เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก - ตอนที่ 86
กู้จิ้งเจ๋อคิดอยู่เป็นครู่ก่อนจะตอบว่า “คันที่ไม่แพงเกินไปนักก็แล้วกัน เพราะเป็นรถสำหรับผู้หญิง”
หลินเช่อรีบเสริม “ใช่ค่ะ ใช่เลย อย่าให้แพงนัก เดี๋ยวคนอื่นจะอิจฉา”
กู้จิ้งเจ๋อพลิกดูแค็ตตาล็อกแล้วพูดขึ้นว่า “คันนี้น่าจะดี ขอเป็นสีเหลืองแล้วกันจะได้สว่างหน่อย เธอจะได้ไม่หลงทางบนถนน” กู้จิ้งเจ๋อหันไปมองอย่างล้อเลียน
หลินเช่อหน้าเสีย “ฉันไม่ใช่หมูนะคะ ฉันไม่หลงทางบนถนนหรอกน่า”
ขณะที่พูด หญิงสาวก็ก้มลงมองแค็ตตาล็อกและได้เห็นรถปอร์เช่เก้าหนึ่งหนึ่ง คันที่กู้จิ้งเจ๋อพูดถึง ทำเอาเธอถึงกับช็อกสนิท
เธอคิดว่าตอนที่เขาพูดถึงรถราคาไม่แพงเกินไปนัก เขาจะหมายถึงรถที่ราคาราวๆ สักสองแสนหยวน เธอไม่คิดเลยว่าไอ้คำว่าไม่แพงเกินไปนักของเขามันจะหมายถึง…
“กู้จิ้งเจ๋อ มันไม่แพงไปหน่อยเหรอคะ” เธอถาม
เขาตอบว่า “ทำไมมันถึงจะต้องแพงไปด้วยล่ะ”
หลินเช่อพูดต่อ “คันนี้นี่มันสองหรือสามล้านเลยนะคะ นี่ยังไม่แพงอีกเหรอ”
เขาตอบอีกว่า “ถ้านี่เรียกแพง งั้นการจ้างโชเฟอร์ไว้คอยขับรถให้เธอคงจะแพงยิ่งกว่านี้อีก”
“หา”
กู้จิ้งเจ๋ออธิบายต่อ “โชเฟอร์ของบ้านตระกูลกู้น่ะ จ้างกันปีละสามล้านหยวนนะ”
“…”
หลินเช่อเคยคิดว่าพวกคนขับรถเหล่านี้มีชีวิตที่ยากลำบาก ต้องมีความรับผิดชอบสูงแถมยังต้องคอยดูแลเธอเป็นอย่างดีอีกต่างหาก ตอนนี้เธอได้รู้แล้ว…ว่าพวกเขาก็รวยไม่เบาทีเดียว
กู้จิ้งเจ๋อส่งสัญญาณเรียกพนักงานมาเพื่อสั่งซื้อรถ
เจ้าของร้านก็รีบดำเนินการให้ด้วยความยินดียิ่ง
กู้จิ้งเจ๋อมองดูหญิงสาวแล้วพูดว่า “เธอรออยู่นี่สักพักนะ ฉันจะไปรับรถแล้วก็ตรวจเช็กให้เอง”
“ฉันไปด้วยสิคะ” เธอร้อง
กู้จิ้งเจ๋อหันมาแตะปลายจมูกเธอเบาๆ “เป็นเด็กดีแล้วรออยู่ตรงนี้นะ รถต้องทดลองขับสักหน่อยน่ะว่าปลอดภัยหรือเปล่า เธออย่าไปเลยจะดีกว่า”
หลินเช่ออดเขินไม่ได้ที่เขาแตะจมูกเธอแบบนั้น
ด้วยเหตุนี้เธอจึงทำได้แต่เพียงมองตาละห้อยเมื่อเขาเดินออกไป ก่อนจะหันกลับมา
ด้วยไม่มีอะไรให้ทำ หลินเช่อจึงจัดแจงเดินสำรวจเสียทั่วร้าน นี่เป็นเครือร้านค้าจำหน่ายรถยนต์หรู นอกจากขายรถแล้ว พวกเขายังขายอะไหล่ต่างๆ ด้วย นับเป็นร้านที่มีไว้เพื่อคอยให้บริการบรรดาลูกค้าผู้มั่งคั่งทั้งหลาย ตัวร้านตกแต่งอย่างมีสไตล์จนดูเหมือนคาเฟ่เก๋ไก๋ในล็อบบี้โรงแรมไม่มีผิด มีเก้าอี้หนานุ่มวางอยู่ทุกที่ มีโต๊ะกาแฟและของประดับประดาวางเอาไว้บนนั้น
