เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1150
บทที่1150 รายงานความปลอดภัย
อาบ อาบน้ำ ?
หลังจากเสร็จสิ้นการจูบแล้ว พอได้ยินคำพูดนี้ เสี่ยวเหยียนก็รู้สึกว่ายากที่ตัวเองจะไม่คิดลึก สมองที่ขาวโพลนมีสีสันไหลเข้ามา
เห็นสาวน้อยมองดูตัวเองอย่างตกตะลึง ดวงตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ หานชิงก็รู้ว่าเธอคงจะคิดลึกไปแล้ว เลยพูดอธิบายเสียงเบาว่า
“อาบน้ำ เพื่อสงบสติอารมณ์”
“อ๋อ อ๋อ……” เสี่ยวเหยียนพยักหน้าอย่างเลิ่กลั่ก จากนั้นก็เดินไปทางห้องอาบน้ำด้วยตัวเอง
ห้องน้ำอยู่ตรงหน้าในที่ๆสามารถมองเห็นได้ ดังนั้นเสี่ยวเหยียนก็เลยเดินเข้าไปด้วยตัวเอง แล้วปิดประตูลง
เมื่อกั้นทุกอย่างไว้ด้านนอกประตูแล้ว เสี่ยวเหยียนถึงได้จ้องเข้าไปในกระจก
ภายในกระจกนั้นตัวเองกำลังหน้าแดงระเรื่อ เพราะจูบเมื่อครู่ ตอนนี้ริมฝีปากเองก็แดงระเรื่อด้วย เธอมองดูกระจกเงียบๆอยู่ครู่ใหญ่ จากนั้นก็ค่อยๆยื่นมือ ใช้นิ้วแตะสัมผัสริมฝีปากของตัวเอง
เธอคิดไปเอาหรือเปล่านะ
เมื่อครู่ หานชิงจูบเธอหรือ อีกอย่าง ยังไม่ใช่จูบแค่ผิวเผินด้วย ทั้งหมดมัน……
เทียบกับที่เธอแอบลักหลับเขาก่อนหน้านี้แล้ว จูบระดับนี้ เทียบเท่ากับการลักหลับของเธอสิบครั้งเลย
ไม่จริงใช่ไหม ถ้าไม่ใช่เธอคิดไปเอง เธอก็คงกำลังฝันอยู่
จู่ๆเสี่ยวเหยียนก็ยื่นมือไปหยิกแก้มตัวเอง ปรากฏว่าเธอเจ็บจนหน้ายับยู่ยี่ เจ็บจนต้องอุทานออกมา แต่ก็คิดบางอย่างขึ้นมาได้ เธอยกมือขึ้นปิดปากของตัวเอง และเบิกตาโตด้วยความตื่นตกใจ
ในระยะที่ใกล้ขนาดนี้ เธอกรีดร้องแบบนั้น หานชิงจะต้องได้ยินแน่ๆ
เสี่ยวเหยียนกล้ำกลืนความเจ็บลงท้องไป จากนั้นก็เปิดฝักบัว แล้วยืนอยู่ด้านล่างปล่อยให้น้ำไหลผ่านร่าง
ความคิดสกปรกก่อนหน้านี้เลือนหายไปหมดแล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่าหานชิงจูบได้ถึงจุดมาก ตอนนี้ทั้งใจทั้งดวงตาของเธอต่างก็เต็มไปด้วยจูบนั้นหมดแล้ว
เสี่ยวเหยียนยื่นมือไปปิดหน้า
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว จนด้านนอกมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
เสี่ยวเหยียนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที รีบปิดฝักบัว แล้วยืนอยู่ตรงนั้นไม่กล้าส่งเสียง
“ฉันแขวนเสื้อผ้าไว้หน้าประตูนะ ฉันออกไปก่อน เธออย่าลืมหยิบนะ”
จากนั้นก็มีเสียงถุงพลาสติก จากนั้นเสียงฝีเท้าของหานชิงก็ค่อยๆห่างออกไป เสี่ยวเหยียนได้ยินเสียงประตูห้องถูกปิดลง
เธอลังเลอยู่หนึ่ง เดินเท้าเปล่าและเปิดประตูอย่างเงียบๆ แล้วยื่นมือออกไปหยิบถุง
ภายในถุงเป็นเสื้อเชิ้ตสีดำตัวหนา เพียงแค่มองเสี่ยวเหยียนก็หน้าแดงแล้ว
