เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1144
บทที่1144 ทำเธอเสื่อมเสียชื่อเสียง
ถึงแม้จะพูดว่าทุกคนมาทานข้าวด้วยกัน
แต่ตอนแรกก็มีแต่เสี่ยวหมี่โต้วคนเดียวเท่านั้นที่กิน
เสี่ยวเหยียนโมโหจนไม่รู้สึกอยากอาหารเลยแม้แต่น้อย เธออยากจะทะเลาะกับหานชิง แต่ว่าอีกฝ่ายกลับมีท่าทีเรียบเฉยตลอดเวลา ความโกรธที่ลุกโชนของเธอก็เลยไร้ที่ระบาย
ราวกับกำปั้นที่ชกออกไปเต็มแรง แต่กลับต่อยโดนปุยฝ้ายก้อนหนึ่ง ไม่ทำให้คนที่โดนรู้สึกทุกข์ร้อน แต่ใจกลับไม่สบาย
ดังนั้นเธอก็เลยไม่กินอะไรเลย หลี่ซือห้านกล่อมเธออยู่หลายครั้ง เสี่ยวเหยียนก็เอาแต่พูดว่า “ขอบคุณ แต่ฉันไม่หิว คุณกินเถอะ”
หลี่ซือห้านอยากจะกิน เพราะอย่างไรของพวกนี้ก็มีแต่ของที่เขาไม่เคยกิน อีกทั้งยังเสียเงินแล้ว ถ้ากินไม่หมดคงฟุ่มเฟือยแย่
ที่เขากล่อมให้เสี่ยวเหยียนกินก็เพราะรู้สึกว่าถ้าตัวเองกินอยู่คนเดียวมันน่าขายหน้า แต่ไม่ว่าอย่างไรเสี่ยวเหยียนก็ไม่ยอมกิน หลี่ซือห้านไม่มีทางเลือก สุดท้ายก็เลยต้องก้มหน้าก้มตากิน
ส่วนคนที่ไม่ได้ขยับตะเกียบเลยเช่นเดียวกับเสี่ยวเหยียนก็คือหานชิง
ตั้งแต่เขาเข้ามาก็เอาแต่ดื่มชา ไม่ได้แตะอาหารที่อยู่ตรงหน้าแม้แต่คำเดียว และสีหน้าของเขาก็ย่ำแย่มาก นัยน์ตาสีเข้มนั้นลุ่มลึก ทำให้คนเดาความรู้สึกไม่ถูก
และก็ไม่รู้ว่าอาหารมื้อนี้จะต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน เสี่ยวเหยียนแทบจะนั่งต่อไปไม่ไหวแล้ว
เสี่ยวหมี่โต้วกินจนพุงแทบแตกแล้วถึงกล้าหยุด จากนั้นก็หันไปมองหานชิงที่นั่งอยู่ข้างๆอย่างระมัดระวัง
“คุณน้า ผมอิ่มแล้วครับ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น หานชิงก็กวาดสายตาเย็นชาไปทางเขา แต่ริมฝีปากกลับปิดสนิทไม่พูดอะไร
เสี่ยวหมี่โต้วทำสีหน้าหดหู่ แล้วลูบท้องที่นูนขึ้นมาของตัวเอง
“กินไม่ไหวแล้วจริงๆนะฮะ”
เป็นครั้งแรกที่เห็นคุณน้าทำสีหน้าเคร่งขรึมขนาดนี้ น่ากลัวมาก เขาอยากจะกลับบ้านไปหาคุณแม่แล้ว
หานชิงยังมีความโกรธอยู่ในใจ แต่พอเห็นมือนุ่มนิ่มของเจ้าตัวเล็กปิดอยู่บนท้องที่นูนขึ้นมาของตัวเอง เขาถึงตระหนักได้ถึงบางอย่าง แล้วริมฝีปากบางก็เปิดขึ้น
“งั้นก็อย่าฝืน”
อย่างไรก็เป็นแค่เด็ก ให้เขาก้มหน้าก้มตากินไปมากขนาดนั้น ครั้งต่อไปคงหลาบจำแล้ว
อีกอย่าง ถ้าฝืนจนท้องแตกขึ้นมา เขาที่เป็นคุณน้าคงไม่มีหน้าไปรายงานน้องสาวตัวเองแน่
เมื่อได้รับการยินยอมจากหานชิงแล้ว เสี่ยวหมี่โต้วก็รู้สึกโล่งอก ร่างเล็กๆพิงอยู่บนโต๊ะ “ขอบคุณครับคุณน้า”
ในที่สุดก็ไม่ต้องกินแล้ว ถ้าต้องกินต่อไป เขาคงต้องท้องแตกแน่ๆ
บนโต๊ะเหลือแค่หลี่ซือห้านคนเดียวที่ยังกินอยู่
