เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1134
บทที่1134 ไม่ให้กินฟรี
เพียงไม่นานเซียวซู่ก็ออกไป หลังจากที่เขากลับไปหลัวหุ้ยเหม่ยก็เข้ามาพูดกับลูกสาวเบาๆ
“ความจริงแม่คิดว่าพ่อหนุ่มเซียวซู่คนนี้ดีมากเลยนะ ทั้งขยันทั้งมีความสามารถ ทั้งยังสุภาพอ่อนโยนกับคนอื่นอีก มองดูแล้วยังดูเป็นคนที่คู่ควรให้ฝากฝังไว้เลยทีเดียว”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว เสี่ยวเหยียนก็เหลือบมองหลัวหุ้ยเหม่ยเล็กน้อย หลัวหุ้ยเหม่ยก็รีบพูดเย้าแหย่ออกมาทันที “แค่ลองพูดดูเท่านั้นเอง ถึงยังไงคนเขาก็ไปแล้วนี่”
ก็ใช่ถึงยังไงเซียวซู่ก็ไปแล้ว หลัวหุ้ยเหม่ยพูดอะไรไปเขาก็ไม่ได้ยิน แล้วมันเกี่ยวอะไรกัน? คนแก่ก็แบบนี้ประจำ ให้เธอได้ลองพูดหน่อยเถอะ ถึงยังไงตัวเธอเองก็ไม่เสียหายอะไรหรอก
หลายวันติดๆ เสี่ยวเหยียนเหม่อลอยไร้สติ จนกระทั่งในตอนที่เสี่ยวหมี่โต้วมาที่ร้าน ใบหน้าของเสี่ยวเหยียนก็ถึงจะฝืนให้ใบหน้ามียิ้มแย้มออกมาได้ คุยเล่นอยู่กับเสี่ยวหมี่โต้ว แต่เพียงไม่นานก็เผยความเศร้าออกมาอีกครั้ง
“น้าเสี่ยวเหยียน วันนี้ที่ร้านไม่ยุ่ง น้าออกไปเที่ยวกับผมหน่อยดีมั้ย?” เสี่ยวหมี่โต้วดึงมือเธออย่างออดอ้อน โบกมือไปมาเบาๆ
เสี่ยวเหยียนชะงักไปเล็กน้อย มองไปทางเสี่ยวหมี่โต้ว “หนูอยากไปเที่ยวที่ไหน?”
“สวนสนุก”
สวนสนุก?
เมื่อก่อนเสี่ยวหมี่โต้วไม่เคยคิดจะไปสวนสนุกเลย ของที่เด็กคนอื่นๆเขาชอบ เขากลับไม่ชอบ แต่เมื่อก่อนตอนเสี่ยวเหยียนอยู่ต่างประเทศชอบลากเสี่ยวหมี่โต้วไปด้วยตลอด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ไปนั่งรถไฟเหาะกับไวกิ้ง ทุกครั้งก็ตื่นเต้นจนร้องอย่าๆออกมา หลายช่วงเสี่ยวหมี่โต้วก็จะมองเธอแล้วเอ่ยออกมาอย่างสบประมาท “น้าเสี่ยวเหยียน น้าโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ช่วยอย่ามาทำตัวหน่อมแน้มอย่างนี้ทุกครั้งได้มั้ยฮะ? ชอบเล่นของเล่นเด็กอยู่ตลอด?”
ในตอนนั้นเสี่ยวเหยียนก็ชอบบิดหูเขา พูดสั่งสอนเขาออกไป “อะไรกันที่ว่าน้าชอบเล่นของเล่นเด็กอยู่ตลอด? ของพวกนั้นออกแบบมาเพื่อใช้เพื่อผ่อนคลายมั้ยล่ะ? หนูไม่เห็นหรือไงว่าผู้ใหญ่มากันตั้งเยอะ?”
เสี่ยวหมี่โต้วถูกเธอหยิกจนเจ็บ ตบมือเธอไปพลางพูดออกไปพลาง “น้าเสี่ยวเหยียนนิสัยไม่ดี พวกเขามาเป็นเพื่อนเด็กๆกันทั้งนั้น”
“น้าก็เหมือนกัน!”
“แต่ผมไม่ได้อยากมา น้าเสี่ยวเหยียนดึงหูผมอีก ครั้งหน้าน้าเสี่ยวเหยียนก็มาเองเลยสิ!”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว เสี่ยวเหยียนก็ได้คลายมือออก จากนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าแล้วไปเป่าหูให้กับเสี่ยวหมี่โต้ว “ไอ้หยา ขอโทษนะเสี่ยวหมี่โต้ว เมื่อกี้นี้น้าเสี่ยวเหยียนหยิกหนูเจ็บเลยใช่มั้ย? น้าเสี่ยวเหยียนเป่าให้หนูนะ ครั้งหน้าค่อยมาเป็นเพื่อนน้าอีกนะดีมั้ย?”
“เฮอะ! ต้องเป่าสองที!”
