าเข้าบ้าน
กู้จิ้งเจ๋อเดินตามไป
ทันทีที่เห็นหลินเช่อ มู่หว่านฉิงก็ดีอกดีใจเป็นอย่างยิ่ง เธอสวมกอดแล้วพูดว่า “ทำไมถึงได้ผอมนักละจ๊ะ”
หลินเช่อตอบ “ผอมๆ หน่อยไม่ดีเหรอคะ”
“ก็ต้องไม่ดีอยู่แล้วสิ” มู่หว่านฉิงเงยหน้าขึ้น “จิ้งเจ๋อ ทำไมถึงไม่ดูแลหลินเช่อให้ดีล่ะนี่”
ชายหนุ่มสะดุ้ง “เป็นความผิดของเธอเองนี่ครับที่งี่เง่า เธอเอาแต่หาเรื่องใส่ตัวอยู่ตลอด เดี๋ยวก็ป่วยบ้าง เดี๋ยวก็เกิดอุบัติเหตุบ้าง แล้วอย่างนี้ผมจะทำอะไรได้”
มู่หว่านฉิงร้อง “ไร้สาระน่ะ ลูกก็เอาแต่แก้ตัว อ้อ พี่ชายของลูกกลับมาแล้วนะ เขาอยู่ข้างในแน่ะ”
มู่หว่านฉิงหันมาบอกกับหลินเช่อ “เธอสองคนไม่ได้จัดงานแต่งงานกันก็เลยยังไม่มีโอกาสได้พบพี่น้องของเขา ไปกับจิ้งเจ๋อสิจ๊ะ”
หลินเช่อไม่อยากจะไปด้วยเลยสักนิด
เธอตวัดสายตามองเขาก่อนจะหันไปทำเสียงฉอเลาะกับมู่หว่านฉิงว่า “แต่หนูอยากอยู่กับคุณแม่อีกสักครู่นี่คะ”
“จะอยากมาขลุกอยู่กับคนแก่ทำไมกันจ๊ะ ดูสิ จิ้งเจ๋อทำตาเขียวใหญ่แล้ว คู่สามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันอย่างพวกเธอควรจะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันนะจ๊ะ ไปเถอะ”
หลินเช่อทำได้แต่มองหน้ากู้จิ้งเจ๋อและเดินตามเขาไปอย่างไม่สู้เต็มใจนัก
ไม่นานนัก มู่หว่านฉิงก็ตามมาสมทบ เธอเดินตามหลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อเพื่อไปพบกับกู้จิ้งหมิงพร้อมกัน
กู้จิ้งเจ๋อหันมามองหญิงสาว เขาก้มหน้าลงมาแล้วพูดกับเธอว่า “ทำไมเธอถึงไม่อยากอยู่ใกล้ๆ ฉันล่ะฮึ”
หลินเช่อรีบหันหน้าหนี “ฉันไม่อยากตรงไหนกันคะ”
กู้จิ้งเจ๋อคว้ามือเธอไว้โดยเร็ว “ถ้าอย่างนั้นทำไมถึงไม่ยอมมองหน้าฉัน”
เมื่อถูกเขากุมมือเอาไว้แบบนั้น หลินเช่อก็ตัวแข็งทื่อขึ้นมาทันควัน เธอก้มลงมองมือตัวเองและพยายามสลัดเขาออกอย่างสุดชีวิต “แล้วฉันไม่ยอมมองหน้าคุณตรงไหนกัน”
“ฉันรู้สึกว่าพักนี้เธอเอาแต่…คอยหลบหน้าฉันอยู่เรื่อย ทำไมล่ะ ฉันทำอะไรให้เธอไม่พอใจหรือไง ถึงขนาดต้องคอยหลบหน้ากันแบบนี้”
“ฉันไม่ได้หลบหน้าคุณสักหน่อยนะคะ เข้าใจผิดรึเปล่า” เมื่อไม่มีทางเลือกอื่น เธอจึงจ้องตอบเขาที่กำลังมองดูเธออย่างเพ่งพินิจ ถึงอย่างไรเธอก็บอกเขาไม่ได้หรอกว่าทุกครั้งที่เธอเห็นเขา ความคิดเธอก็เต็มไปด้วยความคิดอันเย้ายวนรัญจวนหัวใจ ด้วยเหตุนี้เธอจึงทำได้แค่เพียงสะบัดมือเขาทิ้งและรีบเดินนำไปอย่างรวดเร็ว
