เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1146
บทที่1146 อย่าเอาแต่ใจ
แต่สิ่งที่หานชิงมั่นใจก็คือ สาวน้อยไม่อยากจะฟังเขาอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นเลยแม้แต่น้อย
ในเมื่อเป็นแบบนั้น เขาก็จะไม่พูดถึงมันแล้วกัน
แต่ว่าเรื่องบางเรื่อง เธอก็ยังจำเป็นต้องรู้
เขาเดินไปข้างหน้า ล็อกข้อมือของเสี่ยวเหยียนเอาไว้ ดึงเธอไปที่รถของตัวเองโดยไม่รอให้เธอโต้ตอบ เสี่ยวเหยียนรู้สึกเพียงว่าแรงของเขาที่อยู่บนข้อมือนั้นหนักแน่นมาก รัดจนข้อมือเธอเริ่มรู้สึกเจ็บขึ้นมา
เธออยากจะขัดขืน แต่แรงของเขาหนักแน่นเหมือนโซ่เหล็ก หนักจนเธอไม่สามารถสลัดให้หลุดได้
เธอถูกลากไปถึงตัวรถอย่างรวดเร็ว พอเห็นเขาเปิดประตูรถออก เธอก็ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างไม่เต็มใจ แต่ไม่ยอมเข้าไปนั่นในรถ
“ถ้าฉันอยากจะพูดเกี่ยวกับเรื่องคู่ดูตัวของเธอ เธอก็ไม่อยากจะรู้เหรอ”
คู่ดูตัว ?
หลี่ซือห้าน ?
เสี่ยวเหยียนขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วมองไปที่เขา
“คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง”
“ถ้าอยากจะรู้ ก็ขึ้นรถ”
“……”
นี่กำลังขู่เธอหรือ
เสี่ยวเหยียนเบิกตาโต ครุ่นคิดก่อนจะเข้าไปในรถ ขึ้นรถก็ขึ้นรถ ใครจะไปกลัวกัน
ในที่สุดสาวน้อยก็เข้าไปนั่งในรถแล้ว หานชิงถอนหายใจทีหนึ่ง แล้วเข้าไปนั่งตรงที่นั่งคนขับ
หลังจากขึ้นรถแล้ว สาวน้อยก็นั่งนิ่งไม่ไหวติง หานชิงบอกให้เธอคาดเข็มขัดนิรภัยเธอก็ไม่สนใจ ไม่มีทางเลือก หานชิงเลยต้องช่วยเธอคาดเข็มขัดด้วยตัวเอง
แต่พอมือเอื้อมผ่านหน้าของเสี่ยวเหยียน เสี่ยวเหยียนก็รีบพูดขึ้นทันที “คู่ดูตัวของฉันทำไมเหรอ คุณรีบพูดมา พอพูดจบฉันจะลงรถ ไม่จำเป็นต้องคาดเข็มขัด”
เมื่อสิ้นเสียงของเธอ มือของหานชิงก็วางอยู่บนเข็มขัดนิรภัยแล้ว แววตาที่จ้องหน้าเธอเย็นชาเล็กน้อย แต่น้ำเสียงของหานชิงกลับเย็นชากว่าแววตาหลายระดับ
“ฉันรับปากคุณป้าแล้วว่าจะส่งเธอกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย”
“นั่นเป็นสิ่งที่คุณรับปาก ฉันไม่ได้รับปาก” เสี่ยวเหยียนเบือนหน้าหนี ไม่อยากมองเขา ดวงตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ “มีอะไรก็พูดมา ถ้าคุณยังไม่พูดอีก ฉันจะไป”
“……”
ท่าทางแบบนี้ของเธอ ทำให้หานชิงรู้สึกหมดหนทางจริงๆ ทำได้แค่พูดให้อ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย
“จะไม่คาดเข็มขัดนิรภัยจริงเหรอ แล้วไม่ให้ฉันไปส่งเธอที่บ้านด้วยเหรอ”
เสี่ยวเหยียนพูดอย่างดื้อดึงและหนักแน่น “ไม่ต้อง”
ภายในรถเงียบสงัด หานชิงไม่รู้จะทำอย่างไรกับเธอ สุดท้ายก็เลยยอมปล่อยมือ
ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็ยื่นเอกสารอันหนึ่งออกไป