เขากินเก่งมากจริงๆ แถมตอนที่กินอาหารก็ยังมีเสียงอีกด้วย ถึงแม้แต่ละคนจะมีเอกลักษณ์ในการกินเป็นของตัวเอง แต่ต่อหน้าสาธารณะก็ควรจะระมัดระวังบ้าง
เสี่ยวเหยียนเองก็ไม่คิดว่าหลี่ซือห้านจะเป็นแบบนี้ แต่เธอก็ไม่มีกะจิตกะใจจะไปสนใจ
ทุกคนต่างก็กำลังรอหลี่ซือห้าน
จนตอนที่เสี่ยวหมี่โต้วเอ่ยปากถามขึ้น “คุณลุง คุณหิวมากเหรอฮะ”
หลี่ซือห้านถึงได้รู้สึกตัวว่าตัวเองกินเพลินไปหน่อย เลยหยุดลงอย่างเก้ๆกังๆ จากนั้นก็หยิบทิชชูมาเช็ดปาก แล้วเผยรอยยิ้มสุภาพออกมาอีกครั้ง
“คุณลุงไม่ได้หิว ก็แค่ไม่อยากปล่อยให้อาหารสิ้นเปลือง”
อืม ไม่สิ้นเปลืองอาหารคือเรื่องที่ดี เสี่ยวหมี่โต้วเลยไม่มีอะไรจะพูดต่อ
ตอนที่เช็กบิล พนักงานนำใบเสร็จเข้ามา หลี่ซือห้านรีบออกเสียงทันที “ผมจ่ายเอง!”
เสี่ยวเหยียนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากู้เงินจากhuabei เธอเห็นไวน์ขวดนั้นแล้ว ฝากขวดไวน์ถูกเปิดออกแล้ว คงไม่มีทางคืนได้ ดังนั้นมื้อนี้คงไม่ใช่ถูกๆแน่ ยังดีที่วงเงินกู้ยืมของเธอยังเพียงพอ
ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่จำเป็นต้องให้หานชิงต้องมาจ่ายค่าอาหารมื้อนี้
แต่เธอยังไม่ทันได้ทำเสร็จ คิดไม่ถึงว่าหลี่ซือห้านที่อยู่ข้างๆจะยืนขึ้นก่อน ทำท่าทางเหมือนคนมีเงินล้นหลาม
เสี่ยวหมี่โต้วกะพริบตาปริบๆ แล้วส่งยิ้มให้หลี่ซือห้าน
“ขอบคุณคุณลุงมากนะครับที่เลี้ยงข้าวผม”
“ไม่ต้องเกรงใจ ไม่ต้องเกรงใจ เรื่องเล็กน้อย เท่าไหร่ครับ”
แต่พอพนักงานแจ้งยอดเงินแล้ว หลี่ซือห้านกลับแข็งทื่ออยู่กับที่ ไม่ตอบสนองอะไรไปพักใหญ่
“คุณ เมื่อกี้คุณบอกว่าเท่าไหร่นะ”
“คุณผู้ชายคะ ค่าอาหารมื้อนี้คือสามหมื่นแปดพันหกร้อยแปดสิบแปดหยวนค่ะ”
หลี่ซือห้าน “……ไหนบอกว่าขั้นต่ำคือห้าพันไม่ใช่เหรอ แล้วสามหมื่นหยวนมาจากไหนกัน”
“คุณผู้ชายคะ ไวน์ขวดนี้ราคาสามหมื่นกว่านะคะ”
หลี่ซือห้าน “เปิดไวน์ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมฉันถึงไม่รู้”
เขาหันไปมองทีหนึ่ง แล้วก็พบว่าบนโต๊ะมีไวน์ขวดหนึ่งอยู่จริงๆ แค่ดูก็รู้แล้วว่าราคาคงไม่ธรรมดา นี่ไวน์อะไรกัน ทำไมถึงได้แพงขนาดนี้
สามหมื่นกว่าหยวน เขาจะไปมีได้ที่ไหน
ตัวเขาเองก็มีเงินเก็บอยู่ไม่เท่าไหร่ เมื่อคิดถึงตรงนี้ สีหน้าของหลี่ซือห้านก็ย่ำแย่ขึ้นมาทันที
“ไวน์ขวดนั้นขอคืนได้ไหม พวกเรายังไม่ได้ดื่มเลยสักคำ”
“ขออภัยนะคะคุณผู้ชาย ถ้าฝาไวน์ถูกเปิดแล้ว จะไม่สามารถคืนได้ค่ะ”
“ทำไมถึงคืนไม่ได้ล่ะ พวกเรายังไม่ได้ดื่มเลยจริงๆนะ คุณ……เอากลับไปห่อให้เหมือนเดิมก็พอแล้ว”
“ไม่ได้จริงๆค่ะคุณผู้ชาย”
