เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ / เจ้าสาวมือสองของคุณชายพิก… - ตอนที่ 1224
บทที่ 1224 ฉวยโอกาสจุ๊บ
เสี่ยวเหยียน: “……”
ผลักลงทะเลงั้นเหรอ?เธอไม่กล้าขนาดนั้นหรอก
ถ้าเกิดว่าหลินชิ่นเอ๋อว่ายน้ำไม่เป็น เธอคงต้องลงไปช่วยอีก ที่สำคัญที่สุดก็คือ……ตัวเธอเองว่ายน้ำไม่เป็น
ถ้าเกิดว่าไม่ไปช่วยหลินชิ่นเอ๋อ แล้วหลินชิ่นเอ๋อเกิดตายขึ้นมา เธอคงจะโดนมองว่าเป็นฆาตกรไปแล้ว
ชื่อแบบนี้เสี่ยวเหยียนรับไม่ไหวหรอก อีกอย่างเธออยากจะช่วยเหลือ ไม่ได้อยากจะทำร้ายตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ถึงแม้ว่าหลินชิ่นเอ๋อจะมีความคิดอื่นๆ อีก เสี่ยวเหยียนก็ไม่มีความจำเป็นต้องแก้แค้นแบบนั้น อย่างมากก็หลังจากที่แก้ไขปัญหาเสร็จแล้ว ก็ไม่ต้องติดต่อกับเธออีกก็พอ
“แค่ดูก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้อายุเยอะแล้ว อีกอย่างแววตาของเธอไม่ค่อยจะปกติสักเท่าไหร่ ฉันดูตอนที่เธอจะออกไปนั้นเหมือนจะกินคุณทั้งตัวได้เลยล่ะ คุณกับสามีของคุณต้องระวังนะ”
“ใช่ ดูสามีคุณให้ดีๆ ดอกไม้เน่ามันจะเหม็นแค่ไหน แต่มันก็ยังหอมสำหรับผู้ชายอยู่ดี ดังนั้นคุณต้องระวังให้ดีๆ นะ”
เสี่ยวเหยียนถูกทุกคนพูดอยู่รอบๆ จนรู้สึกทำตัวไม่ถูก เลยทำได้แค่ยิ้มออกมา: “ขอบคุณพวกคุณทุกคน ฉันรู้แล้ว”
จากนั้นทุกๆ คนก็ค่อยๆ ทยอยแยกตัวออกมา เสี่ยวเหยียนกลับเดินกลับไปอยู่ข้างๆ หานชิงด้วยความประหม่า
เพราะ……เมื่อครู่เธอเพิ่งโกหกไป
เธอกับหานชิงไม่ได้แต่งงานกันจริงๆ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องแต่งงานเลย ทั้งสองคนคบกันได้ไม่นานเท่าไหร่ แล้วเป็นอย่างไรล่ะ?เมื่อครู่เธอกลับกล้าใช้ชื่อของคุณนายหานในการโต้เถียงกับหลินชิ่นเอ๋อ แถมยังโกหกและเล่นละครอีก
หานชิง……เขาจะคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงร้อยเล่ห์มายาหรือเปล่านะ?
แน่นอนว่า เสี่ยวเหยียนรู้สึกผิดที่ทำลงไปมากในตอนนี้ เธอไม่ควรทำแบบนั้น
ขณะที่เสี่ยวเหยียนยังสับสนไม่รู้จะทำอย่างไรอยู่นั้น แววตาคมชัดก็มองมาที่เรือนร่างของเสี่ยวเหยียน
“ยังไม่มาอีก คิดจะยืนตรงนั้นถึงเมื่อไหร่กัน?อีกเดี๋ยวเดียวเรือก็จะออกแล้ว เดี๋ยวคุณจะเซเอานะ”
เสียงที่สดใสนั้นมันลอยเข้ามาในหูของเสี่ยวเหยียน เธอกลับก้มหน้าแดงๆ ลงอย่างไม่กล้าโต้ตอบอะไร ก่อนจะค่อยๆ เดินไปหาหานชิง
ที่นั่งที่อยู่ติดทะเลนั้น หานชิงเป็นคนเผื่อเอาไว้ให้เธอ
แต่ตอนนี้เสี่ยวเหยียนกลับไม่กล้าเดินเข้าไป เลยนั่งอยู่ข้างนอก ก้นยังไม่ทันจะโดนเก้าอี้ ก็ถูกหานชิงจับมือทั้งสองข้างเอาไว้ ก่อนจะดึงเธอมานั่งที่ตักเขา
“โอ้ย……” เสี่ยวเหยียนเกือบจะร้องออกมา ยังดีที่เธอคุมเสียงเอาไว้ได้ เธอเบิกตาโผลงด้วยความตกใจพลางมองหานชิง: “นี่ คุณรีบปล่อยฉันนะ”
เพราะถึงอย่างไรที่นี่ก็เป็นที่สาธารณะ เธอนั่งบนตักของอีกฝ่ายแบบนี้ มันดูไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่
แต่หานชิงกลับทำเหมือนไม่ได้คิดอะไรเลย ก่อนจะพูดว่า: “ไม่ได้ให้ฉันเผื่อที่นั่งเอาไว้หรอกเหรอ ทำไมไม่นั่งล่ะ?”
