เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1123
บทที่ 1123 ลงโทษตัวเองสามแก้ว
ไม่สะดวก?
เสี่ยวเหยียนเอียงหัว แววตาจดจ้องมองไปที่ซูเหยาเหยานานสักพัก จู่ๆก็กระตุกมุมปากฉีกยิ้มขึ้น : “ทำไมจะไม่สะดวกล่ะ? ฉันไม่ได้รู้สึกไม่สะดวกเลยนะ”
เหมือนว่าหล่อนตัดสินไปเอง แต่ครั้งนี้หล่อนอยากเข้าไปอยู่ในใจของหานชิง
ถ้าหล่อนอยากจะคบกับเขาจริงๆ ต่อไปเหตุการณ์เช่นนี้ก็คงมีเยอะขึ้น และเรื่องที่เกิดขึ้นเหมือนวันนี้ก็คงเกิดขึ้นซ้ำอีก
หรือทุกครั้งหล่อนต้องหนีงั้นเหรอ?
ซูเหยาเหยาตกตะลึง
“อะไรนะ…”
“เธอไม่ได้ตาฝาด คืนนี้ฉันมาร่วมงานกับหานชิง ฉันเป็นคู่ควงของเขา มีปัญหาอะไรรึเปล่า?”
หานชิง…
ซูเหยาเหยาอึ้งเล็กน้อย หล่อนกล้าพูดชื่อของเขาออกมาตรงๆ หล่อนรู้สึกซึมลงไปทันที จากนั้นก็ยิ้มขึ้น
“เธอไม่ต้องกลัว ฉันไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพียงแค่เห็นพวกเธอเดินด้วยกันแล้วรู้สึกสงสัยเท่านั้น เพราะฉันได้ยินพ่อพูดว่า…ประธานหานไม่เคยควงผู้หญิงคนไหนมาร่วมงานเลี้ยงมาก่อน ดังนั้นเมื่อครั้งนี้เห็นเข้าก็เลยรู้สึกประหลาดใจ”
“หา เป็นแบบนี้เหรอ” เสี่ยวเหยียนก็ยิ้มออกมาด้วยความจิตใจดีเหมือนหล่อน กระพริบตาลง: “ฉันคิดว่าเธอมาแอบสอดแนมอะไรซะอีก”
คำพูดอย่างตรงไปตรงมาของหล่อนทำให้ซูเหยาเหยาใจเต้นแรงทันที สบตากับสายตาอันเฉียบคมของเสี่ยวเหยียน จู่ๆซูเหยาเหยาก็รู้สึกว่าควบคุมตัวเองไว้ไม่อยู่แล้ว?
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ล่ะ?
หญิงสาวผู้นี้เอาความกล้ามาจากไหนกัน?
อันที่จริงเสี่ยวเหยียนกำลังเสแสร้งอยู่ในใจ ถ้าเป็นเมื่อก่อนหล่อนคงไม่กล้าทำอะไรศัตรูตรงๆแบบนี้แน่นอน แต่หล่อนอยู่กับหานมู่จื่อมานาน แน่นอนว่าได้เรียนรู้อะไรบ้าง
ตอนนี้เอามาแก้แค้นก็ดี
“จะ…จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงล่ะ? ฉันจะมาแอบสอดแนมได้ยังไง?” ซูเหยาเหยายิ้มอย่างเคอะเขิน จากนั้นก็พูดอธิบาย: “เธออย่าคิดว่าฉันเป็นคนไม่ดีแบบนั้นสิ ฉันจะบอกเธอให้นะ คนที่ชอบประธานหานมีเยอะมาก แต่ฉันคงไม่ได้เป็นหนึ่งในนั้น ฉันแค่สงสัยเท่านั้นแหละ เธออย่าคิดอะไรมากล่ะ”
“อ๋อ ก็แค่สงสัยเฉยๆเนอะ งั้นฉันขอไม่บอกเธอแล้วกัน” เสี่ยวเหยียนยิ้มอย่างใสซื่อ “ยังไงเธอก็แค่สงสัย ดังนั้นไม่รู้ก็คงไม่เป็นอะไรหรอก”
ซูเหยาเหยา: “.”