เมื่อได้ยินเสียงของแผ่นกระดาษ เสี่ยวเหยียนก็หันหน้าไป เห็นว่าเขายื่นเอกสารมาให้ตัวเอง ก็เกิดความสงสัยขึ้นในใจ
“นี่คืออะไร”
แล้วเกี่ยวอะไรกับหลี่ซือห้านคู่ดูตัวของเธอด้วย
เธอไม่ได้ยื่นมือไปรับ แต่กลับถามหานชิงแทน
“นี่คือข้อมูลของคู่ดูตัวของเธอ”
เสี่ยวเหยียน “……คุณตรวจสอบเขา”
เขามองเธอทีหนึ่ง จากนั้นก็ถอนสายตากลับไปมองข้างหน้า แล้วพูดเรียบๆว่า “เธอรู้หรือเปล่าว่าคู่ดูตัวของเธอเป็นคนแบบไหน เคยทำอะไรมาบ้าง ก่อนจะไปดูตัวไม่ตรวจสอบให้ละเอียดก่อนเหรอ”
ประโยคพวกนี้ช่าง……
เสี่ยวเหยียนก็ไม่ได้รู้จักหลี่ซือห้านอย่างละเอียดจริงๆ แต่เป็นเพราะป้าจางเป็นคนแนะนำ แล้วตอนนั้นเธอก็กำลังอยู่ในอารมณ์โกรธ ดังนั้นเลยรับปากเรื่องดูตัวไป แต่ว่าดูตัวไม่ได้หมายความว่าจะแต่งงานเสียหน่อย ถ้าตอนที่ทำความรู้จักกันแล้วไม่เกิดความรู้สึกอะไรขึ้นมาก็แยกย้ายกันสิ
อีกอย่างเรื่องดูตัวแบบนี้ เดิมทีก็ต้องทำความรู้จักกันหลังจากนั้นอยู่แล้ว
เมื่อคิดถึงตรงนี้ แววตาที่เสี่ยวเหยียนมองหานชิงก็เย็นชากว่าเดิมมาก
“ต้องรู้แน่นอนสิ ถ้าไม่รู้ฉันจะไปดูตัวได้ยังไง คุณเอาข้อมูลที่ไปตรวจสอบพวกนี้มา มีอะไรจะชี้แนะเหรอ”
“……”
ตอนนี้สาวน้อยรู้สึกต่อต้านเขามาก อีกอย่างเพื่อทำให้เขาขุ่นเคือง ยังพูดว่าตัวเองรู้จักอีกฝ่ายดีอีกด้วย ถ้าหากเธอรู้ก่อนแล้วจริงๆ แล้วจะไปดูตัวกับผู้ชายคนนั้นได้อย่างไร
อย่าว่าแต่ตัวเธอเองเลย พ่อแม่ของเธอเองก็คงไม่ยินยอมด้วย
แต่ว่า เธอไม่มีทีท่าว่าจะดูข้อมูลพวกนี้เลย หานชิงเม้มปาก ก่อนจะพูดออกไปตรงๆ
“แล้วเรื่องที่เขาเคยติดคุกเพราะเรื่องโกงเงินจากผู้หญิง เธอรู้หรือเปล่าล่ะ”
ประโยคนี้มาอย่างกะทันหันเกินไป เสี่ยวเหยียนยังไม่ทันได้ตั้งตัว
“คุณว่าอะไรนะ”
เคยติดคุก ? เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เสี่ยวเหยียนคาดไม่ถึงเลย ถึงแม้เธอจะรู้สึกว่าหลี่ซือห้านมีบางอย่างไม่ปกติ แต่ว่าเคยก่อเรื่องและถูกดำเนินคดีมาก่อนแบบนี้เธอไม่เคยคาดคิดเลยแม้แต่น้อย
หรือก็คือ เธอไม่เคยคิดถึงในแง่นี้มาก่อนเลย
ตอนนี้จู่ๆหานชิงก็เอาเรื่องนี้มาบอกเธอต่อหน้า ไม่เพียงแต่ทำให้เธอรู้สึกตกตะลึงเท่านั้น ยังทำให้เธอรู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวอีกด้วย
เพราะว่าเธอยังไม่รู้จักคู่ดูตัวของตัวเองดีด้วยซ้ำ แล้วตอนนี้เขายังเป็นฝ่ายเอาข้อมูลมาบอกเธออีก
ดูสิ คู่ดูตัวของเธอเป็นคนที่ย่ำแย่ขนาดไหน แล้วเธอยังจะทำเหมือนเขาเป็นของมีค่า ใช้เขามายั่วโมโหฉัน เธอไม่รู้อะไรเลย ยังจะพัวพันอยู่กับคู่ดูตัวแบบนี้อีก น่าขันขนาดไหน
มือที่วางไว้บนตักของเสี่ยวเหยียนกำหมัดแน่น ตอนนี้จิตใจของเธอผูกเป็นปม เป็นปมที่ตัวเองไม่สามารถแก้ได้ ตอนนี้ไม่ว่าหานชิงจะทำอะไร เธอก็รู้สึกว่าตัวเองช่างน่าขันเสียจริง