ความทรงจำเหล่านี้เหมือนกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ในตอนที่เสี่ยวเหยียนเรียกสติกลับมาได้ เสี่ยวหมี่โต้วก็กำลังดึงแขนเสื้อของเธอ “น้าเสี่ยวเหยียน ไม่ไปหรอ?”
“ไป” เสี่ยวเหยียนพยักหน้า
เสี่ยวหมี่โต้วตั้งใจขนาดนี้แล้ว จะต้องเห็นเธอดูไม่มีความสุขอยู่แน่ๆ ดังนั้นแล้วก็เลยคิดอยากจะพาเธอไปเที่ยวกันที่สวนสนุกกันให้สนุกสนาน เพื่อให้เธอมีความสุขขึ้นสักหน่อย
หลังจากที่เสี่ยวเหยียนบอกกับหลัวหุ้ยเหม่ยไปแล้ว ก็ได้พาเสี่ยวหมี่โต้วออกไปพร้อมกัน ไปสวนสนุกใกล้ๆ ทั้งสองคนสนุกกันถึงเย็นกว่าจะกลับบ้านกัน
ตอนที่เพิ่งจะถึงบ้าน เสี่ยวเหยียนเหนื่อยจนนอนเป็นอัมพาตอยู่บนโซฟา หลับตานอน เสี่ยวหมี่โต้วไปห้องน้ำเอาน้ำอุ่นใส่กะละมังมาล้างหน้าให้เสี่ยวเหยียน ในตอนที่ล้างไปเพียงครึ่งหลัวหุ้ยเหม่ยก็ปรากฏตัวออกมา หลังจากที่เห็นการกระทำของเสี่ยวหมี่โต้วแล้วก็รีบก้าวเข้าไป
“ไอ้หยา เสี่ยวหมี่โต้วหนูปล่อยให้ฉันทำเองเถอะ”
เสี่ยวหมี่โต้วเช็ดหน้าให้เสี่ยวเหยียนเสร็จแล้ว จากนั้นก็ถูกหลัวหุ้ยเหม่ยพาเข้านอน ในตอนที่กลับมาหลัวหุ้ยเหม่ยก็เห็นเสี่ยวเหยียนพลิกตัว ตัวที่อยู่บนโซฟาสามารถพูดได้เลยว่าล่องลอยอยู่ในอากาศ ตามองเห็นว่ากำลังจะร่วงลงมาแล้ว
สีหน้าของหลัวหุ้ยเหม่ยเปลี่ยนไป คิดอยากจะเข้าไปช่วย
แต่เสี่ยวเหยียนที่นอนหลับเงียบอยู่นั้นได้พลิกตัวอีกครั้ง พลัดตกลงบนพื้นเย็นเสียงดังตุ๊บ
เสียงทุ้มดังเสียงนั้น ได้ยินแล้วรู้สึกเจ็บขึ้นมา ส่วนเสี่ยวเหยียนก็ได้ตื่นขึ้นมาเพราะความเจ็บที่ล้มลง จับไปบนบริเวณที่ล้มเจ็บแล้วลุกขึ้นมานั่ง ใบหน้าดูงุนงงออกมา
“ตื่นแล้ว? ตื่นมาพอดีเลย ไปนอนในห้องไป ถ้าแกนอนอยู่ตรงนี้จริงๆ แม่ก็ไม่รู้ว่าจะพาเธอไปนอนในห้องยังไง แกก็รู้ ตอนนี้แม่ไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว โตเป็นสาวแล้ว แม่อุ้มแกไม่ไหวหรอกนะ”
เสี่ยวเหยียนมองหลัวหุ้ยเหม่ยกะพริบตาปริบๆ นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวันขึ้นมาได้ จากนั้นก็พยักหน้าเงียบๆ ลุกขึ้นกลับห้อง เชื่อฟังจนน่าตกใจ
ท่าทางอย่างนี้ของเธอ กลับทำเอาหลัวหุ้ยเหม่ยเป็นกังวลขึ้นมาแทน
เนื่องจากหลัวหุ้ยเหม่ยเห็นสภาพเศร้าเสียใจของเสี่ยวเหยียนในคืนวันนั้นแล้ว แต่ในช่วงนี้สิ่งที่เธอแสดงออกมาในทุกๆวันก็ดูว่าง่ายน่ารัก ถึงแม้ว่าจะดูไร้เรี่ยวแรง แต่ก็ไม่ร้องไห้ไม่โวยวาย เหมือนกับว่าจะเอาเรื่องทุกอย่างเก็บกลั้นเอาไว้ในใจ
เอาแต่เก็บกลั้นเอาไว้ในใจอยู่อย่างนี้ต่อไป ไม่รู้เหมือนกันว่าสุดท้ายแล้วจะเก็บจนเจ็บป่วยอะไรขึ้นมาบ้าง
วันต่อมา
เนื่องจากเป็นวันหยุด การค้าขายภายในร้านก็เลยดีเป็นพิเศษ เสี่ยวเหยียนถึงแม้ว่าจะไร้ชีวิตชีวาก็ยังต้องทำมาหากิน ในตอนที่เธอยุ่งอยู่ในครัวเสร็จแล้วออกมา เห็นเข้ากับหลัวหุ้ยเหม่ยกำลังคุยอยู่กับป้าจางเพื่อนบ้านที่อยู่ข้างๆเข้าพอดี
ป้าจาง?