“เอ่อ……” เสี่ยวเหยียนส่ายหัว กลางขบริมฝีปากล่างของตัวเอง: “จู่ๆ ฉันก็ไม่อยากนั่งแล้ว”
พูดไป พลางพยายามดิ้นออกจากขาของหานชิง แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าหานชิงเป็นอะไร ถึงได้จับเอวของเธอเอาไว้แน่น เหมือนกับโซ่เหล็กที่ล็อกเอวเธอเอาไว้เลยล่ะ ไม่เพียงเท่านั้น เขายังเอาใบหน้าเข้ามาใกล้เธอมากขึ้นอีกด้วย
“คุณนายหาน คุณกำลังเครียดอะไรอยู่ล่ะ?”
เสียงทุ้มต่ำที่ออกมาจากริมฝีปากบางของหานชิง และไออุ่นที่อบอวลอยู่รอบๆ ลมหายใจของเธอ เสี่ยวเหยียนหดคอลง หลังจากที่ได้ยินหานชิงเรียกแบบนั้น ในหัวก็รู้สึกโล่ง เหมือนกับว่ามันขาวโพลนไปหมด
หลังจากนั้น แววตาทั้งคู่ของเธอก็มองไปทางหานชิงด้วยความน่าสงสาร ก่อนจะพูดออกมาเบาๆ ว่า: “ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ……”
ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะว่าหลินชิ่นเอ๋อพูดว่าพวกเธอไม่ได้แต่งงาน แล้วเปิดโปงทุกอย่างต่อหน้านั้น เธอคงไม่ต้องมาเล่นละครแบบนี้หรอก
ตอนนี้หานชิงพูดขึ้นมา เหมือนกับว่ากำลังตั้งใจทำเรื่องนี้ขึ้นมางั้นเหรอ?
เขาคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงร้อยเล่ห์มายางั้นเหรอ?จะไม่ชอบเธอหรือเปล่า?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ใบหน้าของเสี่ยวเหยียนก็แสดงถึงความร้อนรนออกมา
หานชิงยื่นมือออกมา จิ้มจมูกของเธอ “แน่นอนว่าฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ตั้งใจ”
เสี่ยวเหยียนหยุดหายใจสะอึกไป “อะไรนะ?”
“คุณหมายความว่าแบบนั้นแหละ”
เสี่ยวเหยียน: “เปล่านะ ฉันไม่ได้……”
“เครียดอะไรเหรอ?” หานชิงจัดผมเผ้าและเสื้อผ้าให้เธอ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสดใสเหมือนเดิม: “คุณอยากจะพูดอะไรก็ได้ ฉันไม่โทษคุณหรอก”
เมื่อได้ฟังดังนั้น เสี่ยวเหยียนก็อึ้งไป ก่อนจะมองเขาอย่างเหม่อลอย
“คุณไม่โทษฉันจริงๆ เหรอ?”
หานชิงยิ้มให้เธอ
“งั้น……คุณจะคิดว่าฉันเป็นพวกร้อยเล่ห์มารยาหรือเปล่า?หลินชิ่นเอ๋อ……ถูกฉันไล่ลงจากเรือไปนะ”
ถึงแม้ว่าสุดท้ายจะเป็นความต้องการของทุกคน แต่คนที่เริ่มพูดนั้นก็คือคำพูดของเสี่ยวเหยียน ถ้าเกิดว่าเธอไม่ลุกขึ้นมาพูดแบบนั้นล่ะก็ บางทีทุกคนอาจจะไม่ได้มีความคิดที่มากมายขนาดนี้ต่อหลินชิ่นเอ๋อก็เป็นได้
ใครจะไปรู้ว่าหลังจากที่หานชิงได้ยินคำพูดของเธอแล้ว กลับยื่นมือออกมาลูบหัวของเธอ พลางพูดด้วยน้ำเสียงน่าทะนุถนอมขนาดนั้น
“ก็ดีไม่ใช่เหรอ?มันแสดงให้เห็นว่าสาวน้อยของฉันเติบโตขึ้นแล้ว รู้ว่าจะต้องปฏิบัติอย่างไรกับใคร”
เสี่ยวเหยียน: “……”
ให้ตายเถอะ!เขาคิดแบบนี้เหรอเนี่ย!
