เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1188
บทที่1188 ตั้งชื่อ
ตามความหมายของส้งอานคือ ไม่แนะนำให้หานมู่จื่อให้นมแม่กับเสี่ยวโต้วหยา เพราะถ้าให้นมแม่เองเธอก็ต้องตื่นบ่อยๆในเวลากลางคืน รวมทั้งตอนกินข้าวอยู่ก็อาจจะต้องให้นมลูก มันวุ่นวาย และลำบากตัวเธอเอง
ส้งอานก็เลยแนะนำให้หานมู่จื่อให้นมผงแทน ถ้าเป็นเช่นนี้เธอก็จะมีเวลาพักผ่อน ให้เย่โม่เซินไปเป็นมนุษย์พ่อเลี้ยงลูกอ่อน
หานมู่จื่อรู้ว่าส้งอานหวังดีกับเธอ ทว่าก่อนหน้านี้กับเสี่ยวหมี่โต้วเธอก็เลี้ยงด้วยนมแม่ ตอนนี้ลูกคนที่สองเธอก็จะเลี้ยงด้วยนมแม่เช่นกัน เธอก็เลยไม่ได้ทำตามคำแนะนำ
“ไม่เป็นไรค่ะ ถึงกินลูกก็กินได้ไม่นาน ให้ลูกกินนมแม่นี่แหละค่ะ”
ส้งอานกะพริบตา “เธอคิดไว้แล้ว?”
“ค่ะ”
“โอเค”ส้งอานหันไปมองเย่โม่เซินที่อยู่ข้างๆ “ถึงแม้จะให้นมแม่ แต่นายที่เป็นพ่อของลูกก็ต้องช่วยๆกันนะ ดูแลภรรยาที่เพิ่งคลอดดีๆ เข้าใจไหม? ผู้หญิงหลังคลอดเป็นโรคซึมเศร้าได้ง่าย เมื่อเด็กร้องไห้หรือต้องการอะไรในยามดึกก็ต้องลุกขึ้นมาช่วยนะ!”
ที่จริง ถึงส้งอานไม่พูดเย่โม่เซินก็ทำได้อยู่แล้ว
เพราะเมื่อคืนเธอเหนื่อยมาก จากนั้นตอนที่เธอรู้สึกสะลึมสะลือก็เหมือนได้ยินเสียงลูกร้องไห้ เธอจึงตื่นขึ้นมา ก็พบกับเย่โม่เซินที่หันมาบอกเธอให้เงียบ จากนั้นเขาก็อุ้มลูกแล้วเดินออกไป
ท้ายที่สุดไม่รู้ว่าเป็นเพราะเขาอุ้มลูกผิดท่าหรืออะไร เพราะเสี่ยวโต้วหยายิ่งร้องดังขึ้น ร้องจนทำให้ชายหนุ่มผู้เป็นพ่อทำอะไรไม่ถูก และไม่รู้ว่าควรปลอบอย่างไร
ที่หานมู่จื่อได้ยินก็คือเสียงปลอบที่เงอะงะ “อย่าร้องนะ ไม่ร้องนะครับ…….”
เธอจึงเอาผ้าห่มออกแล้วลุกขึ้นมานั่ง แล้วยื่นมือไปทางเย่โม่เซิน “คงจะหิวแหละ ส่งลูกมาให้ฉันสิ”
เย่โม่เซินเลิกคิ้วขึ้น เพราะหานมู่จื่อเพิ่งพักผ่อนได้ไม่นาน เขากังวลว่าเด็กตรงหน้าจะรบกวนภรรยาของตน
“เธอเป็นลูกสาวของนายนะ อย่าไปคิดมาก รีบส่งลูกมาเร็ว”
เย่โม่เซินทำได้เพียงส่งลูกให้หานมู่จื่ออย่างระมัดระวังโดยไม่มีทางเลือก หานมู่จื่อก็รับลูกมาแล้วให้นมลูก และมองไปยังเขาอย่างเคืองๆ
“นายคิดยังไง?”