หลินเช่อมองเห็นขนมที่วางอยู่บนโต๊ะจึงรีบหยิบมาถือไว้ คิดว่าเดี๋ยวจะกินสักหน่อย บรรดาพนักงานก็คอยติดสอยห้อยตามหลินเช่อไม่ห่าง ด้วยรู้ดีว่าเธอมากับกู้จิ้งเจ๋อ พวกเขาสามสี่คนจะคอยตามติดหญิงสาวชนิดเป็นเงาตามตัว พร้อมรับใช้ทันทีที่เธอเรียกหา และมองดูหญิงสาวด้วยความริษยาไปพร้อมกัน
ถึงแม้หลินเช่อจะได้ชื่อว่าเป็นดาราแล้ว แต่เธอก็เพิ่งได้แสดงซีรีส์โทรทัศน์เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น หนำซ้ำยังเป็นซีรีส์ย้อนยุคที่การแต่งหน้าทำผมและเสื้อผ้าในเรื่องยิ่งทำให้จำไม่ได้ว่าเป็นเธอ ด้วยเหตุนี้พนักงานทั้งหลายจึงไม่รู้ว่าเธอเป็นใครกันแน่
ขณะที่กำลังสาละวนหยิบขนมอยู่นั้นเอง หลินเช่อก็ได้ยินสุ้มเสียงสุภาพเป็นผู้ดีที่คุ้นหูดังขึ้นจากทางด้านหลัง หญิงสาวรีบหันไปมองทันควัน
“หลินลี่ ที่แม่ต้องให้หนูมาเป็นเพื่อนด้วยเนี่ยก็เพราะว่าฉินชิงมัวแต่ยุ่งเรื่องอะไรอยู่ก็ไม่รู้ พอดีแม่อยากจะซื้อรถสักคันก็เลยต้องรบกวนให้หนูมาเป็นเพื่อนแทน” เฉินเหม่ยลี่ คุณนายผู้หรูหรามีระดับจากตระกูลฉินกำลังเดินผ่านเข้าประตูมาโดยมีหลินลี่คอยช่วยประคองเป็นอย่างดี และรอบตัวพวกเขายังมีพนักงานอีกจำนวนหนึ่งของห้อมล้อมดูแล
ทุกคนจำหลินลี่ได้และรู้จักเฉินเหม่ยลี่ในฐานะคุณนายตระกูลฉิน ทั้งสองจึงได้รับการเอาใจใส่และเคารพนบนอบเป็นอย่างดี
หลินเช่อไม่คาดคิดเลยว่าจะต้องมาเจอทั้งคู่เข้าที่นี่
แม่สามีและลูกสะใภ้มาที่นี่เพื่อซื้อรถเช่นกัน…
เจอศัตรูบนทางแคบเสียจริง
ทันใดนั้นเอง เฉินเหม่ยลี่ก็เงยหน้าขึ้นและเห็นหลินเช่อยืนอยู่
“หือ นั่นหลินเช่อใช่หรือเปล่าน่ะ แม่มองไม่ค่อยถนัด ใช่มั้ย ใช่เธอรึเปล่า”
หลินลี่จึงเงยหน้าขึ้นมองบ้าง แล้วก็ต้องประหลาดใจที่เห็นหลินเช่อจริงๆ
เฉินเหม่ยลี่รู้จักหลินเช่อมาตั้งแต่เล็กๆ เพราะในสมัยเป็นเด็ก ทั้งหล่อนและฉินชิงเรียนที่โรงเรียนเดียวกัน
หลินเช่อมักจะเข้ามาเล่นกันฉินชิงที่บ้านเป็นประจำ แต่เฉินเหม่ยลี่ไม่เคยชอบใจเลย แล้วก็หวังว่าเด็กหญิงจะไม่มาที่บ้านอีก
เฉินเหม่ยลี่เดินตรงเข้าไปหา พนักงานหลายคนยังคงจำหลินเช่อไม่ได้
เมื่อมองจากระยะไกล หล่อนก็คือหลินเช่อนั่นเอง แต่เมื่อเข้ามาใกล้ เฉินเหม่ยลี่ก็สังเกตเห็นว่ามีบางอย่างเปลี่ยนไปสำหรับหล่อน
หลินเช่อสวยขึ้นมากเหมือนกับดอกไม้แรกแย้ม เธอเคยเป็นเด็กหญิงอ้วนๆ เหมือนก้อนหยกที่ตั้งประดับบ้าน แต่ตอนนี้เธอกลับดูสวยบริสุทธิ์เป็นธรรมชาติ เสื้อผ้าก็หรูหรามีราคา เนื้อตัวผ่องใสสะอาดสะอ้าน หล่อนดูดีขึ้นมาจริงๆ
แต่ถึงอย่างไร เฉินเหม่ยลี่ก็ไม่ชอบใจอยู่นั่นเอง “หลินเช่อ เธอมาทำอะไรที่นี่ มาซื้อรถงั้นเหรอ”
