เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1136
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน
บทที่1136 ต้องการความสงบสุข
“เหยียนเหยียนเอ๋ย นี่เสี่ยวหลี่ เสี่ยวหลี่นี่เหยียนเหยียน พวกเธอทำความรู้จักกันดู”
เห็นจางเสี่ยวเหยียน แววตาที่อยู่ใต้แว่นของชายหนุ่มกระตุกเล็กน้อย จากนั้นจู่โจมยื่นมือออกไปหาเธอ
“สวัสดีครับ ผมชื่อหลี่ซือห้าน”
“จางเสี่ยวเหยียน”
ทั้งสองคนผลัดกันบอกชื่อ แล้วจับมือกัน ในตอนที่เสี่ยวเหยียนเก็บมือกลับไป อีกฝ่ายก็ได้ดึงมือกลับไปพอดี ตรงจุดนี้มันดูมีมารยาทอย่างมาก
“เหยียนเหยียน ที่ร้านมีอะไรให้ช่วย เธอก็บอกให้เสี่ยวหลี่ช่วยได้เลยนะ ถึงยังไงวันนี้ก็วันหยุด เขาก็ไม่ต้องเข้าทำงานเหมือนกัน” พูดจบ ป้าจางก็มองไปยังหลัวหุ้ยเหม่ย ขยิบตาให้กับเธอพลางเอ่ยออกมา “หุ้ยเหม่ยเอ๋ย เธอไปเดินตลาดเล่นเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ?”
แน่นอนว่าหลัวหุ้ยเหม่ยรู้ว่าหมายความว่าอะไร เดินตลาดเล่นนั้นเป็นเรื่องโกหก หาข้ออ้างที่จะออกไปให้ทั้งสองคนหนุ่มสาวได้อยู่ด้วยกันต่างหากที่เป็นความจริง เธอมองลูกสาวบ้านตัวเองไปอย่างเป็นกังวล เสี่ยวเหยียนพยักหน้าให้เธอ หลัวหุ้ยเหม่ยจึงได้ออกไป
หลังจากที่ผู้ใหญ่ออกไปกันแล้ว เสี่ยวเหยียนเริ่มเป็นฝ่ายพูดออกไปก่อน “เรื่องที่ร้านไม่ต้องให้คุณช่วยหรอกค่ะ คุณหาที่นั่งตามสบายเลยนะคะ ฉันขอเลี้ยงของกินคุณแล้วกันนะคะ”
หลี่ซือห้านยิ้มออกมาเล็กน้อย “ไม่เป็นไร ป้าจางบอกผมแล้ว ผมว่าการค้าร้านของคุณนี่ไม่เลวเลยนะครับ ต้องการให้ผมช่วยอะไรบอกมาได้เลยตามสบายนะครับ ถึงแม้ว่าผมจะไม่ค่อยจะรู้เรื่องพวกนี้นัก แต่ผมลองเรียนรู้ดูสักหน่อยได้เลยนะครับ”
ท่าทีในการพูดก็ยังนอบน้อมถ่อมตัวสุดๆ ไม่หยิ่งทะนง ความรู้สึกของเสี่ยวเหยียนที่มีต่ออีกฝ่ายถึงแม้ว่าจะไม่ได้เกลียด แต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นเลยเช่นกัน
ความรู้สึกดีๆนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ภายในใจของเธอมีเพียงคนเดียว เซียวซู่ดีกับเธอขนาดนั้น เธอก็ยังเกิดความรู้สึกดีๆกับเขายากเลย แต่ถ้าเป็นเพียงแค่เป็นการดูตัวแล้วล่ะก็ จะไปมีได้ยังไงกัน?
เสี่ยวเหยียนคิดอยู่เสมอว่าการนัดดูตัวครั้งนี้จะให้ความรู้สึกของการประชดเล็กๆ แต่…เธอก็คิดว่าเธอสามารถลืมหานชิงได้
เธออยากพิสูจน์ว่าเธอไม่ใช่คนที่ขาดหานชิงไม่ได้
คบกับคนอื่น เธอจะต้องใช้ชีวิตไปอย่างมีความสุขมากแน่
จู่ๆภายในร้านก็มีชายแปลกหน้าคนนึงเข้ามา พนักงานหลายคนต่างก็สบตากัน อดไม่ได้ที่จะเกิดการซุบซิบอยู่ในใจขึ้นมา
หลี่ซือห้านกับเสี่ยวเหยียนเดทกันไปอย่างเหมาะสมตามที่เหมาะที่ควร รุกถอยอย่างมีระดับ ในตอนที่พูดคุยกันนั้นก็ได้หยุดชะงักลงอย่างฉับพลัน ไม่ถามคำถามที่ทำให้คนอื่นไม่สบายใจ แล้วยังเรียนรู้เร็วเอามากๆ ในหนึ่งวันนั้นได้ช่วยเธอหลายอย่างเลยทีเดียว
รอจนถึงตอนที่สั่งอาหาร หลี่ซือห้านเอ่ยหัวเราะออกมาเบาๆ “วันนี้ได้เรียนรู้เยอะมาก เหมือนกับได้เปิดโลกใหม่เลยครับ พรุ่งนี้ผมมาช่วยคุณต่อ? วันมะรืนโน่นผมถึงจะทำงาน พักอยู่บ้านก็ไม่มีอะไร”
เสี่ยวเหยียนคิดอยู่สักพัก สุดท้ายก็พยักหน้าออกมา
“ได้สิคะ”
“ตั้งตารอการเจอกันวันพรุ่งนี้จังเลยครับ คุณจาง งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
“อืม บ๊ายบาย”
หลังจากที่เขากลับไป หลัวหุ้ยเหม่ยเข้าไปกอดคอลูกสาวตัวเองด้วยรอยยิ้มปรี่
“เป็นยังไงบ้าง? ไปกันได้ด้วยดีมั้ย? ถ้าไม่ชอบละก็ แม่จะปฏิเสธให้แกเอง ไม่เป็นไรเลย”
“หนูตกลงไปแล้วว่าพรุ่งนี้ให้เขามาช่วยต่อ”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว หลัวหุ้ยเหม่ยนิ่งอึ้งไปสักพัก “ชอบเข้าแล้ว?”