ที่นี่ไม่มีผู้ชายคนอื่น เสื้อเชิ้ตตัวนี้ก็คงเป็นของเขาสินะ เขาเอาเสื้อเชิ้ตของเขาให้เธอใส่หรือ เสี่ยวเหยียนเม้มริมฝีปากล่างของตัวเองเบาๆ รู้สึกตกอกตกใจเล็กน้อย
ทำอย่างไรดี เธอจะใส่ดีไหม
แต่ถ้าให้ใส่เสื้อเชิ้ตของเขา มันจะอันนั้นเกินไปหรือเปล่า
แต่ความจริงไม่ปล่อยให้เสี่ยวเหยียนได้ลังเลนานนัก เพราะตอนนี้เสื้อผ้าของเธอสกปรกไปด้วยคราบดินเสียแล้ว อีกอย่างพอเข้ามาแล้วก็เปียกน้ำอีก
หรือว่า เธอจะไม่ควรเข้ามาอาบน้ำกันนะ
ตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า
เอาแต่ยืดเยื้ออยู่นาน เสี่ยวเหยียนถึงได้เช็ดตัวให้แห้งแล้วสวมเสื้อเชิ้ตสีดำตัวนั้น
หานชิงตัวสูง เสี่ยวเหยียนรูปร่างเล็ก ความยาวของเสื้อเชิ้ตยาวลงมาปิดเข่าขาวนวลของเธอได้อย่างมิดชิด อีกอย่างสีเข้มมาก จนมองไม่เห็นอะไรเลย
ยืนอยู่ตรงหน้ากระจกครู่หนึ่ง เสี่ยวเหยียนถึงได้วางใจ
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆทีหนึ่ง จากนั้นก็เปิดประตูห้องน้ำแล้วเดินออกไป
ภายในห้องเงียบสนิท มีเพียงเสียงลมหายใจของตัวเธอเอง เธอเดินเท้าเปล่าเข้าไปในห้อง หลงเหลือเป็นรอยเท้าสีขาวเปียกปอน
“อาบเสร็จแล้วเหรอ”
น้ำเสียงกระจ่างใสของชายหนุ่มดังขึ้นมาจากหน้าประตู ทำเอาเสี่ยวเหยียนสะดุ้งตกใจ จากนั้นก็ยกมือขึ้นกอดไว้ตรงอก
ท่าทางแบบนั้นทำเอาหานชิงรู้สึกเลิ่กลั่กเล็กน้อย เขาเม้มริมฝีปากบาง แล้วเบนสายตาออกไปทางอื่น “บนโซฟามีเสื้อคลุมตัวหนึ่ง ไปเอามาสวมซะ”
ตอนนี้เสี่ยวเหยียนกลายเป็นหุ่นไม้ ส่วนเส้นด้ายก็คือหานชิง ไม่ว่าเขาจะพูดอะไร เธอก็จะทำอย่างนั้น
พอได้ยินคำพูดของหานชิงแล้ว เสี่ยวเหยียนก็เดินไปหยิบเสื้อคลุมที่โซฟามาสวม
เสื้อคลุมเป็นเสื้อสำหรับฤดูใบไม้ผลิ เป็นรุ่นบางพิเศษ สวมแล้วลดความอึดอัดใจของเสี่ยวเหยียนลงอย่างมาก พอเห็นเธอสวมเสื้อคลุมเสร็จแล้ว หานชิงก็ถือรองเท้าแตะคู่หนึ่งเข้ามาแล้วโค้งตัวลงไปวางข้างเท้าเธอ ก่อนจะพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “ไม่มีรองเท้าคู่อื่นแล้ว ใส่ของฉันไปก่อน”
พอได้ยินแบบนั้น เสี่ยวเหยียนก็ก้มหน้าลง เบื้องหน้าของเธอคือรองเท้าแตะของผู้ชายสีเทาอ่อน ไซส์ของผู้ชายนั้นใหญ่กว่าผู้หญิงมาก พอเท้าเสี่ยวเหยียนสวมเข้าไปแล้วก็เหลือพื้นที่อยู่เยอะมาก
“ถ้าฉันใส่ของคุณ แล้วคุณล่ะ”
เสี่ยวเหยียนมองเขาทีหนึ่ง เขาไม่ได้สวมรองเท้า
น่าแปลก หรือว่าหลังนี้จะมีรองเท้าแค่คู่เดียวกัน
หานชิงคงจะดูความคิดของเธอออก ก็เลยตอบข้อกังวลของเธอด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
“ไม่ค่อยได้มาที่นี่ เลยมีอยู่แค่คู่เดียว”
พอพูดจบ หานชิงก็ยื่นมือไปจับแขนผอมเพรียวของเธอ “มาทายา”
เธอถูกหานชิงลากไปนั่งที่โซฟา จากนั้นก็มองดูเขาเปิดกล่องยาออก หยิบยาทำแผลออกมาจากในนั้น ช่วยเธอเช็ดแผลก่อน