เย่โม่เซินเม้มริมฝีปาก แล้วเหลือบมองหานมู่จื่อครู่หนึ่ง แต่ไม่ได้ตอบอะไรไป
ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เขาฝึกและเตรียมความพร้อมไว้แล้วแท้ๆ ไปเรียนคอร์สเลี้ยงลูกต่างๆกับหานมู่จื่อ แม้ในตอนที่เรียนจะถูกดุและวิจารณ์อยู่บ่อยครั้ง ทว่าสุดท้ายก็ผ่านไปได้ด้วยดี
ทว่าเมื่อเผชิญหน้ากับเหตุการณ์จริง ถึงรู้ว่ามันไม่ง่ายเลย
เพราะเด็กจำลองที่ใช้ในการเรียนนั้นขยับไม่ได้ แต่ตอนที่เขาอุ้มเสี่ยวโต้วหยาในเมื่อสักครู่นั้น เขารู้สึกแข็งทื่อไปทั้งตัวเลย
เพราะเสี่ยวโต้วหยานั้นนุ่มนิ่มและเล็กกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก ตัวเล็กจนมือใหญ่ของเขาไม่สามารถรองรับได้ และตัวนุ่มนิ่มจนรู้สึกว่าถ้าเขาออกแรงนิดหนึ่งก็จะทำให้ลูกสาวช้ำได้
เพราะฉะนั้นเย่โม่เซินก็เลยต้องระมัดระวัง มือไม้ทำอะไรไม่ถูก
ที่แท้เสี่ยวโต้วหยาก็หิวแล้วจริงๆ หลังจากที่ได้กินนมแม่ก็หยุดร้องไห้ ในห้องนั้นตกอยู่ในความเงียบ มีเพียงเสียงทารกที่กำลังดูดนม เวลาค่อยๆล่วงเลย เสี่ยวโต้วหยากินอิ่มก็ค่อยๆหลับไป
หานมู่จื่อวางลูกลงข้างๆตัวเอง เย่โม่เซินที่อยากจะเข้าไปหาก็รับรู้ถึงสัญญาณเตือนจากสายตาของเธอ เขาจึงทำได้เพียงหยุดการกระทำไป
เขาถูกรังเกียจแล้ว
เพราะไม่ดูแลลูกดีๆ หานมู่จื่อกำลังกล่อมเสี่ยวโต้วหยานอน ส่วนเย่โม่เซินนั้นทำได้เพียงเฝ้ารออยู่ข้างๆ
จนกระทั่งเช้ามืด หานมู่จื่อจึงพูดขึ้นว่า “นายไปนอนที่เตียงข้างๆนี้ก่อนเถอะ เดี๋ยวถ้าเสี่ยวโต้วหยาตื่นแล้วจะเรียก”
ทว่าเย่โม่เซินไม่ไปนอน ยังคงเฝ้าเธออยู่เหมือนเดิม
ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้ เขานั้นยังไม่ได้หลับเลย จึงทำให้เขานั้นใต้ตาดำ ตอนที่พูดก็เสียงแหบเล็กน้อย
หานมู่จื่อเป็นห่วงเล็กน้อย จึงให้ส้งอานมาอยู่เป็นเพื่อน และไล่ให้เย่โม่เซินกลับไปพักผ่อน ตอนแรกเย่โม่เซินยังคงไม่ยอม สุดท้ายก็โดนส้งอานดุสองสามประโยค
“นายคิดว่าร่างกายนายสร้างมาจากเหล็กเหรอ? จนถึงตอนนี้แล้วยังไม่กลับไปพักผ่อนอีก ถ้าเหนื่อยจนเป็นลมเป็นแล้งขึ้นมาใครจะมาดูแลหานมู่จื่อกับเสี่ยวโต้วหยา? อีกอย่าง นายอยู่ที่นี่มาโดยตลอด คิดว่ามู่จื่อจะไม่เป็นห่วงนายหรือไง? เมื่อเป็นห่วงนายแล้ว คิดว่าเธอจะพักผ่อนได้เต็มอิ่มอย่างสบายใจเหรอ?”เมื่อถูกส้งอานพูดแบบนี้ใส่ เย่โม่เซินก็รู้สึกว่าเธอพูดมีเหตุมีผล เขาถึงตัดสินใจกลับไปพักผ่อน
หลังจากที่หานมู่จื่อคลอดได้ห้าวัน
เห็นได้ชัดว่าเสี่ยวโต้วหยาคุ้นเคยกับทุกคนแล้ว ตอนที่คุณท่านยู่ฉือหยอกเล่นกับเธอ เธอก็จะหัวเราะออกมา ไม่ว่าใครจะมาหยอกเล่นด้วย เธอก็จะหัวเราะออกมา
เพราะเช่นนั้นทุกคนก็เลยชอบหยอกเสี่ยวโต้วหยาเล่น
วันนี้ไปเล่นกับเสี่ยวโต้วหยาที่โรงพยาบาลหรือยัง?get!
วันนี้เสี่ยวโต้วหยายิ้มหรือยัง?และยังget!
เสี่ยวเหยียนถ่ายรูปเสี่ยวโต้วหยามากมาย แล้วโพสต์ลงบนโซเชียล มีคนมากมายมากดถูกใจ และถามเธอว่า เมื่อไหร่เธอถึงจะ…….