เสี่ยวเหยียนแทบจะคิดไม่ถึงเลย เธอยังคิดว่าหานชิงจะคิดว่าตัวเองเป็นคนร้อยเล่ห์มารยาเสียอีก เพราะผู้ชายก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบพวกผู้หญิงร้อยเล่ห์มารยาอยู่แล้ว
แต่ใครจะไปรู้ว่าหานชิงกลับลูบหัวของเธอด้วยความอ่อนโยน ก่อนจะพูดว่าเด็กน้อยของเขาเติบโตขึ้นแล้ว
จีบเก่งจริงๆ เลย!
ฮือๆ ……เสี่ยวเหยียนอดไม่ได้ที่จะจับคอเสื้อของหานชิงเอาไว้ ก่อนจะมองเขาด้วยความหมดอาลัย
“คุณคิดแบบนี้จริงๆ เหรอ?”
“ยังมีความคิดอื่นอีกเหรอ?ไม่เชื่อฉันงั้นเหรอ?”
เสี่ยวเหยียนขบปากของตัวเอง ก่อนจะเอาใบหน้าแดงก่ำเข้าไปใกล้เขา: “ฉันรู้สึกซึ้งใจนิดหน่อย รู้สึก……”
ถึงแม้ว่านี่จะเป็นที่สาธารณะ แต่หลังจากที่เขาพูดคำนี้ออกไป จู่ๆ เสี่ยวเหยียนก็มีความคิดหนึ่งขึ้นมา คืออยากจะจูบเขา!!!
แถมยังเป็นการจูบอย่างดูดดื่มอีกด้วย!
แต่……ตอนนี้คนบนเรือมันเยอะมากจริงๆ เสี่ยวเหยียนค่อนข้างเป็นคนหน้าบาง เลยไม่กล้าทำอะไรแบบนั้นได้ลง!
“รู้สึกอะไรเหรอ?” หานชิงไม่รู้ความคิดของสาวน้อยคนนี้ด้วยซ้ำ เพียงแต่เมื่อเธออยากจะพูดออกใส กลับเขินอายที่จะพูด เลยต้องถามเสียงเบาๆ ออกมา
เสี่ยวเหยียนคิดอยู่สักพัก ก่อนจะกะพริบตาปริบๆ ทันใดนั้นก็เข้าไปใกล้หน้าของเขา ก่อนจะจูบอย่างเต็มแรง!
ไม่ได้จูบปาก แต่จูบแก้มของเขา นี่มันคงไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับภาพลักษณ์แล้วใช่ไหม?
หานชิงอึ้งไปสักพัก ก่อนจะมองเธอด้วยความตกใจเล็กน้อย
รอยจูบของสาวน้อยคนนี้ ทำให้เขาถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียว
เพราะเมื่อครู่ที่เขาให้เธอนั่งบนตัก สาวน้อยคนนี้คิดว่ามันน่าอายเหลือเกิน ก่อนจะผลักเขาออกทั้งๆ ที่หน้าแดงเป็นอย่างมาก ใครจะไปรู้ว่าจู่ๆ เธอถึงได้กล้าจูบเขาด้วยความกล้าขนาดนั้น?
แต่ตอนที่หานชิงกำลังตกใจอยู่นั้น เสี่ยวเหยียนก็มานั่งอยู่ด้านในของเขาแล้ว ก่อนจะก้มหัวลงพลางใส่เสื้อชูชีพและคาดเข็มขัดให้กับตัวเอง
ตอนที่เธอทำเรื่องพวกนี้นั้นเธอตั้งใจเป็นอย่างมาก เหมือนกับว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย
นอกจากขนตาบางๆ ที่สั่นไหวเล็กน้อย
หลังจากแอบจุ๊บแล้ว ก็ยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกด้วย แต่กลับควบคุมความตื่นตระหนกของตัวเองเอาไว้ไม่ได้ แถมยังแสดงท่าทีเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ออกไปอีก ยิ่งทำให้หานชิงรู้สึกหวั่นไหวเป็นอย่างมาก
เขาอยากจะดึงสาวน้อยคนนี้มา แล้วเชยคางของเธอขึ้นก่อนจะบอกว่าการจูบคืออะไรกันแน่
แต่เมื่อคิดว่ามีคนอยู่รอบๆ เยอะมาก เลยลบความคิดนี้ออกไป
ทางฝั่งของเสี่ยวเหยียน หัวใจเต้นรัวตลอดเวลา ถึงแม้ว่าท่าทีจะดูนิ่งสงบ แต่ตอนที่เธอคาดเข็มขัดนั้นกลับพยายามคาดอยู่หลายรอบกว่าจะทำได้ หลังจากทำแบบนั้นอยู่หลายรอบถึงได้รู้ว่ามือของตัวเองนั้นกำลังสั่นอยู่
แต่ว่า……การแอบยิ้มนั้นมันรู้สึกดีเหลือเกิน