พูดดูดีมีเหตุผล แต่หล่อนกลับโต้ตอบอะไรไม่ได้เลย
ผู้หญิงผู้ดีดูเรียบร้อย น่ากลั่นแกล้ง แต่ทำไมคิดไม่ถึงเลยว่าจะจัดการยากขนาดนี้ ซูเหยาเหยากำลังจะเตรียมหาเรื่องหล่อน
ทันใดนั้นเสียงฝีก้าวที่ฟังดูมั่นคงก็ดังตรงมาทางนี้
เมื่อเสี่ยวเหยียนผู้ชาญฉลาดและไหวพริบดีได้ยินเสียงฝีเท้านี้ จึงหันหลังไปดู ในใจคิดว่าคงไม่มีใครมาทำลายความเงียบสงบนี้อีกแล้วใช่ไหม? แต่ที่สงบเงียบตรงนี้ได้ถูกหญิงสาวตรงหน้าทำลายบรรยากาศไปเรียบร้อยแล้ว แม้ว่าจะน่ารำคาญ แต่เมื่อเทียบกับงานเลี้ยงแล้ว กลับดีกว่ามาก
เมื่อเห็นหานชิงและประธานจัดงานเดินมาด้วยกัน รอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าของเสี่ยวเหยียนก็หายไปทันที กลับแทนที่ด้วยสีหน้าเรียบร้อยน่ารัก
เมื่อซูเหยาเหยาเห็นว่าสีหน้าของหล่อนเปลี่ยนไป ก็หันมองตามไป จากนั้นก็รู้สึกหนาวจนเย็นวาบขึ้นมา
ที่แท้ประธานหานมาที่นี่
ประธานหานมาที่นี่ได้อย่างไร?
ประธานหานเคยเจอหล่อนมาก่อน และหล่อนยังเคยคุยกับเขาอีกด้วย ถ้าหานชิงมาตอนนี้จะคิดว่าหล่อนเจตนามาก่อเรื่องอะไรรึเปล่า?
เพื่อเป็นการไม่สร้างความลำบากให้ตระกูลซู ซูเหยาเหยาจึงแอบเหลือบมองและหลบสายตาไปทันที จากนั้นก็พูดกับเสี่ยวเหยียน: “ฉันเพิ่งคิดได้ว่าฉันมีเรื่องด่วน ขอตัวก่อนนะ”
จากนั้นก็รีบลุกขึ้น และเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
เสี่ยวเหยียน: “…”
หล่อนจ้องมองดูทางที่ซูเหยาเหยาเดินออกไป เมื่อเห็นท่าทางที่หล่อนเดินออกไป กลับดูไม่เหมือนคนที่หลงทางแม้แต่น้อย หล่อนมาหาตัวเองเพื่อแอบถามเรื่องหานชิง แต่ตอนนี้เมื่อเห็นว่าหานชิงเดินมา ตัวเองจึงวิ่งหนีไปทันที
อ๋อ เรื่องนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า หานชิงนั้นน่ากลัวมาก
ขณะที่กำลังคิดอยู่ หานชิงและประธานจัดงานสังสรรค์ก็เดินมาหยุดตรงหน้าหล่อนแล้ว
เมื่อประธานงานเห็นเค้กมากมายที่ทานแล้วตั้งอยู่บนโต๊ะตรงหน้าเสี่ยวเหยียน จึงยิ้มและพูดขึ้น: “เห็นทีต้องเพิ่มเงินโบนัสให้เชฟที่ทำเค้กแล้วสิ”
เดิมทีเสี่ยวเหยียนยังคิดถึงเรื่องของซูเหยาเหยาอยู่ เมื่อถูกประธานงานพูดมาเช่นนี้ หล่อนหน้าแดงขึ้นมาทันที
เมื่อครู่หล่อนคิดแต่เรื่องกิน จนคิดไม่ถึงว่าหานชิงจะกลับมาเร็วขนาดนี้ ตอนนี้…กลับทำให้คนอื่นเห็นว่าหล่อนทานเยอะขนาดนี้ บรรยากาศอึดอัดขึ้นมาทันที เสี่ยวเหยียนลูบจมูกไปมา ลืมเก็บกวาดของ
หานชิงก็เห็นเค้กพวกนั้นที่หล่อนทาน สาวน้อยเคอะเขินจนทำอะไรไม่ถูก อีกทั้งมุมปากของเธอยังเลอะครีมอยู่อีกด้วย เขาจึงยกมือขึ้นมา ช่วยหล่อนเช็ดคราบครีมที่ติดอยู่ตรงมุมปาก หน้าของหล่อนแดงขึ้นมาทันที
หล่อนเป็นอะไรไป ทานเค้กเยอะก็ถือเป็นเรื่องหนึ่ง แต่นี่ยังทานเลอะปากอีกด้วย?