เสี่ยวเหยียนรู้สึกละอายใจมาก เธอคิดผิดมากที่ลงรูปไปและอยากจะตัดมือตัวเองทิ้งเสียจริง ทำไมต้องโพสต์ให้ทุกคนเห็น เธอน่าจะโพสต์แล้วตั้งค่าเป็นการส่วนตัว
ในวันนี้ คุณท่านยู่ฉือกับเสี่ยวหมี่โต้วกำลังเล่นกับเสี่ยวโต้วหยา หานมู่จื่อก็นั่งมองอยู่ข้างๆ ฟังเสียงหัวเราะคิกคักของเสี่ยวโต้วหยา ก็รู้สึกสบายใจ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะกังวลเล็กน้อย
ทำไมเธอ……ถึงรู้สึกว่ารอยยิ้มของเสี่ยวโต้วหยานั้นดูซื่อแปลกๆ? เสี่ยวโต้วหยาคงจะไม่……..มีความคิดหนึ่งอยู่ในใจ ทว่าหานมู่จื่อไม่กล้าคิดและไม่กล้าพูด
เพราะเสี่ยวหมี่โต้วนั้นฉลาดมาก ตอนที่คลอดออกมาจึงไม่ค่อยเหมือนเสี่ยวโต้วหยาที่ใครมาเล่นด้วยก็หัวเราะคิกคักตลอด
รอยยิ้มของเสี่ยวโต้วหยาดูซื่อจริงๆ หวังว่าเธอจะเป็นเด็กปกติธรรมดาทั่วไป
และเสี่ยวหมี่โต้วก็คิดเหมือนเธอ ไม่เพียงแต่คิดเหมือนเธอ แถมยังพูดออกมาอีกด้วย ดวงตาน้อยๆของเขามองไปยังหานมู่จื่อ “หม่ามี๊ครับ ผมรู้สึกว่าน้องสาวดูเหมือนโง่ๆนิดหนึ่งนะครับ”
พูดจบ ยังเอียงศีรษะเล็กน้อย หน้าตาน่ารัก ราวกับกำลังบอกว่าผมบริสุทธิ์ผมไม่ผิด
หานมู่จื่อแทบจะกระอักเลือดออกมา
คุณท่านยู่ฉือที่อยู่ข้างๆทนฟังต่อไม่ไหว ยื่นมือออกไปเขกหัวเสี่ยวหมี่โต้วอย่างอดไม่ได้ “ไอ้เด็กนี่ พูดจาอะไรไร้สาระ? นี่เป็นน้องสาวของหนูนะ ดูเหมือนโง่อะไรกัน?”
เสี่ยวหมี่โต้วกุมตรงที่โดนเขกไว้ แล้วพูดออกมาอย่างน่าสงสารว่า “ผมก็แค่พูดเองนะครับ คุณทวดทำไมต้องดุด้วย มีเสี่ยวโต้วหยา ก็ไม่เอาเสี่ยวหมี่โต้วแล้วใช่ไหมครับ?”
“น้องเป็นผู้หญิงนะ หนูที่เป็นพี่ชายต้องรักน้องให้มากๆ ต่อไปอย่าพูดอะไรแบบนี้อีกนะ!”
แม้เสี่ยวหมี่โต้วไม่ได้พูดอะไรออกมา ทว่าเมื่อเห็นรอยยิ้มโง่ๆของเสี่ยวโต้วหยานั้น ในใจก็ยังคงเป็นกังวลเล็กน้อย
ถ้าน้องสาวของเขาไม่ได้ผิดปกติ งั้นก็คงไร้เดียงสาเกินไป
เอ๋ หรือว่าความฉลาดนั้นเขาได้มาหมดแล้ว? เสี่ยวโต้วหยาจึงไม่ได้อะไรเลย?
คุณท่านยู่ฉือกลับไปคิดอยู่เป็นเวลานาน จึงจะตัดสินใจตั้งชื่อได้
“เรื่องชื่อ เมื่อคืนฉันคิดได้แล้ว เสี่ยวโต้วหยาชื่อเสี่ยวโต้วหยาใช่ไหม? ฉันคิดไปคิดมา เลยหาคำที่มันพ้องเสียง งั้นตั้งชื่อเป็นหานหยาแล้วกัน”
หานหยา? ทำไมฟังแล้วรู้สึกเหมือนชื่อของผู้ชาย?
หานมู่จื่อลังเลเล็กน้อย แล้วมองไปยังเย่โม่เซินที่อยู่ข้างๆ
เย่โม่เซินเม้มปาก แล้วครุ่นคิดเรื่องนี้ จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “ชื่อซ้ำสองพยางค์เป็นยังไงครับ? พยางค์เดียวรู้สึกว่าแมนไป ไม่เหมาะกับผู้หญิง ถ้าเป็นหานหยาหยาฟังดูดีขึ้นมากเลยนะครับ