“นี่เธอ…” กู้จิ้งเจ๋อขมวดคิ้วด้วยความงุนงงอยู่ด้านหลัง
มู่หว่านฉิงเฝ้ามองสองหนุ่มสาวจากทางด้านหลังแล้วก็อดยิ้มออกมาไม่ได้
พวกเขาไม่ได้มีความรู้สึกเคารพยกย่องกันอย่างสามีภรรยา แทนที่จะเป็นแบบนั้น พวกเขากลับหว่านเสน่ห์ใส่กัน ทำตัวไร้เหตุผล แล้วก็เถียงกันปาวๆ นั่นเป็นสัญญาณอันดีที่บ่งบอกว่าความสัมพันธ์ของพวกเขามีพัฒนาการขึ้นแล้ว
หลินเช่อเดินตามกู้จิ้งเจ๋อเข้าไปด้านใน
หญิงสาวพูดขึ้นว่า “โอ้ ฉันคิดว่าจะต้องมีคนติดตามท่านประธานาธิบดีเยอะแยะไปหมดเสียอีกค่ะ”
กู้จิ้งเจ๋อทำหน้าตึง เขาตวัดสายตามองเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “เขาอยู่ในบ้านตัวเองแล้วจะต้องมีคนติดตามไปทำไมอีก”
“ก็พวกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติหรืออะไรพวกนั้นไงละคะ” หลินเช่อเคยเห็นพวกเขาทางโทรทัศน์มาก่อน คนพวกนั้นดูน่ากลัวมากทีเดียว
กู้จิ้งเจ๋อตอบ “พวกนั้นยังไม่มีทักษะดีเท่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลกู้ด้วยซ้ำ ทันทีที่เข้ามาอยู่ในบ้านตระกูลกู้ เจ้าหน้าที่พวกนั้นก็ไม่จำเป็นอีกแล้ว”
“หือ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลกู้เก่งกาจขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
กู้จิ้งเจ๋อมองหญิงสาวราวกับเป็นคนด้อยปัญญา “นี่เธอไม่เคยดูข่าวเลยสินะ”
“ก็ต้องดูสิคะ”
“ไม่มีใครที่กล้าตีพิมพ์รายงานข่าวเกี่ยวกับตระกูลกู้อย่างเป็นทางการหรอก แต่ถึงยังไงก็ยังมีพวกรายงานไม่เป็นทางการบางเรื่อง เธอลองเสิร์ชอินเทอร์เน็ตดูเดี๋ยวก็รู้เอง”
“เรื่องนี้… คือว่าฉันมักจะอ่านแต่ข่าวบันเทิงน่ะค่ะ”
“…” กู้จิ้งเจ๋อมองหลินเช่ออย่างไม่รู้จะพูดอะไรดี “นี่เธอไม่มีอะไรที่ดีกว่านั้นให้ทำหรือยังไง”
“ทำไมละคะ นี่เขาเรียกว่าความรักในงานที่ทำต่างหาก ในฐานะศิลปินแล้ว แน่นอนว่าฉันก็ต้องให้ความสนใจข่าวบันเทิงอย่างใกล้ชิดสิคะ เชอะ”
ชายหนุ่มอดยิ้มมุมปากอย่างปราศจากเหตุผลไม่ได้เมื่อได้เห็นท่าทีโมโหโทโสของอีกฝ่าย
หลินเช่อยังคงถามต่อ “แล้วข่าวที่ว่านั่นคืออะไรละคะ คุณช่วยบอกฉันหน่อยไม่ได้เหรอ”