ป้าแกมาได้ยังไง?
ในตอนที่เสี่ยวเหยียนกำลังสงสัยอยู่นั้น จู่ๆป้าจางก็เหลือบมองเธอมา จากนั้นเดินมุ่งเข้ามาหาเธอ หลัวหุ้ยเหม่ยอยากจะรั้งเอาไว้ สีหน้าที่แสดงออกมาบนใบหน้ามีความหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด ทำได้เพียงรีบสาวเท้าก้าวตามเข้าไป
“เหยียนเหยียนนี่นา เหยียนเหยียนสุดยอดไปเลย เด็กขนาดนี้ก็เปิดร้านราเม็งของตัวเองแล้ว ป้าว่าการค้าขายของร้านนี้ไม่เลวไปเลยใช่มั้ย?” มีคำกล่าวหนึ่งที่พูดได้ดีเลยทีเดียว ที่ว่าอย่าตบคนยิ้ม
ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังอยู่ในร้าน เสี่ยวเหยียนก็เลยสยะยิ้มออกมา ยิ้มให้กับอีกฝ่าย
“ป้าจาง ชมกันเกินไปแล้ว ทำไมวันนี้ถึงได้ว่างมาได้คะ? ไม่งั้นให้ฉันเลี้ยงราเม็งคุณป้านะคะ?”
ป้าจางก็ได้ถูมืออย่างเกรงอกเกรงใจ “งั้นก็ขอบคุณเธอนะ ป้าไม่เกรงใจแล้วละกัน”
“งั้นคุณป้านั่งก่อนนะคะ ฉันไปยกบะหมี่มาให้”
“ได้เลย”
เสี่ยวเหยียนเข้าห้องครัวไปไม่นาน หลัวหุ้ยเหม่ยก็ตามเข้ามา
“แกมาเก็บให้หล่อนทำไมกัน? แกรู้มั้ยว่าวันนี้หล่อนมาทำอะไร?”
“…ทำอะไร?” เสี่ยวเหยียนเอ่ยถามออกมาอย่างไม่ใส่ใจ “ไม่ใช่ว่าป้าแกเบื่อหรอ? วันๆนึงเดินว่อนไปทั่ว แล้วยังขี้เม้าท์อีก”
เห็นท่าทางไม่แยแสนี้แล้ว หลัวหุ้ยเหม่ยก็รู้ว่าเธอไม่รู้เรื่องรู้ราวความเป็นจริง จึงถือโอกาสพูดออกไปตรงๆ
“หล่อนอยากจะมาหาคู่ให้แก”
การกระทำบนมือของเสี่ยวเหยียนหยุดชะงัก
“หาคู่?”
“ไม่งั้นล่ะ? บ้านห่างจากร้านเราประมาณช่วงนึง หล่อนไม่มีเรื่องอะไรแต่วิ่งแจ้นมาหาแกที่นี่เพื่อกินบะหมี่ชามนึง? บะหมี่เทพอะไรนั่นของแกอร่อยมากขนาดนั้นเลยหรือไง?”
“…เดิมทีก็เป็นราเม็งเทพอยู่แล้วนี่ ไม่ใช่ว่าแม่ไม่เคยกินมาก่อนเสียหน่อย”
หลัวหุ้ยเหม่ยถูกลูกสาวทำเอาพูดไม่ออกหมดคำพูดไปชั่วขณะ ความจริงฝีมือลูกสาวของเธอมันก็อร่อยดี และเธอก็ยังปรุงรสเก่งมาก เครื่องปรุงที่เหมือนกันปริมาณที่เธอใช้สามารถให้รสชาติที่ไม่เหมือนกันได้ นั่นก็คือรสชาติและขายดีกว่าร้านอื่นๆ
“จะว่าไปก็ใช่ แล้วถ้าหากว่าหล่อนกินแล้วอร่อย ต่อไปก็มาตีเนียนกินฟรีทุกวันจะทำไง?”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว เสี่ยวเหยียนมองหลัวหุ้ยเหม่ยอย่างแปลกใจ “แม่ แม่พูดอะไรน่ะ? ป้าแกมากินทุกวัน ไม่ดีหรอ?”
“แกจะบ้าหรือไงหา? มันดีที่ไหน?”
“แล้วไม่ดีตรงไหน?”
“หล่อนไม่จ่ายเงินจะทำไง?”
เสี่ยวเหยียน “…หนูไม่ให้กินฟรีหรอก ไม่จ่ายเงินก็อย่ามากินที่นี่สิ”
พูดจบ เสี่ยวเหยียนก็ยกราเม็งชามหนึ่งออกไป