น้ำเสียงนั้นมีแววล้อเลียนเจืออยู่ด้วย เธอรู้ดีว่าราคาของรถที่นี่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีเงินซื้อกันได้ง่ายๆ
หลินเช่อมองหน้าอีกฝ่าย ถึงอย่างไรเฉินเหม่ยลี่ก็เป็นผู้ใหญ่ เธอจึงตอบกลับไปอย่างเรียบร้อยว่า “อา คุณน้าฉิน บังเอิญอะไรอย่างนี้คะเนี่ย เชิญคุณสองคนตามสบายเลยนะคะ เดี๋ยวฉันไปดูตรงโน้นก่อนค่ะ”
“นี่ หลินเช่อ ฉันยังพูดกับเธอไม่จบนะ ทำไมถึงต้องหนีหน้าด้วยล่ะ” เฉินเหม่ยลี่เรียกตัวหล่อนไว้
หลินเช่อหันกลับมา
เฉินเหม่ยลี่ลองถามอีก “พักนี้ได้เจอฉินชิงบ้างหรือเปล่า”
หลินเช่อตอบ “ไม่เลยค่ะ”
“จริงเหรอ ไม่เคยเจอเลยเหรอ เธอแกล้งบอกฉันหรือเปล่า” เฉินเหม่ยลี่ทำเสียงเยาะๆ
หลินเช่อขมวดคิ้ว เธอเริ่มรู้สึกได้ถึงความชิงชังในน้ำเสียงของอีกฝ่าย “คุณน้าฉินคะ ถ้ามีอะไรจะพูดก็พูดออกมาเถอะค่ะ”
เฉินเหม่ยลี่ไม่สบอารมณ์ที่เห็นหลินเช่อทำท่าเย่อหยิ่งไม่ยอมลงให้ต่อหน้าเธอเช่นนี้ จึงพูดออกไปทันทีว่า
“หลินเช่อ ฉันได้ยินมาว่าเธอเกิดเรื่องขึ้นจนถูกพาตัวไปสถานีตำรวจ พวกเขาบอกว่าฉินชิงของเราเป็นคนช่วยเธอออกมาไม่ใช่รึ”
อ้อ เรื่องนี้นี่เอง
ฉินชิงก็ช่วยจริงๆ นั่นแหละ
หลินเช่อหันไปหาเฉินเหม่ยลี่และตอบว่า “ใช่ค่ะ เขาช่วยฉัน”
เฉินเหม่ยลี่ตบโต๊ะดังปังใหญ่ “หลินเช่อ อย่าหาว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลยนะ แต่ฉินชิงน่ะหมั้นหมายกับพี่สาวของเธอแล้ว และตอนนี้เขาก็เป็นพี่เขยของเธอ”
หลินเช่อมองหน้าผู้สูงวัยกว่าด้วยสายตาประหลาดใจ “แล้วการที่พี่เขยมาช่วยฉันนี่มันผิดตรงไหนหรือคะ”
“เธอ…” เฉินเหม่ยลี่มองหน้าหลินเช่ออย่างจะกินเลือดกินเนื้อ “ฉันรู้นะว่าเธอมีใจให้ฉินชิงมานานแล้ว แต่ฉันอยากจะขอเตือนเธอสักหน่อย ว่าเธอไม่คู่ควรกับฉินชิงของเราหรอก เขาไม่มีวันหันมาสนใจลูกนอกสมรสอย่างเธอหรอก ตอนนี้เธอเป็นยังไงน่ะเหรอ แค่ได้เป็นดาราแล้วก็มีเงินขึ้นมาหน่อย ก็จะเริ่มคิดหาทางกลับมายุ่งกับฉินชิงอีกงั้นรึ เฮอะ ฉันจะบอกเธอเอาไว้เลยนะ ว่าไม่มีทางเลยสำหรับคนอย่างเธอ”
หลินเช่อนิ่งฟังถ้อยคำเหยียดหยามก่อนจะยิ้มออกมาเงียบๆ
ที่ด้านข้าง หลินลี่กำลังทำตัวสงบเสงี่ยมต่อหน้าแม่สามี แต่ก็ไม่อาจแอบซ่อนสายตาเหยียดหยามเอาไว้ได้ เธอมองหลินเช่อพร้อมเหยียดริมฝีปากเย้ยเยาะ สนุกกับเหตุการณ์ตรงหน้าที่เกิดขึ้น
“คุณน้าฉินคะ คุณน้าคงเข้าใจผิดไปแล้วละค่ะ ฉินชิงเป็นแค่เพื่อนฉันเท่านั้น และตอนนี้ก็ยิ่งมากลายเป็นญาติกันด้วย ถึงแม้ว่าฉินชิงจะเป็นคนดี แต่เขาก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษ ผู้หญิงทุกคนอาจจะชอบเขา แต่ตอนนี้ฉันมีแฟนแล้ว ฉันไม่ได้สนใจฉินชิงเลยสักนิดค่ะ!”