เขาเช็ดอย่างตั้งอกตั้งใจ แถมยังอยู่ใกล้มาก ลมหายใจของทั้งสองคนแทบจะหลอมรวมกัน เสี่ยวเหยียนทำได้เพียงพยายามควบคุมตัวเอง หลีกเลี่ยงไม่ให้ลมหายใจของตัวเองไปโดนใบหน้าของอีกฝ่าย
พอเช็ดบนหน้าเสร็จแล้ว หานชิงก็มองเธอแล้วถามว่า
“บนตัวยังมีตรงไหนได้รับบาดเจ็บอีก”
เสี่ยวเหยียนแข็งทื่ออยู่กับที่ บนตัว ? หรือเขาคิดจะช่วยเธอทาบนตัวด้วย ที่จริง……ดูเหมือนว่าบนตัวเธอจะแทบไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร เพราะหานชิงมาได้ถือว่าทันเวลา ดังนั้นเธอก็เลยแค่ถูกตบกับถูกฉีกเสื้อผ้าเท่านั้น นอกจากนี้ ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บที่อื่นอีกเลย
แต่ว่าตอนที่อาบน้ำเมื่อครู่นี้ รู้สึกว่าตรงแผ่นหลังร้อนผ่าวเล็กน้อย ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะถูกับกำแพงหรือไม่
แต่ว่า ในเมื่ออยู่ที่แผ่นหลัง เธอก็คงบอกกับหานชิงไม่ได้
เพราะคงถอดเสื้อแล้วให้เขาทาบนแผ่นหลังให้เธอไม่ได้อยู่ดี
หานชิงมองดูหญิงสาวหน้าแดงอยู่ครู่ใหญ่ แล้วก็คิดอะไรขึ้นมาได้ เลยถามเสียงทุ้มต่ำว่า “ไม่สะดวกเหรอ”
เสี่ยวเหยียนพยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็รีบส่ายหัว “เปล่า ไม่ใช่ไม่สะดวก ฉัน……ฉันไม่ได้บาดเจ็บ”
พอได้ยินแบบนั้น หานชิงก็ขมวดคิ้ว ตอนที่เขาไปเห็นสาวน้อยถูกกดเข้ากับกำแพง ผิวหนังของสาวน้อยบอบบาง จะไม่บาดเจ็บได้อย่างไร
เพียงแต่ ชายหญิงนั้นแตกต่าง ก็คงไม่สะดวกจริงๆ
หานชิงยื่นขวดยาให้เธอ “ทางเองถึงไหม ยานี้ช่วยในการสมานแผลได้ดี และช่วยบรรเทาอาการปวดได้ ถ้าหากทาถึงก็พยายามทานะ ถ้าไม่ได้จริงๆเดี๋ยวฉันช่วยเธอ”
“……ไม่ต้องหรอก ฉันทำเองก็พอ”
คงให้เขาช่วยไม่ได้หรอก เสี่ยวเหยียนทำได้แค่รีบรับเอาขวดยามา จากนั้นก็ลุกขึ้นเดินไปทางห้องน้ำด้วยตัวเอง
ตอนที่ทายาเสี่ยวเหยียนถึงได้พบว่า แผลอยู่ข้างหลัง จะให้ทายานั้นเป็นเรื่องยากลำบากมากจริงๆ สามารถเอื้อมถึง แต่ไม่สามารถทาให้เสมอกันได้ อีกอย่างควบคุมแรงมือได้ยาก พอไม่ระวังก็จะขูดเข้ากับปากแผล
แต่เธอก็ยังยืนหยัดทายาจนจบ
เพียงแต่พอทาเสร็จแล้ว เสี่ยวเหยียนก็รู้สึกว่าแผลของตัวเองเป็นหนักกว่าเดิม
เธอสวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วออกไป จากนั้นก็ยื่นขวดยาให้หานชิง
“ทาเสร็จแล้วเหรอ”
เสี่ยวเหยียนพยักหน้าอย่างเก้ๆกังๆ
“อืม……”
เมื่อจัดการกับแผลเสร็จแล้ว ทั้งสองคนก็ไร้คำพูด พอเงียบลงเสี่ยวเหยียนก็รู้สึกว่าบรรยากาศเริ่มอึดอัดขึ้นอีกครั้ง แต่หานชิงกลับยื่นโทรศัพท์มือถือของเธอมาให้
“เวลาไม่เช้าแล้ว โทรไปหาคุณป้า เพื่อรายงานความปลอดภัยก่อนสิ”
เสี่ยวเหยียนเหมือนได้ตื่นจากฝัน ก่อนพยักหน้ารับ “อืม”