“ไม่”
“แล้วทำไมแก…”
“นิสัยของเขาก็ดีมาก แล้วหนูก็คนโสดคนนึง ก็ลองศึกษากันดู ถึงยังไงก็ไม่มีคนต้องการหนูอยู่แล้ว”
หลัวหุ้ยเหม่ย “…พูดไร้สาระอะไรกัน? จะไม่มีใครต้องการแกได้ยังไง? เหยียนเหยียน แกบอกความจริงกับแม่มา แกดูตัววันนี้เพื่อประชดใช่มั้ย? ตั้งใจ?”
ในส่วนของการประชดจริงๆมันก็มี แต่เสี่ยวเหยียนก็ไม่อยากยอมรับ เธอกัดฟันเอ่ยออกไป “ไม่นะคะ หนูก็แค่ได้ฟังคำพวกนั้นของป้าจางแล้วก็คิดว่าป้าแกก็มีเหตุผล มีชีวิตอยู่บนโลกนี้ จะฝืนไปเพื่ออะไรกัน? แทนที่จะให้ทุกวันของตัวเองผ่านไปอย่างไม่มีความสุข ขอยอมอยู่อย่างสงบสุขเสียดีกว่า”
“ถ้าแกอยากคิดอย่างนี้จริงๆ งั้นก็ดีแล้ว”
วันที่สอง หลี่ซือห้านคนนั้นก็มาอีกครั้ง แล้วยังช่วยงานเสี่ยวเหยียนเสียหลายอย่าง ในตอนก่อนไปเขาก็ได้ขอไอดีวีแชทของเสี่ยวเหยียน
เขาฉลาดมาก ช่วงสองวันมานี้ที่รู้จักกับเสี่ยวเหยียนมาก็ไม่เอ่ยถึงเรื่องของการดูตัวเลยแม้นเพียงครึ่งคำ และก็ยังไม่ได้ถามโน่นถามนี่ออกมาไม่หยุด ในตอนที่อยู่ด้วยกันไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกอึดอัดขึ้นมา ถึงแม้ว่าจะไม่ถึงกับว่าถ่ายรูปคู่กันหลายรูป แต่ทุกคำพูดและการกระทำของอีกฝ่าย ทุกอย่างเป็นไปอย่างพอเหมาะพอควร
เสี่ยวเหยียนแปลกใจเล็กน้อย ผู้ชายอย่างนี้ ทำไมถึงได้เป็นโสด?
อย่าว่าแต่เขาจะมีบ้านมีงานที่มั่นคง แค่นิสัยที่รู้จักรุกรู้จักถอยจำพวกนี้ของเขา ก็คงจะชนะหัวใจสาวๆไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่ตอนนี้ก็ยังไม่สนิทสนมกัน อีกทั้งเธอก็ไม่แน่ใจนักว่าตนจะติดต่อกับเขาต่อไปหรือเปล่า ดังนั้นแล้วก็เลยไม่ได้ถามอีกฝ่ายถึงคำถามจำพวกที่เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะเป็นส่วนตัวไปโดยปริยาย
ในวันที่สาม หลังจากที่หลี่ซือห้านเลิกงานแล้ว เขาดีต่อพ่อแม่ของเสี่ยวเหยียนอย่างมาก แล้วก็ยังช่วยพ่อจางส่งเดลิเวอรี่ไปหลายครั้ง พ่อจางก็เลยมองเขาอย่างเจริญตาเป็นพิเศษ แม้แต่หลัวหุ้ยเหม่ยเองก็ค่อยๆรู้สึกว่าหลี่ซือห้านคนนี้ใช้ได้ขึ้นมา
จุดที่จู้จี้จุกจิกไม่มีเลยแม้แต่น้อย
หลังจากที่ป้าจางรอเสี่ยวเหยียนกับครอบครัวกลับบ้านมาแล้วก็ได้เข้ามาคุยด้วยทันที
“เหยียนเหยียนเอ๋ย ได้ข่าวว่าช่วงนี้เธอไปกับเสี่ยวหลี่ได้ดีสุดๆไปเลย ใช่มั้ยล่ะ?”