ขณะที่หลี่ซือห้านกำลังโต้เถียงกับพนักงานอยู่นั้น มือเรียวยาวก็ยื่นบัตรออกมา “รบกวนด้วย”
พนักงานรับบัตร แล้วรีบวิ่งออกไปทันที
“คุณ คุณทำไม……บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้ผมจ่ายเอง” หลี่ซือห้านเห็นว่าคนที่จ่ายเงินคือหานชิง ก็รู้สึกอยู่ไม่สุขขึ้นมาทันที เลยทำได้แค่พยายามรักษาหน้าตัวเอง “ไวน์ขวดนั้นพวกเราไม่มีใครแตะต้องมันเลยนะ คุณจ่ายเงินไปแบบนี้ได้ยังไง แบบนั้นมันสิ้นเปลืองมากเลยนะ ทำไมพวกเราต้องทำอะไรโง่ๆแบบนั้นด้วย”
หานชิงเปิดปากอธิบายเสียงเรียบ
“ไวน์แดงถ้าถูกเปิดฝาขวดแล้วจะคืนไม่ได้ ถึงคุณจะพูดกับเธออีกมากแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องจ่ายเงินอยู่ดี”
หลี่ซือห้าน “……”
“ใช่แล้วฮะคุณลุง ขอบคุณที่วันนี้มาเลี้ยงข้าวผมนะครับ เสี่ยวหมี่โต้วขอรับน้ำใจนั้นไว้แล้วกัน”
ประโยคนี้ ฟังแล้วเสียดแทงหูมาก หลี่ซือห้านมองแววตาของเด็กน้อย แล้วรู้สึกว่าคำพูดของเขาไม่ได้แฝงเจตนาดีแน่
ผ่านไปไม่นาน เสี่ยวเหยียนก็โอนเงินจำนวนสี่หมื่นหยวนไปในโทรศัพท์ของเสี่ยวหมี่โต้ว จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นพูดกับเสี่ยวหมี่โต้ว
“เสี่ยวหมี่โต้ว ค่าอาหารมื้อนี้ฉันโอนไปที่วีแชทของนายแล้ว นายอย่าลืมไปตรวจเช็กนะ แล้วช่วยฉันเอาไปคืนด้วย”
เมื่อได้ยินคำพูดของเสี่ยวเหยียน หลี่ซือห้านก็รู้สึกเหมือนถูกโต้กลับในพริบตา หันกลับไปมองเสี่ยวเหยียนแล้วยิ้มก่อนจะพูดว่า “ให้ฉันเลี้ยงเถอะ เดี๋ยวกลับไปแล้วฉันจะโอนเงินมาให้เธอ”
เสี่ยวเหยียนไม่มีกะจิตกะใจจะอยู่ที่นี่ต่อ เลยพยักหน้ารับไปเรื่อย ก่อนจะพูดว่า “ที่ร้านยังมีงานอีกเยอะ ฉันต้องขอตัวก่อน”
พอหลี่ซือห้านออกไปพร้อมกับเสี่ยวเหยียนแล้ว เสี่ยวหมี่โต้วก็มองไปทางหานชิงอย่างหดหู่
“คุณน้า ทำไมคุณน้าไม่รั้งน้าเสี่ยวเหยียนเอาไว้ล่ะฮะ”
การเคลื่อนไหวของหานชิงชะงักไปครู่หนึ่ง
รั้ง ?
เขาจะเอาอะไรไปรั้ง เธอไปดูตัวแล้ว ไปจับคู่กับผู้ชายคนอื่นแล้ว เขาจะไปรั้งอะไรอีก
ดื่มชาอึกสุดท้าย หานชิงวางแก้วชาลงบนโต๊ะ
“ต่อไป อย่าทำเรื่องไร้สาระแบบนี้อีก”
เสี่ยวหมี่โต้วไม่พอใจ “ไร้สาระตรงไหน เดิมทีคุณลุงคนนั้นก็ไม่ได้ไปดูตัวกับน้าเสี่ยวเหยียนด้วยความจริงใจอยู่แล้ว เห็นได้ชัดเลยว่าไม่บริสุทธิ์ใจ อีกอย่างคนที่น้าเสี่ยวเหยียนชอบก็คือคุณน้านะ แล้วทำไมต้องไปอยู่กับคนอื่นด้วย”
หานชิงไม่ตอบ
เสี่ยวหมี่โต้วพูดต่ออีกว่า “ที่จริงคุณน้าไม่น่าปฏิเสธเลย แบบนั้นคนไม่ดีคนนั้นก็จะไปจากน้าเสี่ยวเหยียนเอง”
“แล้วจากนั้นล่ะ ?” หานชิงมองไปทางเขาด้วยแววตาเลื่อนลอย “พอเขาจากไปแล้ว ไปพูดเรื่องพวกนั้นต่อ เพื่อทำลายชื่อเสียงของน้าเสี่ยวเหยียนของนายเหรอ ?”