เสี่ยวเหยียนรู้สึกกระสับกระส่ายไปหมด หานชิงใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดคราบครีมที่เลอะตรงมุมปากให้หล่อนด้วยท่าทีนิ่งขรึม
ประธานงานเลี้ยงแอบหรี่ตามองฉากนี้ ยิ้มขึ้น: “ทำไมคุณจางวถึงมาอยู่ตรงนี้คนเดียวล่ะครับ? ในงานเลี้ยงกำลังครึกครื้นอยู่เลย ผมจะได้แนะนำคนให้คุณได้รู้จักด้วย”
แนะนำคนให้หล่อนรู้จัก?
เสี่ยวเหยียนอยากจะพูดว่า ตัวเองเป็นแค่เจ้าของร้านราเม็ง ต้องแนะนำให้คนรู้จักด้วยเหรอ? แต่จู่ๆก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้ ประธานงานคงเห็นแก่หานชิงจึงอยากจะแนะนำให้หล่อนรู้จักแทน
จากนั้นหล่อนมองไปที่หานชิง หานชิงขยับปากพูดขึ้น: “อยากไปไหม? ถ้าไม่อยากไป ไม่ต้องไปก็ได้”
แน่นอนว่าหล่อนไม่อยากไป แต่หานชิงมาร่วมงานเลี้ยง ต้องมีเหตุผลอะไรบางอย่างแน่นอน ถ้าหล่อนไม่ไป คงจะสร้างความลำบากให้เขา
หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่สักพัก สาวน้อยจึงพยักหน้าลง “อยากไปค่ะ”
“โอเค งั้นไปกันเถอะ”
หลังจากนั้นเสี่ยวเหยียนก็ดึงแขนเสื้อของหานชิง และค่อยๆเดินไปกับเขาอย่างระมัดระวัง
ระหว่างการแนะนำคนให้รู้จักของประธานงาน และเป็นเพราะอยู่ข้างหานชิง ดังนั้นทุกคนจึงปฏิบัติตัวดีต่อเสี่ยวเหยียนมาก แต่ก็ยังมีบางคนที่มองหล่อนด้วยสายตาริษยา ถามเรื่องครอบครัวของเสี่ยวเหยียน จนถูกหานชิงมองด้วยสายตาอันเย็นชา
คนนั้นหน้าเจื่อนไปทันที แต่ก็เป็นคนที่ทำตัวสบายๆ หัวเราะกลบเกลื่อนแทน
“ขอโทษจริงๆครับ ผมมันโง่ ทำให้คุณจางเสี่ยวเหยียนต้องไม่พอใจ ผมลงโทษตัวเองสามแก้ว!”
จากนั้นก็ยกเหล้าขาวขึ้นมาดื่มสามแก้วต่อหน้าทุกคน
เมื่อเห็นภาพตรงหน้า สีหน้าของเสี่ยวเหยียนเปลี่ยนไปทันที อยากจะเข้าไปห้ามแต่ก็ไม่ทัน
เห็นเขาดื่มต่อหน้าตัวเองจนหมด จากนั้นหล่อนจึงยกแก้วขึ้นมา “งั้น…งั้นฉันดื่มให้คุณหนึ่งแก้วนะคะ…”
เมื่อพูดจบ เสี่ยวเหยียนกำลังจะดื่มเหล้าเข้าปาก
หานชิงกวาดสานตามองมา เห็นหล่อนถือแก้วที่มีแอลกอฮอล์สูงมาก เมื่อนึกถึงสภาพตอนหล่อนเมา จึงรีบห้ามไว้ทันทีหลังจากที่หล่อนดื่มไปหนึ่งอึก
“ทำไมเหรอ?” เมื่อถูกหานชิงห้ามไว้ เสี่ยวเหยียนจึงมองเขาด้วยสีหน้ามึนงง ถามด้วยเสียงแผ่วเบา: “เขาดื่มตั้งสามแก้ว ฉันแก้วเดียว…ไม่ถูกเหรอ?”