เสี่ยวเหยียนไม่รู้ว่าจะตอบอะไรกลับไปดี ฉีกยิ้มแหยออกมาอย่างกระอักกระอ่วน จากนั้นก็ได้ยินหลัวหุ้ยเหม่ยที่อยู่ข้างๆพูดออกมา “นี่เพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่กี่วันเอง ไปกันได้มั้ยต้องรอหลังจากนี้ถึงจะรู้”
ความนัยของคำพูดนี้ก็คือถามว่าคุณจะรีบร้อนไปเพื่อ?
แต่ป้าจางกลับหน้าด้าน ยังเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม “พูดมาก็ไม่ผิด แต่ตอนนี้ตั้งแต่เริ่มก็ไปกันได้ไม่เลวเลยใช่ไม่ใช่ ขอเพียงแค่ไปกันได้ ต่อจากนี้มันก็ไม่ใช่ปัญหาแน่”
“เฮ้ นี่ใครมันจะรู้? เรื่องต่อจากนี้ใครจะพูดเอาแน่เอาแน่เอานอนได้ ป้าจางอย่าโทษฉันเลยที่พูดจาน่าเกลียดเมื่อก่อนหน้านี้ สมัยนี้หนุ่มสาวหลายคนปิดซ่อนตัวเองกันทั้งนั้น ไม่ถึงนาทีสุดท้ายใครจะรู้ว่านิสัยที่แท้จริงของอีกฝ่ายเป็นยังไง พวกเราเป็นพ่อแม่ ก็ต้องรอบคอบหน่อยใช่มั้ยล่ะ?”
“คงจะก็คงจะสิ แต่เธอวางใจได้เลย เสี่ยวหลี่ถ้าเขาไม่น่าไว้วางใจมีหรือที่ฉันจะแนะนำให้เหยียนเหยียนกัน? ถึงยังไงเหยียนเหยียนก็มีหน้าตาสวยเสียขนาดนี้ แล้วยังมีความสามารถอีกใช่มั้ยล่ะ? เธอดูสิปกติแล้วฉันช่วยเป็นแม่สื่อให้คนอื่น ฉันเลือกมาอย่างดีทั้งนั้น”
“ใช่หรอ?” หลัวหุ้ยเหม่ยยิ้มออกมาเล็กน้อย “แต่ทำไมถึงได้ข่าวว่า เมื่อก่อนป้าช่วยแนะนำผู้ชายให้กับลูกสาวแถวๆย่านข้างๆหลังจากที่แต่งงานกันแล้วบ้านก็แตกนี่นา?”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว ป้าจางก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป พูดอธิบายออกไป “นี่มันโทษฉันได้ยังไง? บ้านแตกจะต้องเป็นเพราะทั้งสองคนมีปัญหากันใช่มั้ยล่ะ? จะต้องเป็นเพราะผู้หญิงไม่เชื่อฟัง หรือไม่ก็ทำเรื่องเกินไปมากๆ”
หลัวหุ้ยเหม่ยเบิกตากว้างออกมา “คิดว่าเกินไปจนเลิกกันได้เชียว? ตบตีคนอื่นคิดว่าเพราะอะไรกัน? ป้าจาง ป้าคิดว่าการตบตีเป็นเรื่องที่ถูกต้อง?”
ป้าจางกลัวว่าจะทำเรื่องพัง จึงรีบพูดแก้ต่างออกไป
“ที่ไหนกันที่ไหนกัน น้องหุ้ยเหม่ยอย่าตื่นตระหนกไปเลย ป้าก็แค่คิดว่าเรื่องนี้ไม่อาจมองด้านเดียวได้ การที่บ้านแตกจะต้องมีเหตุผล ตบตีคนอื่นเป็นเรื่องไม่ถูกต้องอยู่แล้ว อีกอย่างนั่นเป็นเรื่องของเพื่อนบ้านละแวกข้างๆ เหยียนเหยียนเป็นเด็กที่ป้าเห็นมาจนโต มองเป็นเหมือนลูกสาวแท้ๆ ป้าจะไปหลอกเธอได้ยังไงกัน?”
เสี่ยวเหยียนอยู่ข้างๆคอยฟังบทสนทนาของทั้งสอง จนเจอเรื่องเด็ดเข้า
ป้าจางคนนี้ เชื่อใจได้จริงๆหรอ?
มองดูแล้ว ไม่น่าไว้ใจเลย
แต่การไปมาหาสู่กันของคนที่ชื่อหลี่ซือห้านคนนั้นในช่วงสองวันมานี้ ไม่มีปัญหาอะไรเลยจริงๆ
จนหลังจากที่คนกลับไปแล้ว หลัวหุ้ยเหม่ยก็เรียกเสี่ยวเหยียนเข้ามาด้านใน
“แกคิดว่าหลี่ซือห้านเป็นไง?”
เสี่ยวเหยียน “…พอใช้ได้อยู่ล่ะมั้ง?”