กู้จิ้งเจ๋อถอนหายใจ “เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลกู้ได้รับการฝึกฝนอย่างมืออาชีพในต่างประเทศก่อนจะถูกส่งตัวกลับมา แม้แต่พวกบอดี้การ์ดจากสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติก็ไม่อาจเทียบฝีมือได้แม้แต่น้อย เจ้าหน้าที่ทุกคนที่นี่คือมือปืนซุ่มยิ่งฝีมือเยี่ยม นักมวยปล้ำ นักแกะรอย นักพรางตัว ถ้าไม่ใช่มือดีที่สุดก็ไม่มีทางได้มายืนอยู่ตรงนี้เป็นอันขาด”
“ว้าว ฟังดูสุดยอดไปเลยค่ะ แล้วนี่ค่าตัวไม่แพงแย่เหรอคะ” หลินเช่อสนใจเรื่องนี้มากกว่าอย่างอื่น
กู้จิ้งเจ๋อตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้อารมณ์ “ก็ไม่ได้แพงอะไรมาก ราวๆ เดือนละสามล้านต่อคน”
“…” หลินเช่อไม่อาจมองผู้ชายพวกนั้นเหมือนเดิมได้อีกต่อไป
พวกเขาทุกคนล้วนแล้วแต่ร่ำรวยทั้งนั้น
หลินเช่ออดใจหันกลับไปมองอีกครั้งไม่ได้ เธอรีบเดินตามกู้จิ้งเจ๋อให้ทัน
กู้จิ้งเจ๋อมองดูท่าทางเหมือนคนหิวเงินของเธอแล้วก็อดปากไว้ไม่อยู่ “พอได้แล้วน่า มีฉันเป็นสามีของเธอแบบนี้ เธอเองก็แทบจะเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในโลกแล้วเหมือนกัน”
“เชอะ คุณน่ะหลงตัวเอง” เธอถลึงตาใส่เขา
กู้จิ้งเจ๋ออดยิ้มไม่ได้
ไม่ช้า ทั้งสองเข้ามาถึงพื้นที่ส่วนใน
เป็นภาพแปลกตาที่จะได้เห็นกู้จิ้งหมิงสวมชุดลำลองแบบนี้ เขานั่งอยู่ในห้อง กำลังมองดูอะไรบางอย่าง ท่าทางยุ่งทีเดียว แม้ว่าจะอยู่บ้านแต่เขาก็ยังใช้เวลาไปกับการสะสางงานต่างๆ
“พี่ ทำไมถึงว่างกลับมาเยี่ยมบ้านได้ล่ะ” กู้จิ้งเจ๋อถามด้วยน้ำเสียงสบายๆ
ส่วนทางด้านหลินเช่อนั้นค่อนข้างจะเป็นกังวล เธอไม่คิดว่าวันหนึ่งตัวเองจะได้มายืนอยู่ต่อหน้าประธานาธิบดีแบบนี้
ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมีสถานะเป็นพี่สามีของเธออีกต่างหาก
กู้จิ้งหมิงสังเกตเห็นหลินเช่อทันที เขายิ้มก่อนที่ก้าวเข้ามาหาเธอ “นี่คงจะเป็นน้องสะใภ้ละสินะ นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้พบกัน ขอโทษด้วยที่ฉันมัวแต่ยุ่งอยู่ตลอดเวลา ส่วนจิ้งเจ๋อก็เอาแต่ซ่อนตัวเธอไว้เสียมิดชิด ไม่ค่อยจะพาเธอมาบ้านเอาเสียเลย”
นั่นคงเป็นเพราะเขาไม่ต้องการจะเสียเวลาพาเธอมา เพราะถึงยังไงเธอกับเขาก็เป็นแค่คู่รักปลอมๆ เท่านั้นน่ะสิ
ในขณะที่คิดเช่นนี้ หลินเช่อก็ฉีกยิ้มและจับมือกับกู้จิ้งหมิง
เธอรู้สึกว่ากู้จิ้งหมิงไม่ได้ดูเหมือนกับที่เคยเห็นในโทรทัศน์เสียทีเดียว ในทีวีนั้นเขาดูไม่ค่อยเหมือนกับพี่น้องตระกูลกู้ทั้งสองคนนัก แต่เมื่อได้มาเห็นใกล้ๆ เธอจึงเห็นได้ชัดเจนว่าพวกเขาดูคล้ายคลึงกันมากทีเดียว