“เรื่องนี้ เป็นเพราะเสี่ยวหมี่โต้วพบความไม่ปกติ เพื่อความปลอดภัย ฉันก็เลยรู้สึกว่าจำเป็นต้องตรวจสอบดูสักก่อน”
เสียงแผ่วเบาของชายหนุ่มดังขึ้นในรถ สำหรับเสี่ยวเหยียนแล้ว อีกฝ่ายดูเหมือนจะมีรัศมีแห่งธรรมก็มิปาน
เธอกำหมัดแน่นแล้วคลาย ซ้ำๆ สุดท้ายก็เงยหน้าขึ้นมองไปทางเขา
“แล้วยังไงล่ะ”
หานชิงเม้มปากมองเธอไม่พูดไม่จา รอให้เธอพูดประโยคต่อไป
“ถึงแม้เขาจะเคยติดคุก แล้วทำไมเหรอ”
ประโยคนี้ทำให้หานชิงขมวดคิ้ว “เธอรู้ไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่”
“ฉันต้องรู้อยู่แล้วสิ” เสี่ยวเหยียนเผยรอยยิ้มออกมา แล้วชะโงกตัวเข้าไปใกล้หานชิง ตาจ้องตากับเขา จมูกจรดจมูก ลมหายใจของทั้งสองใกล้กันมาก สายตาของเสี่ยวเหยียนเต็มไปด้วยแววเยาะเย้ย “คุณคงอยากจะบอกฉันว่า ขนาดเสี่ยวหมี่โต้วยังตระหนักถึงปัญหานี้ ทำไมฉันถึงไม่ตระหนักถึงมัน ฉันมันโง่ เป็นคนที่ซื่อบื้อจนไม่รู้จะซื่อบื้อยังไงแล้ว ใช่ไหม”
มองดูเสี่ยวเหยียนที่อยู่ใกล้แค่คืบ หานชิงบอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร
เมื่อครู่ตอนที่จู่ๆเธอก็ชะโงกเข้ามาใกล้ เขาก็สัมผัสได้ว่าหัวใจของตัวเองกระตุกวูบไปทีหนึ่ง แต่ตามด้วยแววตาเยาะเย้ยของเธอ ความหวั่นไหวที่อยู่ภายในใจก็หายไปจนหมดสิ้น
คนที่เคยเงียบงันมาตลอดอย่างเขา กลับถูกสาวน้อยคนหนึ่งกระตุ้นจนจิตใจระส่ำระสาย
“เธอก็รู้ว่าฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น”
“คุณจะหมายความว่ายังไงฉันไม่อยากรู้ ฉันเคยบอกคุณแล้วไง ว่าต่อไปฉันจะไม่ตอแยคุณอีก แล้วก็เคยบอกแล้วว่าต่อไปคุณอย่ามาหาฉันอีก ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ”
เสี่ยวเหยียนพูดคำที่เสียดแทงจิตใจของหานชิงออกมาไม่หยุด
“แล้วก็ ถึงแม้ว่าคู่ดูตัวของฉันจะเคยติดคุก นั่นก็เป็นเรื่องของฉัน ในเมื่อฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณอีก นั่นก็หมายความว่าเรื่องของฉันก็ไม่เกี่ยวข้องกับคุณ ไม่จำเป็นต้องให้คุณมายุ่งด้วย ถึงแม้ว่าต่อจากนี้ฉันต้องเจอกับฆาตกร คุณก็ไม่เกี่ยวข้องเลยสักนิด”
ยิ่งพูด รอยยิ้มมุมปากของเสี่ยวเหยียนก็ยิ่งเย็นยะเยือกขึ้น
เขาช่างน่าขันจริงๆ ทั้งๆที่ไม่ชอบเธอ ทั้งๆที่ขยะแขยงเธอ แต่กลับทำเรื่องพวกนี้อีก เพื่ออะไรกัน
เพราะเวทนาเธอหรือ เขาเห็นตัวเองเป็นขอทานของเขาจริงๆหรือ ให้ดิ้นอยู่ฝ่ามือของเขาแบบนี้ แล้วให้เธอหดตัวเข้าไปอยู่ในซอกมุมตอนที่ถูกเขาผลักไสหรือ
ตอนนี้เธอถึงได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนขี้เหนียวขนาดไหน และจิตใจคับแคบขนาดไหน
เธอไม่สามารถอดทนต่อเรื่องพวกนี้ได้จริงๆ ไม่เลยสักนิด
“อย่าเอาแต่ใจ” หานชิงฟังคำพูดของเธอแล้วขมวดคิ้วขึ้น